บทที่ 227 พระชายารองหยุนที่ยังรั้งอยู่
เมื่อเห็นว่าฮ่องเต้เสด็จไปแล้ว จุนเชียว เขียวจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
สูจิ่น รีบร้อนออกมาจากอีกด้าน หยิบ เสื้อคลุมไม่มีแขนมาสวมให้จนเซียวเชียว
“เจ้านาย? ” ? จีนมีท่าทีกังวลเล็กน้อย
“พักผ่อนเถอะ”
จุนเชียวเซียวเวลานี้ไม่ว่าอันใดก็ไม่ อยากทํา คิดก็ไม่อยากคิดทั้งนั้น
เมื่อนาง นกายกลับไปยังห้องนอน เห็น เสื้อผ้าบางส่วน ถูกโยนลงบนพื้น กระจัดกระจาย จุนเซียวเซียวจึงไล่เก็บพวก มันทีละชิ้นจนเรียบร้อย จัดเตรียมผ้าห่มกลับ นเตียงไปนอน
สูจิ่นปิดม่านของเตียงลง มองดูจนเขียว เขียวจึงค่อยเดินออกไป
ฮ่องเต้ งหยู่เร่งเสด็จไปถึงยังวังเพิ่งหยี ฮองเฮาทรงเพิ่งตื่นรู้พระองค์ ทันทีที่ทอด พระเนตรเห็นฮ่องเต้ จึงทรงพระกันแสงออก มา
ฮ่องเต้ งหมู่ส่งคนไปประกาศทันที พระองค์และฮองเฮาจะเสด็จไปเยี่ยมไข้ยัง จวนเฉินเสียง
แม่นม ออกเดินทางไปก่อน พาคน จํานวนหนึ่งไปเตรียมการณ์ยังจวนเฉินเสียง
เงินหยุนซูตามเสด็จฮ่องเต้ชิงหยู่ออกไป นอกวัง
ทันทีที่อันหลิงหยุนตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ครู่ ก็ได้ยินเรื่องของจวนเงินเลี้ยง ทว่านาง ไม่ได้รับฟังมาจากคนนอก แต่เป็นหยุนโล่ชวน เป็นคนพูดให้ฟัง
อ๋องตวนไม่มีเรื่องใดให้ทําจึงกลับจวน ไปแล้ว หยุนโล่ชวนจึงมาหานางที่นี่ หลังจากนางตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเพิ่งพบ ว่า หยุนโล่ชวนไม่ได้กลับไป และพาคงเอ่อมา ยังจวนอ๋องเสียน อีกทั้งอาศัยอยู่ในตำหนัก หยุนอีกด้วย
อันหลิงหยุนไม่รู้จะพูดกระไร ว่านําหนัก จู๋หยุนนั้นถูกมอบให้กับหยุ่นจิ้นไปแล้ว แต่หยุ นโล่ชวนไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน นางมองว่า ตำหนักจี๋หยุนเป็นสวนหลังบ้านของตน และ ยังคงอาศัยอยู่ในห้องเจ้าบ้านเช่นเดิม
นางเป็นพระชายารองของอ๋องตวน หลานสาวของอันกั๋วกง หยุนจวิ้นจู่
คงไม่เป็นการดีแน่หากให้นางอาศัยอยู่ ห้องข้าง
มื้อเช้าได้ยินหยุนโล่ชวนและอันหลังหยุ นพูดว่า ที่จวนเฉินเสี่ยงเกิดเรื่องขึ้น ในเมือง หลวงพูดกันแต่เรื่องนี้มาตลอดสองวันที่ผ่าน มาเกรงว่าฮูหยินเฉินเสียงอาจไม่ไหวแล้ว
ยังได้ยินอีกว่า ฝ่าบาททรงเสด็จออกมา จากวังเมื่อเช้านี้ ทรงมีพระประสงค์ ไปพบหน้า ฮูหยินเฉินเสี้ยนเป็นครั้งสุดท้าย
นี่ทําให้อันหลังหยุนนึกขึ้นได้ว่า ฮ่องเต้ นั้นน่าสงสารยิ่งกว่าฮองเฮาเสียอีก อย่างน้อย ฮองเฮาก็เข้าวังไปในช่วงหลังเจริญชันษาแล้ว ยังเคยมีโอกาสใช้ชีวิตในโลกภายนอกอยู่บ้าง แต่ฮ่องเต้นั้นตั้งแต่ทรงพระเยาว์กระทั่งเจริญ พระชันษา ล้วนแต่ต้องประทับอยู่ในวังมา ตลอดพระชนม์ชีพ ช่างน่าสงสารอย่างยิ่ง!
หยุนโล่ชวนกินเนื้อชิ้นหนึ่งแล้วพูดว่า
พระชายาเสียน” ”
“หิม” อันหลังหยุนตอบรับแบบส่งๆ
“ช่วงนี้จวนเรามีเงินแล้วใช่หรือไม่ อาหารการกินเปลี่ยนไปเช่นนี้?” หยุนโล่ชวน เหลือบมองไปที่โต๊ะโดยไม่รู้ตัว ทั้งเนื้องาน ใหญ่ทั้งปลาตัวโตน่ากลัวจะกินไม่หมด
อันหลิงหยุนดอบกลับว่า “ถือว่าใช่เพคะ” พ่อบ้านเองก็รู้สึกจนใจทำอันใดไม่ถูก พระชายารองแห่งจานมาดื่มมากิน อยู่ในจวนอ๋องเสียนทั้งวี่ทั้งวัน อองตวนคิด เช่นไรกันแน่ ? ก่อนหน้านี้ไม่ปรองดองชิดใกล้ ไม่สมานฉันท์ มาวันนี้รอดพ้นจากเหตุกาณ์ที่ เลวร้าย เป็นพระชายารองหยุนคอยดูแลอ๋อง จนอาการขึ้น มาวันนี้กลับปล่อยพระ ชายารองหยุนไว้ที่จวนอ๋องเสียนไม่ดูไม่แล คิดสิ่งใดอยู่กันแน่!?
หยุนโล่ชวนกินข้าวเสร็จ จึงกลับไปที่ ตำหนักจู๋หยุนอันหลังหยุนหันไปมองตามด้วย ความรู้สึกทําอันใดไม่ถูกอยู่บ้าง
“ท่านอ๋องเพคะ คงไม่ใช่ว่าชาตินี้ทั้ง ชาติ อองตวนวางแผนไว้ว่า จะไม่มารับพระ ชายารองหยุนกลับไปแล้วอย่างนั้นใช่ไหม เพคะ? อันหลังหยุนออกจากห้องอาหาร ยาก ยิ่งที่จะมีเวลาว่างสบายๆเช่นนี้ ยังต้องมา กังวลเกี่ยวกับเรื่องของพระชายารองจานอ๋อง วนอีก
กงชิง อยู่กับนาง: “ข้าเองก็ไม่ชัดเจน แต่หากตอนนี้พระชายาตวนมารับพระชายา รองหยุนไปแล้ว เมื่อกลับไปเกรงว่าจะไม่ ปลอดภัย
แม้ว่าพระชายารองหยุน จะมีความกล้า หาญและมีกลยุทธ์ แต่นางก็ไม่อาจห้ามคน วางแผนลอบแทงข้างหลังได้ กลัวก็เพียง หากนางกลับไปจะไม่มีวันได้ใช้ชีวิตสงบสุข
อันหลิงหยุนกล่าวว่า “อ๋องตวนใช้ใจ ปฏิบัติต่อพระชายาดวนเป็นอย่างดี น่า เสียดายที่ทั้งสองหาใช่เห็นเป็นเช่นเดียวกัน พบคนไม่ดีไม่งาม ช้าเร็วย่อมต้องขาดทุนเสีย หาย
“เกี่ยวกับพระชายารองหยุน ตอนนี้น้อง ตวนไม่รู้จักหวงแหนทะนุถนอม เกรงว่าวันใด เมื่อรู้จักรักใคร่ อยากทะนุถนอมขึ้นมา ก็อาจ สายเกินไปเสียแล้ว
“เรื่องของคนอื่นหลังหยุนอย่าได้กังวล อีกเลยนะ ในจวนใจว่าจะขาดแคลนอาหาร การกิน หากพระชายารองหยุนไม่ต้องการ จากไป เช่นนั้นก็ให้นางอยู่ที่นี่เถอะ”
เมื่อทั้งสองออกไปข้างนอก บนท้องถนน ลัวนดูหดหู่ เรื่องของจวนอ๋องใหญ่ ผู้คนใน เมืองหลวงล้วนรู้เห็นทุกอย่าง ในเวลานี้ไม่ว่า ใคร ต่างไม่กล้าออกมา งดีอกดีใจ กระโดด ลิงโลดอย่างมีความสุขเป็นแน่
อันหลังหยุนเดินจากถนนไปดูร้านค้าทั้ง สามแห่ง ตอนนี้หยุนจีนล้วนยุ่งทุกวัน ตามที่ อันหลังหยุนได้บอกไว้ ร้านมีลูกค้าจํานวนมาก ในระยะเวลาสั้นๆเพียงไม่กี่วัน แม้ว่าจะไม่ได้ ทําเงินกำไรมากมาย แต่รายได้ต่อวันก็ไม่เลว
อันหลังหยุนเข้าไปในร้าน หยุ่นจิ้นก็ เห็นนางแล้ว จึงรีบออกจากในร้านมาทักทาย อันหลังหยุน: “เจ้านาย ท่านอ๋อง”
“อืม” กงชิง เป็นคนรักความสะอาดเสมอ มา รู้ว่าบรรดาสตรีแบบพวกอันหลังหยุนนั้น จะมีนิสัยค่อนข้างกล้าหาญ หากบุรุษใดคิดจะ หยอกล้อยั่วเย้านางเล่น ทำตัวไม่เป็นโล้เป็น พาย เป็นได้ถูกตอนไม่เหลือเป็นแน่
เพียงแค่เขาคิดว่าตัวเองจะถูกตอนเป็น ขันที เขาก็ไม่กล้าจะประมาท ไม่ระมัดระวังตัว แล้ว การทำหน้าที่บุรุษเต็มตัวนี่แหล่ะคือ หนทางแห่งราชา
กงชิง เดินชมร้านตามลำพัง รู้สึกชื่น ชอบลักษณะการจัดรูปแบบร้านอย่างมาก
หยุนจีนเชิญอันหลังหยุนไปนั่ง ภายใน ร้านมีเก้าอี้ใหม่เอี่ยม แกะสลักอย่างประณีต หน้าเก้าอี้มีโต๊ะตัวหนึ่ง บนโต๊ะมีลูกคิด สมุด บัญชี ปากกา หมึก กระดาษ และแท่นฝน หมึก รวมไปถึง เงินกองหนึ่งและเงินแท่ง วางอยู่
อันหลิงหยุนนั่งลง หยุนจีนไปชงชาด้วย ตัวเองมาหนึ่งกา
“อันหลังหยุน เปิดฝาถ้วยชาลวดลายรา ชวงศ์ข่งข็นมาสูดดมกลิ่น เงยหน้าขึ้นเอ่ยถาม ว่า “ชาหลงจึ่งก่อนฝนตกหรือ?”
อันหลังหยุนไม่เคยดื่มชาที่นี่มาก่อน เพียงแต่เมื่อก่อนตอนที่นางยังไม่ได้มาที่นี่ นางก็เคยดีมชา อีกทั้งชอบชาหลงจิ่งมากเป็น พิเศษ
อีกทั้งชาหลงจิ่ง นกลางมีการแบ่งระดับ
อย่างเข้มงวดมาก
ตัวนางเองสามารถแบ่งระดับได้ชัดเจน อย่างยิ่ง
หยุนจิ่นกล่าวว่า” คนส่วนใหญ่ที่มาที่ร้าน เป็นชนชั้นสูง ไม่ควรประหยัดเงินกับที่นี่ เจ้าค่ะ”
อันหลังหยุมหยิบถ้วยชาขึ้นมาสูดดม กลิ่นอีกครั้ง: “เงินทำให้เกิดเงินคือเหตุผลที่ไม่ อาจฝืนได้ เจ้าเข้าใจมันได้ข้าก็ยินดียิ่งแล้ว”
” “เจ้าค่ะ
กงชิงเฉลียวฉลาดหูตาว่องไว ได้ยิน บทสนทนาที่หญิงสาวทั้งสองพูดคุยกัน จึงหัน มามองพวกนางทั้งคู่
หยุนจีนแต่งกายดีกว่าเจ้านายในจวน อ๋องเสียอีก แม้ของที่สวมใสไม่ได้มีมากมาย แต่ก็ดูวิจิตรงดงาม แคปีนสีทองด้ามน้นบน ศีรษะนาง หากไม่มีหลายร้อยตำลึงก็ไม่อาจ อมาใสได้
ชุดนี้ทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า ย่อมต้องใช้ หลายพันตำลึงทีเดียว
เงินหนึ่งหมื่นห้าพันตำลึง คิดดอกเบี้ย ทบต้นกระไรจนทำเงิน ทำกำไรงอกเงยออก มาได้ถึงเพียงนี้กัน?
อันหลังหยุนสนทนากับหยุนงินเรียบร้อย แล้ว จึงเตรียมตัวจากไป หยุนจิ้นรีบเรียกอัน หลังหยุนไว้ทันที “เจ้านาย”
อันหลังหยุนหันกลับมา: “ว่ามาส”
“นี่คือเงินกำไรที่ข้าได้รับในช่วงหลายวัน ที่ผ่านมา ข้าได้สํารองไว้เพื่อใช้สอยมาก พอแล้ว ส่วนที่เหลือเจ้านายนำกลับไปด้วย เถอะเจ้าค่ะ”
หยุนจีนน่ากล่องไม้กล่องหนึ่งขึ้นมา เมื่อ เปิดออกด้านในต็มไปด้วยตั๋วเงินบรรจุอยู่ อัน หลังหยุนเหลือบมองไปที่กล่องนั้นแล้วพูดว่า” ระยะนี้ข้ายังไม่ต้องการมัน เจ้าจัดการไปตาม เห็นสมควร ช่วงสองสามวันนี้ ปู้เหวิน(แปลว่า ไม่ฟัง)กับทิง(แปลว่าไม่ฟัง)จะมาช่วยงาน เจ้าที่นี่ด้วย หากข้างกายเจ้ามีคนช่วยจะง่าย ต่อการทํางานมากกว่า”
“เรื่องเงินข้าให้เจ้าเป็นคนตัดสินใจ ข้า หวังว่าเจ้ายิ่งทำการค้าจะยิ่งเติบโตก้าวหน้า ยิ่งสะสมเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อย ๆ
ในภายภาคหน้า หากมีอันใดเกิดขึ้นกับ ข้า ร้านทั้งสามไม่ว่าจะมีกี่ร้าน ล้วนเป็นของ เจ้าทั้งหมด หากข้าปลอดภัยไร้เรื่องราว ทั้ง สามร้านก็จะยังคงเป็นของข้า ”
“เจ้านายโปรดวางใจ ไม่ว่าเมื่อใดก็ตาม หยุนจีนจะเป็นมือข้างหนึ่งของเจ้านาย ทุก อย่างที่เจ้านาย คือทุกอย่างที่หยุนจีนมี เจ้า นายช่วยเหลือหยุนจีน หยุนจิ้นไม่อาจลืม เลือนตลอดชีวิตเจ้าคะ”
“เจ้าเก็บไว้เถอะ ข้าไปก่อนนะ” อันหลัง หยุนเตรียมจากไป หยุ่น นเดินถือปั่นประดับ ผมด้านหนึ่ง ออกมาจากด้านใน
“เจ้านาย ครั้งนี้ข้าสั่งจองปิ่นประดับผม แบบนี้มาหนึ่งชุด ด้ามนี้เป็นสินค้าชั้นสูงหนึ่ง ในนั้นที่ดีที่สุด เจ้านายโปรดรับไว้ก่อน”
อันหลังหยุมหยิบมันมาพินิจดู เป็น สินค้าที่ละเอียดวิจิตรงดงามอย่างมาก
แต่นางไม่ต้องการ จึงกลายเป็นว่าน นั้น ถูกปักเข้าไปในผมของหยุนจีนแทน นาง มองไปที่อันหลังหยุนที่เอ่ยว่า “เจ้าใส่มี ประโยชน์กว่าข้าใส่ พวกเราไม่ใช่นักสะสม เก็บสะสมเงินทองไม่มีประโยชน์นัก เก็บ สะสมเป็นตัวเงินจะสะดวกกว่า หากเจ้าชอบ เจ้าก็ใสไว้ หากว่าไม่ชอบ พบคนที่ชอบขึ้นมา ขอแค่นางเสนอราคาได้เหมาะสม ก็ปล่อย ขายให้กับนางไป ” “เจ้าค่ะ”
หยุนจั่นตอบด้วยความเคารพ อันหลังหยุ นกล่าวว่า “แต่ถือเสียว่าด้านนี้เป็นข้ามอบให้ แล้วกัน เจ้าเก็บมันเอาไว้เถอะ”
“หยุนจีนขอบคุณเจ้านายเจ้าค่ะ”
อันหลังหยุนส่งมอบเสร็จ จึงหันกาย จากไป
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ