หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

บทที่ 164 เกิดเรื่องขึ้นกับแม่ยาย



บทที่ 164 เกิดเรื่องขึ้นกับแม่ยาย

ตกตึก สถานีตำรวจปินเหอ บรรยากาศที่ค่อนข้างประหลาด

ตอนเช้าได้รับแจ้งบุคคลสูญหาย สถานีตำรวจออกตามหา ในทันที กระทั่งตอนนี้ยังไม่พบตัว

กลางดึก หน้าสถานีตำรวจปรากฏร่างปริศนาไร้เศียร

ต่อมาได้รับการยืนยัน ร่างไร้วิญญาณดังกล่าวเป็นคน เดียวกันกับบุคคลแจ้งสูญหายไป่เส้าหัว

หลายวันมานี้ หน้าสถานีตำรวจปืนเหอปรากฏร่างไร้ วิญญาณเศียรขาดทุกคืน

บวกกับวันนี้ เป็นรายที่หกเข้าไปแล้ว

ทางด้านตำรวจยังไม่พบผู้ก่อเหตุ มีเพียงพยานปากจาก ชาวบ้าน ผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มควันตำ ชาวบ้านต่างร่ำลือว่าเป็น พลังเหนือธรรมชาติ

ทางตำรวจเองรู้สึกกดดันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เหยื่อทั้ง หกคน ต่างเป็นลูกหลานผู้ดีทั้งนั้น

ในเวลาเดียวกัน

บ้านตระกูลหลัวแห่งเหอปิน หลัวเจินเจิน
หลัวเจินเจินเป็นศรีภรรยาของไปเส้าหัว หลังถูกตำรวจ สอบปากคำเมื่อสักครู่ ในตอนนี้เธอแน่นึ่งเสมือนวิญญาณ ออกจากร่าง

เมื่อกลางวัน เธอทะเลาะกับไป๋เส้าหัว ภายใต้ความโกรธ เขาไม่สามารถควบคุมตนเองได้จนพลั้งมือทำร้ายเธอ ก่อนที่ จะออกจากบ้านไป หลังจากนั้นได้เกิดเหตุไม่คาดฝันกับเขา ขึ้น

หลัวเจินเจินผ่านความเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียสามี เธอนัด เพื่อนสนิทของเธอทั้งสองคนเป็นอันดับแรก

ถังปิงหยู่

หลิวหรูยู่

ถังปิงหยู่อยู่ในชุดกระโปรงยาวคลุมเข่าสีฟ้ารูปร่างเซ็กซี่ หน้าต่างดงาม

ส่วนหลิ่วหรูยู่เองเธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ที่เข้ากันได้ดีกับ กางเกงยีนรัด รูป แม้เรียบง่าย แต่กลับเซ็กซี่น่าดึงดูด ทั้งคู่ หน้าตาสะสวยต่างคนต่างกลืนกินกันไม่ลง เป็นหญิงสาวที่ ชายหนุ่มทั้งหลายต่างหมายปอง

เวลานี้ถังปิงหยู่และหลิ่วหรูยู่ทั้งคู่จับจ้องหลัวเจินเจิน ด้วย ความเห็นใจ ไม่คิดเลย ว่าหลัวเจินเจินจะสูญเสียคู่ชีวิตด้วย อายุยังน้อย
หญิงสาวทั้งสองไม่เอ่ยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย เพื่อไม่ ให้หลัวเจินเจินต้องเจ็บปวดใจไปมากกว่านี้

ใบหน้าที่สะสวยของหลัวเจินเจินบวมแดงซ้ำ ราศีของคุณ หนูตระกูลหลัวหายไปสิ้น

“เฮ้อ เจินเจิน หน้าเธอเป็นอะไร?” ในเวลานี้เอง ถังปิงหยู่ เอ่ยถามขึ้น

หลัวเจินเจินส่ายหน้าปฏิเสธ ไร้คำพูดหลุดออกจากปาก เธอ แต่น้ำตากลับไหลพรากลงมาอย่างเสียการควบคุม

ถังปิงหยู่และหลิ่วหรูยู่สบประสานสายตากันและกัน ทั้งคู่ เข้าใจดีถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอ

ไปเส้าหัวมีประวัติการทำร้ายครอบครัวตั้งแต่ยังหนุ่ม

ถังปิงหยู่นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบขวดยาขนาด พกพาเล็กๆออกมาจากกระเป๋า เป็นยาทาแก้แผลเป็นที่ลู่เสี้ ยงหยางให้ไว้กับถังหลง

รอยแผลของถังหลงหายเป็นปลิดทิ้ง หลังจากที่เขาใช้ยานี้ ที่เหลือถูกถังปิงหยู่เอามาไว้ เธอเก็บรักษาอย่างดีราวกับของ ล้ำค่า

บัดนี้เห็นเพื่อนสนิทตนใบหน้าบวมเบ่งเสมือนหัวหมู เธอ จึงเอามันออกมา อย่างนึกเสียดาย

ในขณะนั้นเอง บังเอิญหลิ่วหรูยู่เอง ก็น่ายาขวดสีชมพูออกมาจากกระเป๋าเช่นเดียวกัน

หลิ่วหรูยู่ท่างานที่บริษัทเกี่ยวกับยา ปกติแล้วเธอต่อนข้าง ว่าง จึงขอบคิดค้นพัฒนาตัวยาอยู่เสมอ เพื่อรักษาและบำรุง

ยาเมื่อครู่ที่เธอเอาออกมา

เป็นยาที่เธอเพิ่งพัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพอย่างสูงในการ ลดบวมและอักเสบ

“อะนี่ เจินเจิน ฉันให้เอาไว้ทาหน้า ฉันรับรองพรุ่งนี้หน้า เธอจะกลับมาสวยดั่งเดิม ไม่ทิ้งร่องรอยแผลเป็นใดๆ แน่นอน” ถังปิงหยู่ยื่นขวดยาให้กับเธอ

หลัวเจินเจินยื่นมือรับขวดยาเอามาไว้ แต่กลับไม่เชื่อใน สรรพคุณ “ปิงหยู่ เธอปลอบใจฉันอีกแล้ว นี้ไม่ใช่ยาวิเศษ อะไรสักหน่อย ที่จะทำให้หน้าฉันกลับมาเป็นเหมือนเดิม โดย ไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ?”

หลิ่วหรูยูค่อนข้างชำนาญในด้านชีววิทยา เธอรู้ดีว่า ใบหน้าของหลัวเจินเจินได้รับความเสียหายอย่างหนัก ต่อให้ เป็นยาที่สามารถซ่อมแซมเซลล์ขึ้นมาใหม่ที่เธอเพิ่งพัฒนาก็ ต้องใช้เวลาหลายวัน สรรพคุณที่ถังปิงหยู่เอ่ยขึ้นเมื่อสักครู่ เธอจึงไม่เชื่อในความวิเศษนั้น

“ปิงหยู่ พอได้แล้ว ไม่รู้ว่ายาของเธอมีสารปนเปื้อนและ เครื่องสำอางมากแค่ไหน เอามาเทียบกับยาที่ฉันพัฒนาขึ้นมาใหม่ไม่ได้หลอกนะ” หลิ่วหรูยู่เอ่ย ด้วยความเชื่อมั่นต่อ ตนเอง และตัวยาของเธอ

ถังปิงหยู่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ยังไงซะยาของเธอวิเศษแค่ไหน ถังหลงทดสอบและเห็นผลกับตา

“ใครบอกกันว่ายาในมือฉันเป็นเครื่องสำอาง อันนี้เพื่อน ฉันให้มา เห็นผลได้ดีในการลดบวมซ้ำ” ถังปีงหยู่เอ่ย

หลิ่วหรูยู่ทำตาขวาง “ต่อให้สรรพคุณดีแค่ไหน จะตีสู้ยา ตัวใหม่ของฉันได้ยังไง?”

“นั่นก็หมายความว่า มันดีกว่ายาตัวใหม่ที่เธอเพิ่งพัฒนา ไงล่ะ” ถังปิงหยู่เปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่นเช่นเดียวกัน ความ รู้สึกที่ว่าลู่เสี้ยงหยางคนนี้ไม่ธรรมดานั้นมากขึ้นกว่าเดิม หลายเท่า ยาที่เขาให้กับเธอ ยังมหัศจรรย์ใต้ถึงเพียงนี้ หาก แพร่ออกไปในด้านการแพทย์และความงาม ต้องโด่งดังเป็น พลุแตกอย่างแน่นอน

หลิ่วหรูยูกล่าวอย่างไม่พอใจ “เป็นไปไม่ได้ หากมียาวิเศษ ขนาดนั้นจริง ทำไมฉันถึงไม่รู้ล่ะ?”

ถังปิงหยู่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เธอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง แต่เธอ ต้องเข้าใจอย่างนึง เหนือคนยังมีคน เหนือฟ้ายังมีฟ้า”

ประโยคนี้สำหรับหลิ่วหรูยู่ ถังปิงหยู่กำลังปฏิเสธความ สามารถของเธอ เธอโมโหขึ้นมา ลุกออกจากโซฟา หวังสู้กับถังปิงหยู่ให้รู้แพ้ชนะ

เมื่อเห็นดังนั้น หลัวเงินเจินลุกขึ้นยืน แยกทั้งคู่ออกจากกัน “พอได้แล้ว พวกเธอเลิกทะเลาะกันสักที ยาของใครดีกว่ากัน แค่ลองก็รู้แล้วไม่ใช่หรือไง หน้าทั้งสองข้างของฉันมีแผล ฉัน จะทาของพวกเธอทั้งคู่คนละด้าน”

พูดจบหลัวเจินเจินเริ่มหยิบยาขึ้นทา ถูยาของถังปิงหยู่ที่ แก้มด้านซ้าย ส่วนด้านขวาทาถูด้วยยาของหลิ่วหรูยู่

เมื่อทาเสร็จ หลัวเจินเจินแอบคิดในใจ “คราวนี้ถังปิงหยู่ คงแพ้อีกเช่นเคย เธอนี่มัน ไม่เรียลเอาเสียเลย”

“ฮ่าฮ่า ฉันได้ยินถังปิงหยู่บอกว่า พรุ่งนี้ หน้าของเจินเจิน จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม พรุ่งนี้ฉันว่างพอดี แล้วมาดูกัน” หลิ่วหรูยู่เอ่ยอย่างได้ใจ ฉันจะคอยดู พรุ่งนี้ถังปิงหยู่จะพูด อะไรได้อีก กล้าท้าทายตนในที่ของตน เธอมันหาเรื่องใส่ตัว เห็นๆ

“ได้สิ เธอทำใจไว้ก่อนได้เลย ถึงตอนนั้นจะได้ไม่อับอาย จนต้องมุดดินหนี” ถังปิงหยู่เอ่ยอย่างเป็นต่อ

“เหอะ ฉันอยากให้มีวันนั้นจริงๆเลย” หลิ่วหรูยู่อุทานอย่าง ไม่สบอารมณ์ ขยะที่ถังปิงหยู่เอาออกมา หรือจะเทียบกับยา ของเธอได้?
หยูเม่ยหยินกรุ๊ป

สู่เสี้ยงหยางยังคงนั่งอยู่กับกองเอกสารเกี่ยวกับหอการค้า เอกสารได้รับการปรับปรุง บิดาของเขาเพิ่งส่งมาให้เขา เมื่อสักครู่นี้

เอกสารก่อนหน้า คอลัมน์ของรองประธานนั้นว่างเปล่า แต่ตอนนี้กลับปรากฏชื่อหนึ่งขึ้นมา จางสง คู่เสี้ยงหยางไม่รู้จักชายหนุ่ม จึงไม่ได้ใส่ใจ

ติดติดติด

ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เมื่อเขาควักออกมาตูกลับ เห็นชื่อของหลิวจิ้ง

ลู่เสี้ยงหยางกดรับสาย เสียงอันร้อนรนขอหลิวจิ้งแล่นผ่าน มาตามสาย “ลู่เสี้ยงหยาง มาที่บริษัทเตี่ยวนี้เลย”

ลู่เสี้ยงหยางที่ได้ยินน้ำเสียงที่ผิดปกติของหลิวจิ้ง ไม่ทันที เขาจะเอ่ยถาม ปลายสายชิงตัดสายไปเสียก่อน

“ผิดปกติ ต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่” ลู่เสี้ยงหยางไม่มีเวลาคิด อะไรไปมากกว่านั้น เขาออกจากหยูเม่ยหยินกรุ๊ป มุ่งหน้าสู่ จีนชั่วกรุ๊ปทันที

เป็นไปตามคาดเมื่อเขามาถึงหน้าจีนชิ่วกรุ๊ป สู่เสี้ยงหยาง ต้องพบกับเหตุการณ์ที่ทำให้เขาต้องโกรธจัด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ