ยอดหมอยาของอ๋องเสียน

บทที่ 152 เข้าเฝ้าไทเฮา



บทที่ 152 เข้าเฝ้าไทเฮา

กงซิงเข้าไปมองแว้บเดียว ก็เข้าไปถวายบังคมกับฮ้อง เต้ชิงหยู่ ยังไม่ทันได้พูดฮ่องเต้ชิงหยู่ก็โบกมือไปมา “ช่าง เถอะ”

เมื่ออันหลิงหยุนมองไปข้างหน้า ก็เห็นเซียวกุ้ยเฟยนอน อยู่บนเตียงด้วยใบหน้าก็ขาวซีดที่เต็มไปด้วยน้ำตา และมี เลือดอยู่ใต้เตียง นอกจากนั้นตรงกระโปรงก็มีเลือดด้วย เช่นกัน

อันหลิงหยุนไม่มีเวลามาคิดมาก รีบเดินเข้าไปจับข้อมือ ของเซียวกุ้ยเฟยเพื่อทำการตรวจสอบ

เมื่อดูเสร็จก็รีบลุกขึ้นนำยาหนึ่งเม็ดใส่ปากเซียวกุ้ยเฟย

“รู้สึกเป็นกระไรบ้าง? ” อันหลิงหยุนเป็นหมอ นี้เป็นความ

จริงที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เมื่อนางเห็นคนได้รับบาด เจ็บก็อดที่จะช่วยมิได้

เซียวกุ้ยเฟยยังพอที่จะอ้าปากได้ “ก่อนหน้านี้เจ็บมาก แต่ตอนนี้รู้สึกชาเล็กน้อย เลือดเยอะมาก!

พูดอันใดกัน เซียวกุ้ยเฟยร้องไห้จนเสียงแหบ

อันหลิงหยุนปลอบใจนาง “เขายังสบายดีอยู่ ถือได้ว่า แข็งแรง แค่ทำตามที่ข้าบอก ก็จะไม่เป็นอันใด”
“จริงหรือ? ” เซียวกุ้ยเฟยมิได้หวังอันใดแล้ว

“จริง”

เซียวกุ้ยเฟยมองฮ่องเต้ชิงหยู่ จากนั้นฮ้องเต้ชิงหยู่ก็นั่ง ลง แล้วจับมือของเซียวกุ้ยเฟยไว้ “ข้าเชื่อว่า องค์ชายของ ข้าจะต้องไม่เป็นอันใดแน่นอน กุ้ยเฟยก็เช่นเดียวกัน”

“ฮ่องเต้ เป็นเพราะกระหม่อมเองที่ไร้ความสามารถ ที่ไม่ อาจปกป้องเขาได้” เซียวกุ้ยเฟยร้องไห้ขึ้นมา

“กุ้ยเฟยต้องควบคุมอารมณ์ให้คงที่ มิฉะนั้นจะส่งผลกระ ทบต่อทารกในครรภ์”

เซียวกุ้ยเฟยพยายามที่จะไม่ร้อง แล้วหลับตาลง

อันหลิงหยุนเดินออกไปแล้วมองหมอหลวงที่อยู่บนพื้น “ไปเตรียมยาจับซาไท้เป้ามา และไปเชิญแม่นมที่อยู่ใน พระราชวังมา คนที่เหลือถอยไปก่อน เชิญฮ่องเต้ถอยไป ด้วยเพคะ”

ฮ่องเต้ชิงหยู่วางมือของเซียวกุ้ยเฟยลง และไปบอกกับ อันหลิงหยุน “ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจ้า”

“กระหม่อมจะทำอย่างสุดความสามารถ” อันหลิงหยุน

ตอบไปอย่างรวดเร็ว

ฮ่องเต้ชิงหยู่ทองเซี่ยวกุ้ยเฟยแล้วหันหลังเดินออกไป กง ชิงวี่ก็ถอยออกไปพร้อมกัน

อันหลิงหยุนนำยามาต้มด้วยตัวเอง แล้วสั่งให้แม่นม ทำความสะอาดร่างกายของเซียวกุ้ยเฟยและเปลี่ยนผ้าปูทั้งหมดทั้ง

เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว อันหลิงหยุนเรียกคนนำ ผ้าปูที่นอนไปไว้ที่ด้านนอก และต้องมีคนเฝ้าไว้

เชียวกุ้ยเฟยบรรทมไป อันหลิงหยุนตรวจสอบชีพจรของ เชียวกุ้ยเฟยเพื่อให้แน่ใจว่าไม่เป็นอันใด จากนั้นอันหลิงหยุ นกออกไปพบฮ่องเต้ชิงหยู่และกงชิง

“เป็นกระไรบ้าง? “เมื่อฮ่องเต้ชิงหยู่ได้ยินเสียงประตูที่ อยู่ด้านหลังเปิดออก ก็หันไปมองอันหลิงหยุนที่ออกมา

อันหลิงหยุนกำลังจะคุกเข่า แต่ก็ถูกฮ้องเต้ชิงหยู่พยุงขึ้น ในทันที “พูดมาเถิด”

อันหลินหยุนถึงพูดออกมาว่า “เป็นหญ้าฝรั่น”

“หญ้าฝรั่น? “ฮ่องเต้ชิงหยู่นิ่งไปสักพัก อันหลิงหยุนพยัก

หน้า เมื่อเห็นผ้าห่มที่ถูกนำออกมา ก็รีบเดินตรงไป

แล้วก้มตัวลงหยิบผ้าห่ม อันหลิงหยุนดม แล้วส่งให้ฮ้องเต้ ชิงหยู่ “เชิญฮ่องเต้”

ฮ่องเต้ชิงหยู่เดินไปที่หน้าผ้าห่ม แล้วนำผ้าห่มมาดมดู “มี กลิ่นของหญ้าฝรั่นจริงๆด้วย”

“นี่เป็นหญ้าฝรั่นชนิดหนึ่งที่หายากมาก หญ้าฝรั่นชนิดนี้

ไม่มีริดแรงเท่ากวางชะมด แต่มันก็ร้ายกาจมาก ถ้าคนที่ตั้ง ครรภ์สัมผัสมันเป็นเวลานาน ก็จะสามารถแท้งได้ กระหม่อมเชื่อว่า เซียวกุ้ยเฟยสัมผัสหญ้าฝรั่นไม่ใช้วันสอง วันแล้ว แต่ว่าวันนี้กระหม่อมก็เข้าเฝ้าเซียวกุ้ยเฟย แต่กลับ มิได้กลิ่นของสิ่งนี้บนร่างของเซียวกุ้ยเฟย นั้นหมายความว่าคนที่ทำเรื่องนี้ต้องเป็นคนที่ระมัดระวังเป็นอย่างมาก และแน่นอนว่าต้องเป็นคนที่อยู่ข้างกายเฟย”

อันหลิงหยุนไม่อยากว่าเป็นใคร เพราะไม่ว่ากระไร นางก็สามารถล้างกลิ่นฝรั่นที่อยู่บนตัวของเชียวกุ้ยเฟยได้ ทุกเมื่อ

สายตาของฮ่องเต้ชิงหยู่เยือกเย็นมาก “คนข้างกาย?

อันหลิงหยุนเงียบ แล้วฮ่องเต้ชิงหยู่ก็พูดอย่างนิ่งเฉยว่า “วางเรื่องนี้ไว้ก่อน รอให้เซียวกุ้ยเฟยไม่เป็นอันใดแล้วค่อย ถาม”

อันหลิงหยุนพูดต่อว่า “แต่ฮ่องเต้สามารถวางใจได้ เพราะกุ้ยเฟยไม่เป็นอันใดแล้ว ปลอดภัยทั้งแม่และ ลูก แต่ว่าต้องนอนพักผ่อนอยู่บนเตียงซะระยะหนึ่ง เพื่อให้ ทารกที่อยู่ในครรภ์มั่นคง”

“อืม ขอบพระคุณพระชายาเสียน ได้ข่าวว่าเกิดเรื่องขึ้น กับฮองเฮาที่นอกวัง ข้าก็กงวลเป็นอย่างมาก แต่ข้าทราบว่า พระชายาเสียนอยู่ที่นั้น ข้าก็วางใจแล้ว”

“กระหม่อม จะทำอย่างสุดสามารถ แต่ว่าฮองเฮาไม่เป็น อันใดแล้ว เพียงแค่ต้องพักผ่อน”

“อืม” ฮ่องเต้ชิงหยู่มองไปที่กงชิง วี่ “เจ้าพูดถูก คนบางคน ต้องค่อยเฝ้าระวังไว้”

อันหลิงหยุนรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก หรือว่าพวกเขา เคยคุยกัน?

กงชิงขี่มองเข้าไปในราชวัง “ฮ่องเต้ โปรดให้กระหม่อมได้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด”

“อนุมัติ”

หลังจากที่พูดจบฮ่องเต้ชิงหยู่ก็มองไปที่ห้องนอนของ เซียวกุ้ยเฟย”ข้าขอไปดูหน่อย”

“เชิญฮ่องเต้”

หลังจากที่กงชิงวี่และอันหลิงหยุนได้ส่งฮ้องเต้ชิงหยู่ เสร็จ ก็มองผ้าปูที่นอนที่อยู่บนพื้นพร้อมกัน แล้วเดินตรงไป

ทั้งสองหยุดลง จากนั้นอันหลิงหยุนก็พูดก่อน “หญ้าฝรั่น มีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ถ้าเกิดเคยใช้มาก่อน ข้า ก็ต้องได้กลิ่น แต่ในวังจิ่งไม่มีที่อื่นนอกจากที่ผ้าปูที่นอน

อันหลิงหยุนไม่กล้าด่วนสรุป แต่เมื่อคิดถึงว่ามันมีแค่ตรง ที่นอน ก็มีความเป็นไปได้สองอย่าง หนึ่งคนที่ทำเรื่องนี้ ระมัดระวังเป็นอย่างมาก และจงใจไม่ให้สถานที่อื่นปน เปื้อนหญ้าฝรั่น ทุกครั้งที่วางยาจะระมัดระวังเป็นอย่างมาก สองเป็นการใส่ร้าย คนที่วางยานำหญ้าฝรั่นให้เซียวกุ้ยเฟย เสวยลงไป จากนั้นก็ทำทั้งหมดนี้เพื่อปกปิดความจริง

ถ้าอย่างงั้น คนในวังจิ่งซิ่วก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมด และ ฆาตกรตัวจริงก็จะลอยนวลต่อไป

“ก่อนหน้านี้ข้าเคยไปตรวจชีพจรให้เซียวกุ้ยเฟยแล้วพบ ว่ามีอันใดผิดปกติ แต่ว่าข้าไม่พบพิษหญ้าฝรั่น ซึ่งก็แปลก มากเช่นกัน” อันหลิงหยุนมองไปที่กงชิงวี่อย่างหมดหนทาง

“พระชายาน่าจะแล้ว ไปพักในวังของฮองไทเฮาก่อน ข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด”

อันหลิงหยุนพยักหน้า เหนื่อยจริงๆ

แต่ว่านางควรจะเฝ้าอยู่ที่วังซิ่ว แล้วทำไมต้องให้นาง ไปที่หวางฮองไทเฮาด้วย?

ก่อนที่อันหลิงหยุนจะจากไปกงชิง วี่ได้สั่งคนรับใช้ตาม ไปคุ้มครองอันหลองหยุน และมีหญิงสาวในวังตามไปอีก สองสามคน เมื่อมองหญิงสาวในวังก็รู้สึกมีความคุ้นเคย เมื่อกำลังจะไปถึงวังเฉาเพิ่งอันหลิงหยุนก็นึกขึ้นได้ว่า หญิง สาวในวังที่ตามมานั้น เป็นคนของหวางฮองไทเฮาทั้งหมด

หลังจากที่เข้าไปในราชวังหวางฮองไทเฮาก็รออันหลิง

หยุนอยู่นานแล้ว “ไห่กงกง เจ้าออกไปข้างนอก ข้ามีเรื่องจะคุยกับหลิงหยุ

น”

หลังจากที่หวางฮองไทเฮาสั่ง ไห่กงกงก็รีบมาคนถอย ออกไป

“หลิงหยุน สองพระราชวังเกิดเรื่องขึ้น เป็นเรื่องจริง หรือ? “เห็นได้ชัดว่าหวางฮองไทเฮาเคร่งเครียดมาก อัน หลิงหยุนเดาไว้แล้วว่า เรื่องนี้ต้องทำให้หวางฮองไทเฮา ตกใจ ไม่งั้นคงไม่มาหานางในตอนดึกๆขณะที่ไม่แต่งตัว

อันหลิงหยุนทูลไปตามความเป็นจริง เมื่อหวางฮองไทเฮา ฟังแล้วก็ปกติ แต่อันหลิงหยุนรู้สึกประหลาดใจมาก หรือว่า หวางฮองไทเฮาเป็นคนลงมือ

แต่เมื่อคิดเช่นนี้ก็รู้สึกว่าเป็นไปมิได้ เพราะฮ่องเต้เป็นลูกชายของนาง

ถึงแม้ว่าจะไม่ชอบ แต่ก็ไม่ถึงขั้นที่ต้องขาดลูกสิ้นหลาน นั้นมิได้เป็นเพียงแค่ลูกชายของฮ่องเต้ แต่ก็เป็นหลาน ของนางด้วย

“ถ้างั้นก็ต้องมีคนลงมือในพระราชวัง เพื่อให้ในวังเกิด ความวุ่นวาย และต้องการทำลายประเทศต้าเหลียงของ พวกข้า” หวางฮองไทเฮาลุกขึ้นแล้วเดินไปรอบๆห้อง

อันหลิงหยุนไม่กล้ารอช้า รีบลุกขึ้นแล้วเดินตามไป

“หม่อมฉันไม่ทราบ แต่เรื่องนี้อ่องเสียนกำลังทำการตรวจ สอบอยู่ ในตอนนี้ทั้งด้านในและด้านนอกของพระราชวัง ถูกล้อมไว้อย่างหนาแน่น ทั้งเมืองหลวงอยู่ในการควบคุม ถ้าตรวจสอบ อ่องเสียนต้องตรวจสอบได้อย่างแน่นอน” อัน หลิงหยุนไม่มีอันใดจะพูด เพราะสถานการณ์ปัจจุบันเป็น เช่นนี้

หวางฮองไทเฮามองไปที่อันหลิงหยุนด้วยความโกรธ “เจ้าไม่เข้าใจหรือกระไรกัน! ”

อันหลิงหยุนตกตะลึง “หม่อมฉันไม่ทราบ”

“ความไม่ทราบของเจ้า แม้แต่เรื่องพวกนี้ก็ดูไม่ออกหรือ กระไรกัน เจ้าไม่ทราบหรือกระไรว่าต้นไม้ใหญ่ต้านลม? หวางฮองไทเฮาหันกลับไปและนั่งลง ส่วนอันหลิงหยุนยืน งงอยู่ข้างๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ