ยอดหมอยาของอ๋องเสียน

บทที่ 117 พระชายาตวนช้าเร้วก็ต้องเปลี่ยนเจ้า



บทที่ 117 พระชายาตวนช้าเร้วก็ต้องเปลี่ยนเจ้า

นาย

อ่องตวนไม่ต้องการที่จะอยู่ต่อ คิดที่จะลุกขึ้นแล้ว จากไป เป็นเพราะประการแรก หยุนโล่ชวนอยู่ที่นี่ ประการที่สองเพราะไม่อยากเห็นอันหลิงหยุน ถ้าไม่ใช่ เป็นเพราะเห็นแก่พี่น้อง เขาก็ไม่มีทางมา”

“ไม่….” อ๋องตวนอยากจะพูดอะไรบางอย่างแล้ว จากไป อันหลิงหยุนเองก็เตรียมที่จะกล่าวคำอำลาส่ง พวกเขากลับ แต่คิดไม่ถึงว่าจุนฉูฉูอยู่ดีๆจะเป็นผู้นำขึ้น มา

“ในเมื่อพระชายาเสียนเชิญด้วยความจริงใจ จึง ยากที่จะปฏิเสธได้ ข้าและท่านอ๋องจึงควรจะอยู่ต่อ” อันหลิงหยุนรู้สึกโกรธ จะพูดทั้งทีพูดให้ดีๆก็ไม่ได้

เจ้าพูดแค่เพียว่าจะอยู่ต่อกพอแล้ว!

“พ่อบ้านเตรียมอาหารเย็น ไปหาท่านอ๋อง แล้วทูล ว่าข้าจะเชิญอันกั๋่วกง อันกั๋วจิ๋ว อ๋องตวน และพระชายา ตวนทานอาหาร”

“แล้วข้าล่ะ?” หยุนโล่ชวนเกรงว่านางจะถูกลืม จึง

รีบถาม

“แน่นอนว่ารวมถึงจวิ้นจู่ด้วย”
“ต้องอย่างนี้สิถึงจะถูก”

หยุนโล่ชวนหัวเราะอย่างภูมิใจ อันหลิงหยุนรู้สึก ชอบเด็กสาวคนนี้ขึ้นมาแล้ว

พ่อบ้านรับคำแล้วรีบไปหาคน

ตอนนี้ถางเหอเองก็รออยู่ด้านนอก เมื่อพ่อบ้าน ออกมาด้านนอกก็ส่งสายตาให้แก่ถางเหอ ให้เขาไปหา กงชิงวี่ ส่วนพ่อบ้านจะไปจัดเตรียมอาหารเย็น

อันหลิงหยุนกลับไปนั่งที่เดิม ไม่มีคำพูด ไม่รู้ว่าจะ พูดอะไรดี ทำให้ยิ่งเงียบเข้าไปใหญ่ กลับกลายเป็นหยุนโล่ซวนที่จ้องอันหลิงหยุน

อันหลิงหยุนสังเกตเห็นว่าสาวน้อยคนนี้สนใจ หมาจิ้งจอกหางสั้นของนาง

“พี่สาว ขอข้าอุ้มเจ้าจิ้งจอกตัวนั้นของท่านหน่อย ได้หรือไม่?” สุดท้ายสาวน้อยก็เปิดปากพูด อันหลิงหยุ นอุ้มหมาจิ้งจอกหางสั้นมาอย่างเสียดาย

“นางไม่ได้ชื่อเจ้าจิ้งจอก นางชื่อว่าจิ้งจอกน้อย ถ้า เจ้าอยากจะอุ้มนาง ต้องให้นางเต็มใจถึงจะได้ เจ้า เรียกนางว่าเจ้าจิ้งจอก นางคงจะไม่ชอบนัก”

อันหลิงหยุนอธิบายอย่างละเอียด แล้วจึงลุกขึ้น ยื่นหมาจิ้งจอกหางสั้นให้แก่หยุนโล่ชวน เมื่อเห้นว่านาง ไม่ใช่คนเลว จึงให้นางอุ้มสักพัก

หยุนโล่ชวนรีบยื่นมือไปรับมากอด: “เช่นนั้นข้าจะทำดีต่อนางหน่อย จิ้งจอกน้อยเจ้าอย่าซนนะ!”

หยุนโล่ชวนยิ้มออกมาอย่างเอาใจ หมาจิ้งจอกหาง สั้นเองก็ไม่ได้รู้สึกไม่ยินดี จึงปืนเข้าไปอยู่ในอ้อมกอด ของหยุนโล่ชวนอย่างเงียบๆ

อันหลิงหยุนพบว่า จิ้งจอกตัวนี้ช่างแสนรู้เสียจริง อันหลิงหนุนกลับไปนั่งที่เดิมเพื่อรอกงชิงวี่

รอจนถึงเวลาทานข้าวก็ยังไม่มา

อันหลิงหยุนทำได้เพียงพาทุกคนไปทานข้าว ระหว่างจัดเลี้ยง อันหลิงหยุนก็ได้แต่บากหน้าอยู่เป็น เพื่อนพวกเขา หยุนโล่ชวนพูดไม่ยากเท่าไหร่ ส่วนคนที่ เอาใจยากที่สุดก็คือจุนฉูฉู เมื่อนั่งลงก็เอาแต่ถาม คำถามมากมาย

“พระชายาเสียนไม่ให้คนมาตักอาหารให้หรือ?” จุนจูไม่ขยับตะเกียบ รอการตอบสนองของอันหลิง หยุน

อันหลิงหยุนนึกขึ้นได้ว่า ปกติจวนอ๋องเสียงมีธรรม เนียนในการรับประทานอาหาร แต่นั่นมันเมื่อก่อน ตั้งแต่ที่นางและกงชิงวี่ทานข้าวกันสองคน ก็ไม่มีคนมา คอยตักอาหารให้แล้ว วันนี้คนเยอะ นางเองจึงไม่ทันได้ นึกถึง

พ่อบ้านยืนร้อนใจอยู่อีกด้านหนึ่ง อยากที่จะเตือน ให้รู้ แต่เตือนไม่ได้ เพราะเกรงว่าจะทำให้เสียหน้า

“พระชายาเสียน ทำไมถึงไม่พูดอะไรล่ะ?” ขุนฉูฉูถามต่อ

อันกั๋วจิ๋วเตรียมที่จะเปิดปากพูด แต่ยังไม่ทันที่เขา จะได้เปิดปาก หยุนโล่ชวนที่นั่งอยู่ข้างๆออกโรงถาม แทนว่า: “แค่กินข้าว ทำไมท่านถึงเรื่องมากขนาดนี้ ที่นี่ คือจวนอ๋องเสียน ไม่ใช่ลานหลังบ้านของท่าน แขก ต้องตามใจเจ้าบ้าน แม้แต่ธรรมเนียมเล็กน้อยแค่นี้ท่าน ก็ไม่รู้หรือ?”

อ๋องตวนหน้าถอดสี ตบโต๊ะหนึ่งฉาด: “กล้ามาก

นะ!”

“อืม?” อันกั๋วกงเองก็หน้าถอดสี แล้วมองไปทางอ องตวน: “อ๋องตวน ท่านทำเช่นนี้หมายความว่ากระไร?”

อันหลิงหยุนตกตะลึง กินข้าวมื้อเดียวทำไมทำ เหมือนกับทะเลาะกันกระไรอย่างนั้น?

“ข้าไม่เคยเจอคนที่ไร้มารยาทเช่นนี้มาก่อน พระ ชายาพูดมีเหตุผลทั้งหมด พระชายาเสียนไม่ให้คนมา ตักอาหาร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนางที่ต้องมาพูดแทน ด้วย?”

อ๋องตวนพูดจาบีบบังคับ ไม่ยอมอ่อนข้อให้ อันกั่วกงโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เขาออกรบมาทั้ง ชีวิต เป็นถึงผู้บัญชาการทหาร ยังสู้อ๋องตวนไม่ได้ อันหลิงหยุนทนดูต่อไปไม่ได้แล้ว

“อ่องตวน ข้าว่าที่ท่านพูดนั้นรุนแรงเกินไปหน่อย จวิ้นจู่นางไร้เดียงสานัก พูดไปโดยไม่ทันได้คิด ไม่ได้คิดที่จะต่อต้านใคร จวนอ๋องเสียนของข้าต้อนรับได้ไม่ ดีทุกท่านสามารถต่อว่าจวนอ๋องเสียนของข้าได้ แต่ การที่ท่านตบโต๊ะจ้องจวิ้นจู่น้อยตาถลุนเช่นนี้ ท่านทำ ไปเพื่ออะไรกันแน่?”

อันหลิงหยุนโบกมือ: “เด็กๆ ตักอาหารให้พระชา ยาตวน อย่าให้คนหยาบคายเช่นข้า ต้องละเลยต่อพระ ชายาตวนเลย หากพูดออกไปจะทำให้คนอื่นหัวเราะ เยาะเอาได้”

พ่อบ้านรีบตอบ: “พ่ะย่ะค่ะ”

พ่อบ้านสั่งให้คนมาตักอาหาร จุนฉูฉูแววตาเย็นชา

อ๋องตวนเองก็หน้าแดง แต่ก็ยังจับมือกันไม่ยอมแพ้

“ข้ากำลังปกป้องพระชายา ฉูฉูเป็นคนมีความรู้ ตั้งแต่เด็ก เป็นคนมีคุณธรรม เมื่อเห็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ตามธรรมเนียมประเพณีเช่นนี้ จึงพูดออกไปด้วยความ หวังดี หากพระชายาเสียนไม่ชอบฟัง ก็ไม่ต้องฟัง”

“ข้าเองก็ไม่อยากฟัง แต่ทนไม่ได้ที่เห็นคนบางคน ไม่ยอมให้คนอื่นได้ทานข้าวอย่างสงบ ดูเหมือนว่าอ่อง ตวนเองก็เป็นอ๋องของประเทศต้าเหลียง แม้กระทั่งถูก หรือผิดยังแยกแยะไม่ออก ไม่กลัวว่าจะต้องอับอายคน อื่นหรอกหรือ?”

“เจ้า?”

อ่องตวนโกรธจนกัดฟัน อันหลิงหยุนเองก็ไม่ยอม แพ้แม้แต่น้อย: “ผู้หญิงเมื่อแต่งงานออกไปข้างนอก ก็เปรียบสามีเป็นเสมือนทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วทำไมถึงได้ หุ้นจ้านเช่นนี้ พูดว่ามีความรู้อะไรกัน หรือว่าพระชายา ตวนจะลืมคุณธรรมเอาไว้ที่บ้าน ไม่ได้นำออกมาด้วย? นี่มันเรื่องอะไรกัน เมื่อครู่เห็นอยู่ชัดๆว่าพระชายาตวน ต้องการทำให้ผู้อื่นอับอาย ข้าเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน หรือว่าเวลาที่พระชายาตวนเข้าไปเสวยร่วมกับฮองเฮา ในวัง ก็มีข้อเรียกร้องเช่นนี้ด้วย?

ถ้าหากไม่ใช่เช่นนั้นทั้งสองที่ปฏิบัติคนละแบบ ก็ แสดงว่าข้าดูถูกพระชายาอ๋องตวนเกินไป อยู่ในวังเป็น แบบหนึ่ง อยู่ที่จวนอ๋องเสียนของข้าเป็นอีกแบบหนึ่ง

จริงอยู่ จวนอ๋องเสียนอยู่อย่างถ่อมตนและไม่ค่อย ข้องแวะกับวังหลวง แต่ก้ไม่ใช่ว่าจะให้พระชายาตวน มารังแกได้ง่ายๆเช่นนี้

อีกทั้งท่านอ๋องตวน บอกว่าพระชายาตวนมีความรู้ มีคุณธรรมอะไรนั้น หรือว่าแบ่งคนออกเป็นสูงต่ำ รวย จน ก็พูดว่ามีความรู้ มีคุณธรรมได้แล้วหรือ หรือจะพูด ว่า พระชายาตวนเห็นว่าจวนอ๋องตวนสูงส่งกว่าจวน อ๋องเสียนของข้า?

อ๋องตวน ท่านไม่เพียงไม่ขัดขวาง ซ้ำยังสนับสนุน อีก

วันไหนที่ข้าเข้าวังคงจะต้องพูดเรื่องนี้เสียหน่อย แล้ว หาคนมาช่วยข้าออกความคิดเห็น แล้วค่อยตัดสิน เรื่องที่พระชายาตวนมีความรู้ มีคุณธรรม”

“เจ้า..จุนฉูฉูโกรธจนหน้าแดง ตัวสั่น
“อัน ..” อ๋องตวนมองอันหลิงหยุนด้วยความโกรธ กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นที่หน้า ประตู

“ข้าได้ยินเสียงอึกทึกคึกโครมภายในห้องโถงดัง ออกมาแต่ไกล คงไม่ใช่แอบนินทาข้าอยู่หรอกนะ?” กง ชิงที่สวมใส่ชุดบรรดาศักดิ์ สีดำ ที่เย็บปักถักร้อยลาย เมฆมงคลและมังกรโบราณ กายคลุมเสื้อขนสัตว์เดิน เข้ามา

ขณะที่กำลังพูดก็ถอดผ้าคลุมไหล่ออก ลุ่ยหลิ่วรีบ รับไปแขวนให้เรียบร้อย

อันหลิงหยุนรีบลุกขึ้นถอนสายบัว: “ถวายพระพร ท่านอ๋อง”

กงชิงหันไปมองอันหลุนหยุนเบาๆ แล้วพูดด้วย ความเอ็นดู: “พอแล้ว ไม่ต้องเหนื่อยแล้ว!”

อันหลิงหยุนลุกขึ้น: “ท่านอ๋อง แต่ว่าทรงล้างมือ แล้วหรือเพคะ?”

“ล้างแล้ว ถางเหอบอกว่าพระชายาเชิญแขกรับ ประทานอาหาร ให้ข้ากลับมาพร้อมกัน ข้าจึงล้างมือ แล้วกลับมา”

กงชิงวี่เดินแทรกเข้ามาจากทางด้านหนึ่ง มาอยู่ ข้างๆอันหลิงหยุน ใช้สองมือประคองอันหลิงหยุน เชิญ ให้อันหลิงหยุนนั่งลง อันหลิงหยุนจึงนั่งลง

เมื่อทั้งสองนั่งลง กงชิงวี่ก็หันไปทักทายอันกั๋วกงก่อน: “ท่านกั๋วกง”

“อ๋องเสียน”

“กั๋วจิ๋ว”

“อืม”

“พี่สอง”

อ่องตวนเบือนหน้าหนีด้วยความไม่พอใจ

“เป็นเพราะน้องสะใภ้ต้อนรับได้ไม่ดีอย่างนั้นหรือ พี่สองถึงไม่ได้พอใจเช่นนี้?” กงชิงวี่พูดเบาๆ

ตอนนี้เอง จุนฉูฉุมองกงซิงวี่ด้วยความโกรธแค้น เหมือนเกือบจะร้องไห้ออกมา

ตวนอ่องคิดว่านางน้อยใจ จึงยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่

“ฉูฉูเดิมทีหวังดี จึงถามถึงเรื่องคนตักอาหาร คิด ไม่ถึงว่า จะทำให้โล่ชวนจวิ้นจู่ไม่พอใจ ข้าต่อว่านาง เพียงแค่ไม่กี่คำ คิดไม่ถึงว่าจะทำให้พระชายาเสียนรู้ สึกโกรธเคืองขึ้นมา

“หยุนหยุน มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ?” กงชิง วี่ถาม แววตาเย็นชาอย่างยิ่ง อันหลิงหยุนจึงพูดว่า: “อ๋องตวน กล่าวถูกแล้ว หม่อมฉันผิดเอง เชิญท่านอ่องลงโทษ ด้วย”

อ๋องตวนตะลึงไปชั่วขณะ อันกั๋วกงและกั่วจิ้วเองก็ รู้สึกแปลกใจ

สิ่งที่คนภายนอกพูดนั้น ดูเหมือนจะไม่เป็นความจริง

เวลาที่พระชายาเสียนอยู่ต่อหน้าอ๋องเสียน ช่างว่า ง่ายขนาดนี้จริงๆ!

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นก็จงกลับไปนั่งสำนึกตัว เสีย หากไม่มีคำสั่งของข้า ก็ห้ามออกมา อาหยู่ เจ้าไป คอยเฝ้าไว้

พวกเจ้าสองคนด้วย เป็นคนรับใช้ แต่ไม่รู้จักคอย เตือน จึงหนีความผิดไม่พ้น ให้ไปนั่งสำนึกเป็นเพื่อน พระชายา” กงชิงวี่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

อันหลิงหยุนลุกยืนขึ้น แล้วถอนสายบัว: “หม่อม ฉันทูลลา อันกั๋วกงทานให้อร่อย อันกั๋วจิ๋วทานให้อร่อย อ๋องตวนทานให้อร่อย”

อันหลิงหยุนลุกขึ้น แล้วเดินออกทางประตูไป สาว ใช้หงเถาและลุ่ยหลิ่วก็หันไปถอนสายบัวให้กงชิงวี่ แล้วจึงหันหลังเดินตามออกไป

อาหยู่เองก็ตามไปด้วย

ห้องโถงเงียบสงบทันใด

ความโกรธของอ๋องตวนนั้นกลืนไม่เข้าคายไม่ออก อึดอัดใจยิ่งนัก ถึงแม้ฉูฉูจะน้อยใจไปบ้าง แต่เรื่องนี้เมื่อคิดในทาง

กลับกัน ดูเหมือนว่าพวกเขาเองที่โวยวายโดยไม่มี เหตุผล เรื่องตักอาหารก็เป็นอย่างที่อันหลิงหยุนบอก ในวังหลวงเองก็ไม่มีคนตักอาหารให้ พวกเขาเองก็ทานอาหารกันอย่างเรียบง่าย แต่วันนี้มาที่จวนอ๋องเสียนกับ พูดเรื่องนี้ขึ้นมา

ปกติ เวลาพวกเขาไปที่อื่นก็ไม่มีคนตักอาหารให้ ปกติแล้วจะมีแค่ภายในวัง ภายในจวน หรือบ้านของ ตนเองเท่านั้นถึงจะมีคนคอยตักอาหารให้ หากเชิญคน มารับประทานอาหารหลายคนเช่นนี้ เกรงว่าจะตักให้ ไม่ทัน

แม้แต่ในจวนของราชครูจุน ก็ไม่เคยมีเรื่องเช่นนี้

เกิดขึ้น

แต่วันนี้ฉูฉูกลับพูดเช่นนี้ จริงๆแล้วก็ไม่สมควรนัก ตอนนี้อันหลิงหยุนยอมรับผิด ยิ่งกลับทำให้เขา รู้สึกไม่สบายใจ

อันกั่วจิ๋วมองออกไปด้านนอก: “น่าสงสารจริงๆ!”

“ปกติแล้วข้าเองก็มักจะปวดหัวกับนางอยู่บ่อยๆ พระชายาเติบโตมาในจวนแม่ทัพ อันเจียงจินเองก็อยู่ แต่ข้างนอกตลอด นางจึงมีนิสัยซุกซน คนในจวน แม่ทัพตามใจนางมากเกินไป จึงทำให้นางโตขึ้นมามี นิสัยแบบนี้

ข้าเองก็กำลังอบรมนางอยู่ แต่นางเองไม่ได้มี เจตนาร้าย หวังว่าอันกั๋วกงและกั๋วจิ้วจะไม่หัวเราะเยาะ พี่สองเองก็ให้อภัยนางเถอะ”

กงชิงวี่ถูขมับอย่างจนใจ จุนฉูฉูกำมีอแน่น กงชิงวี่ เจ้านี่มันบ้าชัดๆ นางมีดีอะไรกันแน่?
ให้อันหลิงหยุนไปนั่งสำนึกผิดจริงๆ หรือว่า ต้องการจะตบหน้านางกันแน่?

ดูสายตาที่เขาจ้องมองอันหลิงหยุนอย่างมีเลศนัย ไม่เหมือนกำลังสั่งสอน แต่เห็นชัดๆว่ากำลังปกป้อง

“ท่านพี่อ๋องเสียน อย่าไปฟังพวกเขาพูดมั่วๆนะ อ๋องตวนกำลังช่วยพระชายาของเขา แต่จริงๆแล้วเห็น อยู่ชัดๆว่าพระชายาของเขารังแกพี่สาวพระชายาเสีย น ข้าเห็นชัดเจนว่าพี่สาวพระชายาเสียนนั้นเป็นคนมี เหตุมีผล เป็นเพราะนางตั้งใจที่จะก่อเรื่อง ข้าจึงทนดู ไม่ได้ นางจึงดุด่าข้า พี่สาวพระชายาเสียนจึงช่วยพูด แทนข้าสองสามคำ

ข้ารู้ว่าฮั่วไท่เฟยกับท่านปู่ของข้ามีข้อแลกเปลี่ยน ซึ่งกันและกัน จึงต้องการให้ข้าไปเป็นพระชายารองขอ อองตวน ในเมืองหลวงมีใครไม่รู้บ้างว่าพวกเขาสอง สามีภรรยารักกันขนาดไหน มีข้าเพิ่มมาหนึ่งคนก็ดูจะ ขัดหูขัดตา แต่ข้าเองก็ขัดหูขัดตาเช่นกัน ข้าไม่ใช่เพ ราะฮั่วไท่เฟยทรงตรัสว่าทรงโปรดปรานข้ามาก ต้องการให้ข้าเป็นลูกสะใภ้ มิเช่นนั้นนางจะต้องรู้สึก หดหูข้าเองก็ไม่มีวันตอบตกลงหรอก”

หยุนโล่ชวนมองอ่องตวนด้วยความโกรธ อ่องตวน จะตบโต๊ะ แต่จุนฉูฉูจับมือเขาเอาไว้: “อ๋องตวน เรื่องนี้ ให้พอแค่นี้เถอะเพคะ ข้าไม่สนใจ ในเมื่ออ่องเสียน ปกป้องกันขนาดนี้ พวกเราอยู่ต่อก็เปล่าประโยชน์ พวกเรากลับกันเถอะเพคะ”
อันกั๋วกงขมวดคิ้วแน่น อ๋องตวนผู้นี้ดูๆไปแล้ว เหมือนพวกขี้ขลาด ไม่มีความฉลาดเลยสักนิด ที่ชั่วไท่เฟยพูดมาทั้งหมด ไม่เป็นความจริง หลานสาวของเขาจะให้แต่งกับคนขี้ขลาดไม่ได้

“ดี”

อ๋องตวนประคองจุนฉูฉูลุกขึ้น แล้วพูดว่า: “เรื่องวัน นี้ ข้าจะกราบทูลให้เสด็จแม่ทรงทราบถึงเรื่องที่โล่ชวน จวนจี่กระทำทั้งหมด….”

อ๋องตวนคิดที่จะยกเลิกงานแต่ง แต่ถูกจุนฉูฉูขวาง ไว้: “ท่านอ๋อง อย่าพูดเหลวไหล พวกเราไปกันเถอะ เพคะ”

จุนฉฉไม่สามารถทำเสียเรื่องของฮั่วไท่เฟยได้ นางไม่อยากแกว่งเท้าหาเสี้ยน จึงขัดขวางอ๋องตวน แล้วรีบออกจากจวนอ๋องเสียน

อันกั่วจิ้วมองทั้งสองคนเดินออกจากประตูไป ก็ รู้สึกผิดหวังกับจุนฉูฉูผู้นี้เป็นอย่างมาก

นางเองก็เป็นผู้หญิงที่มีความสามารถ คิดไม่ถึงว่า เป็นคนไม่รู้จักระงับอารมณ์ แล้ววันหน้าจะรับผิดชอบ ได้กระไร

ตำแหน่งพระชายาอ่องตวนนี้ สักวันจะต้อง

เปลี่ยนแปลง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ