ตอนที่ 181 เช่นฆ่าไทเฮา
หวางฮองไทเฮามองไปที่อ๋องตวน แล้วเดินไปนั่งลง จับมือ ของอ่องตวนเอาไว้ “หยินเอ่อ แม่รู้ดีว่าการที่เจ้าต้องพบเจอ กับความยากลำบากในครั้งนี้มันต้องมีเหตุผล แต่แม่ก็อยาก ให้พวกเจ้าสามคนนั้นไม่เป็นอันใด เจ้าเข้าใจความหมายของ แม่ใช่หรือไม่?”
อันหลิงหยุนรู้สึกแปลกใจ ถามเป็นปกติคนที่จะพูดแบบนี้ ต้องเป็นฮั่วไท่เฟย แต่ตอนนี้กลับเป็นหวางฮองไทเฮาที่พูดมัน ออกมา
อันหลิงหยุนก็สำนึกขึ้นมาว่าหวางฮองไทเฮานั้นไม่ได้เห็น แก่ตัว
ช่องเต้ชิงหยู่กับกงซิงวี่กำลังคอตก แววตามีแต่ความมืดมน ฮั่วไปเฟยเองก็คิดอันใดไม่ออก เอาแต่ร้องไห้อยู่เช่นนั้น
ว่านฮองไทเฮารู้สึกรำคาญจึงได้ดูไปว่า “หุบปาก!”
ฮั่วไท่เฟยอยู่ร้องไปทั้งเช่นนั้น เอามีอปิดปากแล้วยืนน้ำตา ตกอยู่ข้างๆ ไห่กงกงพยุงชั่วไห่เฟยให้หลบไป หวางฮองไท เฮามองไปที่อ่องตวนพักใหญ่ “ข้ารอเจ้ามาโดยตลอด ถ้าเจ้า ไม่ตื่นขึ้นมาจริงๆ แม่ก็จะไปหาเสด็จพ่อพร้อมกับเจ้าเลย เสด็จพ่อของเจ้าได้ฝากฝังเจ้าเอาไว้ เขามักจะพูดกับแม่ บ่อยๆ ว่าต้องดูแลเจ้าให้ดี ถ้าดูแลเจ้าไม่ดีแม่ก็พร้อมไม่อยาก อยู่แล้ว “เสด็จแม่.. อ่องตวนเปล่งเสียงออกมา อันหลิงหยุนรู้สึก ตกใจจึงรับเดินมาดูอ่องตวน อ่องตวนค่อยๆ ลืมตาขึ้น แล้ว พยายามยิ้มออกมา หน้าตาซีดเซียว แต่พอเขายิ้มขึ้นมานั้น มันช่างดูมีความสุขเหลือเกิน
“หยินเอ่อ….หวางฮองไทเฮาน้ำตาคลอเบ้า กำมือของอ่อง ตวนไว้แน่น อ่องตวนยิ้มร่า
“หยินเอ๋อ…ชั่วไท่เฟยรีบวิ่งเข้ามา อ่องตวนค่อยๆ มองไป ที่ฮั่วไท่เฟย แล้วเขาก็หลับตาลง อันหลิงหยุนรีบหยิบยาลูกกลอนยัดเข้าไปในปากของอ๋องต
วน อ๋องตวนยังพอมีสติอยู่ ยาลูกกลอนไหลตามคอลงไป อัน
หลังหยุนถอนหายใจ ถอนหายใจออกมาโดยมีเหงื่อเต็มหน้า
“ขอแค่ได้เสวยพระโอสถลงไปก็คงดิขึ้นแน่เพคะ ที่เสด็จแม่ สามารถปลุกพระองค์ให้ตื่นขึ้นมาได้ เชื่อว่าพระองค์ต้อง อดทนเพื่อท่านแน่นอนเพคะ” อันถึงแม้หลิงหยุนจะไม่รู้ว่า ทำไมอ่องตวนถึงยอมตื่นขึ้นมาตามเสียงเรียกของหวางฮอง ไทเฮาก็ตาม แต่นางก็รู้ดีว่าอ่องตวนตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเรียก ของหวางชองไทเฮาแน่นอน
หวางฮองไทเฮาจับมือของอ๋องตานไว้แน่นสีหน้าค่อยๆ เย็น ชาลงอีกครั้ง “อ่องเสียน เจ้าจงไปปิดทางเข้าออกของเมือง หลวง ซะ ข้าต้องจับพวกมันมาให้ได้แล้วสับพวกมันเป็นหมื่นๆ ชิ้น
“าลังตามจับอยู่พะปะค่ะ” ถึงขัง ตอบกลับ หวางฮองไท เฮายืดเป็นพร้อมปล่อยมือของข่องตวนลง หันหลังเด็นไป พร้อมกับคิดอันใดบางอย่างไปด้วย
แต่จู่ๆ หวางฮองไทเฮาก็ยิ้มออกมา ทำเอาอันหลังหยุนถึง กับขนลุกเหมือนพบเข้ากับปีศาจดูดเลือดที่น่ากลัวเลย
“ฝ่าบาท เจ้าเป็นฮ่องเต้ ไม่ควรออกจากวังนานเกินไป กลับ ไปก่อนเกอะ ทั้งสองพระองค์ก็กำลังตั้งครรภ์อยู่ หากเกิดอัน ใดขึ้นจะได้ระวังได้ทัน
ช่องเย่ชิงหยู่มองไปยังอ่องตวนที่นอนอยู่บนเตียง แล้วก้ม หน้าลง “ถ้าเช่นนั้นก็ต้องรบกวนเสด็จแม่แล้ว ถ้ามีเรื่องอันใด เกิดขึ้นกับอ่องตวน ก็ขอให้เสด็จแม่บอกด้วย”
“ได้ ถ้าอ่องตวนเกิดตายไปจริงๆ เจ้าก็ส่งโลงศพมาสองโลง เลย แม่ไม่มีหน้าจะอยู่ต่อแล้ว คงต้องตายตามเขาไปแล้ว” “เสด็จแม่…
สายตาของหวางฮองไทเฮาไร้ความลังเลฮ่องเต้ชิงหยู่ทน ไม่ไหวต้องห้ามเอาไว้
หวางฮิงไทเฮาหันมามองฮ่องเต้ชิงหยู่แล้วเดินมาหาฮ่องเต้ ชิงหยู่ จากนั้นก็จัดเครื่องแต่งกายให้ฮ่องเต้ชิงหมู่ “ชิงเอ๋อ.. เสด็จพ่อของเจ้ามีสนมมากมาย มีบุตรมากมาย แต่สุดท้ายก็ เหลือแค่พวกเจ้าสามคนเท่านั้น เจ้าต้องรู้อยู่แล้วว่าเส้นทางนี้ มันเต็มไปด้วยการฆ่าฟัน
ต่อให้ใต้หล้านี้ต้องพังทลายไป ก็ห้ามให้ตกไปอยู่ในกำมือ
ของใครเป็นอันขาด”
หวางฮองไทเฮาสายตาอาฆาต น้ำเสียงดุร้าย ฮ่องเต้ชิงหมู่ พยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว!”
ฮ่องเต้ชิงหยู่เดินจากไป กงชิงวี่ที่กำลังจะไปส่งเขา ก็ถึง หวางฮองไทเฮารีบเอาไว้ “เอ่อ เจ้าอยู่ก่อน”
องซึ่งหันมามองหวางฮองไทเฮา หวางฮองไทเฮาพูดขึ้น “เด็กๆ”
คนที่อยู่หน้าประตูรีบตอบรับ “พ่ะย่ะค่ะ”
“กระจายคำสั่งของข้าลงไป ให้เหล่าราชวงศ์ญาติสนิท มิตรสหาย ขุนนางน้อยใหญ่ และบรรดาลูกหลาน ให้เข้าวังมา เยี่ยมฮ่องเต้ อวยพรฮ่องเต้ให้หายจากประชารไวๆ
สั่งให้แม่ทัพหลินนำทหารมาเฝ้าวังเฉาเฟิ่งเอาไว้ ถ้าเกิด ลูกชายของข้าเป็นอันใดขึ้นมา ข้าก็จะส่งสัญญาณให้ ในเมื่อ เป็นทายาทแห่งประเทศต้าเหลียงก็ต้องรู้จักกตัญญู”
อันหลิงหยุนตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน ฆ่าล้างราชวงศ์เพื่ออ่องต วน ฮ่องเต้องค์ก่อนมีพี่น้องแปดคน ลูกๆ ของพี่น้องก็มีตั้ง หลายคน บ้านละห้าหกคน นอกจากฮ่องเต้องค์ก่อนยังเหลือ อีกเจ็ดคน ห้าเจ็ดสามสิบห้า แล้วยังมีลูกๆ หลานๆ อีก มีตั้งก็ ร้อยคน
อันหลิงหยุนหัวใจเต้นรัว หวางซองไทเฮานี่เลือดเย็นจริงๆ
อยู่ดี่ไม่ว่าดีก็จะฆ่าคนเป็นว่าเล่น
เหล่าลูกหลานราชวงศ์พวกนั้นคงต้องรู้สึกตื่นกลัวกันมาก
แน่ๆ พะยะค่ะ”
คนนอกเตรียมจะออกไป แล้วหวางฮองไทเฮาก็พูดขึ้น “คนที่อยู่ในท้อง คนที่อุ้มอยู่ คนที่เพิ่งแต่งงานแล้วยังไม่ได้ คลอด คนที่สามีเสียไป แล้วยังมีโอกาสตั้งท้องได้อีก ก็พาไป ให้หมด”
“ค่ะ
คนจากไปแล้ว อันหลิงหยุนที่อยู่ข้างหลังรู้สึกขนลุก ดูเหมือ อองตวนคนนี้จะมีความสำคัญมากกว่ากงชิงวี่เสียอีก ถ้าเขา เกิดตายขึ้นมาจริงๆ ทายาทของราชวงศ์ก็คงต้องถูกฆ่าตาย ไปตามๆ กัน
หวางฮองไทเฮาหันไปหากงชิง วี่ “ไปตามจุนฉูฉูกับหยุนโล่ชุ วนมา เพื่อว่าอ่องตวนเกิดสิ้นใจขึ้นมาจริงๆ พวกนางจะได้เห็น หน้าเขาเป็นครั้งสุดท้าย
“พะยะค่ะ”
คงวิ่งมองมาที่อันหลิงหยุนหันหลังแล้วเดินจากไป อันหลิงหยุนเดินไปหาอ่องตวน ชั่วไท่เฟยยังร้องไห้ไม่หยุด หวางฮองไทเฮาเดิมมานั่งตระหง่านอยู่ตรงนั้น
อันหลังหยุนเองก็เหนื่อยแล้ว เดินไปกล่าวลาหวางของไท เราก่อนแล้วค่อยไปบอกลาชั่วก็เดินไปหาอ่อง ตวน นั่งลง คนแข็งแรงอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็จะมาตายซะได้ หยุนโล่ชวนรู้สึกทุกข์ ใจ ดวงตาก็แดง ก่ำขึ้นมา
เสียงของจุนฉูฉูนั้นเสียงดังมาก ดังจนอันหลังหยัน แต่หวางฮองไทเฮากับฮั่วไท่เฟยก็อยู่ด้วย นางจึงไม่ กล้าพูดอันใด สุดท้ายหวางฮองไทเฮาก็ทนไม่ไหว
“เด็กๆ พาพระซายาตวนไปขังไว้ข้างนอก” หวางฮองไทเฮา
มองจุนสายตาที่เย็นชา แล้วจุนนิ่งไปในทันที จุนฉูฉรีบคว้าเสื้อของฮั่วไท่เฟยเอาไว้ “เสด็จแม่เพคะ” ถึงแม้ไท่เฟยจะร้องไห้ แต่นางก็เจ็บปวดจากใจจริง จุนน้ำ นางดูยังกระไรก็ยังไม่ชิน
เข้าประตูมายังมีกระจิตกระใจไปทักทายอีกหรือ?
ตอนที่จุนฉูฉูถูกพาตัวออกไป นางได้เงียบแล้ว ไม่ขัดขืน เลยสักนิด
อันหลิงหยุนรู้สึกพอใจแล้ว จุนนี่ประสาทหรือเปล่า
พอจุนฉูฉูถูกพาตัวไป หยุนโล่ชวนก็เข้ามาหาอ่องตาน ฮั่ว ค่อนข้างชอบหยุนโล่ชวน พอหยุนโล่ชวนเข้ามาให้หยุนนั่งลงข้างๆ
หยุนชวนนั่งลงแล้วแม้มปาก หม่อมฉันรอท่านอยู่ที่ตำหนักก วกง ท่านบอกว่าวันนี้จะมาหา ทุกอย่างมันเป็นความผิดของ หม่อมฉันฉันที่จวน พูดอยู่น้ำตาของหยุนโล่ชวนก็ไหลลงมา นางรีบเช็ดออก นางไม่อยากร้องไห้
แต่แล้วหวางฮองไทเฮาก็ได้พูดขึ้น “เกิดเรื่องกับอ่องตวน ที่ไหน?
อันหลิงหยุนตอบ “อยู่ในตรอกหลังจวนอ๋องตานเพคะ” หวางฮองไทเฮาใช้ความคิด “ชวนเอ่อ” หยุนโล่ชวนเช็ดน้ำตาออกแล้วรีบยืนขึ้น
“เพคะ”
“เจ้ากับอ๋องตวนนัดเจอกันที่ไหน?” หวางฮองไทเฮาถาม อัน หลิงหยุนก็นึกขึ้นได้
ตรอกที่อยู่หลังจวนอ่องตวนเชื่อมไปยังจวนกั๋วกงได้ มัน เป็นทางที่ใกล้กันมาก หรือว่ามีคนคิดไว้แล้วว่าอ๋องตวนต้อง
เดินผ่านทางนั้น?
อันหลิงหยุนมองไปที่หยุนโล่ซวน แล้วหยุนโล่ชวนก็นึกขึ้น ได้
“เรียนเสด็จแม่เพคะ เมื่อคืนหม่อมฉันกับท่านอ่องนัดเจอกัน ที่จวนกั๋วกงเพศะ เติมที่อ่องตวนตั้งใจจะมารับหม่อมฉัน แต่ หม่อมฉันก็ปฏิเสธไป เราจะไปเจอกันที่จวนกัวกง แต่ใครจะ ไปคิตหม่อมฉันก็รออยู่ตรงจวนกั่วกงอยู่นาน รอจนอ่องเสีย นมาบอกหม่อมฉันถึงได้รู้ว่าเกิดเรื่องกับอ่องตานแล้วเพดะ”
หวางฮองไทเฮามองไปยังกงชิงวี่ กงชิงวี่รับพูดขึ้น “กระหม่อมจะรีบไปจับตัวคนร้ายพ่ะย่ะค่ะ” อันหลิงหยุนมองไปที่ประตู แล้วถามหวางฮองไทเฮาไป อย่างลังเล “เสด็จแม่เพคะ อ่องชินจงจะใจกล้าขนาดนี้เลย
หรือเพคะ? เขาน่าจะรู้ดีว่าถ้าเกิดเรื่องขึ้นเขาต้องตกเป็นผู้ ต้องสงสัยแน่ๆ ” หวางฮองไทเฮามองมาที่อันหลิงหยุน “ไม่ว่าเขาจะผิดหรือ ไม่ ก็ต้องจับเขาให้ได้ก่อน”
” ” อันหลหยุนไม่ได้พูดอันใดต่อ หยุนโล่ชวนกลับพูด แทนอ่องขั้นจง
“เสด็จแม่เพคะ หม่อมฉันคิดว่าไม่น่าจะเป็นอ๋องชินเพคะ อองชินจงเป็นคนเที่ยงตรง แม้แต่มดเขายังฆ่าไม่ลงเลย เพคะ” หยุนโล่ชวนพูดขึ้น
ฮั้วไท่เฟยมองมาที่หยุนโล่ชวน ตอนแรกก็อยากจะท้าม เพราะนางกลัวว่าหวางฮองไทเฮาจะทำร้ายนาง แต่หวางซองไทเฮาก็ได้ตบๆ ที่ข้างที่นั่ง “มานั่งตรงนี้มา”
หยุนโล่ชวนหันไปมองอ่องตวน แล้วเดินไปนั่งลงอย่าง ระมัดระวัง
หวางฮองไทเฮาตบๆ ที่มือของหยุนโล่ ชวน “จำคำพูดของ แม่ให้ดีๆ ยิ่งคนที่ดูไม่พูดไม่จา ไม่มีข้อเสีย ยิ่งทำให้คนหลง เชื่อได้ง่าย ก็เหมือนกับแม่กระไร ปกติก็เอาแต่เก็บตัวอยู่ใน จวน ไม่ค่อยออกไปไหน
แต่ใครจะไปรู้ว่าลึกๆ แล้วแม่นั้นเป็นคนเลือดเป็นขนาดไหน มือคู่นี้ฆ่าคนมาเยอะเท่าไหร่ เปื้อนเลือดมามากขนาดไหน”
อันหลังหยุนพูดคำพูดของหวางฮองไทเฮาทำให้คิดได้ จูๆ นางก็รู้สึกว่า ผู้หญิงคนนี้สามารถมองทุกอย่างได้อย่างทะลุ ปรุโปร่ง แถมยังใจกล้ามีแผนเสมอ แสดงว่านางเป็นคนมี ความสามารถ เพียงแค่นางเกิดเป็นผู้หญิง แล้วใช้ชีวิตอยู่แค่ ในวัง
หากนางได้เกิดเป็นผู้ชาย นางอาจจะเป็นขุนนางที่เก่งกาจ คนหนึ่งก็ได้ นางกล้าฆ่า กล้าลงมือ กล้าตัดสินใจ….และกล้ายอมรับ
แสดงว่านางเป็นคนที่มีสติมาก
และในที่แห่งนี้คนที่มีสติแจ่มใสก็มีไม่ค่อยมาก
“แต่หม่อมฉันคิดว่า อ่องซินจงไม่น่าจะทำแบบนั้นเพคะ” หยุ นโลชวนยังคงไม่เชื่อ
หวางฮองไทเฮามองไปที่อันหลิงหยุน “หยุนหยุน เจ้าคิดว่า บังกระไร?”
อันหลิงหยุนล้มลงใช้ความคิด ที่เสด็จแม่พุตมาก็ถูกเพคะ คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ ฮ่องเต้องค์ก่อนมีบุตรมากมาย แต่มีเพียง ช่องเต้ อ่องตวนกับอ่องเสียนพี่น้องสามคนเท่านั้นที่โตมา อย่างปลอดภัยได้ มันไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ
ทายาทของฮ่องเต้องค์ก่อนก็เหลือน้อยมาก แล้วทำไมบุตร หลานของพวกเขาจะเจริญก้าวหน้าได้ยังกระไร?
หม่อมฉันคิดว่าตรงนี้แหละที่น่าแปลกที่สุดเพศะ” “ถูกต้อง นี่คือสิ่งที่น่าแปลกที่สุด” หวางฮองไทเฮาหลับตา ลง “โล่ชวน เจ้านั้นชื่อตรงไร้เดียงสา แม่เองก็ดีใจมาก เจ้าไป ดูแลอ่องตวนเถอะ
“เพคะ”
หยุนโล่ชวนลุกไปดูแลอ่องตวน เช็ดน้ำตา ลุกจาก ลูกชายแล้วเดินไปหาหวางฮองไทเฮา
พอนั่งลงชั่วไท่เฟยก็มองไปที่หวางไทเฮาอย่าง ระมัดระวัง หวางฮองไทเฮาหันมายิ้มเบาๆ “ข้าไม่ได้ทำเพื่อเจ้า ที่ข้าทำไปทั้งหมดก็เพื่ออ่องตวน อ่องตวนเป็นคนเดียวที่ เหมือนกับฮ่องเต้องค์ก่อน ทุกครั้งที่ข้าเห็นหน้าอ่องตวนก็ ทำให้ข้านึกถึงฮ่องเต้องค์ก่อน
และที่สำคัญที่สุดคือ อ่องตานมีลักษณะนิสัยที่เหมือนกับ ฮ่องเต้องค์ก่อนมาก
ข้าคิดมาตลอดว่าอ่องตวนแค่อายุยังน้อย ต้องมีสักวันที่เขา ต้องดีกว่าช่องเต้องค์ก่อนแน่นอน”
ดีกว่าฮ่องเต้องค์ก่อนนี้ หมายความว่ายังกระไร?
นี่มันเป็นคำพูดที่ไม่ควรพูดออกมาอย่างยิ่ง ถ้าก่อนไม่มีทายาทยังดี ตานก็เป็นคนที่มีสิทธิ์สืบทอด บัลลังก์เหมือนอยู่ ดังนั้นคำ ศิดมากไปหรือเปล่า?”
“หม่อมฉันมิกล้าเพคะ” ชั่วไทเฟยเองก็เหนื่อยมากแล้ว เหมือนกัน เอามือลูบหัว นางไม่อยากจะเกี่ยงกับหวางฮองไท เฮา
นั่งอยู่พักหนึ่ง แล้วฮั่วไท่เฟยก็หันไปหาอันหลิงหยุน “หยุน หยุนเจ้าบอกข้าหน่อยว่าอ่องตวนเป็นยังกระไรบ้าง?
“ยังดีอยู่เพคะ ต้องรอดูคืนนี้ก่อน ยังเหลือเวลาอีกสามชั่ว ยามฟ้าถึงจะสว่าง ถ้าฟ้าสว่างแล้วตื่นขึ้นมาได้ก็ไม่เป็นไรแล้ว เพคะ” อันหลิงหยุนตอบตามความจริง
พระชายาเสียนครุ่นคิด “แล้วถ้าไม่ตื่นหล่ะ?”
อันหลิงหยุนไม่ได้ตอบ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ