ยอดหมอยาของอ๋องเสียน

บทที่ 120 จวนซือคง



บทที่ 120 จวนซือคง

อันหลิงหยุนเดินตามมาทางด้านหลัง เดิมมาตาม ทางถนนหนึ่งสาย จนมาถึงหน้าประตูจวนหลังหนึ่งซึ่งมี ขนาดใหญ่มาก บนประตูจวนเขียนตัวอักษรเอาไว้สาม ตัวจวนซื้อคง?

อันหลิงหยุนสแกนความทรงจำของร่างเดิมหนึ่ง ครั้ง แต่ไม่พบความจำอะไร ดูเหมือนว่าร่างเดิมจะจำได้ เพียงกงชิงวี่และจุนฉูฉู ส่วนคนอื่นๆนางจำไม่ได้เลย

แต่เมื่อมองคฤหาสน์ที่อยู่ตรงหน้านั้น ดูไม่เหมือน คฤหาสน์ทั่วไป มีขนาดใหญ่โตมาก และดูสง่างาม เพียงแต่ว่าดูโทรมแล้วเล็กน้อย

“อาหยู่ เจ้ารู้จักหรือไม่?” อันหลิงหยุนไม่รู้ แต่ไม่ เคยเห็นที่อาหยู่ไม่รู้

จริงๆแล้วอาหยู่นั้นรู้จัก แต่ลังเลอยู่สักพักจึงพูด ว่า: “ที่นี่เป็นคฤหาสน์ของเสนาบดีกรมโยธาธิการคน เก่าคฤหาสน์ของซื้อคงเลี้ยง

“เสนาบดีกรมโยธาธิการคนเก่า?” อันหลิงหยุนเจ้า ไม่ได้เลย

“แล้วกระไรต่อ?”

“ก่อนหน้านี้เรื่องการใช้เขื่อนตูฟางหุ้นของประเท ศต้าเหลียงในการระบายน้ำท่วมนั้น เขาเป็นผู้เสนอ แต่การก่อสร้างอ่างเก็บน้ำนั้น ไม่สอดคล้องกับการระบาย น้ำ จะว่าไปแล้วจริงๆตอนที่น้ำท่วมก็สามารถระบายน้ำ ได้หมด และสามารถทำให้พื้นที่หลายพันไร่อุดม สมบูรณ์ขึ้นได้จริงๆ แต่ก็ยังมีอันตรายซ่อนอยู่ ก็คือ เมื่อถึงช่วงฤดูหนาวมีการสะสมของหิมะ เมื่อมาถึงฤดู ใบ้ผลิ น้ำแข็งเริ่มละลาย ก้อนน้ำแข็งที่ลอยอยู่ก็พุ่ง ออกมา ทางด้านบนของเขื่อน ถูกก้อนน้ำแข็งกระทบ จนพังถล่ม เขาจึงของบประมาณจากราชสำนักเพื่อ ทำลายเขื่อนตูฟางจู้น แล้วจึงสร้างขึ้นใหม่

ในตอนนั้นเรื่องนี้ได้รับการคัดค้าน ในที่สุดเขาก็ ถูกฟ้อง มาตกม้าตายเอาตอนอายุมาก ทำให้คฤหาสน์ หลังนี้ตกอยู่ในสภาพที่เห็นในปัจจุบัน”

อาหยู่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจ : “ตลอดชีวิตของ ซื้อคงเสี้ยงเป็นโยธาธิการที่ตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์ เสียดายที่เขายืนกรานที่จะทำลายเขื่อนตูฟางจู้น นี่ถือ เป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองทั้งแรงงานคนและงบประมาณ ดัง นั้นเรื่องนี้จึงไม่ได้รับการสนับสนุนจากราชสำนัก รวม ถึงคนที่คัดค้านเขาก็มีจำนวนมาก”

อันหลิงหยุนไตร่ตรองดูสักครู่: “หากเป็นเช่นนี้ หมายความว่าตอนนี้พวกเขาไม่มีเงิน ต้องพบกับความ ยากลำบาก ดังนั้นหมอเหล่านั้นจึงไม่ยอมที่จะช่วย เหลือ”

“จะว่าอย่างนั้นก็ได้พ่ะย่ะค่ะ” อาหยู่เองก็ไม่แน่ใจ นักว่าเรื่องเป็นมากระไร
“ไปเคาะประตู ข้าจะเข้าไปดู”อันหลิงหยุนสั่งอาห ยู่จึงไปเคาะประตู ขอแค่ไม่ออกจากเมือง อย่างอื่นก็ ไม่มีปัญหา เคาะประตูอยู่ครู่หนึ่ง ก็มีเด็กวันรุ่นเดินออกมาจาก

ด้านในหนึ่งคน คือคนที่ไปหาหมอก่อนหน้านี้นี่เอง

อีกฝั่งเมื่อเห็นมีชายหญิงยืนอยู่ตรงหน้าก็รู้สึก แปลกใจ: “พวกท่านคือ?”

“พวกเราคือคนที่เดินทางผ่านมาแถวนี้ อยากจะ ขอเข้าไปดื่มน้ำสักหน่อย” อันหลิงหยุนอธิบาย คนผู้ นั้นกลับยินดีเป็นอย่างมากที่จะได้ช่วยคน จึงเชิญอัน

หลิงหยุนเข้าไปโดยไม่ทันคิดอะไรเลย

อันหลิงหยุนไปดื่มน้ำ แล้วได้ยินเสียงคนไอดังมา จากด้านใน เสียงไอนั้นรุนแรงเหมือนปอดจะหลุดออก มา นางจึงถามว่า: “ในบ้านเจ้ามีคนเป็นวัณโรคหรือ?”

….ฮูหยินของพวกเราเอง”เด็กวัยหนุ่มสาวคนนั้น พูดพลางก็ร้องไห้ออกมา

อันหลิงหยุนถาม: “พวกเจ้าไม่ได้ไปหาหมอหรือ?”

“หาแล้ว แต่ในบ้านไม่มีเงิน จึงไม่มีใครมาตรวจ ซ้ำ ยังบอกว่าโรคนี้เป็นโรคติดต่อ ไม่สามารถรักษา ได้”เด็กวัยหนุ่มสาวร้องไห้ต่อด้วยความเจ็บปวดใจเป็น อย่างมาก

อันหลิงหยุนมองดูในลานอยู่ครู่หนึ่ง สำรวจดูแล้ว พบว่าภายในลานของบ้านนี้มีคนรับใช้เพียงแค่คนเดียว

“เจ้าพาข้าไปดูฮูหยินของเจ้าหน่อยสิ ข้าเป็นหมอ” อันหลิงหยุนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

เด็กวันรุ่นคนนั้นรีบเช็ดน้ำตา แล้วทำตาลุกวาวใน ทันที ทำสีหน้าเหมือนไม่เชื่อ

อันหลิงหยุนไม่พูดอะไรกับเขาให้มากความ: “เจ้า ไม่เชื่อก็ช่างเถอะ ไปเถอะ ข้าจะไปดูให้ก่อน ถ้าข้าไม่ สามารถตรวจรักษาได้ เจ้าก็ไล่ข้าไปเสีย”

อันหลิงหยุนเดินไปตามทางที่ได้ยินเสียงดังออก

มา

เด็กวัยหนุ่มสาวคนนั้นก็ไม่ได้ขัดขวาง ไม่นานอัน หลิงหยุนก็เข้าไปอยู่ในห้องอันกว้างขวางนั้น ภายใน ห้องหนาวเย็นมาก บนเตียงมีคนนั่งอยู่หนึ่งคน มีผ้าห่ม ห่มอยู่บนตัวของนาง ใบหน้าซีดเหลือง กำลังไออยู่

เมื่อเห็นอันหลิงหยนเข้าก็รู้สึกแปลกใจ: “คุณหนู บ้านไหนกัน?”

ถึงแม้หญิงชราจะมีอายุหกเจ็ดสิบปีแล้ว แต่ สายตาก็ยังดี ดูจากใบหน้าแล้วก็น่าจะไม่ใช่คน ธรรมดาทั่วไป

“ข้าเป็นหมอที่คนรับใช้ของท่านเชิญมา”

อันหลิงหยุนเดินไปด้านหน้าหญิงชรา แล้วหยิบ ผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาหนึ่งผืน แล้วพันไว้รอบจมูก โรคนี้คือ วัณโรค สามารถติดต่อกันได้ ในยุคปัจจุบันสามารถรักษาได้ แต่ในอดีตนั้นไม่แน่

“อาหยู่ เจ้าอย่าเข้ามา วัณโรคติดต่อได้”

อาหยู่กังวล: “พระ…

อันหลิงหยุนหันกลับไปมอง อาหยู่จึงรีบปิดปากไม่ พูดอะไร

“เจ้าจงรอข้าที่ประตู

อันหลิงหยุนนั่งลง แล้วจึงดึงมือของหญิงชราออก มาตรวจดู หญิงชราเองก็ไม่ได้ไอมากเท่าไหร่แล้ว

อันหลิงหยุนเริ่มสแกนอย่างอัตโนมัติแล้วจึงขมวด คิ้วแน่น หญิงชราคนนี้ไม่เพียงแต่เป็นวัณโรคปอด เท่านั้น ยังขาดสารอาหารด้วย อีกทั้งหัวใจของนางก็ไม่ ค่อยดี และยังมีโรคข้อเข่าอักเสบอีก

อันหลิงหยุนมองไปที่ขาทั้งสองข้างของหญิงชรา: “ท่านเป็นอัมพาตมานานเท่าไหร่แล้ว?”

“หลายปีแล้ว” หญิงชราตอบอย่างเรียบเฉย

“ท่านหมอยอดเยี่ยมจริงๆ ข้ายังไม่ทันจะได้พูด ท่านก็ดูออกเสียแล้ว?” เด็กหนุ่มรีบพูด

อันหลิงหยุนเองไม่เห็นด้วย จึงปล่อยมือลงแล้วพูด ว่า: “หัวใจของท่านไม่ดี บางครั้งจะรู้สึกแน่นหน้าอก โร ตวัณโรคจะทำให้ไอ เมื่อรวมกับโรคข้อเข่าเสื่อมที่ท่าน เป็นอยู่ และสภาวะขาดสารอาหาร ท่านสามารถยืน หยัดได้จนถึงตอนนี้ ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ช่างแข็งแกร่งจริงๆ”

“แม่นาง เจ้าพูดมาตรงๆเถอะ ข้าจะอยู่ได้อีกนาน เท่าไหร่ เมื่อวานข้าเองก็กระอักเลือดออกมาแล้ว” หญิงชราดูออก จึงไม่ได้สนใจเรื่องความเป็นความตาย

“ถ้าให้คนอื่นดูอาจจะบอกว่าไม่เกินสามวัน แต่ข้า ไม่เหมือนกัน สามปีก็ไม่ใช่ปัญหา” อันหลิงหยุนพูดอย่า งมั่นใจ

“หา?” หญิงชรารู้สึกตะลึง

อันหลิงหยุนพูดว่า: “มีกระดาษพู่กันหรือไม่”

“มี”

เด็กหนุ่มรีบไปหา ไม่นานก็นำมาให้อันหลิงหยุน อันหลิงหยุนรับมาแล้วนำมาเขียนใบสั่งยาสองแผ่น แล้วยื่นให้อาหยู่: “แผ่นหนึ่งเอาให้หมอจวนในจวน ให้ จัดเตรียมให้เรียบร้อย ส่วนอีกแผ่นนำไปให้ท่านถาง เขาจะเตรียมให้เรียบร้อยเอง เจ้าไปแล้วให้กลับมาเร็ว หน่อย ข้าจะรออยู่ที่นี่”

“พ่ะย่ะค่ะ”

อาหยู่รีบไปอย่างรวดเร็ว หญิงชราจึงเข้าไปถาม ใกล้ๆว่า: “ดูเหมือนท่านจะไม่ใช่หมอ”

“ข้าไม่ขอปิดบังท่าน ข้าคือลูกสาวของอันจือซาน”

อันหลิงหยุนนั่งลง หญิงชราผงะไปชั่วครู่ เกือบจะ

ร้องไห้ออกมา: “เจ้าเป็นลูกสาวของท่านแม่ทัพอัน

หรือ?”
“ข้าเอง”

“คือผู้หญิงใจร้ายที่คนข้างนอกพูดถึงนะหรือ?” เด็กหนุ่มรีบถาม

อันหลิงหยุนเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ: “ข้าเอง”

“แต่ทำไมท่านไม่เห็นเหมือนที่เขาลือกันเลย?” เด็ก หนุ่มอดถามไม่ได้

“พอแล้ว ไม่ต้องถามแล้ว ถ้ายังถามอีกข้าจะไล่ เข้าออกไป เสียมารยาทจริงๆ ออกไปเถอะ ไปดูซิว่า นายท่านกลับมาจากตกปลาแล้วหรือยัง” หญิงชราสั่ง เด็กหนุ่มเกาหัวแล้วเดินไป

อันหลิงหยุนจึงได้พูดคุยกับหญิงชรา หญิงชรา ถามอย่างระมัดระวัง: “ได้ยินมาว่าเจ้าแต่งงานแล้ว?”

“ใช่ แต่งกับท่านอ๋องแห่งจวนอ๋องเสียน” อันหลิง หยุนถามมาตอบไป

หญิงชรายิ้ม: “ด้านนอกชื่อเสียงของเจ้าไม่ดีนัก อ่องเสียนเป็นคนหยิ่งทระนง เจ้าเองคงจะลำบากไม่ น้อยสินะ?”

“ถือว่ายังดี ตอนนี้เขาเองก็ดีต่อข้าไม่น้อย” อัน หลิงหยุนยิ้มเบาๆหนึ่งครั้ง หญิงชราเองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ไม่นานอาหยู่ก็

กลับมา อันหลิงหยุนเห็นยาในมือเขาจึงถามว่า: “ท่าน

ถางมาหรือยัง?”
“มาแล้วพ่ะย่ะค่ะ แต่ท่านถางบอกว่า จะช่วยเหลือ มากไม่ได้ เพราะในจวนเองก็มีคนจำนวนมาก ไม่ สามารถใช้เงินมากขนาดนั้นได้ จึงใช้เงินเดือนของ พระชายา แลกเป็นเสื้อผ้า ของกินของใช้ออกมา จำนวนหนึ่ง รวมไปถึงเชื้อเพลิงด้วย” อาหยู่อธิบาย แสดงความเห็นใจ

อันหลิงหยุนลองคำนวณดูคร่าวๆ

“น่าจะพอแล้ว ใช้ไปก่อนก็แล้วกัน”

อันหลิงหยุนรับยาไปต้ม ที่ประตู ถางเหอพาคนนำ รถม้าที่ขนสิ่งของช่วยเหลือมาส่งให้ ไม่นานก็ส่งมาถึง ในลาน

แต่ถางเหอไม่ได้เข้ามา แล้วจึงพาคนกลับไปก่อน

อันหลิงหยุนเข้าใจดี ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม ก็ไม่ สามารถคอยช่วยเหลือตลอดทั้งวัน หนึ่งครั้งสองครั้ง พอช่วยได้ แต่ให้ช่วยตลอดชีวิตคงไม่ได้

อันหลิงหยุนอยู่เป็นเพื่อนให้หญิงชราทานยาก่อน เมื่อหญิงชราดื่มจนหมดก็รู้สึกดีขึ้นมาก นานมากแล้วที่ ไม่ได้ใช้ยา พอดื่มสักหน่อยก็รู้สึกว่าร่างกายมีแรงขึ้น มา ไม่เพียงแค่นั้น ปกติที่มักจะแน่นหน้าอก หายใจ ติดขัด ตอนนี้กลับไม่รู้สึกแน่นหน้าอกอีกแล้ว หายใจก็ สะดวกขึ้น

หญิงชราพูดด้วยความซาบซึ้ง: “แม่ทัพใหญ่เป็น คนดี ข้าเองมีโอกาสได้พบหลายครั้ง เขาเป็นคนที่มีความจงรักภักดี ประเทศต้าเหลียงมีคนเช่นนี้อยู่ ถือ เป็นบุญของประเทศต้าเหลียงจริงๆ

“ท่านชมเกินไปแล้ว ท่านพ่อของข้าเป็นผู้ บัญชาการทหาร เขาเองก็ไม่ดีมีความคิดเป็นอื่น คิดแค่ เพียงว่าการตอบแทนราชสำนักและฮ่องเต้เป็นหน้าที่ ของเขา” อันหลิงหยุนพูดอย่างเรียบเฉย จู่ๆหญิงชราก็ ไม่พูดอะไรต่อ

อันหลิงหยุนแปลกใจ: “ท่านรู้สึกไม่สบายอีกแล้ว

หรือ?”

หญิงชราส่ายหน้า: “ด้านนอกลือกันว่า ลูกสาวของ แม่ทัพอันนั้นหยิ่งผยอง ไม่รู้จักอาย เป็นผู้หญิงที่ชั่ว ร้าย มาวันนี้ข้าได้มาเห็นด้วยตัวเอง ถึงจะรู้ว่าข่าวลือ เชื่อถือไม่ได้”

“ไม่ใช่เลย ก่อนข้าจะแต่งงานยังเป็นเด็กอยู่ มี หลายเรื่องที่ไม่เข้าใจ ตอนเด็กดื้อรั้น จึงทำลายชื่อ เสียงของท่านพ่อไปด้วย หลังจากแต่งงานก็เริ่มเข้าใจ แล้วว่า จริงๆแล้วบนโลกใบนี้ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะดีกับ ท่าน แต่คนที่ดีกับท่านนั้น ต้องคอยดูแลรักษาเขาเอา ไว้ให้ดีๆ”

“อืม มีเหตุผล แม่ทัพอันโชคดีจริงๆ”

หญิงชราพูดเช่นนั้น อันหลิงหยุนก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้น มาได้: “ฮูหยิน โรคข้อเข่าเสื่อมของท่านขยับไม่ได้แล้ว เช่นนี้ ข้าจะลองตรวจดูให้ท่านแล้วลองฝังเข็มดู
“เช่นนั้นลำบากท่านแล้ว”

หญิงชรานอนลง อันหลิงหยุนเรียกคนไปเตรียม กระถางไฟเพื่ออบห้องนี้ให้ร้อน จากนั้นจึงฝังเข็มให้ หญิงชราหญิงชราไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก แต่อันหลิง หยุนก็มั่นใจว่า ขอแค่ทำหลายๆครั้ง จะต้องดีขึ้นแน่

หมดไปหนึ่งวัน อันหลิงหยุนเตรียมตัวกลับ

“ข้าจะต้องกลับแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะมาใหม่ ฮูหยินอย่า ลืมกินยาและของบำรุงเหล่านั้นด้วย”

อันหลิงหยุนออกจากจวนซือคงกลับไปยังจวน อ๋องเสียน วันนี้กงชิงวี่กลับมาช้า อันหลิงหยุนจึงพบ เพียงความว่างเปล่า

รอกงชวีวี่กลับมา ก็ทานข้าวแล้วออกไปนั่งดูเดือน นับดาวอยู่ด้านนอก และพูดคุยกัน

อันหลิงหยุนถาม: “ในวังมีเรื่องหรือเพคะ?”

“มีเรื่อง” กงชิงวี่ทำหน้าหนักใจ เหมือนพบเจอเข้า กับเรื่องที่ยุ่งยากวุ่นวาย

ปกติกลับมา ก็ต้องโผเข้ามาหานาง แต่วันนี้ไม่ได้ ทำ อันหลิงหยุนจึงรู้ว่า เข้าเจอเข้ากับเรื่องหนักใจแล้ว

“เรื่องอะไรเพคะ?” เดิมทีไม่ได้อยากถาม แต่ก็อด ไม่ได้ ถึงจะรู้ดีว่าไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ แต่ก็ยัง อยากจะถาม

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร วันนี้ออกไปข้างนอกมาหรือ?” กงชิงวี่ไม่ได้บอก เพราะกลัวว่านางจะเป็นห่วง อันหลิงหยุนจึงไม่ได้ถามต่อ

ตลอดเดือนกว่าๆที่ผ่านมา คืนนี้เป็นคืนที่ทั้งสอง อยู่กันอย่างสงบมากที่สุด

พักผ่อนเต็มที่มากกว่าปกติ

เช้าตรู่ อันหลิงหยุนก็เห็นกงชิงเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ออกไป

หลังจากอาหารเช้า อันหลิงหยุนก็กลับไปที่จวน แม่ทัพ และเบิกเงินออกจากบัญชีจำนวนหนึ่ง แล้วไปที่ จวนซื้อคง

วันนี้เดินเข้าไปเจอกับชายชราผมขาวกำลังยืนรอ อยู่ที่หน้าประตู ถึงแม้จะอายุมาก ร่างกายอ่อนแอ แต่ ชายชราก็ยังคงดูสง่างาม เขายืนเอามือไขว้หลังอยู่ที่ เดิม แววตาดูลึกซึ้ง เมื่อมองเห็นรถม้าของจวนอ๋องเสีย น ก็ดูกระฉับกระเฉงขึ้นมา

อันหลิงหยุนเห็นเสื้อผ้าที่เขาใส่อยู่มีรอยปะจำนวน มาก แต่ก็ยังคงดูสง่างามได้เช่นนี้ ช่างน่าเลื่อมใสจริงๆ

“คารวะท่านซื้อคง”

อันหลิงหยุนคำนับ ซื้อคึงเซียงมองดูอยู่ครู่หนึ่ง:

“เชิญพระชายาเสียนด้านใน”

“เชิญท่านซื้อคง”

ทั้งสองเข้าไปข้างใน อาหยู่หอบสิ่งของ ด้านหลังมีหงเถาและลุ่ยหลิ่วคอยเดินตาม สาวใช้ทั้งสองมีความ สุขเป็นอย่างมาก ตั้งแต่เกิดพวกนางยังไม่เคยได้ออก จากจวนอ๋องเสียนเลย วันนี้ถือว่ามายืมใช้แสงสว่าง ของจวนซือคงแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ