บทที่145 เรื่องน่าอับอาย
เสินหยุนเจ๋คุกเขาคำนับ “คารวะฮ่องเต้ คารวะ ฮองเฮา ดึกดื่นมารบกวนทำให้ท่านตกใจ ข้าสมควรรับ โทษ ขอให้ฮ่องเต้ลงโทษข้าน้อย”
“ลุกขึ้นมาเถอะ เจ้าก็ไม่ใช่คนนอก เห็นเจ้าอายุยัง น้อย ข้าไม่ถือสาเจ้า ไป นั่งลงค่อยพูด สวีกงกง เจ้าไป หาของกินให้แม่
ทัพน้อย เห็นเขารีบร้อนขนาดนี้ คงหิวแล้ว!”
เสินหยุนเจ๋ลุกขึ้น เสินหยุนชูรีบพูด “ฮ่องเต้ เขา อายุน้อย ท่านตามใจเขาเกินไป จะทำให้เขาเอาแต่ใจ และหยิ่งผยองได้?”
“ตอนฮองเฮาเข้าวังก็อายุเท่าไหร่เอง ข้าก็รักใคร่ เจ้ามาตลอด ก็ไม่เห็นเจ้าเอาแต่ใจและหยิ่งผยองนี่?
“ข้าไม่กลัว ฮองเฮากลัวอันใด”
“อีกอย่างข้าก็รู้ อ๋องเสียนก็มาแบบนี้ ก็ไม่เห็น เป็นไรนี่” ฮ่องเต้ชิงหยู่ชี้ไปที่เก้าอี้ เพื่อให้เสินหยุนเจ๋
นั่ง
สวีกงกงสั่งคนไปจัดเตรียมอาหารที่นอกวังไม่มีนำ มาให้เสินหยุนเจ๋ เสินหยุนเจ๊ไม่ได้ใส่ใจสิ่งเหล่านั้น และก็ไม่ได้นั่ง “ฮ่องเต้ข้ามีเรื่องมาทูลฮ่องเต้ พูดจบก็ จะกลับ”
“อ่อ?”
ฮ่องเต้ชิงหยู่นึกถึงอันหลิงหยุน นางช่างมีความ สามารถ แม้แต่เสินหยุนเจ่ก็มาแล้ว
“ฮ่องเต้ ฉาวซื่อลูกสะใภ้ของช่างซูหลี่ วันนี้ข้าไปดู มาแล้ว โดนทำร้ายจนหน้าตาดูไม่ได้เลย ข้ามาเพื่อทูล เรื่องนี้”
เสินหยุนชูค่อยๆลุกขึ้น มองไปทางเสินหยุนเจ๋อ ย่างไม่พอใจแล้วพูด “หยุนเจ๋ เจ้าไปเห็นได้ไง? เรื่องใน ตระกูลซ่างซูหลี่เจ้าไม่
ควรไปวุ่นวาย อีกอย่างภรรยาของซ่างซูหลี่ก็เป็น ลูกพี่ลูกน้องราชครูจุน อีกอย่างซ่างซูหลี่กับราชครูจุน ก็มีความสัมพันธ์ที่ดี
ต่อกัน แล้วข้าก็เป็นฮองเฮา ตอนนี้เซียวกุ้ยเฟย เข้าวังก็มีตำแหน่งกุ้ยเฟย เจ้าต้องหลีกเลี่ยงข้อสงสัย เจ้ารู้หรือไม่?
คนนอกไม่รู้ เขาจะคิดว่าในสองตำหนักแย่งชิงกัน คนเขาจะมองข้ากระไร?”
ฮ่องเต้ชิงหยู่จับมือเสินหยุนชู “หมอหลวงบอกไม่ ให้ฮองเฮาตื่นตระหนกเกินไป ฮองเฮาอย่าทำให้ข้าเป็น ห่วง อีกอย่างเรื่องไม่ได้ร้ายแรงขนาดนี้ ที่เสินหยุนเจ๋ ทำอย่างนี้ก็เป็นเรื่องส่วนตัวในใจเขา อย่าไปใส่ใจมาก เซียวกุ้ยเฟยจะเทียบกระไรกับฮองเฮา ฮองเฮาไม่ต้อง ดูถูกตัวเอง ข้าไม่ชอบฟัง”
“ฮ่องเต้ นี่ดึกดื่นแล้ว เขาไปหานางกระไร ลูก สะใภ้ช่างซูหลี่ก่อเรื่องกับคนอื่น เรื่องนี้รู้กันไปทั่ว ยัง หาผู้ชายคนนั้นไม่เจอ ถ้ามีคนเอาไปนินทา จะทำอย่าง ไง?” เสินหยุนชูกังวลใจ
“ฟังหยุนเจ๋พูดให้จบก่อน รีบร้อนอันใด? ฮองเฮา ห้ามคิดเรื่องร้าย ทุกเรื่องมีข้าอยู่ กลัวอันใด?” ฮ่องเต้ ชิงหยู่มองไปทางเสิน
หยุนเจ “มาเล่ามาซิ”
“ฮ่องเต้ เป็นพ่อบ้านจวนอ๋องเสียนรับคำสั่งมาตาม ข้าไปจวนอ๋องเสียน ให้ข้าช่วยประสานงาน”
ข้าเห็นฉาวซื่ออยู่ในจวนอ๋องเสียน โดนทำร้ายจน บอบช้ำทั่วร่างกาย พระชายาเสียนให้ข้าช่วยเหลือ เป็นพยานให้” เสินหยุนเจ๋พูดตามความจริง
ฮ่องเต้ชิงหยู่ถาม “พวกเจ้าสองคนได้ติดต่อกัน?”
“ข้าไม่ปิดบังฮ่องเต้ ก่อนที่ข้าจะออกรบได้รู้จักกับ นาง ในเมืองหลวงไม่มีใครไม่รู้ เรื่องฉาวโฉ่ของพวกเรา สองคน”
ฮ่องเต้เขาพูดไร้สาระ” เสินหยุนชู่โกรธมาก
“ฮ่าฮ่า….เจ้านี่ช่างพูดความจริง ถ้าอย่างนี้เป็น เพื่อนซี้ชั้ว ฮ่องเต้ชิงหยู่หัวเราะ
“แต่พวกข้าเป็นแบบไม่สู้ไม่รู้จัก แต่คนอื่นไม่ชอบ พวกข้า แต่ข้ารู้สึกว่าพระชายาเสียนเป็นคนดี เป็นคนที่ นิสัยตรงไปตรงมา”
“ใช่เหรอ?”
ฮ่องเต้ชิงหยู่ลังเลนิดหนึ่ง “ฉาวซื่อทำเรื่องน่า อับอายต่อตระกูล เป็นผู้หญิงต้องมีจริยธรรม สามมีไม่ อยู่ แต่กลับตั้งครรภ์ได้
เรื่องนี้เป็นเรื่องต้องห้าม ตระกูลซ่างซูหลี่ถึงจะใช้ กฎของตระกูล ข้าก็ไม่อาจไปก้าวก่ายได้”
พวกเจ้าหลายคนร่วมมือกัน “ผลัดเปลี่ยนกันมาหา ข้า ดูแล้วพระชายาคงจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด”
เสินหยุนเจ๋ไม่พูดอันใด แต่เสินหยุนชูถาม “ฮ่องเต้ ฉาวซื่อคนนั้นตั้งครรภ์จริงเหรอ โดนทำร้ายหนักขนาด นั้น?”
ฮ่องเต่ชิงหยู่มองไป “ฮองเฮามีจิตใจเมตตา ข้ารู้ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ต้องคิดไปในทางที่ดี ให้โอกาสพระ ชายาเสียน โชคร้ายหรือโชคดี แล้วแต่พวกนางเอง”
“ฮ่องเต้มีเมตตา สวรรค์ต้องคุ้มครองประเทศต้าเห ลียง”
เสินหยุนชูพิงไหล ฮ่องเต้ชิงหยู่ตบไหล่เสินหยุนชู “ขอให้เป็นอย่างนั้น”
เสินหยุนเจ๋ลังเลสักครู่ “ฮ่องเต้ พระชายาบอกว่า ข้าคนเดียวเป็นพยานยังไม่พอ อยากให้สวีกงกงออกวัง ไปดูฉาวชื่อ”
“ช่างมันเถอะ ข้าเชื่อก็พอแล้ว สวีกงกงอายุมาก แล้ว ดึกดื่นขนาดนี้แข้งขาไม่ดีเท่าเจ้าแล้ว เจ้าก็รีบกลับไป เรื่องนี้ทำให้เฉินเสี้ยงตื่นตระหนก เขาจะกังวล
ใจ” “ข้าน้อยทูลลา” เสินหยุนเจ่หันตัวเดินจากไป เสิน หยุนชูถอนหายใจยาวอย่างหมดปัญญา
ฮ่องเต้ชิงหยู่ถาม “เป็นอันใด?”
“ก่อนที่หยุนเจ๋อกรบเคยมาหาหม่อมฉัน บอกว่า จะสู่ขอพระชายาเสียนแต่งงาน ฮ่องเต้ก็รู้ตอนนั้นชื่อ เสียงพระชายาไม่ดี
หม่อมฉันไม่ถูกใจ
หม่อมฉันได้พูดกับพี่ชาย ให้หยุนเจ๋ไปตรงนั้น พี่ ชายไม่ยอม ก็มีแม่ทัพอันได้พาหยุนเจไป เรื่องนี้หม่อม ฉันก็ลืมไปแล้ว
วันนี้เพราะเรื่องของพระชายาดึกดื่นแค่ไหนหยุน เจ๋ก็มา หม่อมฉันกลัว เด็กคนนี้ประสบการณ์น้อย ดู ท่าทางแล้ว คงยัง
ลืมพระชายาไม่ได้”
“ฮองเฮาคิดมากไป ข้ารู้สึกว่า หยุนเจ๋ไม่ใช่คนที่ใช้ เรื่องส่วนตัวมาตัดสิน ผ่านไปสักพักก็ดีเองแหละ”
“ก็หวังไว้อย่างนั้น”
เสินหยุนชูรู้สึกว่า เรื่องนี้มันไม่ธรรมดา เก็บอัน หลิงหยุนไว้ไม่ได้ ในเวลาสั้นๆนางมีวิธีให้หลายคนมา ทูลฮ่องเต้ ไม่รู้ในใจคิด
แผนอันใด ความสามารถไม่ตกอยู่ที่นาง ถ้าเก็บ เอาไว้ปัญหาไม่จบสิ้น
เซียวกุ้ยเฟย นั่งใจลอยอยู่ในวัง สาวใช้คนสนิทได้ มากระซิบข้างหู จุนเซียวเซียวหมดปัญญา “เป็นอย่างที่ พูดเรื่องหนึ่งยังไม่สงบก็เกิดอีกเรื่องขึ้นมาอีก สวรรค์ ไม่ช่วยเหลือข้าเลยเหรอ?”
“เจ้านาย จะพักผ่อนหรือไม่?” สู้จีน ถาม
จุนเซียวเซียวส่ายหน้า “นับวันเวลา ตั้งแต่ข้าตั้ง ท้อง ฮ่องเต้ก็ไม่เคยมา ที่ทำไปก็เพื่อให้หวางฮองไท เฮาสบายใจแค่นั้นเอง
ณ ตอนนี้เกิดเรื่องอย่างนี้อีก ฮ่องเต้ไม่มาถาม แน่นอน พวกเรานั่งตรงนี้แหละ อย่าทำให้มันวุ่นวาย เลย”
“รับทราบ” สู้จีนรีบตอบทันที
กงชิงวี่ถึงจวนอ๋องเซียนได้ปลุกแม่ทัพอันตื่น สอง คนเดินลงพร้อมกัน
หมาจิ้งจอกหางสั้นเห็นรถม้าของกงชิงวี่กลับมา อันหลิงหยุนรีบใส่เสื้อผ้าออกมาต้อนรับ
ไว้
พอเห็นอันหลิงหยุน กงชิงวี่รีบก้าวเข้าไป อุ้มนาง
อันหลิงหยุนจะคำนับ ก็ไม่ทัน แม่ทัพอันยักคิ้ว สบายใจขึ้นมา เห็นเหตุการณ์อย่างนี้ ก็วางใจและมีความสุข
“พระชายา ข้าคิดถึงเจ้า” กงชิงที่รัดแขนไว้แน่น ถางเหอกับคนอื่นหน้าแดงไปหมด นี่พึ่งจากไปไม่นาน ก็คิดถึงขนาดนี้แล้ว
เหรอ
อันหลิงหยุนไม่สนใจสายตาใคร คนที่อุ้มนางก็ ไม่ใช่คนอื่น
พอกงชิงวี่ปล่อยนางอันหลงหยุนก็พูด “ท่านอ๋อง เดินทางกลางคืนน้ำค้างเยอะ นั่งรถมาเหน็ดเหนื่อย ไป พักผ่อนดีกว่า เดี่ยว
คนอื่นหัวเราะ”
“ใครกล้าหัวเราะข้า?”กงชิงที่มองไป ไม่มีใครกล้า
สบตา
พอไปสบตาแม่ทัพอัน อารมณ์ก็ไม่ได้บ้าคลั่ง ขนาดนั้น
“ขอให้พ่อตาอย่าหัวเราะ” กงชิงซีรีบพูด อันหลิงหยุนพึ่งรู้สึก ท่านพ่อแม่ทัพมาด้วย
“ท่านพ่อ” อันหลิงหยุนเดินไป แม่ทัพอันพูด “ดึกแล้ว พ่อก็เหนื่อยแล้ว จะพักผ่อน แล้ว”
“ท่านพ่อ ถ้าอย่างนั้นหนูพาท่านไปพัก” อันหลิงหยุ นไปจัดที่นอนให้แม่ทัพเสร็จ ค่อยกลับไปที่ลานโอวหลาน
พอถึงประตูกงชิงวีก็มาอุ้มขึ้นเตียง
“ท่านอ๋อง ท่านก็ไม่ยอมถามคดีเลยเหรอ?” อัน หลิงหยุนไม่ยินยอม
“คดีจะถาม แต่ไม่ใช่ตอนนี้” กงชิงวี่กำลังถอด เสื้อผ้า อันหลิงหยุนเห็นเขาก็หัวเราะ
“ท่านอ๋อง ไม่โกรธแล้วเหรอ?”
….” กงชิงที่ไม่ตอบ ก็คงยังโกรธ อันหลิงหยุนก็ไม่ พูดอันใด ทั้งคืนเขาไม่ได้นอนเลย ทำซ้ำๆหลายรอบ กว่าจะได้พักผ่อน เช้าวันรุ่งขึ้นพระอาทิตย์สองแสงแม่ทัพอันทาน
ข้าวแล้วมาหาพวกเขา แล้วชี้ไป “ยังไม่ตื่นอีกเหรอ?”
“ยังเลย เมื่อคืนท่านอ๋องกลับมาดึก” ที่ไหนมีพ่อตา มาถามเรื่องอย่างนี้
แม่ทัพอันพูด “ให้พวกเขาลุกได้แล้ว”
“อันนี้….” พ่อบ้านมองไปทางประตู ไม่กล้าไป
“ไป” แม่ทัพอันยืนยัน
พ่อบ้านก็ไปเคาะประตูห้อง อันหลิงหยุนตื่นแล้ว แต่โดนทับไว้ นางมองไปที่ประตู อารมณ์ไม่ค่อยดีมอง แผ่นหลังกงชิงวี่
ไม่ลุกขึ้นไม่ว่า แต่เช้ายังจะต้องส่งน้ำอสุจิให้ ไม่รู้ ด้วยเหตุใดเยอะขนาดนี้ ไม่มีที่สิ้นสุด
บ่นพึมพำ อันหลิงหยุนถาม “ท่านอ๋องด้วยเหตุใด น้ำอสุจิเยอะขนาดนี้?”
พ่อบ้านฟังไม่ชัดเจน พระชายาพูดอันใด?
“ข้าสะสมมายี่สิบปี คงต้องใช้งานไปสักพัก” พ่อบ้านหน้าแดงไปหมด เรื่องลามกห้ามฟัง หันตัวกลับไปหาแม่ทัพอัน “ท่านอ๋องกำลังตื่น” แม่ทัพอันไปรอที่สวนหน้าบ้าน พ่อบ้านเหงื่อแตก รีบเช็ดเหงื่อ
กว่าอันหลิงหยุนจะออกมาก็ช่วงเที่ยง แม่ทัพอัน กำลังดื่มชา
อันหลิงหยุนเดินเข้าไปหาแม่ทัพอัน “ท่านพ่อ”
“ตื่นแล้วเหรอ?”
แม่ทัพอันวางแก้วชามองหน้าอันหลิงหยุน อันหลิง หยุนก็พูด “ท่านพ่อ ข้าพาท่านไปหาแม่ทัพรองเฉา”
“ไม่ไปแล้ว เรื่องนี้พ่อไม่อยากยุ่ง แม้ว่าพ่อจะหวัง ให้เขาไม่เป็นอันใด พ่อไม่อยากทำในสิ่งที่เพื่อผล ประโยชน์ส่วนตัว จะถูก หรือผิด ฮ่องเต้จะเป็นคน
พิจารณาเอง เห็นพ่อแล้วก็ช่วยอันใดไม่ได้ ไม่เห็นยังดีกกว่า เรื่องนี้ในเมื่อเจ้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวแล้ว ก็มอบให้เจ้า พ่อไม่ ขออันใดมาก ถ้าเกิดเรื่องจริงๆ ขอให้ไว้ชีวิตแม่ทัพรอง
เฉา”
“ท่านพ่อวางใจ ไม่มีอันใดหรอก” อันหลิงหยุน ปลอบใจ
“ถ้าอย่างนั้นพ่อกลับไปก่อน” แม่ทัพอันไม่ได้อยู่ นาน ก็ออกจากจวนอ๋องเสียน
กงชิงวี่ไปจวนซ่างซู ไปอ่านราชโองการ
หลังจากแม่ทัพอันไปแล้วอันหลิงหยุนก็ไปหาฉาว เหมยเหริน ฉาวเหมยเหรินเป็นไข้ตัวร้อน สะลึมสะลือ อันหลิงหยุนเฝ้าทั้งวัน
ในจวนซ่างซูประหารชีวิตไปหลายคน กงชิงวี่เป็น คนกำกับดูแลเอง
แค่คืนเดียวจวนซ่างซูปั่นป่วนไปหมด จวนราชครูก็ ไม่มีการเคลื่อนไหว
ฤกษ์แต่งงานของอ่องตวนคือเวลาบ่ายสามถึงห้า โมงเย็น อันหลิงหยุนออกมาจากที่พักเฉาเหมยเหริน รู้สึกปวดเอวปวดหลัง
กำลังจะกลับไปพักผ่อน มองเห็นกงชิงวี่รีบร้อน กลับมา พ่อบ้านก็ตามหลังมา
อันหลิงหยุนเดินไปถาม “ท่านอ่อง”
“อาบน้ำเปลี่ยนชุด ไปจวนอ่องตวน” กงชิงวี่พูดจบ ก็ดึงอันหลิงหยุนเดิน อันหลิงหยุนแปลกใจ ไปจวนอ่อง ตวนทำอันใด?
“ท่านอ่อง หม่อมฉันจะไปตรวจสอบคดี อีกอย่างนี่ก็จะมืดแล้ว พวกข้าไปจวนอ๋องตวนด้วยเหตุใด?”
“เลอะเลือน วันนี้อ๋องตวนแต่งงานพระชายารอง ข้าลืมไปแล้ว พระชายาก็ลืมเหรอ” กงชิงวี่พาอันหลิง หยุนถึงห้องก็ไม่มีอารมณ์ถาม
“ท่านอ๋อง หม่อมฉันไม่ลืม เพียงแต่ว่าจวนอ๋องตวน เขาแต่งพระชายารอง เกี่ยวอันใดกับพวกข้า?” อันหลิง หยุนไม่เข้าใจ
“แน่นอนก็ต้องไปอวยพรอ่องตวนกับพระชายาต วนซิ ” กงชิงวี่พูดไปด้วยให้คนเตรียมอ่างอาบน้ำไปด้วย สองคนอาบน้ำเปลี่ยนชุด
อันหลิงหยุนกลอกตา ” ท่านอ๋องไม่ใช่จะหา โอกาสส่งเสบียงน้ำอสุจิให้หม่อมฉันอีก?”
“พระชายาช่างฉลาดจริงๆ ข้ากำลังมีความสุข ใน เมื่อรู้แล้ว ยังไม่รีบไปอาบอีก ฤกษ์แต่งพระชายารอง คือเวลาบ่ายสามถึง
ห้าโมงเย็น ถ้าจะไปอวยพรห้ามเกินเวลานี้ พระ
ชายาต้องรีบหน่อย” กงชิงวี่รีบร้อนถอดเสื้อผ้า แล้วลง
ไปในอ่างน้ำ
อันหลิงหยุนคิดด้วยเหตุใดทุกเวลาจะพูดแต่เรื่อง พวกนี้ และพูดอย่างไม่อับอายเลย
อันหลิงหยุนไม่กล้าเสียเวลา รีบถอดชุดแล้วลงไป อาบ กงชิงวีรีบเข้าใกล้นาง อันหลิงหยุนสูดลมหายใจ “เบาๆหน่อย เดี๋ยวคนอื่นได้ยิน”
“ไม่มีคน”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ