หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

บทที่ 98 คารวะฉันเป็นอาจารย์



บทที่ 98 คารวะฉันเป็นอาจารย์

“ลูกพี่ ผมมีเรื่องสำคัญอยากจะปรึกษากับคุณ ตอนนี้สะดวก โทรคุยหรือเปล่า?”

มองดูข้อความนี้แล้ว ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกประหลาดใจ คาด ไม่ถึงว่าคนที่จะมาหาเขาเป็นถังหลง

ก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่าถังหลงจะยอมรับเขา แต่คนที่มองออก

ต่างกรู้ นั่นเป็นเพราะไม่มีทางเลือก

โดยไม่สนใจเลยแม้แต่นิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับถังหลง ลู่เสี้ ยงหยางโทรออกไปโดยตรง

โทรศัพท์ถูกกดรับทันที เสียงของถังหลงดังออกมา : ลูกพี่ ผมมีเรื่องสำคัญจะคุยกับคุณ”

“เรื่องอะไร?” ลู่เสี้ยงหยางถามอย่างใจเย็น

“เฮ้อ ลูกพี่ครับ ลูกน้องของผมเพิ่งจะมาแจ้งข่าวว่าศัตรูที่ แข็งแกร่งคนหนึ่งของผมคืนนี้จะมาหาเรื่องผม ผมไม่มีมั่นใจ จริงๆ เพราะฉะนั้นเลยอยากจะเชิญลูกพี่มาร่วมบัญชาการ ต่อสู้นิดหนึ่ง” ถังหลงเอ่ยอย่างลังเล

ให้ตายเถอะ ไม่ใช่เรื่องดีจริงๆ

ในดวงตาของผู้เลี้ยงหยางเกิดประกายเย็นยะเยือก ถังหลงคนนี้มีเจตนาร้ายแฝงอยู่จริงๆ แต่อย่างไรก็ตามกล อุบายของไอ้ชั่วถังหลงทำให้เขาพึงพอใจมากขึ้นเรื่อยๆ เขา ต้องการทำให้มันเชื่องโดยสมบูรณ์

“อืม ที่ไหนล่ะ?” ลู่เสี้ยงหยางเอ่ยถาม

“ที่KTVมงกุฎครับ ลูกพี่ คุณมาก่อนแล้วเราค่อยมา ปรึกษากันอีกทีเถอะ ” ถังหลงเอ่ย

“ตกลง” ลู่เสี้ยงหยางพูดอย่างง่ายๆออกมาหนึ่งคำ แล้ว

วางสาย

“เพื่อนของผมคนหนึ่งมีเรื่องด่วน ผมจะต้องรีบออกไปหา คุณนอนก่อนเลยนะ” ลู่เสี้ยงหยางพูดกับเย่สวน

“โอ้ เรื่องอะไรเหรอคะ? ตึกขนาดนี้แล้วจะไม่ใช่ไปทำเรื่อง ไม่ดีหรอกนะคะ?” เย่สวนมองลู่เสี่ยงหยางอย่างละเอียดอ่อน

บนหน้าของลู่เสี้ยงหยางมีเส้นสีดาเคลื่อนผ่านสองสาม เส้น แล้วรีบพูดว่า : “ไม่ใช่หรอก เขาอกหักนะ อยากจะมา หาผมเพื่อไปดื่มเหล้าและคุยกัน”

“อ้อ ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ คุณไปเถอะแล้วกลับมาไวๆนะคะ” เย่สวนไม่สามารถพูดอะไรได้อีก ทำได้เพียงกำชับลู่เสี้ยง หยาง

หลังจากที่ลู่เลี้ยงหยางออกมาจากบ้านของเยสวนแล้วรีบ พุ่งไปที่ KTVมงกุฎด้วยรวดเร็ว
เวลายี่สิบนาที ลู่เสี้ยงหยางก็ปรากฏตัวอยู่บนชั้น บนสุดของKTVมงกุฎภายในห้องงานของถังหลง

ขณะนี้ภายในห้องทำงานของถังหลง นอกจากถังหลงและ ขุนพลที่กล้าหาญและมีพละกำลังทั้งสองคนของเขา อาเปียว และ แล้ว ยังมีผู้ชายอีกห้าคน

ในบรรดาชายห้าคนนี้ ชายในกลุ่มคนหนึ่งสวมเสื้อคลุม ตัวยาว รูปร่างแข็งแรง คิ้วหนาตาโต ดูแพรวพราวมากที่สุด ในฝูงชน

ผู้ชายอีกสี่คนล้อมรอบตัวเขาต่างเรียกเขาว่าอาจารย์

ลู่เสี้ยงหยางเพิ่งจะเดินเข้ามาในห้องทำงาน ถังหลงรีบลุก ขึ้นมาจากเก้าอี้ แล้ววิ่งเหยาะๆมาต้อนรับพร้อมกับตะโกนว่า : “ลูกพี่ คุณมาแล้ว”

ถึงแม้ว่าการแสดงออกของเขาจะกระตือรือร้น แต่ในใจ กลับมีประกายหนาวเหน็บ

ก่อนหน้านี้เขาต้องถูกเอาเปรียบตกอยู่ในกำมือของลู่เสี้

ยงหยาง ค่ำคืนนี้เขาจะเอาความยุติธรรมกลับคืนมา ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้าเล็กน้อย สายตามองไปที่ชายทั้งห้า พร้อมกับคำถามในดวงตา

ทันใดนั้นท่าทีของถังหลงเปลี่ยนเป็นเขินอายเล็กน้อยและ เอ่ยว่า : “ลูกพี่ พวกเขาคือคนที่ผมขอให้มาช่วยเองแหละครับ”

ศัตรูที่จะมาในคืนนี้นั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ดังนั้นเพื่อ ความปลอดภัยของเขา เขาจึงเชิญผู้ช่วยชื่อเฉินเหามาอีกคน

เฉินเหาผู้นี้ได้เปิดชมรมศิลปะการต่อสู้ที่เมืองปืนเหอ เป็น ที่รู้จักกันในฐานะเจ้าของโรงเรียนแห่งแรก เป็นผู้สืบทอด

ฝ่ามือทรายเหล็ก ฝ่ามือเหล็กที่สามารถงอและผ่าท่อนเหล็ก ออกได้!

สู่เสี้ยงหยางขมวดคิ้ว และไม่พูดอะไร ตั้งแต่ต้นจนจบเขา ไม่ได้แสดงถึงพลังที่ทำให้รู้สึกแตกตื่น โดยสิ้นเชิง สติปัญญา ของถังหลงที่มีในตอนนี้ก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

ช่างมันเถอะ คืนนี้จะทำให้ถังหลงได้เปิดตาดูอย่าง สมบูรณ์ก็แล้วกัน

ในเวลาเดียวกันนี้เอง ดวงตาของเฉินเหาและคนอื่นๆอีก ห้าคนก็จ้องมองไปที่ลู่เสี้ยงหยาง ท่าทางมีข้อข้องใจเช่น เดียวกัน

หลงถังยิ้มพร้อมกับกล่าวว่า : “อาจารย์เฉินครับ นี่คือลูกพี่ ผู้มีพระคุณของผม คืนนี้จะไปกับพวกเราด้วย”

สายตาของเฉินเหามองดูลู่เสี้ยงหยางอย่างละเอียดทั้งขึ้น และลง ทันใดนั้นก็เอ่ยอย่างไม่เต็มใจว่า : “แขนและขาที่ นอบบางของเขาเช่นนี้ หนังที่บางและเนื้อที่นุ่มของเขา แวบแรกก็เห็นแล้วว่าเป็นพวกรักสบายสินะ ไปกับพวกเราจะ ไม่ใช่รนหาที่ตายงั้นเหรอ?”

“เอ้อ ที่ไหนกันล่ะ อาจารย์เฉิน ลูกพี่เองก็เรียนศิลปะการ ต่อสู้นะครับ อาเปียวและเสือ ลูกน้องของผมล้วนแต่ไม่ใช่คู่ ต่อสู้ของเขา” ถังหลงรีบพูดอย่างรวดเร็ว

“อาเปียวและเสือ?” เฉินเหาหันหน้าไปเหลือบมองอาเปียว และเสือแล้วแสดงท่าทางเย้ยหยันเช่นเดียวกัน พวกเขาสอง คนก็เป็นเพียงแค่พวกไร้ความสามารถเท่านั้นแหละ ถ้าได้ พบกับคนที่ต่อสู้เป็นจริงๆเหมือนฉัน ก็มีเพียงแค่การรนหาที่ ตายเท่านั้น”

ได้ยินคำพูดที่จองหองเหล่านี้แล้ว อาเปียวและเสือโมโห จนดวงตาเบิกกว้างแล้วกำหมัดขึ้นมา แต่ก็ไม่กล้าที่จะแสดง ออกไดๆ ถึงแม้เฉินเหาจะลดค่าของพวกเขาจนไร้ค่า แต่ก็ เป็นเรื่องจริง พวกเขาเพียงแค่กระโดดใส่คนธรรมดาได้ไม่กี่ ครั้งเท่านั้น พอได้เจอกับนักต่อสู้ที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มา จริงๆมีแต่จะเป็นฝ่ายถูกจับตีเท่านั้นเอง

ใบหน้าของถังหลงไม่เป็นหน้าแล้ว คนของตนเองถูกคน ดูถูกจนไร้ค่า เขาที่เป็นลูกพี่ก็เสียหน้าเช่นกัน

แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว สุดท้ายเขาก็ไม่มีไพ่ตายที่ แข็งแกร่งในมือ และไม่มีความมั่นใจที่จะพูดคุยอย่างมั่นใจ กับนักรบที่มีความสามารถและแข็งแกร่งอย่างเฉินเหา”เอาเถอะ พวกเราไม่นินทากัน พูดเรื่องศัตรูของผมคนนี้ กันเถอะ” ถังหลงเริ่มเปลี่ยนหัวข้อ

เฉินเหาดึงเก้าอี้มาแล้วนั่งลง แล้วหลับตาทำสมาธิด้วย ท่าทางที่เย่อหยิ่ง ราวกับว่าทุกคนในที่แห่งนี้ไม่อยู่ในสาย เขาเลย

มีประกายเย็นเยียบในดวงตาของถังหลงแต่ยังคงยิ้มและ พูดว่า : “ศัตรูที่แข็งแกร่งของผมคนนี้มีชื่อว่า จางเชี่ยวเทียน หลายปีก่อนหน้านี้ เป็นแค่ขี้ข้าของผม เพราะว่ายักยอก สินค้าชุดหนึ่งของผม เลยถูกผมหักขาทั้งสองข้างแล้วไล่ออก จากเมืองปินเหอ”

“ แต่ไม่เคยคิดเลยว่า เขาทำบุญมาดี ไม่รู้ว่าไปเรียนศิลปะ การต่อสู้ที่น่าตื่นตกใจมาจากที่ไหน คาสิโนทั้งสามแห่งใน เมืองปินเหอของผมถูกเขากวาดล้าง ลูกน้องของผมร้อยกว่า คนถูกเขาทำร้ายและถูกนำส่งโรงพยาบาล

คืนนี้เขาได้เปล่งวาจาที่เหี้ยมโหดออกมาแล้วว่าต้องการ มาคิดบัญชีกับผม”

“ดูเหมือนว่าเขาก็เป็นนักรบคนหนึ่งเช่นกัน” เฉินเหา ที่ หลับตาทำสมาธิมาตลอดจู่ๆก็ลืมตาขึ้น ในดวงตามีแสง สว่างวิบวับแวบหนึ่ง

ถึงแม้ว่าในยุคปัจจุบันนี้ คือยุคแห่งเทคโนโลยีและ เศรษฐกิจ แต่ก็ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่พวกเขายังคงเรียนวิชาการต่อสู้โบราณ วิชาตัวเบา เด็ดใบไม้ทำร้ายคน ล้วน ทำได้ทุกอย่าง

“ถ้างั้นอาจารย์เฉินมีความมั่นใจว่าจะเอาชนะเขาได้ใช่ หรือเปล่า?” ถังหลงเอ่ยถามอย่างกังวลใจ

ถึงแม้ว่าเฉินเหาจะไม่ได้มีความมั่นใจเต็มที่ แต่เพราะต้อง เสแสร้ง จึงยังคงโบกมืออย่างไม่แยแสและพูดว่า : “วางใจ เถอะ ถึงแม้ว่าทุกคนจะเป็นนักรบ แต่ฉันมั่นใจว่า คนเดียวก็ เอาชนะจางเซี่ยวเทียนสิบคนได้”

“ดีล่ะ อาจารย์เฉินพูดอย่างนี้ ผมค่อยวางใจ” ถังหลงตบ ต้นขารู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก

“จางเสี่ยวเทียนคนนี้นัดให้คุณไปเจอที่ไหน พวกเราไปกัน เลยเถอะ” เฉินเหากระตุ้น

“ที่โรงงานแถวชานเมือง ” ถังหลงยิ้มพร้อมกับพูด

กลุ่มคนลุกขึ้นยืนและเดินไปทางด้านนอกของ สำนักงาน

ระหว่างทาง เฉินเหาถอยหลังมาสามสี่ก้าวแล้วเดินเคียง ไหล่มากับลู่เสี้ยงหยาง สายตาเหลือบมองดูเขาเป็นระยะ แล้วพูดอย่างดูถูกเหยียดหยามว่า : “ไอ้หนู คนอย่างนาย ก็ได้แค่ติดตามไปด้วยเท่านั้น แต่ไม่มีโอกาสได้ลงมือหรอก รอดูว่าฉันจะเอาชนะจางเสี่ยวเทียนภายฝ่ามือเหล็กของฉันได้อย่างไรแล้วกัน ถึงเวลานั้นถ้าหากนายสนใจ สามารถ ไปที่หอศิลปะการต่อสู้ของฉันเพื่อคารวะฉันเป็นอาจารย์ แล้ว ฉันจะให้ส่วนลดนาย 20%”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ