บทที่ 211 ความรู้สึกซาบซึ้ง
อันหลิงหยุนหายใจสะอื้น ควรจะเล่าเรื่องที่มีกลุ่มคนในวังหลวงลอบ สังหารนางก่อนดีกว่า จู่ๆสีหน้าของกงซิงวี่ก็ดูแย่ขึ้นมาทันที “พวกเขา ช่างบังอาจ ข้าอุตสาห์ไว้หน้าพวกเขา แต่พวกเขากลับคิดจะสังหารข้า ให้สิ้นซาก!
อันหลิงหยุนเห็นว่าเริ่มได้ผล รู้ดีว่าคนนี้ชอบทำอันใดบุ่มบ่าม ยิ่งเพิ่มเชื้อไฟเข้าไปอีก “แต่ว่าหลังจากนั้นเสินหยุนเจ๋ก็เข้ามาช่วยข้า เรื่องนี้ทำให้ข้าแปลกใจอยู่มีน้อย”
“หยุนจี๋?”
เดิมที่กงชิงวี่ก็เป็นคนที่ขี้หึงอยู่แล้ว หยุนฝันเขาก็เต็มไป ด้วยเกลียดชัง ยิ่งมิต้องพูดถึงเจ้าเสินหยุนเจ่นั้นที่เป็นคู่แข่งความรัก ของเขา
ที่ถามด้วยสีหน้าที่ พอใจ “ทำไมเขาถึงอยู่ที่นั่น?”
อันหลิงหยุนลังเลไปครู่หนึ่ง ขอแค่กงชิงวี่สามารถออกไปได้ ต่อให้ ต้องใส่ร้ายป้ายสีใครอันหลิงหยุนรู้สึกอันใด
“วันนั้นเจอกันที่วังหลวง เขาตามข้าอยู่ตลอด ข้าจึงบอกไปว่าข้ายังมี ธุระมีเวลามาพูดคุยกับเขา เขาจึงถามว่าข้ามีเรื่องอันใด ข้าจึงพูด แบบขอไปที่ว่าข้าติดตำลึงองค์หญิงใหญ่ หลังจากนั้นเขาก็เดินจากไป
ข้าเองก็รู้ว่าทำไมเขาถึงเดินจากไป เมื่อวานเจอกับพวกนักฆ่า เขา มาหาข้าเพื่อให้ตำลึงกับข้า”
“ให้ตำลึงอย่างนั้นรี?”พอกงชิงได้ยินก็เต็มไปด้วยความโกรธ สีหน้า เริ่มดูแย่ยิ่งกว่าเดิม
“ข้ามิได้รับเอาไว้ ข้าตกใจแทบตาย”
“ถ้าเกิดข้ายังมิออกไปอีก เขาก็คงจะมาเป็นคนคุ้นจวนอ่องนี้แทนข้า แล้ว? “กงซิงวี่หันไปมองที่ประตูแวบหนึ่ง รู้สึกอยากจะออกไปเดี่ยวนี้ อันหลิงหยุนเริ่มร้องไห้อีกครั้ง กงชิงพี่พอเห็นก็รีบไปปลอบ “ร้องไให้ ทำไม?ข้ามิได้เป็นอันใดสักหน่อย?”
อันหลิงหยุนเริ่มหายใจสะอื้น “ท่านอ่อง ตอนท่านมีอยู่ ข้างนอกเต็ม ไปด้วยความอันตราย ตอนแรกข้าเองก็คิดที่จะออกมา แต่ก็ออกมา มิได้ ข้าออกมายังต้องเข้าวังอีกครั้งนี้เพราะมีอ่องตวน ถ้ามิใช่เพราะ เขายอมใช้ชีวิตเข้าแลกเพื่อหนีออกมา ตอนนี้ข้าก็มิรู้แล้วว่าจะเป็นยัง อันใดบ้าง?”
“อย่าร้อง ข้าจะออกไปอย่างแน่นอน”
กงซิงวี่โค้งตัวลงไปอุ้มอันหลิงหยุนขึ้นมา แล้วหันกลับไปที่เตียง นั่ง ลงแล้วถามอันหลิงหยุนถึงความเป็นมาอย่างละเอียด อันหลิงหยุนเล่า ให้ฟังอีกหนึ่งรอบ กงชิงจึงพูดขึ้นมาว่า “เป็นความผิดของข้าเอง หลิง หยุนเจ้ากลับไปก่อน อีกมินานข้าจะกลับไป”
“ท่านอ๋อง ท่านคิดหาวิธีออกไปจากที่นี่ได้แล้วอย่างนั้นรี?”อันหลิง หยุนรู้สึกแปลกประหลาดใจอยู่มิน้อย
กงชิงขี่มองอันหลิงหยุน “ต่อให้หลิงหยุนมิมา ข้าก็กะจะออกไปอยู่
แล้ว เพียงแค่นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะกล้าทำถึงขนาดนี้ รีบร้อนขนาดนี้
ข้าเพิ่งจะเข้ามา พวกเขาก็อดใจไม่ไหวสักแล้ว”
อันหลิงหยุนนอนอยู่ในอ้อมกอดของกงชิง กงชิงวี่ก็กอดอันหลิงหยุ น “เป็นเพราะความประมาทของข้าเอง”
มิต้องกลัว มิว่าจะเกิดอันใดขึ้น ข้าก็จะมิปล่อยให้พวกเขามีโอกาส มาทำร้ายครอบครัวของหลิงหยุนได้”
อันหลิงหยุนเงยหน้ามองกงซิงวี่ การโกหกกงชิงวี่แบบนี้ทำให้รู้สึกมิ ค่อยสบายใจสักเท่าไหร่ จึงเป็นคนเริ่มจูบปากของกงชิงวี่ กงซิงวีหันไปมองหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอด หัวใจเริ่มสั่นไหวขึ้นมา
“ข้าอยากจะทำจริงๆ”
กงชิงหัวเราะฮาๆ อันหลิงหยุนมองเขาด้วยหางตา “ท่านอ๋องมาที่นี่ ก็มิบอกข้าสักคำ ทำให้ข้าต้องเป็นห่วงอยู่ตลอด” “ข้าสำนึกผิดแล้ว ครั้งต่อไปข้าจะต้องบอกหลิงหยุนแน่นอน” กงซิงวี เป็นคนเริ่มหันหน้าเข้าไปจูบ อันหลิงหยุนหันหน้าหนี
“กงชิงวี่เองก็รู้สึกได้ว่า อยู่ที่นี่มาหลายวันมิได้ออกไปไหน มิได้ หวีผมหน้าก็มิได้ล้าง ที่อื่นก็คงมิสะอาดเหมือนกัน
“หลินหยุนออกไปก่อน ช้าสุดข้าก็คงจะกลับในพรุ่งนี้เช้า”
“ท่านอ่องแน่ใจขนาดนั้นเลยรี?”อันหลิงหยุนรู้สึกมิค่อยอยากจะเชื่อ สักเท่าไหร่ ยังจะบอกได้อีกรีว่าสามารถออกจากที่นี่ได้ทุกเมื่อ?
พอเห็นว่าอันหลิงหยุนยังคงสงสัยอยู่ กงชิงวี่มิอยากให้เสียเวลาไป มากกว่านี้ จูบอันหลิงหยุนไปหนึ่งที่ “ออกไปเถอะ ถ้ายังอยู่ต่อก็มีแต่จะ ทำให้ใจของข้าสั่นไหว มิสนใจอันใดแล้วพุ่งออกไปตั้งแต่ตอนนี้ แบบ นั้นจะยิ่งทำให้เสียเรื่องเอาเปล่าๆ”
กงชิงวี่พูดไปพร้อมกับดึงตัวของอันหลิงหยุนขึ้นมา เตรียมตัวส่งตัว ของอันหลิงหยุนออกไป อันหลิงหยุนยังคงมีค่อยอยากจะไปสักเท่า ไหร่ หันกลับไปกอดกงซิงพี่แล้วจูบกันสักพัก ถูกหนวดที่มทำให้อึดอัด นิดหน่อย อันหลิงหยุนถึงจะออกไป
เป็นการพูดคุยของสามีภรรยา อันหลิงหยุนออกนอกประตูไป กงซิง วี่พูดว่า “เจ้าไปอยู่กับอ่องตวนก่อน ขอบคุณเขาแทนข้าด้วย”
“อืม”
อันหลิงหยุนหยักหน้าตกลง แล้วก็ออกไปอย่างมีเต็มใจ
อ๋องชินจงได้ลุกขึ้นมาแล้ว พอเห็นอันหลิงหยุนก็มิได้แปลกใจอันใด นางมีมานี้แหละถึงจะน่าแปลกใจ
อันหลิงหยุนมองหน้าอ่องชินจงแวบหนึ่ง จากนั้นก็หันหน้าเดินจากไป ออกมานอกประตูก็เห็นอ๋องตวนนั่งรออยู่บนพื้น หยุนโล่ชวนก็อยู่ ข้างกายของอ่องตวน พอเห็นอันหลิงหยุนออกมา อ่องตวนจึงเพิ่งลุก ขึ้นมา
พอเห็นอ่องตวนเป็นแบบนี้ อันหลิงหยุนก็รู้สึกสบายใจนิดหน่อย ที่ เป็นแบบนี้ก็เพราะนาง “ได้เจอหรือยัง?”อ่องตวนถาม อันหลิงหยุนพยักหน้า พอได้ยินแบบนี้อ่องตวนจึงบอกว่าได้เวลากลับตำหนัก
ตอนที่ทั้งสามออกมาองค์หญิงใหญ่ก็ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พอ เห็นพวกอ่องตวนองค์หญิงใหญ่ก็มีพอใจเป็นอย่างมาก “หยินเอ่อ เจ้า กล้ามากนะ รู้ไหมที่นี่เป็นสถานที่แบบไหน เจ้ายังกล้าบุกเข้ามาอีกรี?” กงชิงหยินมองไปยังองค์หญิงใหญ่ แล้วพูดว่า “ข้าขอถวายบังคม
ท่านป่า”
ประโยคนี้ทำให้องค์หญิงใหญ่หายโกรธขึ้นมา อ่องตวนเป็นคนที่ นางเห็นมาตั้งแต่เด็ก เมื่อเทียบกับอ๋องเสียนที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม อ๋องตวนเป็นคนที่มีความน่าเชื่อถือมากกว่า
การที่อ่องตวนทำผิด องค์หญิงใหญ่ก็คิดว่าจะต้องมีคนค่อยบงการ อยู่เบื้องหลังแน่
มองอ่องตวนไปแวบหนึ่งองค์หญิงใหญ่เห็นว่าเขามีเลือดไหลออก มา จึงพูดว่า “เข้ามานั่งข้างในก่อนสิ”
“อย่าดีกว่า ตอนนี้ร่างกายของข้าอ่อนแอ กลัวว่าจะทนมิไหว มิอยาก จะสร้างปัญหาให้กับท่านป้า” “พูดแบบนี้หมายความว่าอันใด คิดว่าข้าจะปลอยให้เจ้าตายไปต่อ
หน้าต่อตารีอันใดยังมิมาช่วยพยุงตัวอ่องตวนเข้าไปข้างในอีก?”นานๆ
องค์หญิงใหญ่จะมีเมตรตาสักที คนที่อยู่รอบๆ จึงมิได้จริงจังกับคำพูดนี้
สักเท่าไหร่
ทันใดนั้นอันหลินหยุงก็รู้สึกว่า ที่องค์หญิงใหญ่มาดูแลต้าจงเจิ้งย่วน รีว่าเพื่อเหลือทางรอดไว้ให้กับพวกอ่องตวน
พออ๋องตวนเข้าไปข้างในประตูก็ไปนั่งพักทันที อันหลิงหยุนได้ให้ยา และฝังเข็มเขา สีหน้าของอ่องตวนถึงรู้สึกดีขึ้นมา
อันหลิงหยุนถอยกลับไปนั่งข้างหลัง หยุนโล่ชวนก็นั่งลงเช่นกัน
อ่องตวนเหนื่อยจนหลับไป หยุนโล่ชวนช่วยเช็ดเหงื่อให้เขา ความ รู้สึกนับถือเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม อันหลิงหยุนก็มิรู้จะทำยังอันใดดี อ่องตวนทำดีกับหยุนโล่ชวนอยู่มี น้อย แต่คนที่อ่องตวนชอบกลับเป็นจุนฉูฉู ถึงแม้ตอนนี้จะทำดีกับหยุ นโล่ชวนมากกว่านิดหน่อย แต่เกรงว่ามันคงมิใช่เรื่องง่ายๆแบบนั้น
แต่นี้เป็นรักแรกของหยุนโล่ชวน กลัวว่ามันจะกลายเป็นแผลใจ และคนแบบจุนฉูฉ อันหลิงหยุนก็กังวลอยู่มิน้อย
ถึงแม้ว่าหยุนโล่ชวนจะเก่งในการต่อสู้ด้วยมือเปล่า แต่เมื่อเทียบกับ คนที่เต็มไปด้วยกลอุบายอย่างจุนฉูฉู ก็คงสู้มิได้ นั่งพักสักครู่ องค์หญิงใหญ่ก็เดินเข้ามาจากนอกประตู อันหลิงหยุน
และหยุนโล่ชวนทั้งคู่ลุกขึ้นมาพร้อมกัน โค้งตัวลงไป “กระหม่อมขอ
ถวายบังคมท่านป้า”
องค์หญิงใหญ่สะบัดมือ “ลุกขึ้นเถอะ”
อันหลิงหยุนและหยุนโล่ขวนทั้งสองถอยหลังไปนิดหน่อย องค์หญิง ใหญ่เดินเข้าไปดูอ่องตวน ดูอย่างละเอียด ทั้งร่างเต็มไปด้วยบาดแผล องค์หญิงใหญ่พูดด้วยสีหน้าที่มิพร้อมใจว่า “ถึงว่าวี่เอ่อถึงมิยอม
ปล่อยเรื่องนี้ให้หลุดรอดไป ถ้าเปลี่ยนเป็นข้า ก็คงมือภัยพวกเขาเช่น
กัน”
อันหลิงหยุนเงยหน้ามองหน้าองค์หญิงใหญ่แวบหนึ่ง จากนั้นก็ก้ม หน้าเหมือนเดิม
“พวกเจ้ากลับไปเถอะ ดูแลอ่องตวนให้ดีๆล่ะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เข้า ข้ารู้ ดีว่าควรจะทำยังอันใดเมื่อเข้าไปที่วังหลวง
“กระหม่อมน้อมรับบัญชา”
อันหลิงหยุนก็มิแน่ใจว่าองค์หญิงใหญ่ต้องการจะทำอันใดกันแน่ แต่ เป็นความจริงที่ตอนนี้ร่างของอ่องตวนนั้นมิไหว ถ้าเกิดมิกลับไปที่วัง กลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้นแล้วจะอธิบายลำบาก
อ๋องตวนนอนอยู่ตรงรถม้าโดยตลอด ตอนนี้อันหลิงหยุนเริ่มเปิดใจ แล้ว มิใช่เพราะกงชิงวี่แต่เพราะซาบซึ้งในตัวของอ่องตวน เพราะมิว่า จะยังอันใดอ่องตวนก็คือคนที่เสี่ยงชีวิตมาช่วยเหลือนาง “ข้าอยากกลับไปจวนอ่องเสียนสักครู่ ชายารองหยุน รบกวนท่าน เข้าไปพูดกับพ่อบ้านหน่อยว่า ให้เอาโสมหนึ่งอันออกมาจากห้อง เก็บของให้ข้าหน่อย ข้าจะอยู่ดูแลอ่องตวนเอง
หยุนโล่ชวนตอบตกลงด้วยที่มีข้อสงสัยใดๆ พอถึงจวนอ่องเสียนก็ ลงจากรถแล้วเดินเข้าไปที่จวนอ๋องเสียน
อันหลิงหยุนรอให้คนอื่นเดินออกไปจากนั้นก็กรีดแขนตัวเองเพื่อเอา
เลือดของตัวเองออกมาหนึ่งถ้วยให้อ่องตวนดื่ม อ๋องตวนเห็นว่าอันหลิงหยุนได้ป้อนเลือดให้เขาดื่ม แต่ก็มิได้พูดอัน ใด และก็มิได้ขัดขืน
หลังจากป้อนเสร็จก็เอาผ้ามาพันแผลแขนเอาไว้ อันหลิงหยุนเองก็ เหนื่อยอยู่มีน้อย
อ่องตวนหลับตาลงแล้วรู้สึกว่ากระดูกที่อยู่ตามร่างกายค่อยๆถูก ฟื้นฟู ความเจ็บปวดก็ค่อยๆจางหายไป
“เจ้าเป็นใครกันแน่?เจ้าเป็นใครกัน?”อ่องตวนสงสัยตัวจริงของอัน หยุนมาโดยตลอด แต่เขานึกไม่ถึงมาก่อนว่าเลือดของอันหลิงหยุน จะสามารถช่วยชีวิตคนได้
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ