หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

บทที่ 63 คอยดูเอานะว่าฉันจะเล่นงานเขายังไง



บทที่ 63 คอยดูเอานะว่าฉันจะเล่นงานเขายังไง

บทที่ 63 คอยดูเอานะว่าฉันจะเล่นงานเขายังไง ต่อจากนั้น ลู่เสี้ยงหยางก็ไม่ได้อยู่ในห้องนี้ต่อ เดินนำเย่สวนกับซุนหยันเสว่ออกจากห้องไป

ตอนนี้ใบหน้าของเธอทั้งสองคนบวมเหมือนหมู จำเป็นต้องทำแผลโดยด่วน ถ้าปล่อยให้ยืดเยื้อ หลัง จากที่ทำแผลเสร็จแล้ว ก็จะทิ้งรอยเอาไว้บนหน้า

ส่วนทุกคนที่อยู่ในห้องก็มองส่งพวกลู่เสี้ยงหยาง ออกไปจนลับสายตา ตอนนี้ทุกคนรู้สึกช็อกเป็นอย่าง

มาก

ก่อนหน้านี้พวกเขาคงตาบอดจริงๆ ถึงได้มองว่าลู่

เสี้ยงหยางเป็นแค่ขยะที่ไม่มีประโยชน์ชิ้นหนึ่ง แต่ใคร

จะไปคิดล่ะ ว่าเขาจะเป็นสัตว์ป่าน่ากลัวที่แฝงตัวอยู่

ในคราบหมูโง่ๆตัวหนึ่ง

แม้แต่บอสใหญ่อย่างซุนสงกับหม่าเจียงหลิ่งยัง ต้องก้มหัวให้เขา

ซูเยียนรันมีสีหน้าลุ่มลึก ลู่เสี้ยงหยางเป็นคนที่มี อำนาจบาตรใหญ่มากที่สุดในบรรดาผู้ชายที่เธอเคย

เจอมา

แต่คิดว่าแค่นี้จะทำให้เธอเปลี่ยนใจได้เหรอ แน่นอนว่าไม่

เธอยังคงเชื่อว่ามันเป็นสังคมในยุคเศรษฐกิจ เป็นยุคที่จำเป็นต้องอาศัยแรงงานหากิน ถ้าอาศัยแค่แรง หมัดของคนคนเดียวๆก็ชนะได้แค่ชั่วครู่ ไม่ได้แปลว่า จะชนะได้ตลอดไปเสียหน่อย

“ฉันจะรอดูว่าต่อจากนี้คุณจะมีอะไรมาให้ฉัน เซอร์ไพรส์อีก หมัดของคุณมันแรงพอจะสร้างโลก ใหม่ได้ไหม?” ซูเยียนรันพูดในใจ

ณ โรงพยาบาล

ลู่เสี้ยงหยางพาเยสวนกับซุนหยันเสว่มาที่ห้อง ตรวจแผนกศัลยกรรม

หลังจากทำการตรวจเสร็จ คุณหมอก็วินิจฉัยว่า ทั้งสองได้รับบาดเจ็บแค่ผิวชั้นนอก ไม่ได้บาดลึกถึง กระดูก แต่ต้องทายาและทานยา และพักฟื้นอีกสักวัน สองวันก็สามารถหายกลับไปเป็นปกติได้

ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลังจากที่ออกมาจากโรง พยาบาล ลู่เสี้ยงหยางก็ไปสงซุนหยันเสว่กลับบ้าน จากนั้นถึงได้กลับไปพร้อมเย่สวน

ระหว่างทาง เย่สวนก็ถามคำถามที่อยู่ในใจออกมา

“คู่เสี้ยงหยาง คุณเป็นอันธพาลใช่ไหม?”

เพราะเย่สวนได้รับการศึกษาที่ดี จึงรังเกียจเรื่อง ต่อยตีของคนกลุ่มนี้เอามากๆ

ถ้าหากลู่เสี้ยงหยางเป็นอันธพาลจริงๆ เธอก็คงรับ ไม่ได้อย่างเด็ดขาด
ลู่เสี้ยงหยางส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่ใช่”

เย่สวนเริ่มขมวดคิ้ว แล้วถามต่อว่า “แล้วทำไมเจ้า ฟอใต้ดินอย่างซุนสง ถึงได้เรียกคุณอย่างนั้นล่ะ?”

สู่เสี้ยงหยางยิ้มขำ พูดว่า “การที่ผู้ชายเรียกกัน อย่างนั้น มันแปลกเหรอ?”

“..” เย่สวนหมดคำจะพูด รับประทานจุดไปชั่ว

ขณะ

“โอเค งั้นฉันขอถามคุณใหม่ ทำไมซุนสงถึงต้อง ช่วยคุณ?”เย่สวนเอ่ยถามอีกครั้ง

ลู่เสี้ยงหยางยิ้มแหะๆ “เขาเป็นน้องชายของหวัง หยุนเลยรู้จัก”

“หือ ใช่เหรอ? เหอะๆ ฉันไม่สนหรอกนะว่าคุณพูด จริงหรือเปล่า แต่ถ้าคุณกล้าเป็นอันธพาลล่ะก็ ฉันไม่

ยอมจริงๆด้วย” เย่สวนพูดออกมาอย่างจริงจัง

ลู่เสี้ยงหยางเงียบ ทำแค่พยักหน้ายิ้มอ่อนๆ

ที่เยสวนเป็นห่วงเขา นั่นก็เพราะว่าในใจของเธอ แอบยอมรับเขาแล้วนะสิ

เช้าวันรุ่งขึ้น ลู่เสี้ยงหยางตื่นขึ้นมาทำข้าวเช้า ส่วนเย่สวนก็กำลังตั้งอกตั้งใจแต่งหน้า เพื่อกลบรอย ม่วงซ้ำบนใบหน้า

เมื่อวานหลังจากที่เธอทำแผลที่โรงพยาบาลเสร็จ บริเวณที่บวมก็ยุบลงบ้างแล้ว ตอนนี้มีแค่บางส่วนที่ช้ำนิดหน่อย

ในระหว่างที่ทานอาหารเช้า บนโต๊ะอาหาร หลิว งมองไม่เห็นความผิดปกติใดๆบนใบหน้าของเย่สวน เมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้ ก็พูดกับเย่สวนว่า “สวนจื่อ หุ้น51%ของตระกูลเย่กรุ๊ปที่แกถือครองอยู่ตอนนี้ รวม ถึงเงินทุนที่มีอยู่ในมือแกก็น่าจะไม่ติดขัดอะไร แกก็ เห็นว่าฉันทำงานเหนื่อยมาทั้งชีวิตกว่าจะดึงแกขึ้นมา อยู่สูงขนาดนี้ได้ มันคงถึงเวลาแล้วที่ฉันควรมีเวลาใช้ ชีวิตอย่างสุขสบายสักที”

เมื่อเธอพูดประโยคนี้ออกมา เย่สวนก็รู้สึกใจไม่ดี แม่ของเธอต้องก่อเรื่องอะไรไว้แน่ๆ

“เหอะๆ” หลิวจิ้งหัวเราะ แล้วพูดต่อว่า “สวนจื่อ แก ดูอย่างครอบครัวของลุงใหญ่ ลุงสองและลุงสามสิ พวกเขาได้อยู่ในคฤหาสน์ที่หรูหรา และนั่งรถหรูๆ ส่วน ฉันต้องนั่งรถเก่าๆออกไปข้างนอกทุกวัน ขับออกไปก็มี แต่ขายขี้หน้าคนอื่นเขา ตอนนี้การเงินของแกก็ลื่น ไหลนี่ ซื้อรถหรูๆให้ฉันสักคันสิ ถ้าฉันขับออกไปคนจะ ได้นับหน้าถือตาแกด้วยนะ”

เมื่อวานหลิวจิ้งออกไปช็อปปิ้งกับเพื่อนๆ เพราะว่า เธอขับรถธรรมดาๆ เลยถูกเพื่อนๆหัวเราะเยาะอยู่นาน ดังนั้นเธอเลยคิดอยากจะเปลี่ยนรถขับ

เย่สวนหมดคำจะพูดในทันที “ครอบครัวของพวก ลุงใหญ่ลุงสองและลุงสามซื้อรถพวกนั้นมาจากเงินที่ โกงกินบริษัทนะ หรือว่าแม่ก็อยากให้ฉันโกงแบบนั้นเหมือนกันเหรอ?”

หลิวจิ้งพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ครอบครัวพวก เขาทำได้ แล้วทำไมแกจะทำบ้างไม่ได้ล่ะ ฉันจะบอก อะไรให้นะ แกต้องโกงให้มากกว่าที่พวกเขาโกงมันถึง จะเท่าเทียม ถือซะว่าเป็นการชดเชยให้ครอบครัวเรา หลายปีที่ผ่านมาก็แล้วกัน”

” เย่สวนรับประทานจุด เธอเป็นคนมีคุณธรรม ในตัวสูงมาก แล้วเธอจะใช้เงินที่ตระกูลหวังลงทุนให้ บริษัทมาซื้อรถหรูให้แม่ตัวเองได้ยังไง

“แม่คะ ถ้าแม่อยากได้รถใหม่ รอฉันเก็บเงินก่อน ได้ไหม ฉันจะซื้อให้แน่ๆ แต่เรื่องโกงเงินบริษัทน่ะ ฉัน ทำไม่ได้จริงๆ”เย่สวนพูดออกมาอย่างเด็ดเดี่ยว

“เฮ้อ แก๊งโตมากแล้วสินะ ถึงได้ปีกกล้าขาแข็ง ถึงนี้ แค่คำขอของแม่แกยังไม่ยอมตอบตกลงช่วย เพราะตอนนี้แม่ยังไม่แก่ แกเลยคิดว่าไม่จำเป็นต้อง เลี้ยงดูก็ได้สินะ แกทำอย่างนี้ ถ้าในอนาคตแม่แก่ตัว ลง คงต้องถูกแกเฉดหัวออกจากบ้านแน่ๆ ฮือๆ..” หลิว จิ้งพูดพร้อมกับร้องไห้ออกมา

นี่คือความสามารถที่ไม่มีใครเหมือน ทุกครั้งเมื่อ ลูกสาวขัดใจเธอ เธอก็จะเริ่มแสร้งทำเป็นน้อยอก น้อยใจ

สุดท้ายเยสวนก็ทนเห็นหลิวจิ้งทำตัวน่าสงสารต่อ ไปไม่ได้ จึงตอบตกลงอย่างฝืนๆ
หลิวจิ้งเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า จากนั้นก็ยิ้ม ดีใจแล้วพูดว่า “นี่สิลูกลูกสาวแม่ ไม่เสียแรงที่แม่เลี้ยง ดูแกมา”

พูดถึงตรงนี้เธอก็ไม่ลืมพูดกระทบกระทั่งลู่เสี้ยง หยางว่า “ครอบครัวอื่นเขามีแต่ลูกเขยซื้อรถให้แม่ยาย ส่วนแกนี่ก็ดีเนอะ วันๆเอาแต่เกาะครอบครัวพวกฉันกิน ช่างเป็นคนไม่ได้เรื่องจริงๆ ชาติก่อนฉันไปทำกรรม อะไรไว้นะ ถึงได้แกมาเป็นลูกเขยเนี่ย”

พูดมาถึงตรงนี้ เธอก็ถอนหายใจออกมา “แต่ว่าอีก เดี๋ยวฉันก็จะได้ขับรถหรูๆแล้ว ฐานะก็จะสูงมากกว่า ตอนนี้เป็นเท่าตัว แล้วทำไมฉันต้องมาคอยคิดเล็กคิด น้อยกับผีตายอดตายอยากอย่างแก เพื่อทำให้ฐานะ ของฉันต่ำลงด้วยล่ะ”

หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จ เย่สวนกับลู่เสี้ยงหยาง ก็ออกไปข้างนอกด้วยกัน

เพิ่งออกมาได้ไม่ทันไร เย่สวนก็พูดขอโทษลู่เสี้ยง หยาง “ที่แม่ฉันว่าคุณเมื่อกี้ เธอพูดไม่ดีจริงๆนั่นแหละ คุณอย่าไปถือสาเธอเลยนะ เธอก็เป็นคนปากร้ายใจดี อย่างนี้แหละ”

ลู่เสี้ยงหยางพูดกลัวยิ้มว่า “ผมไม่สะทกสะท้าน หรอก”

“อืม คุณคิดได้อย่างนี้ ฉันค่อยสบายใจหน่อย” เย่ สวนยิ้ม
ต่อมา เยสวนก็ไปทำงานที่ชิงสุ่ยกรุ๊ป ส่วนลู่เสี้ยง หยางก็ไปที่ร้าน BMW 4S

เขารู้จักนิสัยของเย่สวนดี เธอไม่มีทางยักยอก เงินบริษัทเพื่อไปซื้อรถให้แม่เธอแน่ เดาว่าคงไปแอบ ยืมเงินจากเพื่อนเงียบๆ

เขาไม่อยากเห็นเธอทำอย่างนั้น เพราะงั้นรถคันนี้ เขาเลยว่าจะเป็นคนซื้อให้เอง

สิบนาทีต่อมา ลู่เสี้ยงหยางก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า มาถึงทางเข้าร้าน BMW 4S

ในร้าน BMW 4S พนักงานขายสาวสวยกำลังนั่ง รวมกลุ่มกัน พูดโอ้อวดถึงเครื่องสำอางค์ที่แฟนหนุ่ม ของตัวเองซื้อให้

ทันใดนั้นหางตาของพนักงานคนหนึ่งก็เหลือบมา เห็น ลู่เสี้ยงหยางที่กำลังจอดรถอยู่นอกร้าน จากนั้นก็ หัวเราะเยาะออกมาทันที “นี่มันยุคสมัยไหนแล้ว ยังมี คนขี่มอเตอร์ไซค์พังๆอยู่อีกเหรอ กล้าขับมาถึงที่นี่ คิด ว่าตัวเองซื้อรถที่นี่ได้หรือไง?”

“ใครว่าเขามาซื้อรถ มาลองรถเฉยๆล่ะสิไม่ว่า”

“ฮ่าๆๆ ผู้ชายแบบนี้น่ารังเกียจชะมัด ไปเอาความ กล้ามาจากไหนนะ” “นี่เพื่อนๆ ฉันว่านะเราไม่ต้องออกไปต้อนรับเขา

หรอก ปล่อยไว้อย่างนั้นล่ะเดี่ยวเขาก็ออกไปเอง” จากนั้น พวกพนักงานสาวสวยก็เริ่มคุยกันเป็นต่อยหอย

เมื่อลู่เสี้ยงหยางเดินเข้ามาในร้าน BMW 4S ก็ไม่มี ใครสนใจเขาจริงๆ

สู่เสี้ยงหยางขมวดคิ้ว แต่คนที่รู้จักรถทุกยี่ห้อเป็น อย่างดีแบบเขาไม่จำเป็นต้องมีคนพวกนี้มาคอยแนะนำ ให้ก็ได้ เขาจึงเดินไปที่รถBMW M8ด้วยตัวเอง

คู่เสี้ยงหยางลูบรถคันนั้นเบาๆ แล้วพูดพึมพำว่า “รถสองประตูอย่างนี้ เย่สวนต้องชอบมากแน่ๆ”

“โห! คนอนาถาพรรค์นั้นกล้าไปดูรถคันที่แพง ที่สุดในร้านเราเลยเหรอ ถ้าลูบจนสีหลุด คิดว่ารับผิด ชอบไหวหรือไง?” พนักงานสาวสวยขาเรียวยาวพูด ด้วยใบหน้าบูดบึ้ง

“เหอะๆ แค่คนโง่คนหนึ่ง ได้ใจใหญ่เลยนะ ลูบ หนึ่งครั้งคิดหมื่นหนึ่ง คอยดูเอาไว้นะว่าฉันจะเล่นงาน เขายังไง” พนักงานสาวสุดเซ็กซี่แสยะยิ้มเย็นออกมา

“เอาเลย รีบไปๆ ฉันจะอัดวิดีโอให้ ถ้าโพสต์ลงใน เน็ตไม่แน่แกอาจจะดังก็ได้นะ” พนักงานสาวขาเรียว พูดยั่วยุ พนักงานสาวเซ็กซี่จึงก้าวเดินไปทางลู่เสี้ยง หยาง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ