หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

บทที่ 22 ความร้ายกาจของเย่หยุนเทา



บทที่ 22 ความร้ายกาจของเย่หยุนเทา

ฟังที่ท่านย่ากล่าวออกมาแล้วนั้น ใบหน้าของพวกเย่ หยุนเทาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เห็นได้ชัดเจนว่ากำลังรอดู เรื่องตลกของลู่เสี้ยงหยาง

ลู่เสี้ยงหยางเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลของเย่สวน วันๆไม่ทำอะไร ถ้าจะเอาเงินจากเขาสามแสนกว่า เกรง ว่าเอาชีวิตเขาจะง่ายกว่า

ยิ่งไปกว่านั้นท่านย่าได้สั่งห้ามใครช่วยเขาทั้งนั้น

เย่สวนกัดริมฝีปากแน่น เธอรู้ว่า พฤติกรรมเมื่อสักครู่ ของลู่เสี้ยงหยางมันเกินไปจริง ได้ล่วงเกินท่านย่าเข้า แล้ว ท่านย่าอยากให้ลู่เสี้ยงหยางเห็นอำนาจบารมีของ ตน

หลิวจิ้งส่งเสียงฮีในจมูก ยิ้มเยาะเย้ยลู่เสี้ยงหยาง “เมื่อ ครู่เห็นว่าอยากไปมากไม่ใช่หรือ แล้วทำไมไม่รีบไปหล่ะ ถ้าคุณไม่มีเงินก็ยอมรับชะตากรรมซะ ยอมเป็นทาสรับ ใช้ชื่อๆแต่โดยดี”

“ฮา ฮา ฮา” เสียงหัวเราะเยาะดังขึ้นอีกครั้ง

เย่สวนเดินเข้าไปหาลู่เสี้ยงหยาง พูดชักชวนว่า “คุณย่าเป็นคนใจกว้าง คงจะไม่ถือสาคุณหรอก ตอนนี้ คุณก็ก้มหัวขอโทษคุณย่า แล้วกลับมาที่ตระกูลเย่ของ พวกเราอีกครั้ง ก็จะสามารถยกเว้นค่าอาหารของวันนี้ได้”

เธอมั่นใจว่าลู่เสี้ยงหยางจะไม่สามารถจ่ายค่าอาหาร

ได้อย่างแน่นอน โอกาสเดียวคือการกลับไปที่ตระกูลเย่ ลู่เสี้ยงหยางยังไม่ทันตอบ เย่หยุนเทาหัวเราะแปลก ๆ รับช่วงต่อและกล่าวว่า “เย่สวนคุณคิดง่ายเกินไปแล้ว ถ้า ลู่เสี้ยงหยางต้องการกลับมาที่ตระกูลเย่ของพวกเรา จริง นอกจากจะคุกเข่าขอโทษคุณย่าแล้ว ยังต้องแสดง การกระทำที่จริงใจ เมื่อครู่เขาถุยน้ำลายลงในถังขยะ เขาก็ต้องไปเลียให้สะอาด”

คำพูดของเขาแสดงชัดเจนว่าอยากจะกลั่นแกล้งลู่เสี้ หยางหยาง

ลู่เสี้ยงหยางใบหน้าไม่แสดงความรู้สึก สายตากวาด มองไปรอบๆ เก็บสีหน้าและปากอันน่ารังเกียจของท่าน ย่าและคนพวกนี้ไว้ในใจ

เขาไม่ใช่คนใจกว้าง คนที่ คนที่ล่วงเกินเขา เขาจะ คืนให้ทีละคน

“คำนวณเถอะ ของฉันต้องจ่ายเท่าไหร่” ลู่เสี้ยงหยาง สงบความรู้สึกเย็นยะเยือกในใจลง แล้วถามพนักงาน สาวสวย

เนื่องจากความแปลกๆของพวกตระกูลเย่ พนักงาน สาวสวยจึงไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อลู่เสี้ยงหยาง ดังนั้นจึง พูดแบบไม่ค่อยดี “สามแสนห้าหมื่นแปดร้อย”
“อืม” ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้า แล้วหยิบบัตรธนาคารออก จากกระเป๋า ยื่นให้พนักงานสาวสวย “รูดการ์ด”

“อืม” พนักงานสาวสวยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย หรือ ว่าลู่เสี้ยงหยางจะมีเงินสามแสนห้าหมื่นแปดร้อยจริงๆ

ด้วยความสงสัย พนักงานสาวสวยรับบัตรธนาคารของ ลู่เสี้ยงหยางมา เตรียมจะรูดการ์ด

วินาทีนี้ เย่หยุนเทาไม่เชื่อว่าในบัตรของลู่เสี้ยงหยาง จะมีเงินจำนวนสามแสนห้าหมื่นแปดร้อย พูดเตือน พนักงานสาวสวยด้วยความหวังดีว่า “พวกคุณต้องเรียก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเฝ้าประตูไว้นะ คน ยากจนบางคน ไม่แน่ว่าเขากำลังเตรียมจะหลบหนี แล้ว.”

ติ่ง

เขายังไม่ทันพูดจบ ทันใดนั้นเสียงที่ชัดเจนก็ดังมาจาก เครื่องรูดบัตรเครดิต แล้วมีสลิปตามออกมา

รูดบัตรสำเร็จ

“อืม…มีเงินจริงๆ” พนักงานสาวสวยมือสั่น เครื่องรูด บัตรเครดิตเกือบตกพื้น ลู่เสี้ยงหยางน่าจะเป็นลูกเขยคน แรกที่มีเงินติดตัวมากมายขนาดนี้มั่ง

“บ้าจริงๆ เป็นไปได้ไง” เย่หยุนเทาคำพูดเหน็บแนมใน ปากถูกสำลักกลับทันที เริ่มอุทานออกมา

“ไม่ไม่ไม่เป็นไปไม่ได้” เย่ซวงส่ายหัวไม่หยุดยากที่จะยอมรับความจริงนี้ เธอชอบดูผู้ชายที่ขีขลาดตาขาว และไม่มีความสามารถของเย่สวนอับอายขายขี้หน้ามาก แต่ตอนนี้เขาสามารถจ่ายสามแสนห้าหมื่นแปดร้อยได้ จริงๆ

“นี่ ….” แม้แต่ท่านย่าก็ยังไม่อยากจะเชื่อสายตา ลู่เสี้ ยงหยางไปเอาเงินมากมายขนาดนี้มาจากไหน แต่เดิม เธอไม่ได้ตั้งใจจะแกล้งลู่เสี้ยงหยาง แต่ลู่เสี้ยงหยางโต้ กลับ ตบหน้าเธออย่างแรง

เย่สวนจ้องมองลู่เสี้ยงหยางอย่างตกตะลึง ลู่เสี้ยง หยางอยู่บ้านพวกเขามาสามปี ค่าครองชีพเดือนละแค่ หนึ่งพันห้าร้อย ถึงแม้จะเก็บทั้งหมดไว้ก็ไม่น่าจะได้เยอะ ขนาดนี้

หลิวจิ้งสีหน้ายิ่งอยู่ยิ่งแย่ เธอคิดว่าเงินส่วนนี้เย่สวน ต้องเป็นคนแอบเอาให้ลู่เสี้ยงหยางแน่ๆ

ในขณะที่ทุกคนมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ลู่เสี้ยง หยางหยิบบัตรธนาคารที่พนักงานสาวสวยส่งมาให้ แล้ว ก็เดินออกไปทันที

มองตามหลังของลู่เสียงหยาง คนตระกูลเย่ก็แอบ

หัวเราะเยาะ

เย่สวนนั่งตะลึง มึนงง รู้สึกได้รับผลกระทบอย่าง อธิบายไม่ได้ ราวกับว่าสิ่งสำคัญใน

ชีวิต

กำลังจะสูญหาย ต่อมา เย่สวนก็ไม่มีอารมณ์ทานข้าวต่อแล้ว ออกไปจากร้านอาหารร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่ง หลิวจิ้งรู้สึก ไม่ปลอดภัยที่จะอยู่คนเดียว จึงตามเยสวนออกไปด้วย

รอจนกว่ามองเยสวนกับหลิวจิ้งออกไปแล้ว ทันใดนั้น ท่านย่าก็ตบต้นขา แล้วเร่งเย่หยุนเทาว่า “หยุนเทา รีบไป หาปิ่นปักผมในถังขยะออกมาให้ฉัน”

เมื่อคิดถึงปิ่นปักผมราคาห้าสิบล้าน ถูกลู่เสี้ยงหยาง ทำลายในพริบตา ในใจของเธอก็มีเลือดหยดไม่หยุด หวังว่าโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมนี้จะสามารถฟื้นฟูได้ ไม่มีผลต่อมูลค่าของมัน

“อืม.คุณย่า นี่ ” เย่หยุนเทาสีหน้าแย่มาก ในใจ รู้สึกขยะแขยงมาก เมื่อครู่ลู่เสี้ยงหยางโยนปิ่นปักผม เข้าไปในถังขยะแล้วยังคายน้ำลายลงไปด้วย เขาเป็น คนหยิ่งยโสขนาดนั้น จะไปค้นขยะได้อย่างไร

“รีบไป” เห็นว่าเย่หยุนเทาไม่ขยับตัว ท่านย่าตบโต๊ะอีก ครั้ง

“ตกลง คุณย่า” เย่หยุนเทาอดทนกลั้นความอยาก อาเจียนไว้ แล้วไปที่ข้างถังขยะเริ่มค้นหา

สิบวินาทีต่อมา เย่หยุนเทาค้นหาปิ่นปักผมที่หักเป็น หลายๆชิ้นออกมาจนครบ หลับตาแล้วเช็ดน้ำลายที่อยู่ บนปิ่นปักผมจนสะอาด แล้วยื่นให้ท่านย่า

ท่านย่ารูม่านตาหดตัวอย่างรวดเร็ว สีหน้าตื่นเต้น รับ ปิ่นปักผมมาอย่างระมัดระวัง
“ตาจางหัวโบราณ คุณลองดูอีกครั้ง ปิ่นปักผมนี่ยัง สามารถประมูลใหม่ได้หรือไม่” ท่านย่ารีบถามจางเทียน เฉิงทันที

จางเทียนเฉิงส่ายหัว ด้วยสีหน้าที่เสียใจ “ยากมาก ปิ่น ปักผมอันนี้ก่อนหน้านี้หักเป็นสองส่วน แต่แผลนั่นมันให้ ความรู้สึกของช่วงอายุ ไม่มีผลต่อมูลค่า แต่ตอนนี้มีรอย แตกหักใหม่มากมาย บอกได้ว่าเป็นของที่เสียหายแล้ว ถ้าจะประมูล อย่างดีที่สุดก็คุ้มค่าแค่ห้าถึงหกแสน”

อะไร จางเทียนเฉิงพูดเช่นนี้ ท่านย่ารู้สึกหัวใจถูกบีบ เกือบกระอักเลือดออกมา หน้าซีดแล้วเป็นลมไป

“โอ้แม่ ท่านเป็นอะไร”

“คุณย่า ตื่นเร็ว ท่านอย่าทำให้พวกเราตกใจนะ” ทุกคนในตระกูลเย่วุ่นวายไปหมด รีบส่งท่านย่าไปโรง พยาบาล

โชคดีที่ร่างกายของท่านย่าไม่มีปัญหาอะไร แค่กังวล มากจนเป็นลม นอนพักที่โรงพยาบาลหนึ่งคืนก็ออกจาก โรงพยาบาลแล้ว

เวลาผ่านไปเร็วมาก สามวันผ่านไปในพริบตา คืนนี้ เย่เจิงกั๋วและเย่หยุนเทามาวิลล่าของท่านย่า เย่เจิ้งกั๋วยิ้มแล้วถาม “แม่ ฉันมีเรื่องอยากจะปรึกษาท่าน”

“พูดสิ” ท่านย่าพยักหน้า

เย่เจิงกั๋วหัวเราะแห้ง ๆ แล้วพูดว่า “พรุ่งนี้ หยูเม่ยหยิน กรุ๊ปเป็นเจ้าภาพในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ ธุรกิจ ตระกูลเย่ของพวกเราก็ได้รับบัตรเชิญด้วย แต่ ไม่รู้ในบัตรเชิญได้ระบุหรือไม่ว่า ตระกูลเย่ของพวกเรา สามารถเข้าร่วมได้กี่คน”

แม้ว่าก่อนหน้านี้ท่านย่าจะเคยกล่าวไว้แล้วว่า ถึงแม้จะ เข้าร่วมได้เพียงคนเดียว ก็จะต้องเป็นเย่หยุนเทาไป เย่ หยุนเทาสามารถเข้าร่วมได้ 100% แต่เขาก็อยากไป เพราะการเข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการธุรกิจที่มีหยู เม่ยหยินกรุ๊ปเป็นเจ้าภาพ ถือเป็นการยืนยันตัวตนด้วย

ท่านย่ายิ้ม มองเห็นความต้องการของเย่เจิงกั๋ว กล่าว ว่า “มีทั้งหมดสี่คน แต่เดิมฉันคิดว่า ฉันจะพาเย่หยุนเทา เย่ซวง เย่สวนพวกเขาสามคนไปเปิดโลกทัศน์ แต่ตอน นี้ดูเหมือนว่าความอยากรู้อยากเห็นของคุณไม่เปลี่ยนไป จากปีนั้นเลย ถ้าเป็นเช่นนี้ เย่สวนก็ไม่ต้องไปแล้ว คุณ ไปแทนแล้วกัน”

“ได้ แม่ ฉันก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน ท่านชาญฉลาดจริงๆ เย่สวนเด็กผู้หญิงคนนั้นทำให้ครอบครัวเราต้องอับอาย ไปเข้าร่วมสัมมนา เกรงว่าตระกูลของพวกเราจะกลาย เป็นจุดอ่อนที่น่าหัวเราะขบขันของทุกคน เธอไม่ไปก็ ดีแล้ว” เย่เจิ้งกั๋วหัวเราะเสียงดัง
“ใช่ คุณย่า ฉันคิดว่า เยสวนก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ ต้องไปเข้าร่วมการสัมมนา และเธอก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะ เป็นประธานของชิงสุยกรุ๊ปอยู่แล้ว ท่านควรจะหาคนที่ เหมาะสมมารับตำแหน่งเร็วๆ คุณย่า ท่านลองคิดดูดีๆนะ คนขี้ขลาดตาขาวและไม่มีความสามารถอย่างลู่เสี้ยง หยาง ในบัตรมีเงินตั้งสามแสนกว่าหยวน ท่านไม่รู้สึกว่า มันมีเรื่องลับลมคมในเหรอ ฉันคิดว่าน่าจะเป็นเงินของชิง สุยกรุ๊ปที่ถูกคนขี้ขลาดตาขาวและไม่มีความสามารถคน นั้นแอบยักยอกไปไม่น้อยแน่ๆ” เย่หยุนเทาพูดอย่าง ร้ายกาจ เขามีแผนการในใจและคิดจะเริ่มแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ