ยอดหมอยาของอ๋องเสียน

บทที่ 167 องค์หญิงใหญ่ผู้อาจหาญใจกว้าง



บทที่ 167 องค์หญิงใหญ่ผู้อาจหาญใจกว้าง

อันหลิงหยุนแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ องค์หญิงใหญ่ เงยหน้าสายตาที่มองนางยังเปลี่ยนไป

“อย่าหลอกข้าเลย เจ้ามีความสามารถจริงๆ ข้าไม่ ได้เห็นเจ้าเป็นคนที่มีเล่ห์เหลี่ยมและไม่มีเหตุผลมา หลายปีแล้ว เข้าไปเถิด” องค์หญิงใหญ่ผลักเว่ยหลิง ชวนข้างกายออกไป เดินหน้าไปหาอันหลิงหยุน

“เพคะ เชิญเสด็จป้าใหญ่เพคะ” จากนั้นอันหลิงหยุ นก็เข้าไป

เว่ยหลิงชวนรู้สึกหดหู่ใจ ทำไมมาถึงที่นี่ก็ไม่แบ่ง แยกศัตรูและคนกันเองเสียแล้ว? เมื่อครู่ยังมีแนวโน้ม ว่าจะอคติอยู่เลย ตอนนี้เริ่มยอมแพ้เสียแล้ว

อันหลิงหยุนเดินตามเข้าไป องค์หญิงใหญ่ถาม “พ่อเจ้ายังสบายดี?

อันหลิงหยุนตะลึงครู่หนึ่ง มองไปยังองค์หญิงใหญ่ อย่างแปลกใจ: “ท่านยังสบายดีเพคะเสด็จป้าใหญ่ ท่านกับพ่อหม่อมฉันรู้จักกันหรือเพคะ?”

“รู้จัก” องค์หญิงใหญ่อายุประมาณหกสิบ แต่ดู อ่อนกว่าวัยเล็กน้อย เหมือนหญิงอายุห้าสิบปี แต่อายุ ที่แท้จริงอันหลิงหยุนเดาจากสายตาได้ ก็น่าจะหกสิบ แล้ว ดูมากกว่าฮ่องเต้องค์ปัจจุบันฮ่องเต้ชิงหยู่เล็กน้อย แต่อันหลิงหยุนเดาทางสายตาได้ว่ามากกว่าไม่เท่าไหร่
อันหลิงหยุนค้นหาในความทรงจำครู่หนึ่ง ไม่มี ความทรงจำใดๆ เกี่ยวกับองค์หญิงใหญ่

“ตอนนี้พ่อของหม่อมฉันว่างมาก เวลาที่ประเท ศต้าเหลียงสงบสันติ ประชาอยู่เย็นเป็นสุข แม่ทัพก็ไม่ ต้องเหนื่อยขนาดนั้นแล้ว นอกจากจะเข้าห้องซ้อมทุก วันเพื่อฝึกซ้อม ไปเดินเล่นที่ค่ายทหาร ตรวจสอบการ ฝึกของเหล่าทหาร ก็ไม่มีเรื่องอื่นใดเพคะ” อันหลิงหยุ นรายงานรายงานไปตาม

องค์หญิงใหญ่ถาม: “อย่างนั้นพ่อเจ้าก็ยังตัวคน เดียวหรือ?”

“..” อันหลิงหยุนพอเข้าใจแล้วบ้าง ในนี้ต้องมี เรื่องราวบางอย่าง

ไม่น่าแปลกที่พ่อของนางเข้าใจนิสัยใจคอของ องค์หญิงใหญ่ รอกลับบ้านเมื่อไร นางต้องถามให้ได้

“ทำไมไม่พูดล่ะ? พ่อเจ้ามีฮูหยินแล้ว?” องค์หญิง ใหญ่ถามต่อ

อันหลิงหยุนตอบตามความจริง: “ท่านพ่อหม่อมยัง คงตัวคนเดียวเพคะ เพราะหม่อมฉันเขาเลยไม่ได้ แต่งงานใหม่อีก ก่อนหน้านี้ ฮ่องเต้ทรงตรัสถึงเรื่องนี้ กับหม่อมฉัน ถามหม่อมฉันว่าเกี่ยวกับเรื่องที่จะให้พ่อ หม่อมฉันแต่งงานใหม่ หม่อมฉันไม่สบายใจเล็กน้อย แม้จะรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สมควรเป็นเช่นนั้น

ท่านพ่อหม่อมฉันดูแลหม่อมฉันมานานหลายปี ไม่แต่งงานใหม่ก็เพื่อหม่อมฉัน เพราะกลวหม่อมฉันเสียใจ

รอจนกระทั่งหม่อมฉันออกเรือน เขาก็ควรจะมีใคร สักคนมาดูแลเพคะ

แต่เมื่อคิดได้หลังจากนี้ท่านพ่อหม่อมฉันจะปฏิบัติ

ต่อคนอื่นอย่างดีแล้ว ข้ากลับเรือนไม่รู้จะเผชิญหน้า กระไร รู้สึกอึดอัด จึงหาข้ออ้างที่จะผลักไสออกไป” “ฮ่องเต้ใส่ใจได้กว้างขวางดี เรื่องของตนเองยัง ดูแลได้ไม่ดี สนใจเรื่องผู้อื่นขึ้นมาเสียแล้ว ชอบยุ่ง เรื่องบ้านชาวบ้านจริงๆ” องค์หญิงใหญ่พูดจบก็เดินไป

ข้างใน อันหลิงหยุนรู้สึกมั่นใจเล็กน้อย ดูเหมือนว่ายังมี

เรื่องราวบางอย่างระหว่างพ่อนางและองค์หญิงใหญ่ สิ่งที่น่าทึ่งกว่านั้นคือองค์หญิงองค์ใหญ่มีนิสัยที่ไม่ เกรงกลัวต่อเทวดาฟ้าดิน แม้แต่ฮ่องเต้ก็ยังไม่อยู่ใน สายตา ยังจะสนใจผู้ใดอีก?

แต่กล่าวกันว่าอำนาจของฮ่องเต้นั้นสูงสุด ทำไม รู้สึกว่าฮ่องเต้องค์ปัจจุบันอ่อนแอมาก?

นอกจากลงมือต่อสะใภ้กงทั้งสองของเขา ดู เหมือนว่าทุกคนจะแกร่งกว่าเขา

แม้จะไม่ใช่ฮ่องเต้ที่เป็นเพียงหุ่นเชิด แต่เมื่อเทียบ กับผู้หญิงเหล่านี้ฮ่องเต้ชิงหยู่นั้นอ่อนแอกว่าเล็กน้อย

หลังจากเข้าไปในหน้าห้องโถงองค์หญิงใหญ่มอง ไปที่หน้าห้องโถง นั่งลงมองอันหลิงหยุน: “การตรวจ สอบคดีของเจ้าเป็นกระไร?”
“ทูลเสด็จป้าใหญ่ หม่อมฉันตรวจสอบได้ว่าพระ ชายารองหยุนถูกใส่ร้ายเพคะ”

“อ๋อ อย่างนั้นพูดให้ข้าฟัง ข้าเข้าใจผิด หรือเจ้า เข้าใจผิดกันแน่ ข้าเข้าใจผิดยังพอว่า แต่ถ้าเจ้าเข้าใจ ผิด วันนี้ข้าก็จะลงโทษเจ้า”

“เพคะ….” อันหลิงหยุนรู้สึกหมดหนทาง ข่มขู่ผู้ใด

กัน?

แม้ว่าจะไม่พอใจต่อองค์หญิงใหญ่ แต่เพื่อปกป้อง

ผลประโยชน์ของส่วนรวมอันหลิงหยุนเล่าถึงเรื่องที่ ตรวจสอบพบอีกครั้ง เพื่อความระมัดระวังองค์หญิง ใหญ่ นางไม่ได้หยิบคำสารภาพออกมา

องค์หญิงใหญ่ครุ่นคิดครู่หนึ่ง: “ที่กล่าวมานั่น ข้า เข้าใจแล้ว นั่นเป็นแผนของพระชายาตวนอย่างนั้น หรือ?”

“เสด็จป้าใหญ่ เรื่องของพระชายาตัวยังตรวจ สอบได้ไม่กระจ่าง ขึ้นอยู่กับว่าชุนหงจะพูดกระไร แต่ หม่อมฉันคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือการกระทำของพระชา ยาตวน พระชายารองหยุนเป็นคนที่พระชายาตวนแต่ง ตั้งกับมือ เห็นได้ว่าพระชายารองหยุนและพระชายาต วนพึงพอใจอย่างยิ่ง จะเป็นพระชายาตวนได้กระไร เพคะ?” อันหลิงหยุนไม่ต้องการทำให้ผู้คนขุ่นเคือง ปล่อยให้องค์หญิงใหญ่พูดดีกว่า

“เจ้ามีความคิดมากกว่าพ่อเจ้าเยอะเลย ข้าบอกว่า นางก็คือนางใช้ทุกกลวิถีทาง ไร้สิ้นความคิด สร้างความอับอายให้กับราชวงศ์

ข้าไม่เข้าใจ นางดีกระไร หยินเอ๋อถูกนางครอบงำ ทำให้หลงใหล หญิงงามเป็นชนวนอันนำมาซึ่ง

ปัญหา..จริงๆ ”

ไป

อันหลิงหยุนกระอักกระอ่วน นี่ก็พูดตรงเกิน

องค์หญิงใหญ่มองทั้งสองฝั่ง: “เจ้ามีนามว่าอัน

ใด?”

องค์หญิงใหญ่เท่มาก ถามอย่างไม่เกรงใจ อันหลิง หยุนรีบรายงานนาม: “อันหลิงหยุนเพคะ”

“อืม เป็นชื่อที่ดี ปณิธานอันแรงกล้าที่จะทะยานไป ในเมฆา สมกับเป็นบุตรสาวของพ่อเจ้า แต่ก็เป็นบุตร สาวคนหนึ่ง เรียกหลิงหยุนคงไม่เหมาะ เรียกหยุนหยุ นก็แล้วกัน”

“เพคะ”

องค์หญิงใหญ่ลุกขึ้น: “เจ้าก็ไม่ยกน้ำชาให้ เพราะ ไม่ชอบข้าอย่างนั้นหรือ?”

“หามิได้เพคะ แต่หม่อมฉันอยู่ในจวนไม่ค่อย นับถือ ไม่มีผู้ใดเชื่อฟังหม่อมฉันเพคะ” อันหลิงหยุน โศกเศร้าขึ้น สีหน้าองค์หญิงใหญ่แย่ลง

“เกิดเรื่องอันใดขึ้น? หรือว่าหลายวันมานี้วี่เอ๋อช อบหญิงอื่นอีกแล้ว?” องค์หญิงใหญ่ไม่พอใจอย่างเห็น ได้ชัด
อันหลิงหยุนส่ายหน้าทันที: “มิใช่เช่นนั้นเพคะ เพียงแค่หม่อมฉันในฐานะผู้หญิง ทำได้เพียงเท่านี้ ก็ ไม่ใช่ความผิดของผู้อื่นเพคะ”

องค์หญิงใหญ่ไม่สามารถยอมรับสิ่งที่ไม่สมเหตุ สมผลได้: “เมื่อครู่ยังบอกอยู่เลยว่าให้ข้าตัดสิน ทำไม ผ่านไปครู่เดียวก็ลืมเสียแล้ว?”

ทูลตอบเสด็จป้าใหญ่ ความจริงอยู่ในจวนอ๋องเสีย น ทุกคนก็ดีกับหม่อมฉันเช่นกัน เพียงแค่ค่อนข้างขัด แย้งที่หม่อมฉันแต่งงานกับอ๋องเสียน แถมตอนนี้ใน ท้องก็ยังไม่มีความคืบหน้าเลย ดังนั้นการพูดและทำสิ่ง ต่างๆ ในจวนจึงไม่เป็นผลเท่าไรนักเพคะ” อันหลิงหยุ นพูดพล่ามเพื่อ ไม่ได้จะต่อต้าน เพียงแค่ต้องการรู้กล อุบายการขององค์หญิงใหญ่

“ให้กำเนิดบุตรเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาช้าหน่อยใช่ ว่าจะไม่ดี คนหนุ่มสาวเอาแต่คิดถึงเรื่องการสืบสกุล ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเจ้าควรรักน้อยๆแต่ยาวนาน เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีบุตร ก็จะต้องถูกลดระดับเป็น สามัญชนอย่างนั้นหรือ?” องค์หญิงใหญ่กล่าวอย่างไม่ พอใจ

อันหลิงหยุนรีบพูด: “แต่จวนอ๋องตวนและจวนอ๋อง เสียนอภิเสกสมรสกับพระชายาในเวลาเดียวกัน เพราะ พระชายาตวนมดลูกเย็น จวนอ่องตวนรีบเร่งจะมีบุตร ชายไว้สืบสกุล จึงสมรสกับพระชายารอง”

และตอนนี้ท้องของหม่อมฉันไม่ได้เรื่อง ไม่มีความเคลื่อนไหวสักที ตอนนี้หม่อมมีปัญหาในการนอนหลับ และการรับประทานอาหาร กลัวว่าอ๋องเสียนจะมีพระ ชายารอง หม่อมฉัน….”

อันหลิงหยุนถอนหายใจพร้อมกับก้มหน้าลง ราวกับรู้สึกแย่

“มีบุตรไม่ได้ไม่หาไม่หาข้อบกพร่องในตัวเขาเอง แต่กลับมาหาข้อบกพร่องจากตัวเจ้า ถ้ามีแค่เจ้าคน เดียวก็มีบุตรได้ จะมีเขาไว้ทำไม?” องค์หญิงใหญ่ไม่ เข้าข้างพรรคพวกและเป็นไปตามเหตุผล กล้าหาญ มาก อันหลิงหยุนแทบจะกระโดดและปรบมือ

“สิ่งที่เสด็จป้าใหญ่พูดถูกต้องที่สุดเพคะ แต่ผู้ หญิงนั้นควรจะให้กำเนิดบุตรให้กับตระกูลของสามี ถึง จะสามารถบรรลุทำหน้าที่ของสะใภ้ได้” อันหลิงหยุนพ ยายามอย่างหนักเพื่อจัดระเบียบภาษา และพยายาม อย่างเต็มที่ในการประจบ

องค์หญิงใหญ่สายหน้า: “โง่เขลา รู้เพียงแค่ให้ กำเนิดบุตรนั้นคือแม่หมู ผู้หญิงต้องรู้จักทะนุถนอมและ รักตัวเอง หากถ้าผู้ชายเอาแต่คิดเรื่องมีภรรยามากมาย ไม่ไปรับใช้ชาติ เขาแตกต่างจากสัตว์ร้ายกระไร?

รอเขากลับมา ข้าจะถาม ส่วนไหนของเขาขึ้นเขา แล้ว แต่งงานได้ไม่ถึงปี ก็คิดจะมีพระชายารองแล้ว หรือ?”

“เสด็จป้าใหญ่ไม่ใช่ว่าท่านอ๋องต้องการมีพระ ชายารองเพคะ เพียงแค่…” อันหลิงหยุนรู้สึกอึดอัดใจไม่สามารถบรรยายได้

องค์หญิงใหญ่มองอันหลิงหยุนครู่หนึ่ง: “หากเป็น ความคิดของไทเฮาและฮ่องเต้ รอวันนั้น ข้าเจอพวก เขา ข้าจะพูดขึ้น คู่แต่งงานไม่ว่ากระไรก็ต้องใช้เวลา อย่างน้อยหนึ่งปีในการสานสัมพันธ์ ถึงจะมีพระชายา รองได้ มีเร็วเพียงนั้น ไม่ได้จงใจละเลยพระชายาเอก ตั้งแต่เนิ่นๆ อย่างนั้นหรือ?”

“หม่อมฉันขอบพระทัยเสด็จป้าใหญ่ ที่รักและ เอ็นดูเพคะ!” อันหลิงหยุนจึงรู้สึกโล่งใจ

แม้ว่าจะหยุดไม่ได้ แต่ถึงตอนนั้นก็จะมีผู้หนุนหลัง การพยายามทำให้พอใจไม่ถือว่าสูญเปล่า องค์หญิงใหญ่ผงกศีรษะ มองอันหลิงหยุนครู่หนึ่ง: “ยกน้ำชามาเถิด”

“เสด็จป้าใหญ่โปรดรอสักครู่เพคะ หม่อมฉันให้คน ไปซื้อชา!”

“ซื้อ? ชาที่ระลึกของฮ่องเต้ดื่มหมดแล้วหรือ?” องค์หญิงใหญ่ไม่พอใจ

อันหลิงหยุนกล่าว: “มีก็เอาให้ผู้อื่นไปหมดแล้ว ช่วงนี้ท่านอ่องขาดแคลนคุณทรัพย์เพคะ”

“ไม่ได้เรื่อง” องค์หญิงใหญ่ไม่สนใจ

อันหลิงหยุนคิด: “ท่านอ่องช่วงนี้เพื่อความ ประหยัด การเสวยความเป็นอยู่ทั้งหมดในจวนก็กำลังประหยัด ดังนั้นการเสวยอยู่ของพวกเราจึงไม่ค่อยดี

นักเพคะ

เดิมหม่อมฉันหน้ากลมราวกับขนมเปี้ยะใหญ่ ชอบ เสวยเนื้อ แต่ช่วงนี้แม้แต่ผักกาดหัวไช้เท้ายังหาเสวย ได้ยากเพคะ”

“เหลวไหล เป็นถึงจวนอ๋องเสียน ลำบากถึงขั้นนั้น แล้วหรือ?” องค์หญิงใหญ่ไม่เชื่อ

อันหลิงหยุนเดินไปและพูด: “โครงการใหญ่ของตู ฟางจุ้น เงินในกองคลังประเทศไม่เพียงพอ จวนอ๋องที่ ใช้ได้ก็ใช้จนหมดแล้วเพคะ”

“จริงหรือ?”

น้ำเสียงองค์หญิงใหญ่เต็มไปด้วยความสงสัย กำลังพูดอยู่ ที่หน้าประตูพ่อบ้านเข้ามา: “พระชายา อาหารเย็นพร้อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“ไม่เสวยแล้ว ทนหิวไปดีกว่า” อันหลิงหยุนพูดอย่ างหมดความอดทน

พ่อบ้านรีบทำความเคารพองค์หญิงใหญ่ องค์หญิง ใหญ่ถาม: “รับประทานอาหารที่ใด พาข้าไป ข้าจะดูให้ เห็นกับตา พวกเจ้าเสวยอันใดกันแน่”

พ่อบ้านลังเล องค์หญิงใหญ่ไม่พอใจ: “ยังไม่รีบไป

อีก?”

“พ่ะย่ะค่ะ”
พ่อบ้านนำทาง อันหลิงหยุนไปด้วย องค์หญิงใหญ่ มาถึงที่ห้องอาหารอย่างรวดเร็ว เข้าไปดูอาหารสื่อย่าง และซุปหนึ่งถ้วยบนโต๊ะ อันหลิงหยุนเกือบหัวเราะออก มา

“นี่คืออันใด?”

องค์หญิงใหญ่เข้าไปดูอาหารสื่อย่างซุปถ้วยหนึ่ง อย่างละเอียด ตรงกลางน้ำใส่แววับ ข้างในวางช้อน อยู่อันหนึ่ง หยิบขึ้นมามองดู มีแป้งสีเหลืองอยู่ข้างใน

พ่อบ้านกล่าว: “นี่คือข้าวโพดบดพ่ะยะค่ะ”

“นี่ไม่ใช่สำหรับคนเสวย?” องค์หญิงใหญ่ก็ไม่ใช่ ไม่เข้าใจ เรื่องในชีวิตประจำวันก็พอรู้อยู่บ้าง

พ่อบ้านกล่าว: “ช่วงนี้ในจวนก็เสวยแค่สิ่งนี้พ่ะย่ะ ค่ะ มีพระชายาเป็นแบบอย่างพ่ะย่ะค่ะ”

“แล้วพวกนี้ล่ะ?” องค์หญิงใหญ่ชี้ไปที่นอกเหนือ จากนี้อีกสองสามอย่าง พ่อบ้านก็แนะนำอาหารสอง สามอย่างบนโต๊ะอย่างไม่น่าสงสัย

“สิ่งนี้คือผักทอดทำจากแป้งข้าวโพด สิ่งนี้คือผัด แป้งข้าวโพดทอด และสิ่งนั้นคือซุปก้อนข้าวโพดพ่ะย่ะ ค่ะ”

อันหลิงหยุนไม่มีทางเคยเห็นสิ่งเหล่านี้มาก่อน แต่ องค์หญิงใหญ่เคยได้เห็น

“เหลวไหล ประหยัดโดยวิธีปากท้อง จะประหยัด ได้เท่าไรกันเชียว?”
พ่อบ้านเงียบ แต่อันหลิงหยุนพูดขึ้น: “นี่ก็เป็นทาง ขันเลือกสุดท้ายเพคะ ท่านอ๋องบอกว่าผ่านไปช่วงหนึ่ง ตู ฟางหุ้นเสร็จสมบูรณ์แล้ว พวกเราก็จะได้เสวยเนื้อแล้ว เพคะ”

“ไม่ได้เรื่อง เขาพูดเจ้าก็เชื่อ? ถ้าเขามีวิธี ตอนนี้ยัง จำเป็นต้องเสวยสิ่งเหล่านี้หรือ?” องค์หญิงใหญ่หัน และนั่งลง คืบพายชิ้นหนึ่งแล้วเสวย ไม่อร่อยโยนทิ้งไป

พ่อบ้านรีบถอยหลัง กลัวสร้างปัญหา

อันหลิงหยุนรีบหยิบมันขึ้นมาและเช็ดมัน กัดไปคำ หนึ่ง นั่งลงและพูด: “หม่อมฉันเสวยบ้างดีกว่า ท่านอ๋อง บอกหม่อมฉันว่า สิ่งนี้ก็ต้องเสวยอย่างประหยัด”

“ห์” องค์หญิงใหญ่ไม่สนใจนาง มองไปยังเว่ยหลิง ชวน: “ไป ซื้อเส้นหมี่เนื้อมา ข้าจะเสวยพระกระยาหาร ที่นี่ และรอวี่เอ๋อด้วย”

“พ่ะย่ะค่ะ”

เว่ยหลิงชวนหันหลังแล้วไปข้างนอก อันหลิงหยุน เสวยพายคำใหญ่คำโต

ไม่อร่อยอย่างว่าจริงๆ แต่นางก็เสวยอย่าง เอร็ดอร่อยไปชิ้นหนึ่ง พ่อบ้านอยู่ข้างๆ ทนดูไม่ไหว อยากเข้าไปขัดขวางแต่ก็ไม่กล้า

กระทั่งอันหลิงหยุนเสวยจนหมด ดื่มซุปข้าวโพด เล็กน้อย พ่อบ้านจึงรู้สึกสบายใจขึ้น

อันหลิงหยุนมององค์หญิงใหญ่: “เสด็จป่าใหญ่ท่านไม่เสวยหรือเพคะ?”

“ไม่เสวย ข้าเสวยไม่ลง เจ้าเสวยเถิด”

“หม่อมฉันอิ่มแล้วเพคะ อีกสักพักเสด็จป้าใหญ่จะ เสวยเนื้อไม่ใช่หรือเพคะ?” อันหลิงหยุนถาม ดวงตา เปล่งประกาย

องค์หญิงใหญ่มองอันหลิงหยุนด้วยความงุนงง : “พ่อเจ้าไม่ให้เงินเจ้าบ้างหรือ?”

“ให้แล้วเพคะ บริจาคไปหมดแล้ว!” อันหลิงหยุนพู ดอย่างน่าสงสาร องค์หญิงใหญ่จึงไม่ถามนางต่อ จน กระทั่งกงชิงวี่เข้ามาจากด้านนอก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ