หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

บทที่ 94 คุกเข่าขอโทษ



บทที่ 94 คุกเข่าขอโทษ

เมื่อสู่เสี้ยงหยางมองเห็นเฉินห้านหลินแล้วก็ไม่ได้แสดงอา รมณ์ใดๆ เพราะโดยปกติคำพูดของอันธพาลกระจอกเช่นนี้ ไม่ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของตนเองอยู่แล้ว พร้อมกับก้าว เข้าไปในเฟยหยางกรุ๊ปโดยไม่สนใจเขา

แต่ภาพนี้เฉินห้านหลินมองว่าลู่เสี้ยงหยางหวาดกลัว ตนเองเป็นอย่างมาก เพราะว่าตนเองพูดจาเยาะเย้ยถากถาง เขาจึงไม่กล้าแม้แต่จะผายลม

“เซร็ด เย็ตแม่ เป็นพวกกระดูกอ่อนจริงๆ ไม่แปลกใจเลย ที่สามารถเป็นลูกเขยแต่งเข้าตระกูลเย่ได้ พวกเกาะผู้หญิง กิน”

เฉินห้านหลินหัวเราะเยาะ แล้วเดินไปที่ด้านข้างลู่เสี้ยง หยาง ยื่นนิ้วแล้วจิ้มไปบนหน้าของลู่เสี้ยงหยาง แล้วพูดออก มาทีละคำว่า : “เด็กน้อย ฉันเห็นนายแล้วรู้สึกคลื่นไส้ว่ะ นาย ควรจะใสหัวไปก่อนที่ฉันจะโมโหนะ”

สู่เสี้ยงหยางขมวดคิ้ว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ทะเลาะกับสุนัขที่มี ความรู้ต่ำกว่า แต่มันไม่ได้หมายความว่าเมื่อเขาถูกกัดแล้ว จะไม่สู้กลับ

“คำพูดนี้น่าจะเป็นฉันที่พูดกับนาย แนะนำเพราะว่าเมตตาหรอกนะ อย่ามาหาเรื่องฉันจะดีที่สุด ไม่อย่างนั้น นายจะต้อง เสียใจ” เสี้ยงหยางพูดอย่างเรียบเฉย

“นี่มันเป็นเรื่องที่ตลกที่สุดที่ฉันเคยได้ยินมาเลย”

เฉินห้านหลินเงยหน้าหัวเราะลั่น วินาทีต่อมาเสียงหัวเราะ ก็หยุดลง พร้อมกับจ้องมองไปทางหยางและพูดว่า “นายเอาคุณงามความดีอะไรมาส่องดูเงาของตัวเอง คุณชายน้อย ตอนนี้ฉันทำงานร่วมกับเฟยหยางกรุ๊ป และได้ รับรางวัลในโครงการเผยแพร่ผลงานของดังซูเยียนรัน มาแล้ว กำไรที่ได้รับภายในหนึ่งปี ตลอดชีวิตของนายไม่มี ทางได้เห็น ขอถามหน่อยว่านายเอาความกล้าจากที่ไหนมา บังคับฉัน?”

“เหอเหอ จากที่นายเป็นเขยแต่งเข้าบ้าน? เป็นพวกเกาะผู้ หญิงกินเหรอ?” เฉินห้านหลิน หัวเราะเย้ยหยันมากยิ่งขึ้น

ลู่เสี้ยงหยางส่ายหน้า ช่างเป็นคนที่เหมือนสุนัขน่ารำคาญ จริงๆ เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรหาหลี่ซื่อซื้อ เตรียม การให้เธอมาจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง

หลังจากวางสายแล้ว ลู่เสียงหยางหันไปมองเฉินห้านหลิน

ด้วยรอยยิ้มพร้อมกับพูดว่า : “ไสหัวไปตอนนี้ก็ไม่สายนะ ไม่ อย่างนั้น อีกสักพักจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาไล่ นายออกไป”

เงินห้านหลิน ตกตะลึงในทันที แต่แล้วยิ้มเยาะติดๆกันอย่างรวดเร็ว

สู่เสี้ยงหยางคนนี้โง่เง่ามาก กำกับเองและแสดงเองคงจะ มีความสุขมากล่ะสิ

เขาคิดว่าตัวเองเป็นผู้อาวุโสสินะที่โทรครั้งเดียวแล้วจะ ทำให้เจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยมาโยนเขาออกไปได้

ตอนนี้ตนเองได้ร่วมงานกับเฟยหยางกรุ๊ปแล้ว จึงถือว่า ตนเองเป็นแขกของเฟยหยางกรุ๊ป

“บ้าชิบ ดูท่านายจะหยิ่งยโสมากเลยนะ ถ้าเป็นอย่างนี้ ฉันก็อยากจะเห็นว่าวันนี้ใครจะถูกโยนออกไปราวกับเป็น ขยะกันแน่”

เฉินห้านหลินพูดพร้อมกับโทรหาลูกพี่รปภ หลังจากนั้นไม่นาน ลูกพี่รูปก็วิ่งเหยาะๆมากับเจ้าหน้าที่

สิบกว่าคน

ลูกพี่รปภรู้ว่าเฉินห้านหลินเป็นหุ้นส่วนของบริษัทพวกเขา จึงหัวเราะขึ้นมาทันทีแล้วเอ่ยอย่างสุภาพว่า : “ท่านเฉิน คุณ เรียกพวกเรามา มีเรื่องอะไรเหรอครับ?”

เฉินห้านหลินเหลือบมองไปทางสู่เสี้ยงหยาง แล้วพูดอย่าง ใกล้ชิดสนิทสนมที่สุดว่า : “ฉันไม่รู้ว่าเจ้าโง่นี่มาจากไหน แต่ มาที่เฟยหยางกรุ๊ปนี่เพื่อจะมาสมัครเป็นนักแสดงพิเศษ พวก นายรู้ว่าต้องทำยังไงสินะ?”
ห้ะ?

สมัครนักแสดงพิเศษ?

เซรดแม่ ไอ้หน้าจืดนี่มาผิดทางหรือเปล่า?

ลูกพี่รปภทำหน้าตึงทันทีแล้วจ้องมองไปที่ลู่เสี้ยงหยาง แล้วพูดว่า : “ไอ้บ้านี่ แม่ถึงไม่มีลูกตาเหรอ ต้องการมาหา เรื่องอะไรที่นี่?”

“ฮ่าฮ่าฮ่า” เจ้าหน้าที่ฯคนอื่นพากันส่งเสียงหัวเราะออกมา

เด็กคนนี้น่าข่าเกินไปแล้ว ศิลปินในสังกัดเฟยหยางกรุ๊ป ล้วนแล้วแต่มีชื่อเสียง

คนธรรมดาๆมาสมัครเพื่อเป็นนักแสดงพิเศษไม่ใช่การหา เรื่องให้อับอายงั้นเหรอ?

ใบหน้าของลู่เสี้ยงหยางนั้นสงบนิ่ง และไม่ได้สนใจคำพูด ของลูกพี่รปภเมื่อสักครู่นี้ พร้อมกับพูดกับเขาว่า “คุณต้อง โยนเฉินห้านหลิน ออกไป ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะไม่สามารถ รักษางานของคุณไว้ได้”

อะไรนะ?

ได้ฟังคำพูดของลู่เสี้ยงหยางแล้ว ลูกพี่ฯ และ รปภ.คน อื่นๆ ต่างพากันมองหน้ากัน

แม่งเอ้ย ไอ้หนูนี้ไม่เพียงแต่โง่เง่า แต่ยังเพี้ยนต้วยสินะ
“ช่าฮ่า ลูกพี่ นี่ต้องมาจากโรงพยาบาลโรคจิตแน่ๆเลย ครับ พวกเรารีบโยนออกไปเถอะครับ ไม่อย่างนั้นจะส่งผลก ระทบต่อภาพลักษณ์ของบริษัท” รปภ.คนหนึ่งเสนอ

“โอเค” ลูกพี่รปภพยักหน้า แล้วกวักมือเรียกพร้อมกับร้อง ตะโกนว่า : “พี่น้องเรา ให้ฉันฟาดสักเปรี้ยงก่อน แล้วค่อย โยนเขาออกไปนะ”

“ได้เลยครับลูกพี่” รปภ ส่งเสียงตอบ พร้อมกับถูหมัด กวาดเท้าเตรียมลงมือ

“หยุดนะ” แต่ในตอนนี้เอง เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งได้ ดังกังวานออกมา

หลี่ซื่อชื่อที่สวมรองเท้าส้นสูงได้รีบเดินย่ำเข้ามา

การปรากฏตัวของหลี่ซือซื้อ กลายเป็นจุดสนใจของผู้ชม ทั้งหมดทันที

สายตาของเจ้าหน้าที่ฯทั้งหมดและเฉินห้านหลิน ตกอยู่บน ตัวเธอ

หลี่ซื่อซื้อรูปร่างหน้าตางดงาม มีมาตรฐานความงามของ หญิงสาวที่เลื่องชื่อของเมือง ร่างสูงระหงและเซ็กซี่ ชุด กระโปรงแบบมืออาชีพที่พันรอบตัวเธอ เป็นโครงร่างของ สัดส่วนที่สมบูรณ์แบบ สิ่งนี้คือการรวบรวมร่างของปีศาจ และใบหน้าของนางฟ้า
“อ่า ประธานหลี่ทำไมคุณถึงลงมาด้วยตัวเองละครับ? ผม ขึ้นไปพบคุณก็ได้?” เฉินห้านหลิน ตกตะลึง รีบเดินไปทักทาย หลี่ซื้อซื้อ

แต่ หลี่ซือซื้อ ไม่แม้แต่จะมองเขาเลยสักนิด เดินวนรอบตัว เขาไปที่ด้านข้างของลู่เสี้ยงหยาง แล้วโค้งคำนับเก้าสิบ องศาอย่างไม่ลังเล พร้อมกับเอ่ยด้วยความเคารพว่า “ทำน

ประธาน มาถึงแล้วนะคะ”

อะไรนะ?

ประธาน?

ในหัวของเฉินห้านหลิน และเจ้าหน้าที่รปภ.ทุกคนต่างว่าง เปล่า สงสัยว่าหูของตนฟังผิดไป

คนธรรมดาอย่างลู่เสี้ยงหยางคนนี้ จะเป็นท่านประธานได้ อย่างไร?

คิดมาถึงตรงนี้ เฉินห้านหลินอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว แล้วรีบ ก้าวไปอยู่ข้างๆ หลี่ซือซือและพูดด้วยรอยยิ้มว่า : “ประธาน หลี่ครับ ผมรู้จักเจ้างี่เง่าคนนี้ เป็นแค่ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้าน วันนี้มาที่นี่ก็เพื่อจะมาสมัครนักแสดงพิเศษ น่าขายหน้าจริงๆ ผมเลยรีบให้รปภ.ไล่เขาออกไป”

ใบหน้าของหลี่ซื่อซือจ้องไปที่เฉินห้านหลินอย่างเย็นชา

พร้อมกับพูดที่ละคำว่า : “มีเจตนาอะไรกันแน่ ถึงใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสมกับประธานของพวกเรา?”

อำ?

เฉินห้านหลินตกตะลึง ดูเหมือนว่าเมื่อกี้นี้เขาจะไม่ได้ฟัง ผิดไปจริงๆ หลี่ชือซื้อเรียกลู่เสี้ยงหยางว่าท่านประธาน

“นี่นี่นี่..ประธานหลี่ คุณไม่ได้ล้อเล่นหรอกนะ เขาจะเป็น ประธานของคุณได้ยังไง?

เหงื่อกาฬเย็นเยียบราวกับถั่วเม็ดใหญ่ผุดขึ้นบนหน้าผาก

ของเฉินห้านหลินและพูดอย่างสั่นเทา

ลู่เสี้ยงหยางไม่ใช่พวกหมาเห่าใบตองแห้งที่เกาะผู้หญิง กินหรือไง? ทำไมจู่ๆถึงกลายเป็นประธานได้ล่ะ?

หลี่ซื่อซื้อ ไม่ตอบค่าถามปัญญาอ่อนของเฉินห้านหลิน แต่ ถามลู่เสี้ยงหยางด้วยความเคารพว่า “ประธานคะ ต้องการ จะลงโทษเขาอย่างไรคะ?”

คู่เสี้ยงหยางยิ้มอย่างเฉยเมย “คุณจัดการตามสมควรแล้ว กัน การขาดวิสัยทัศน์เช่นนี้จะมีคุณสมบัติร่วมงานกับเฟย หยางกรุ๊ปของพวกเราได้ยังไง?”

“อืม” หลี่ชื่อซื่อ พยักหน้ารู้แล้วว่าควรทำอย่างไร แล้วหัน หน้าไปทางเฉินห้านหลินพร้อมกับเอ่ยอย่างไร้ความเมตตา ว่า “นับจากนี้ไป การร่วมมือระหว่างคุณกับเฟยหยางกรุ๊ป ของพวกเราถือว่าได้สิ้นสุดลงทั้งหมด นอกจากนี้จะให้เวลาคุณหนึ่งนาทีเพื่อหายไปจากที่นี่”

“ไม่ไม่ไม่ได้นะ” เฉินห้านหลิน ตัวสั่นไม่หยุด ใบหน้าของ เขาซีดเผือดในทันที เพื่อที่จะได้ร่วมงานกับเฟยหยางกรุ๊ป พูดได้ว่าเขาได้ทุ่มเทจนหมดทุกอย่างจนตัวตาย ให้เงินค่าน้ำ ร้อนน้ำชากับทุกคนไปทั่ว

จนถึงตอนนี้ที่ลงทุนไปยังไม่ได้กำไรกลับคืนมา ถ้าหาก การร่วมงานกับเฟยหยางกรุ๊ปถูกยกเลิก กางเกงก็คงไม่มีใส่ แล้วจริงๆ

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินห้านหลิน ก็คุกเข่าลงและเริ่มร้องขอ ความเมตตาด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ : “ประธานหลี่เมื่อครู่นี้ เพราะผมมีตาหามีแววไม่ ทำให้ประธานของคุณไม่พอใจ เห็นแก่ความเสียสละที่ผมทำเพื่อเฟยหยางกรุ๊ป คุณยกโทษ ให้ผมสักครั้งเถอะนะครับ”

หลี่ซื่อซื้อไม่สนใจพร้อมกับกลอกตาและพูดว่า “ถ้าตอนนี้ คุณคุกเข่าขอโทษท่านประธานของพวกเรา ประธานอาจจะ พิจารณาว่าต้องการร่วมมือกับคุณต่อไปหรือไม่”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถึงแม้ว่า เฉินห้านหลิน จะรู้สึกอับอาย แต่ ว่าเพื่อการพัฒนาในอนาคต เขาไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะ คุกเข่าลงต่อลู่เสี่ยงหยาง : “ลู่ ประธานสู่ครับ เป็นเพราะผม ไม่ดีเอง เพราะผมทำตัวดูหมิ่นคนอื่น คุณอย่าได้ทะเลาะกับ คนที่ความรู้ต่ำกว่าเลยนะครับ เกรงว่าสถานะของคุณจะตกต่ำลง”

อำ! เขรดเข้? นี่มัน?

เจ้าหน้าที่รปภ.ทุกคนต่างหวาดกลัวและหวาดระแวงทันที คิดไม่ถึงเลยว่าผู้ยิ่งใหญ่อย่างเฉินห้านหลินจะคุกเข่าลง ที่ไหนได้ในซณะที่พวกเขาทุกคนยังคงลังเลไปชั่วขณะ กลับ

คุกเข่าลงต่อสู่เสี้ยงหยางแล้วร้องขอความเมตตา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ