บทที่ 124 การมาเยือนสองสามีภรรยาซื้อคง
กงชิงวี่เหลือบมองอันหลิงหยุน “นิสัยของเสด็จพี่ ข้ารู้ดีอย่างยิ่ง เขาไม่ใช่คนที่พวกเจ้าเห็น ถึงจะสูงส่ง แค่ไหนก็คือมนุษย์ผู้หนึ่ง พวกเราสุดท้ายแล้วก็คือพี่ น้อง เขาดีกับข้าไม่น้อย เพียงแต่ไม่มีใครรู้
กงชิงวี่ไม่ได้อธิบายเพิ่มเติมอะไรและอันหลิงหยุน เองก็ไม่ได้ถามต่อ
“เช่นนั้นท่านอ๋องอย่าเพิ่งใจร้อน หม่อมฉันคิดว่า ผ่านไปอีกไม่กี่วัน ซือคงเสี้ยงจะมาหาพวกเราเอง เมื่อ ถึงเวลานั้นทุกอย่างก็จะเป็นไปตามธรรมชาติ” อันหลิง หยุนเอ่ยรับประกันเต็ม
กงฉิงประหลาดใจ “ได้กระไร?”
“ตอนนี้มันยากที่จะพูด เพียงแต่ข้าคิดว่า เรื่อง เขื่อนตูฟางหุ้นนั้นสุดท้ายแล้วก็คือเรื่องบาดใจของซือ คงเสียง เขาสูญเสียตำแหน่งเสนาบดีกรมโยธาธิการ ไปให้แก่คนเบื้องบน มาวันนี้เป็นเพราะเรื่องเขื่อนตูฟาง จันทำให้เรื่องเก่าๆ ถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้ง และวก กลับไปถึงเขา เช่นนี้เขาจะต้องลังเลแน่
อีกทั้งเรื่องนี้กระไรก็ทำให้เขาต้องใส่ใจอยู่ดี ไม่ ต้องพูดถึงเรื่องอื่น ความเดือดร้อนของประชาชนตา ดำๆ นั้นก็ยังเป็นเรื่องที่เขาใส่ใจอยู่
DIV
ถ้าเขาไม่อยากยุ่งกับเรื่องนี้จริงๆ ทุกวันนี้เขาคงไม่ หน้านิ่วคิ้วขมวดเช่นนี้
หม่อมฉันบังเอิญไปยังจวนซือคงของพวกเขา แต่ พวกเขาก็สามารถโยนหม่อมฉันออกมาได้ เขาสามารถ วางเรื่องร่างกายของภรรยาลงมานานหลายปีได้ เหตุ ใดจึงต้องมาใส่ใจทุกเมื่อเชื่อวันขนาดนี้
นั่นแสดงให้เห็นว่าเขาลังเล แต่เขากำลังลังเล อะไรอยู่? ท่านอ๋องทรงทราบหรือไม่? ”
“ข้าลืมไปได้กระไรกัน” กงชิงที่มองไปที่อันหลิงหยุ น อันหลิงหยุนลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วหัวเราะเบาๆ
กงชิงที่มองไปที่อันหลิงหยุนอย่างประเมิน “ข้าควร คิดได้เร็วกว่านี้”
“ท่านอ๋องคิดได้แล้ว”
“ซือคงเสี้ยงได้รับความไม่เป็นธรรม เขาเองก็ได้ พักไปแล้วครู่หนึ่ง แต่เมื่อราชสำนักมีเรื่อง ออกคำสั่ง ให้เขากลับมา เขาเองต่อให้มีอีกหลายศีรษะก็ไม่กล้าที่ จะขัดคำสั่ง ข้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการแทน แค่ออก หนังสือให้เขากลับมาก็เป็นอันเพียงพอแล้ว” ทำ
เพียงแต่ว่า เขาจะต้องได้รับการเลื่อนระดับขึ้นไป
อีกขั้น”
อันหลิงหยุนชื่นชมเขาอย่างสุดซึ้ง เพียงแค่เอ่ย หนึ่งประโยค กงชิงวี่ก็เข้าใจทันที
เขาเป็นคนฉลาดอย่างที่คิด
เมื่อเห็นว่าหลิงหยุนยังคงยืนยิ้ม กงชิงวี่ก็เดิน เข้าไปหานางและเอ่ย “ดูเหมือนว่าข้าจะเก็บภรรยาผู้ เยี่ยมยอดมาได้คนหนึ่ง พระชายาอยู่บ้านพักผ่อนสัก หลายวันหน่อยจะดีกว่า อย่าได้ไปที่นั่นอีกเลย”
“ท่านอ๋อง ท่านมีความคิดในใจแล้ว?” อันหลิงหยุ นก็คิดได้แล้วเช่นกัน
“นั่นย่อมแน่นอน พระชายาเอ่ยเตือนข้าหรือเข้า จะไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้กัน?”
“ท่านอ๋องปราดเปรื่องยิ่ง” อันหลิงหยุนย่อตัว คำนับ
กงชิงวี่เงยหน้าขึ้นและเอ่ย “อาหยู”
“ท่านอ๋อง” อาหยูรออยู่ด้านนอกตั้งนานแล้ว
ไม่กี่วันต่อมา จวนซือคง
คนรับใช้ยืนอยู่ด้านหนึ่ง สองมือสอดประสานใน
แขนเสื้อ เขาก้มหน้าลง สีหน้าปวดร้าว
ฮูหยินซื้อคงเอ่ยถาม “ข้างนอกพูดเช่นนั้นจริง
หรือ”
“ไม่ผิดแน่”
คนรับใช้เอ่ยถึงอันหลิงหยุน
สีหน้าของฮูหยิงซือคงหดหู่ลง “นายท่าน” ซื้อคงเสี้ยงถาม “เจ้าพูดมาอีกที เกิดอะไรขึ้นกัน
แน่?”
คนรับใช้เอ่ย “คนข้างนอกพูดว่า พระชายาเสีย นทำงานไม่สำเร็จ ถูกเสียนอ๋องจัดการ วันนี้ห้ามมิให้ ออกจากจวน อยู่ในจวนเพื่อทบทวนตน ซ้ำยังไม่ให้ ทานอาหารสามมื้อ วันหนึ่งทานอาหารได้เพียงมื้อ เดียว”
“อาหารมื้อเดียวจะเพียงพอได้กระไร?” ฮูหยิงซื่อ คงอดรนทนไม่ไหว
“เจ้าจงไปสอบถามอีกครั้ง หาตัวคนในจวนอ๋อง เสียนมาสอบถาม นี่คือเงินเล็กๆ น้อยๆ เจ้าจงนำไป และไปสืบข่าวมา” ซือคงเสี้ยงลุกขึ้นและหยิบเงินเล็ก น้อยออกจากเสื้อผ้าของเขา
เงินนี่ไม่ได้ได้มาอย่างง่ายดาย เป็นเขาที่ออกไป ตกปลาและแลกมันมา แต่เดิมคิดอยากจะเอามันไปใช้ ในการซื้อยาบำรุงให้ภรรยา แต่ก่อนที่เขาจะได้ใช้มัน อันหลิงหยุนก็มาเสียก่อน ดังนั้นจึงได้แต่เก็บไว้
คนรับใช้หยิบเงิน และรีบวิ่งออกไป
อาหยูเห็นแต่ไกลว่ามีคนกำลังมุ่งหน้ามายังจวน อ๋องเสียน เขากลับเข้าไปในจวนและเอ่ยเรื่องนี้กับถาง เหอ จากนั้นถางเหอจึงรีบเรียกคนจากในจวนให้ออก ไปทันที
แม่นมในจวนเดินออกไปทางตลาด คนรับใช้เห็นก็ รีบตามไป
คนรับใช้แสร้งทำเป็นรีบเดิน และชนแม่นม แม่นมเกือบจะล้มลง ของในมือของนางตกลงบนพื้น
คนรับใช้รีบก้มลงเก็บ “ข้าจะชดใช้ให้ท่าน เมื่อครู่ ข้ารีบเดินไปหน่อย”
แม่นมว่าง่าย นางหัวเราะที่ที่ “ไม่เป็นไร เจ้ายังเด็ก รีบเร่งเดินเป็นเรื่องปกติ ครั้งหน้าจงระมัดระวัง”
“ขอรับ”
คนรับใช้ไม่ได้เดินไปไหน เขาตามแม่นมไป ส่วน แม่นมเองก็ไม่ได้เอ่ยอะไร กลับเป็นคนรับใช้ที่อดไม่ ได้ที่จะเอ่ยถามแม่นมว่านางกำลังจะไปทำอะไร แม่นม หันไปมองรอบๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ไปซื้อแกลบ”
“ท่านจะซื้อแกลบไปทำอะไร ท่านแต่งตัวเช่นนี้ ยัง เลี้ยงหมูอยู่อีกหรือ?”
“ไม่มีหมูหรอก แต่ให้เจ้านายของพวกเราทาน” แม่นมเอ่ย
คนรับใช้แปลกใจ “ตระกูลใหญ่อย่างพวกท่าน เจ้า นายยังกินแกลบด้วยหรือ”
“ก็ไม่ใช่เช่นนั้น…”
แม่นมลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ไม่ใช่อย่างนั้น นายหญิงบ้านข้าทำงานไม่ราบรื่น เจ้านายของข้าแต่ เดิมก็ไม่อยากจะเจอหน้านางดังนั้นจึงมอบหมายงาน แย่ๆ ให้ หากนางทำได้ดี ก็จะให้นางดูแลจัดการงาน บ้าน แต่ถ้าหากนางทำได้ไม่ดี เช่นนั้นก็จะให้นางต้อง ลดอาหารลงไปสองมื้อต่อวัน และลดตำแหน่งพระชายาลง”
“มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ?” คนรับใช้แสร้งทำหน้า ประหลาดใจ
แม่นมพยักหน้า “ใครใช้ให้เจ้านายของเราไม่ชอบ นายหญิงเล่า นี่ถือเป็นการสร้างปัญหาอย่างหนึ่งให้ นาง”
“เช่นนั้นแกลบนี่เอาไปทำอะไร?”
“ให้นายหญิงของข้ากิน เจ้านายของข้าโกรธอย่าง ยิ่ง แต่เดิมเห็นนางเข้าออกบ้านนั้นได้ก็คิดว่าเรื่องนี้จะ ต้องเป็นไปด้วยดี ซ้ำยังยอมอยู่ในห้องนางต่อเพราะ เรื่องนี้อีกด้วย แต่นางกลับบอกว่าเรื่องนี้นางไม่ทำแล้ว และจะไม่ไปยังบ้านนั้นอีก เจ้านายบ้านข้าก็เลยโกรธ อย่างยิ่ง และต้องการให้นางกินแกลบ”
ก่อนหน้านี้ให้นางทานอาหารมื้อเดียว แต่นางก็ไม่ ยอมเปลี่ยนใจ กินแกลบก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เลวแล้ว
ก่อนหน้านี้เจ้านายของข้าแต่เดิมก็ไม่ชอบนางอยู่ แล้ว ระยะนี้ความรู้สึกเพิ่งจะดีขึ้นมาบ้าง แต่เรื่องนี้นั้น สำคัญอย่างยิ่ง เจ้านายของข้าไม่อาจให้อภัยได้ ดังนั้น จึงได้แต่ตำหนินาง”
คนรับใช้รีบกลับไปยังจวนซือคง เมื่อเข้าไปใน จวนก็รีบนำเรื่องที่ได้ยินไปบอกฮูหยินซือคงและซือคง เสี้ยงทันที
ฮูหยินซื้อคงเป็นคนใจอ่อน บวกกับอันหลิงหยุนเองก็เป็นคนที่รักษาอาการป่วยของนาง นางมาที่นี่ ทำงานหนักอยู่หลายครั้ง พวกเขาสองสามีภรรยาเองก็ ไม่มีบุตร ดังนั้นจึงมองอันหลิงหยุนเหมือนบุตรีคนหนึ่ง เมื่อเห็นเช่นนี้ ฮูหยิงซือคงก็รับไม่ได้ จนแทบอยากจะ ร้องไห้ออกมา
ซือคงเสี้ยงลุกขึ้นจากนั้นก็เดินไปมารอบๆ ห้อง
“เรื่องนี้จะทำเช่นไรดี?” ฮูหยิงซือคงถามขณะที่ กำลังร้องไห้
ซือคงเสี้ยงเองก็เสียใจมากเช่นกัน เขาหยุดมอง ไปที่ภรรยาของเขา “ไม่ใช่ว่าข้าไม่เชื่อ จวนอ๋องเสีย นที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นจะทำเรื่องเช่นนี้ได้กระไร แล้ว แม่ทัพอันจะไม่จัดการอะไรกับเรื่องนี้หน่อยหรือ?”
ฮูหยิ่งซื้อคงมองสามีด้วยน้ำตาคลอเบ้า “หรือจะ บอกว่านี่เป็นเรื่องโกหกพวกเรางั้นหรือ?”
“เรื่องนี้ยากที่จะพูด” ซือคงเสี้ยงเองก็คิดไม่ออก เช่นกัน แต่เสียนอ่องผู้ยิ่งใหญ่เองก็คงไม่ใช่เรื่องแบบนี้ มาหลอกลวงคน
คนรับใช้รู้สึกกังวล “นายท่าน ก่อนหน้านี้ข้าน้อย ไปสืบข่าวได้ยินมาว่า พระชายาเสียนไม่ได้รับความ โปรดปรานแต่อย่างใด ตอนที่นางแต่งงานใหม่ก็เกือบ จะตายคามืออ่องเสียน หลังแต่งงานแล้วนางก็วิ่งกลับ ไปยังจวนท่านแม่ทัพเพราะเรื่องอ๋องเสียน แต่เมื่อจวน แม่ทัพออกมาเอ่ยพูดเรื่องนี้ก็ถูกกราบทูลไปจนถึง ฮ่องเต้ แม่ทัพอันเองก็ยังทำร้ายตวนอ่องลงไป แต่ฮ่องเต้ก็ระงับเรื่องนี้เอาไว้เพราะเห็นแก่หน้าตาของ ราชวงศ์ ไม่ยอมให้หย่า”
“หา? มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ?” ฮูหยิงซือคงเต็มไป ด้วยน้ำตา “ล้วนเป็นพวกเราที่ทำร้ายพระชายา”
ในช่วงเย็น จวนอ๋องเสียนก็มีแขกมาเยือน
อันหลิงหยุนกำลังคุยกับกงชิงที่เกี่ยวกับห้องปรุง ยาใหม่ของนาง จู่ๆ อาหยูก็เคาะประตูจากด้านนอก
“มีอะไร? ” กงชิงวี่ถาม
“ท่านอ๋อง ซือคงเสี้ยงและฮูหยินมาแล้วขอรับ” อา หยูรายงาน
กงชิงมองไปที่อันหลิงหยุนและรู้ว่าวิธีนี้ได้ผล
“ท่านอ๋องไปเถิด” อันหลิงหยุนเข้าไปข้างในและ ยุ่งกับงานต่อ
กงชิงวี่หันหลังออกไปด้านนอก อาหยูนำแม่กุญแจ เข้ามาและใส่กลอนลงบนห้องสุดที่รักของอันหลิงหยุ
น
กงชิงวี่มายังห้องโถงด้านหน้าเพื่อต้อนรับซื้อคงเสี้ ยงและฮูหยิงซื้อคง
ซือคงเสี้ยงและฮูหยิงซือคงถูกรับเชิญให้ไปนั่งที่ ห้องโถงด้านหน้า กงชิงวี่แต่งตัวสบายๆ เขาเดินเข้าไป ด้านในอย่างกระฉับกระเฉง
“ข้าน้อยถวายบังคมท่านอ๋องเสียน”
“หม่อมฉันถวายบังคมท่านอ๋อง” ดู
“ซ่างซู และฮูหยินไม่ต้องมากพิธี เชิญดื่มชา” กงชิงวี่เชิญให้พวกเขานั่งลง จากนั้นจึงยกชาขึ้น ดื่ม
ฮูหยิ่งซื้อคงหันไปเหลือบมองซื้อคงเสี้ยง และเอ่ย ถามกงชิง “ท่านอ๋อง ไม่ทราบว่าพระชายาอยู่ในจวน หรือไม่ อาการป่วยของข้าน้อยดีขึ้นแล้ว ต้องขอบคุณ พระชายาอย่างยิ่ง วันนี้ที่มาก็เพราะต้องการมา ขอบคุณพระชายา”
“ร่างกายของพระชายาไม่สะดวก นางมีเรื่องต้อง ทำ ฮูหยินไม่ต้องเกรงใจ สุขภาพของฮูหยินดีขึ้นแล้ว พระชายาเองย่อมต้องยินดีด้วยแน่ อีกสักครู่ข้าจะนำ เรื่องนี้ไปบอกนาง”
กงซิงวี่เอ่ยเสียงเรียบ อีกทั้งยังไม่ได้ขอให้คนไป เรียกอันหลิงหยุนมา
ฮูหยิ่งซื้อคงลังเลอยู่ครู่หนึ่งและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ข้าน้อยอยากขอบคุณพระชายาต่อหน้า ไม่ทราบว่า ท่านอ๋องจะช่วยประสานได้หรือไม่”
“ฮูหยินพูดเรื่องอะไรกัน เหตุใดข้าจึงจะไม่ช่วย ประสานให้ท่าน แต่ช่วงนี้พระชายาต้องลมหนาว หาก มองมาเกรงว่าจะติดเชื้อ เช่นนี้เปลี่ยนเป็นวันหน้ายังคง ดีกว่า ข้าจะเป็นคนพานางไปยังจวนท่านเอง เวลานั้นฮู หยินค่อยขอบคุณนางต่อหน้าก็ยังไม่สาย”
กงฉิงวี่หลบเลี่ยงมากจนฮูหยิงซีอคงเริ่มสงสัยอยู่
ในใจ
ไม่ยอมให้พบ ย่อมต้องมีเรื่องอะไรแน่
ฮูหยินซือคงไม่ได้กล่าวอะไรต่อไปอีก ขีดคงเสี้ยง เองก็เตรียมตัวจะจากไป จู่ๆ หงเถาก็วิ่งมาจากหน้า ประตูด้วยสีหน้าตื่นตระหนก นางไม่ได้มองดูทางให้ดี ดังนั้นจึงเตะเข้าที่กรอบประตูและล้มลง
อีกทั้งนางยังร้องไห้อ้อนวอน “ท่านอ๋องโปรด ละเว้นพระชายาเถิดเพคะ นางหิวจนเป็นลมไปแล้ว” ฮูหยินซือคงลุกขึ้นยืนทันที สีหน้าของนางซีดขาว กงชิงวี่วางถ้วยชาลงด้วยสีหน้าสงบ เขาลุกขึ้น และเอ่ย “อย่าพูดเรื่องไร้สาระ”
“ท่านอ๋อง พระชายาเป็นลมไปแล้วจริงๆ” หงเถาลุกขึ้นนั่งคุกเข่าบนพื้น นางก้มหน้าร้องไห้ ชื่อคงเสี้ยงค่อยเอ่ยขึ้นมา “ท่านอ่อง พระชายาหิว จนเป็นลมได้กระไร?”
ใบหน้าของกงชิงวี่เย็นชา และไม่เอ่ยตอบในทันที หงเถาเงยหน้าขึ้นเห็นซือคงเสี้ยง นางรีบเช็ดน้ำตา จากนั้นจึงเปลี่ยนคำพูด “เมื่อครู่ข้าน้อยนอนหลับจน เลอะเลือนไป ท่านอ่องข้าน้อยจะกลับไปเดี่ยวนี้”
“ไปเถอะ” กงชิงวี่ยืนไพล่หลัง สีหน้าไม่พอใจ ฮูหยิ่งซื้อคงทนมองไม่ไหวอีกต่อไป
“อ๋องเสียน ข้าขอเจอพระชายาหน่อยได้หรือไม่” กงชิงวี่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “พระชายาอยู่ในสวน หลังบ้าน มากับข้าเถอะ”
กงชิงที่ก้าวเดินไปไม่กี่ก้าว ฮูหยิงซือคงรีบตามไป ทันที นางยังเดินไม่ถนัดนักแต่ก็รีบติดตามไป
กงฉิงวี่ส่งสายตาในระหว่างทาง ให้หยูไปที่สวน หลังบ้านโดยเร็ว
อาหยูรีบไปที่สวนหลังบ้านทันที ฮูหยิงซือคงยิ่ง เห็นก็ยิ่งรู้สึกผิดปกติ ดังนั้นจึงรีบเดินมากขึ้น
จนกระทั่งมาถึงลานโอวหลาน อาหยูก็ตะโกนใส่ ชายคนหนึ่ง “ยังไม่รีบอีก อีกเดี่ยวท่านอ๋องจะมาแล้ว บอกให้พวกเจ้าเปิดประตู เหตุใดจึงใช้การไม่ได้เช่น นี้?”
ปกติแล้วแม่กุญแจนี้เปิดง่ายอย่างยิ่ง เหตุใดวันนี้ จึงเป็นเช่นนี้?” คนเปิดประตูบ่นพึมพำ ส่วนลุ่ยหลิ่วและ หงเถากำลังร้องไห้อยู่ด้านหนึ่ง
อาหยูหมดความอดทน “ร้องทำไม พวกเจ้าร้องไห้ เช่นนี้ กลัวคนจะไม่รู้หรือไงว่าพระชายาหิวจนเป็น
ลม?”
ฮูหยิ่งซื้อคงเห็นเช่นนี้ ก็ไม่มีอะไรที่ไม่เข้าใจอีกต่อ
ไป
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ