หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

บทที่ 127 สละที่ให้ฉันเดี๋ยวนี้



บทที่ 127 สละที่ให้ฉันเดี๋ยวนี้

เที่ยงของอีกวัน ตามเวลานัดหมาย เย่สวนและหลิวจิ้งมุ่งไป ยังสถานที่นัดหมาย

นี่เป็นครั้งแรกที่เย่สวนนัดพบกับแฟนคลับตั้งแต่เธอโดมา จึงชักชวนให้หลิวจึงไปเป็นเพื่อนด้วย

ร้านอาหารปินเจียง เป็นร้านอาหารขึ้นชื่อของเมือง เซฟ ในร้านเคยทำงานที่มิชลินประเทศอเมริกามาก่อน อาหาร ของเขาล้วนพิเศษทุกจาน คนดังมากมายในเมืองปินเหอด่าง มาที่ร้านอาหารแห่งนี้อย่างล้นหลาม

วันนี้ คุณชายหานนัดพับเย่สวนที่นี่เช่นเดียวกัน

เมื่อเดินเข้ามายังร้าน พนักงานคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทาย เธอ : “ไม่ทราบว่า คุณเยริป่าวคะ?”

เย่สวนพยักหน้ารับ : “อืม ฉันเอง”

พนักงานเผยรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร : “คุณคุณชายหานได้ จองเอาไว้แล้วเรียบร้อย ฉันจะพาคุณไปเอง”

“ค่ะ” เย่สวนพยักหน้า ก่อนเดินตามหลังพนักงานคนดัง กล่าว มุ่งไปยังโต๊ะที่ถูกจองเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

สักครู่ เย่สวนและหลิวจิ้งมาถึงโต๊ะที่จองเอาไว้ ซึ่งมีชายหนุ่มหน้าตาตีนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ชายหนุ่มที่นั่งเล่นโทรศัพท์ อยู่ เมื่อเห็นหญิงสาวทั้งสอง เขาลุกขึ้นยืนทันที พร้อมกล่าว คำทักทาย “คุณเย่ มาแล้วหรือ นั่งก่อนสิ”

เย่สวนไม่ได้นั่งลงทันทีตามคำชักชวน เธอหันไปจับแขน ของหลิวจิ้ง พร้อมเอ่ย “นี่เป็นแม่ของฉัน เยอเป็นกังวลฉัน ไม่ อยากให้ฉันมาคนเดียว เธอจึงมากับฉันด้วย คุณคุณชาย ทานไม่ถือสาอะไรใช่ไหม?”

หานเช่าชวน กวาดสายตาไปทางหลิวจิ้ง เขาตกตะลึง กับ ความงามของหลิวจิ้ง

ไม่คิดเลยว่าหลิวจิ้งที่เป็นถึงคุณแม่ จะมีผิวพันธ์ที่ดี เสมือ ยอายุเพิ่งเข้าเลข3 แถมมีรูปร่างที่ดี ที่ห้อหุ้มต้วยกระโปรง สั้น ไม่เหมือนมารดาของเย่สวนแม้แต่น้อย หากแต่เสมือน เป็นพี่สาวเยสวนเสียมากกว่า

“ที่ไหนกัน ผมไม่ถืออยู่แล้ว ได้มีโอกาสพบคุณน้า เป็น เกียรติของผมซะด้วยซ้ำไป” หานเช่าชวนปกปิดความละโมบ ของตนที่มีต่อหลิวจิ้ง ด้วยรอยยิ้ม พร้อมเอ่ยอย่างสุภาพบุรุษ

หลิวจิ้งพยักหน้ารับ เธอรู้สึกถูกชะตากับหานเช่าซวนเมื่อ แรกเห็น คนแบบนี้หากได้สานสัมพันธ์กับเย่สวน หากทั้งคู่ เข้ากันได้ ได้เขาเป็นลูกเขยของเธอ คงไม่เลว

เย่สวนเผยรอยยิ้มหวาน แม้เธอไร้ความรู้สึกใดๆต่อหาน เช่าชวนเมื่อแรกเห็น แต่เธอก็ไม่รังเกียจเขา
เธอเปรียบเทียบลู่เสี่ยงหยางกับหานเช่าสวน โดยไม่รู้ตัว

คู่เสี้ยงหยางไร้ความสามารถใดๆ กินอยู่อาศัยในบ้านเธอ แถมยังเจ้าชู้บ้ากาม หานเช่าขวนเป็นชายชาตรี สุภาพบุรุษ ซึ่งรู้ได้ทันทีว่าเขา

เป็นลูกหลานของผู้ดีมีสกุล ได้รับการสั่งสอนมาอย่างดีเยี่ยม ลู่เสี้ยงหยางเทียบไม่ติดเลยกับหานเช่าชวนแม้แต่น้อย

“อย่ามัวยืนอยู่เลย นั่งก่อนสิ ผมสั่งอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ เอาไว้แล้ว หวังว่าจะถูกปากพวกคุณ” หานเช่าชวนเห็นมาทั้ง คู่ยังคงยืนอยู่ จึงรีบชักจูงทั้งคู่ให้นั่งลงกับที่

เย่สวนและหลิวจิ้งพยักหน้า ก่อนดึงเก้าอี้ออก

เยสวนค่อนข้างขี้อาย เธอไม่กล้าที่จะพูดคุยกับหานเช่า ชวน จึงนั่งเล่นโทรศัพท์อย่างเงียบเชียบ หลิวจิ้งไม่คิดใดๆ ไปมากกว่านั้น เขาเอ่ยถามขึ้น: “ไม่ทราบว่าคุณหานทำงาน อะไร อายุยังน้อยแต่กลับประสบความสำเร็จมากขนาดนี้”

หานเช่าสวนได้ใจ แต่ยังคงความนอบน้อม : “คุณน้า บ้าน ผมท่าการค้ากับต่างชาติ อันที่จริงตัวผมเองไม่ได้มีความ สามารถอะไรหลอก แค่อาศัยกิจการครอบครัวเท่านั้น ครอบครัวของผมไม่ได้อาศัยในเมืองปินเหอ แต่อยู่ที่ให่ตง คุณน้าอาจไม่เคยได้ยิน”

หลิวจิ้งทำสีหน้าประหลาดใจ : “ตระกูลเธอคือตระกูล

หานแห่งไห่ตงหรือเปล่า?”

* ใช่แล้ว” หานเช่าชวนพยักหน้ารับ

หลิวจิ้งสูดลมหายใจเข้าลึกเต็มปอด ในไห่ตง ตระกูลหาน เป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุด ไห่ตงเป็นเมืองศูนย์กลางของเจียง หนาน

ตระกูลหานมีอำนาจอย่างมาก อย่าว่าแต่ปืนเหอเมืองเล็ก นี่ เทียบไม่ติดเลยแม้แต่น้อย

เมื่อนึกได้ดังนั้น หลิวจิ้งรู้สึกต่ำต้อยอย่างบอกไม่ถูก แต่ ในขณะเดียวกันเธอก็ตื่นเต้นมากเช่นเดียวกัน ชายตรงหน้า เธอ คือคุณชายตระกูลหานหากไม่ใช่เพราะลูกสาวเธอ เธอ จะมีโอกาสได้พบกับคุณชายตระกูลหานได้อย่างไร

ไม่แน่คุณชายตระกูลหานอาจเป็นลูกเขยของเธอใน

อนาคต

เย่ส่วนตกตะลึงกับชายตรงหน้าเช่นเดียวกัน ตระกูลหาน นั้นมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมาก ตระกูลหานไม่เพียงแต่ มีชื่อเสียงในไห่ตง เจียงหนานยังมีอำนาจล้นหลามในเจียง หนานที่กว้างใหญ่ไพศาลนี้อีกด้วย

หานเช่าสวนส่งรอยยิ้มให้ทั้งคู่ เมื่อเห็นอาการตกตะลึง ของทั้งสอง เขาได้ใจเข้าไปใหญ่

เพียงแค่ฐานะของเขา ก็สามารถหยบเย่สวนใต้อย่างง่ายตาย

แม้แต่ หลิวจิ้งที่มากประสบการณ์ยังไม่ละเว้น

เมื่ออาหารขึ้นเสิร์ฟ ทั้งสามรับประทานอาหารอย่างสนิท

หลังอาหาร หานเช่าชวนเสนอตนส่งหลิวจิ้งและเย่สวน กลับบ้านอย่างสุภาพบุรุษ

ทำให้หลิวจิ้งยิ่งถูกใจในตัวเขาเข้าไปใหญ่

สถานการณ์ตรงหน้า ลู่เสี้ยงหยางไร้จุดยืนในใจเธอแม้แต่ น้อย

ในเวลาเดียวกันนั้นลู่เสี้ยงหยางยังคงเร่งการเดินทาง กระทั่งดึกดื่น พวกเขามาถึงเมืองเจียงหนิงเป็นที่เรียบร้อย

สถานที่ตั้งของวัดชิงหลงอยู่บนเขาลึกบนเขาชิงหลงของ เจียง หนึ่ง หากขึ้นเขาในเวลาค่ำ ค่อนข้างอันตราย พวกเขา จึงตัดสินใจพักผ่อนเก็บแรง เดินทางต่อไปในวันพรุ่งนี้

ลู่เสี่ยงหยางและคนอื่นๆ พักแรมที่โรงแรมห้าดาวแห่ง

หนึ่ง

ภายในห้องโถงของโรงแรม ช่างกวนหวั่นหวั่นสั่งอาหาร เต็มโต๊ะ ทุกคนนั่งล้อมวงรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย

หลายวันมานี้ มีเพียงช่างกวนหวั่นหวั่นเท่านั้นที่พูดคุยกับสู่เสี้ยงหยางในบางคราว ส่วนคนอื่นๆนั้นต่างไม่แยแสเขา หากไม่ใช่เพราะลู่เสี้ยงหยางเหนือกว่า พวกเขาเล่นงานลู่เสี้ ยงหยางเละเป็นโจ๊กไปแล้ว

สักครู่ ระหว่างรับประทานอาหาร เสียงฝีเท้าแล่นผ่านเข้า มา ปรากฏชายชุดสูท สวมแว่นกันแดดสีตำ ร่างสูงโปร่งสมา

ร์ท

เป็นชายมากฝีมือ อย่างเห็นได้ชัด

ชายหนุ่มแว่นดำกวาดสายตาไปยังช่างกวนหวั่นหวั่น พร้อมเร่งฝีเท้า เดินไปยังช่างกวนหวั่นหวั่น

เพียงไม่กี่อึดใจ ชายหนุ่มประชิดตัวช่างกวนหวั่นหวั่น อย่างง่ายดาย

“ฮ่าฮ่า คุณช่างกวน คุณเดินทางมาแต่ไกล ทำไมไม่บอก ผมก่อนล่ะ ผมจะได้ต้อนรับคุณอย่างสมเกียรติ” ชายสวม แว่นเผยรอยยิ้ม ด้วยความนอบน้อม

ตระกูลช่างกวน เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ใน ประเทศรุ่งโรจน์ ผู้คนมากมายต่างเข้าหาตระกูลช่างกวน

หากไม่ใช่เพราะการเดินทางครั้งนี้เป็นความลับ ไม่ สามารถเปิดเผยตนได้ เพียงแค่เธอประโยคเดียว เหล่าผู้คน มากมายต่างยินดีฝันฝ่าแทนเธอ

ตีที่ชายหนุ่มตรงหน้า คือตระกูลเจี่ยงที่มีอำนาจในเมืองเจียงหนานไต้ข่าวว่าเธอจะมาเยือน ชายหนุ่มจึงทำการ ต้อนรับด้วยตัวเอง

เจียงตงเกอสั่งให้คนของพ่อเขามาที่นี่เป็นเวลาแรก หวัง ใช้โอกาสนี้สานสัมพันธ์กับตระกูลช่างกวน

ช่างกวนหวั่นหวั่นแหงนหน้าขึ้นมองเจี่ยงตงเก๋อ เธอ ทำการบ้านมาอย่างดี หากได้พบเจอตระกูลที่มีอำนาจใน เมืองนี้ เธอสามารถรับมือได้เป็นอย่างดี

ซึ่งตระกูลเจี่ยงก็เป็นหนึ่งในนั้น

ช่างกวนหวั่นหวั่นเผยรอยยิ้มหวาน ก่อนกล่าวทักทายเจี่ ยงดงเก่อ “คุณชายเจี่ยงนั่งก่อนสิ”

เจี่ยงตงเก๋อพยักหน้ารับ อันที่จริงเขาอยากนั่งลงจริงๆนั่น แหละ แต่กลับไม่มีที่ว่างเหลืออยู่เลย เขากวาดสายตาไปทั่ว ก่อนหยุดลงที่เสี่ยงหยาง พร้อมเอ่ยเสียงเรียบ “ลุกขึ้นซะ สละที่ให้ฉันเดี๋ยวนี้”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ