ยอดหมอยาของอ๋องเสียน

บทที่39ฮูหยินของตระกูลเสิน



บทที่39ฮูหยินของตระกูลเสิน

บทที่ 39 ฮูหยินของตระกูลเสิน

“คุณแม่”

เสินหยุนเอ๋อเข้ามาในบ้าน นางกำลังยุ่งอยู่กับการหา เสินฮูหยิน ซึ่งณ เวลานี้เสินฮูหยินกำลังส่งกระจกอยู่ แม้ว่านางจะแก่แต่นางก็เป็นคนมีความสามารถในด้าน การปรนนิบัติรับใช้ อายุราวนี้จะสู้กับนางสนมสาวๆในวัง ไม่ได้อยู่แล้ว แต่นางสามารถควบคุมความชอบของเสิน เฉิงเสี้ยงได้ตลอดเวลา หลายปีที่ผ่านมาเสินเฉิงเสี้ยงก็ ปฏิบัติต่อนางอย่างจริงใจ

บวกกับกฎระเบียบในบ้านที่เข้มงวด แม้ว่าเงินเฉิงเสี้ ยงมีอนุภรรยา แต่นางก็ไม่เคยให้โอกาสพวกเขามีลูก ทุกครั้งที่นางออกมาจากห้องอนุภรรยา นางก็จะมอบ รางวัลซุปยาชามหนึ่ง ถือว่าสะอาด

สำหรับทายาทของตระกูลเสิน พวกเขาทุกคนเป็นลูก ของเสินฮูหยิน ซึ่งตัดข้อพิพาทภายในจวนอย่างสิ้นเชิง

ประการแรกมัน เป็นการเตือนให้อนุภรรยารู้ว่า ไม่มี อะไรมากไปกว่าสถานะของตนและก็ไม่ใช่อยู่ใน ตำแหน่งที่สูงกว่าคนรับใช้ในบ้านมากนัก ประการที่สอง คือ ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาของเสินฮูหยิน ประการที่สามคือเพื่อป้องกันไม่ให้ทายาทของตระกูลเสิ นทำร้ายซึ่งกันและกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือชื่อเสียงของเงินเฉิงเสี้ยงนั้นดีมาก

ในสายตาของบุคคลภายนอก เสินเฉิงเสี้ยงมีความรัก ต่อภรรยาที่ร่วมสุขทุกข์มาด้วยกัน

แต่คนนอกไม่เคยคิดถึงความทุกข์ของอนุภรรยาเหล่า

นั้น

เมื่อเสินหยุนเอ๋อเห็นเสินฮูหยิน นางได้ทำความเคารพ แม่ แม้แต่แม่กับลูกสาวก็ไม่สามารถละเว้นมารยาทได้ เสินฮูหยินสั่งสอนอย่างเคร่งครัดเสมอ ในเมืองหลวงก็ มีชื่อเสียงในเรื่องนี้

“ลูกขอกราบเท้าท่านแม่ที่เคารพ”

เสินฮูหยินมองเสินหยุนเอ๋อจากกระจกและกล่าวถาม ว่า “อ๋องเสียนเป็นอย่างไรบ้าง”

สำหรับเรื่องของอ๋องเสียน เสินฮูหยินเคยถามเสินเฉิง เสี้ยง เสินเฉิงเสี้ยงไม่ได้บอกอย่างชัดเจนมาก แต่ว่ามี เรื่องหนึ่งที่เสินฮูหยินได้เข้าใจในความหมายของเสินเฉิง เสี้ยง ก็คือลูกสาวของตระกูลเสินต้องแต่งงานกับคนของ พระราชวัง

เสินหยุนชูเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลเสิน เมื่อ ลูกสาวคนโตแต่งงานกับฮ่องเต้ชิงหยู่ มันเป็นความ ต้องการของเสินเฉิงเสี้ยง แต่ในเวลานั้นฮ่องเต้ชิงหยู่ยัง เป็นเพียงมกุฎราชกุมาร แม้ว่าเป็นมกุฎราชกุมารแต่ไม่ ได้รับความสนใจจากฮ่องเต้ ตอนนั้นดูเหมือนฮ่องเต้จะจงใจทิ้งลูกชายคนโตและสนับสนุนคนเล็ก เพียงแค่ ความช่วยเหลือของตระกูลเสินทำให้ฮ่องเต้ชิงหยู่กลาย เป็นฮ่องเต้ปกครองเมืองอันยิ่งใหญ่

การตั้งใจทำงานของตระกูลเสินนั้นมีไว้เพื่อความสงบ ะ สุขของตระกูลเสินเท่านั้น แต่ถ้าตระกูลเสินไม่มีหนทาง ใดที่จะยืนหยัดต่อหน้าวงศ์ตระกูลได้ นั่นหมายถึง สถานการณ์แย่ลง

ดังนั้น เสินเฉิงเสี้ยงอยู่ต่อหน้าฮ่องเต้ชิงหยู่ไม่เคยคิด ว่าตัวเองสูงกว่าคนอื่น แต่ในทางกลับกันเขายังคงทำ หน้าที่ของเขาและไม่กล้าทำผิดพลาด

แต่เพื่อให้ตระกูลเสินยืนหยัดอยู่ได้ ต้องสร้างความ สัมพันธ์ระหว่างตระกูลเสินและวงศ์ตระกูลเท่านั้น

“ท่านแม่ ไปเยี่ยมมาแล้ว แต่สุขภาพในตอนนี้ยังไม่ดี เท่าไหร่ ลูกรู้สึกเป็นห่วงท่านอ๋องมาก”

เสินหยุนเอ่อเดินเข้าไปใกล้เสินฮูหยิน และเสินฮูหยิน ยิ้มอย่างละมุน ตรัสว่า “ไม่ต้องอาย!”

เสินหยุนเอ่อก้มหัวลงและอายนิดหน่อย สาวรับใช้ที่ อยู่รอบๆก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ แต่นางก็ไม่ได้โกรธ คน ที่อยู่ในห้องของแม่ล้วนเป็นคนใกล้ชิดกับแม่ สนับสนุน

แม่

และอีกอย่างคือเป็นคนที่สำคัญมากและแม่ไว้ใจได้ ความจริงก็คือเป็นสายลับในวัง ซึ่งเป็นคนที่ปกป้องพวกนาง

เสินหยุนเอ่อได้รับการสอนโดยเสินฮูหยินตั้งแต่อายุ ยังน้อย แม้ว่านางจะมีนิสัยหยิ่งจองหอง แต่นางรู้ดีจัด ลำดับความสำคัญ คนเหล่านี้รุกรานไม่ได้ต้องเกลี้ย กล่อม ในเวลาที่สำคัญที่สุดพวกเขาสามารถกั้นดาบปืน ให้ตนเองได้

“พอแล้ว พวกเจ้าออกไปเถอะ ทำให้นางอายใหญ่แล้ว”

เสินฮูหยินออกคำสั่ง คนที่เหลือก็ถอยออกไป เหลือแต่ แม่กับลูกสาว เสินฮูหยินถึงหันไปมองลูกสาว นางคลอด ออกมาเองและนางก็ต้องรักมากสิ

“เป็นผู้หญิงต้องรู้จักรักนวลสงวนตัว” แม้ว่าเสินฮูหยิน จะตำหนิ แต่ในสายตาของนางกลับมีความรักความเป็น ห่วงอยู่ในนั้น

เสินหยุนเอ่อเข้าใจได้ดี แล้วพูดอย่างออดอ้อนว่า “ท่านแม่ ลูกยังเป็นเด็กอยู่เลย อยู่ต่อหน้าท่านแม่ถึงเป็น อย่างนี้ ถ้าลูกออกไปข้างนอกแล้วก็ไม่กล้าเพคะ”

เสินฮูหยินตบมือกับเสินหยุนเอ่อ นางไม่ได้เข้าไป พัวพันกับเรื่องนี้ แต่นางกลับถามว่า “ท่านอ่องยังไม่หาย ดีขึ้นเหรอ?”

” ไม่ใช่ว่าไม่หายดีขึ้น แต่สุขภาพยังไม่แข็งแรง เวลา เขามาเสวยพระกระยาหารกับลูก เขาก็ป่วยขึ้นมาได้ ค่อนข้างน่ากลัว แต่หายดีขึ้นก็เร็ว ได้รับความช่วยจากอันหลิงหยุนผู้หญิงร้ายคนนั้น เกินความคาดคิดว่าเขาก็ ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว”

เวลาเสินหยุนเอ๋อพูดถึงอันหลิงหยุน ในดวงตาของนาง นั้นมีความโกรธเปล่งประกายออกมา เสินฮูหยินจัดการ เรื่องต่างๆ ในตระกูลเสินมาหลายปีแล้วและจะไม่เข้าใจ เรื่องพวกนี้เชียวหรือ

หมายถึงว่า “ลูกยังรักท่านอ๋องอยู่รี?”

“ท่านแม่ ถ้าไม่ใช่ท่านอ่อง ลูกก็จะไม่แต่งงาน” เสินหยุ นเอ๋อพูดด้วยสีหน้าที่ผิดปกติและน้ำตาก็หยดลงมาด้วย

“ณตอนนั้น ลูกรักท่านอ่อง พี่สาวก็ได้สร้างโอกาสให้ แต่จุนฉูฉูของตระกูลจุนก็เข้ามาอีก และยังมีอันหลิงหยุ นเข้ามาอีกได้ยังไง

ท่านพ่อบอกว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแข่งขันกับ ตระกูลจุน ดังนั้นลูกถึงยอมปล่อย แต่ลูกไม่เต็มใจ ท่าน แม่ก็ไม่ใช่ไม่รู้เสินหยุนเอ๋อร้องไห้อย่างหนักมาก เสินฮู หยินจะไม่ปวดใจได้อย่างไร

เมื่อนานมาแล้ว สมัยเสินหยุนเอ่อยังเป็นเด็ก ฮองไท เฮาสุขภาพไม่แข็งแรง มอบท่านอ๋องให้กับลูกสาวเสิน หยุนชูดูแล ตระกูลเสินจึงมีโอกาสพาเสินหยุนเอ๋อเข้ามา ในพระราชวังด้วย

เดิมทีแล้วนี่เป็นโอกาสที่ดี แต่สุดท้ายกลับถูกจุนฉูฉู แย่งไป
สำหรับเรื่องนี้ ไม่ต้องบอกว่าเสินหยุนเอ๋อไม่เต็มใจ เสินฮูหยินจะยินยอมได้กระไร

เพียงแต่ว่าตระกูลจุนก็เป็นผู้ช่วยฮ่องเต้เหมือนกัน ตอนฮ่องเต้ชิงหยู่ขึ้นครองราชย์พวกเขาเป็นผู้ช่วยที่ยิ่ง ใหญ่ที่สุด ซึ่งมีฐานะเป็นอาจารย์ของฮ่องเต้ และเพิ่มแม่ ทัพเจิ้นหย่วนอีกคน สองตระกูลนี้พอที่จะปราบปราม ตระกูลเสิน พูดตรงๆก็คือแม้ว่าตระกูลเสินมีลูกสาวเสิน หยุนชูคนเดียวที่เป็นฮองเฮา แต่ฮองเฮาคนนี้มีลูก มัน ไม่มีประโยชน์หรอก

ร้อยปีต่อไป การปกครองเมืองนี้ก็ตกอยู่ในมือของผู้ พูดถึงตระกูลจุน เฉิงเสี้ยงของบ้านนางก็ไม่บรรลุ ในปี นั้น เดิมที่สามารถส่งลูกสาวไปที่วัง แต่ไม่ได้ทำเช่นนั้น

อื่น

เขาเลือกตระกูลเสิน ตระกูลจุนไปขอแต่งงานด้วย

ตนเอง ถึงทำให้มีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างตระกูลจุนกับ

ตระกูลเสิน

ตอนนี้ ลูกหลานของนางก็โตแล้ว ลูกสะใภ้ของนางก็ เป็นสมาชิกของตระกูลจุน บางครั้งนางก็ไม่เข้าใจว่า ตระกูลจุนมีแผนการอะไรกันแน่

เมื่อพูดถึงลูกสะใภ้ หลังจากเข้ามาไม่เคยทำผิดพลาด และยังมีความขยันขันแข็ง

เสินฮูหยินกล่าวว่า”อย่าพูดอย่างนี้อีกนะ พี่สะใภ้ของ นางอยู่ในบ้านของตระกูลเสินปฏิบัติต่อลูกอย่างไรบ้างลูกอย่าพูดแบบนี้เลย สำหรับท่านอ๋อง .. เพราะเขามี พระชายาแล้ว แม้ว่าจะไม่ใช่เขา ผู้ชายดีๆในเมืองหลวง มีตั้งเยอะตั้งแยะ คุณแม่จะช่วยลูกหาให้”

“ท่านแม่ ลูกไม่ชอบคนหยาบเหล่านั้น ลูกชอบท่าน อ่องเสียนจริงๆ” เสินหยุนเอ๋อยิ่งร้องไห้ใหญ่เมื่อเสินฮู หยินไม่อนุญาต

มันไม่มีประโยชน์อะไรที่ลูกจะร้องไห้ ลูกสาวของ แม่ทัพอันจะยอมรับลูกได้ซะที่ไหนกัน แม้ว่านางจะ ยอมรับลูกได้ ตระกูลเสินก็ไม่อนุญาต ลูกเป็นลูกสาว ของตระกูลเสิน จะไปเป็นอนุภรรยาของเขาได้กระไร” ตอนนี้เสินฮูหยินยิ่งรู้สึกว่า เรื่องแต่งงานนี้ไม่เหมาะสม

ที่จริงแล้ว ยังมีเสด็จน้องหลายคนในวัง ปัจจุบันฮ่องเต้ ไม่มีทายาท มีแต่น้องชายสองคน แต่ถ้าน้องชายสองคน นี้ก็สามารถขึ้นครองราชย์งั้น หรือว่าจะเป็น ..

%3D เสินฮูหยินคิดมาถึงจุดนี้”พระชายาวิ้น ก็ดีเช่นกัน”

เสินหยุนเอ๋อสีหน้าซีดว่า”ท่านแม่ ลูกมีคนที่ชอบอยู่ แล้ว แค่อยากจะแต่งงานกับท่านอ่องเสียนคนเดียว ส่วน อันหลิงหยุน นางยังคงมีปัญหาเยอะ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง…

เสินหยุนเอ๋อกัดริมฝีปากด้วยความอายและความ อดทน และเสินฮูหยินถามว่า “มีอะไรที่พูดไม่ได้หรือ กระไร”

“ท่านแม่ วันนี้ลุกไปที่จวนอ๋องเสียนและพบเห็นบางอย่าง

” เห็นอะไรมารี?” เสินฮูหยินเห็นสีหน้าของลูกสาว ใน ใจรู้ว่าคงมีข่าวดีสำหรับการแต่งงานกับท่านอ๋องเสียน แต่ก็ยังคงมีท่าทางสงสัยอยู่

เสินหยุนเอ๋อกล่าวว่า “ท่านอ่องเสียนกับอันหลิงหยุน แยกนอนคนละห้อง”

เสินฮูหยินตกใจเล็กน้อย และรู้สึกคาดไม่ถึง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ