หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

บทที่ 212 ทำให้ลู่เสี้ยงหยางถึงแก่ความตาย



บทที่ 212 ทำให้ลู่เสี้ยงหยางถึงแก่ความตาย

เมื่อผู้อาวุโสของตระกูลหลินที่เห็นสีหน้าของหลินเซี่ยวเทียน แล้วต่างมองตากันอย่างประหลาดใจ

เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงทำให้พี่ใหญ่ของเราตกใจขนาดนี้? “พี่ใหญ่ครับ เกิดอะไรขึ้นครับ?” ชายคนหนึ่งถาม

หลินเซี่ยวเทียนไม่ได้พูดอะไร เขาหยุดนิ่งไปสักพักถึง ค่อยๆ ก้มเก็บโทรศัพท์ที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมา

เกาหยางวางสายไปสักพักแล้ว

พี่ใหญ่ครับ เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ผู้กองเกาพูดอะไรกับพี่ ใหญ่เหรอครับ?” ชายอีกคนถามขึ้นมา พวกเขาทุกคนต่างก็ มีประวัติเสีย ดังนั้นเมื่อเห็นสถานการณ์แบบนี้พวกเขาจึงรู้สึก ไม่สบายใจ

สีหน้าของหลินเซี่ยวเทียนดูแย่มาก เขาพูดอย่างเคร่งขรึม ว่า “ตอนนี้ใช้ทุกช่องทางของครอบครัวเราไปสืบประวัติตัว ตนและภูมิหลังที่แท้จริงของไอ้เด็กหนุ่มแซ่ลู่คนนั้นมาให้ได้

“ครับพี่ใหญ่”

“ครับพี่ใหญ่”

ผู้อาวุโสของตระกูลหลินทุกคนขานตอบแล้วลุกขึ้นจากที่นั่งเพื่อออกไปทำตามคำสั่งของหลินเชียวเทียน แต่ทุกคนย้า ไม่ทันก้าวออกจากที่นั่งก็ได้ยินเสียงอันมีเสน่ห์ของผู้หญิงตั้ง

ขึ้น

“เจ้าบ้านหลิน เรื่องแค่นี้ก็ทำให้คุณต้องกระวนกระวาย ขนาดนี้เลยเหรอคะ?”

เมื่อเสียงนั้นหยุดลง หานปิงหานก็เดินเข้ามาปรากฏตัวให้

เห็น

วันนี้หานปิงหานแต่งตัวดูสดใสมาก เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ด้วยช่วงบนที่อวบอิ่ม และสวมกางเกงยีนส์ทรงสลิมฟิตด้วย ขาอันเรียวยาวสองข้าง ซึ่งดูโดยรวมแล้วเธอเช็กซี่รูปตัว S อันหาไม่ได้จากที่ไหนอีก

ตามด้วยดวงตากลมโตและใบหน้าสีแดงอมชมพูดอัน

งดงาม

เพอร์เฟค!

เป็นผู้หญิงที่เพอร์เฟคอย่างที่สุด

ณ เวลานี้ สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่หานปิงหาน และ ทุกคนก็เริ่มมีความคิดที่ไม่ซื่อตรงไม่มากก็น้อย

หลินเซี่ยวเทียนกลืนน้ำลายและรู้สึกถึงความกระสับ กระส่ายในใจเหมือนกัน แต่เขาเป็นคนมีประสบการณ์อัน โซกโซนแล้ว จึงไม่ได้แสดงให้เห็นบนใบหน้า เขาระงับการมณ์แล้วถามหานปิงหานว่า “คุณหนูหาน คุณต้องมียุวย สำคัญไข่ไหม? ถึงได้มาบ้านตระกูลหลินของเราด้วยตนเอง”

เขาพูดด้วยท่าทีที่เย็นชา

ก่อนหน้านี้หานปิงหานเคยมาบ้านตระกูลหลินแล้ว เธอ อยากให้ตระกูลหลินร่วมมือกับตระกูลหาน แต่เรื่องใชของ เธอไม่ตรงกับความต้องการของตระกูลหลิน ดังน้ั้นหลินเชี่ยว เทียนจึงปฏิเสธเธอไป

และครั้งนี้เขาสันนิษฐานว่าหานปิงหานต้องมาคุยเรื่องเดิม

อย่างแน่นอน

หานปิงหานยังไม่ได้พูดอะไร แต่มีคนสองคนเดินออกมา จากด้านหลังเธอ

เหอเทียนหลิน

จางเท้า

เหอเทียนหลินยิ้มพูด “คุณหนูหานไม่มีธุระอื่นหรอกครับ เธอก็แค่ตามพวกผมมารื้อฟื้นอดีตของน้องหลินเท่านั้น”

หลินเซี่ยวเทียนก็มีไหวพริบไวไม่แพ้ใคร เขาเข้าใจ สถานการณ์ทันที ดูเหมือนว่าทั้งตระกูลเหอและตระกูลจาง ต่างก็ได้ร่วมมือกับตระกูลหานแล้ว

แสดงว่าสองตระกูลใหญ่ในเมืองปินเหอนี้ได้ร่วมมือกับ ตระกูลหานไปเรียบร้อยแล้ว หากตระกูลหลินของเขายังแข็งข้ออยู่ เขาอาจจะกลายเป็นศัตรูของทุกฝ่ายก็เป็นไปได้

“เหอะๆ เรื่องรื้อฟื้นอดีตก็คงไม่จริงหรอก แต่ผมว่าคุณหนู หานคงคิดจะมาขู่ผมมากกว่านะ” หลินเซี่ยวเทียนพูด

หานปิงหานส่ายหัวตอบ “ถ้าจะให้พูดตรงประเด็นละก็ ที่ ฉันมาก็เพื่อจะช่วยตระกูลหลินแก้ไขปัญหามากกว่านะคะ”

แก้ปัญหา? หลินเซี่ยวเทียนเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ แล้วถามว่า “คุณหนูหาน คุณหมายความว่ายังไง?”

หานปิงหานยื่นมือขาวเรียวข้างหนึ่งของเธอไปแตะที่ริม ฝีปากสีแดงอันอวบอิ่มนั้น ส่วนมืออีกข้างหนึ่งกอดที่อกอัน อวบอิ่มไปยิ่งกว่าริมฝีปากของเธอ มันช่างดึงดูดสรรพสัตว์ ใน โลกนี้จริงๆ

กรับ

กลีบ

เมื่อเห็นภาพนี้คนตระกูลหลินต่างก็ต้องกลืนน้ำลายอย่าง รุนแรง และเหมือนมีเปลวไฟกำลังลุกไหม้ในช่องท้องส่วน ล่างของพวกเขา

ถ้าได้ครอบครองผู้หญิงแบบนี้ ให้พวกเขาลดอายุขัยไป สิบก็จะยอม

“ประธานหลิน นี่คุณกำลังแกล้งสับสนอยู่เหรอ? ดูเหมือน ว่าคุณชายตระกูลหลินยังอยู่ที่สถานีตำรวจนะคะ” หานปิงหานยิ้มพูด

หลินเซี่ยวเทียนกัดฟันพูด “ถ้าคุณหนูหานช่วยเรื่องนี้ของ ตระกูลหลินได้ ตระกูลหลินของเราจะยืนดีร่วมงานและ ยอมรับเงื่อนไขของตระกูลหาน”

“ได้สิคะ ประธานหลินไหวพริบดีจริงๆ เลยนะ ถ้างั้นเรื่องนี้ ให้ฉันจัดการก็แล้วกันนะ” หานปิงหานตอบตกลงด้วยความ มั่นใจทันที

หลินเซี่ยวเทียนถามอย่างสงสัย “แล้วคุณหนูหานคิดว่าจะ จัดการกับเรื่องนี้ยังไงครับ?”

หานปิงหานเดินอ้อมไปด้านหลังแล้วยื่นหน้าออกไป กระซิบพูดข้างหูของหลินเซี่ยวเทียน

ไออุ่นที่มีกลิ่นหอมเหมือนดอกกล้วยไม้กระแทบเข้ากับ ใบหน้าของหลินเซี่ยวเทียนทำให้เขารู้สึกคันไม้คันมือเป็น

พิเศษ

บ้าเอ๊ย! นางฟ้าตัวนี้คนนี้จะอ่อยเกินไปแล้ว

หลังจากนั้น เมื่อหานปิงหานเล่าแผนการของเธอเสร็จ หลินเซี่ยวเทียนก็รู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที เขารู้สึกว่ากลยุทธ์ ของหานปิงหานนั้นน่ากลัวจับใจจริงๆ

แต่ถ้าหานปิงหานยิ่งน่ากลัวมากเท่าไหร่ ไอ้หนุ่มแซ่ลู่คน นั้นก็ยิ่งใกล้เวลาตายมากเท่านั้น ฮ่าๆ
“เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นก็ตามที่คุณหนูหานพูดเลยนะครับ” หลินเสี่ยวเทียนพยักหน้า ซึ่งเป็นการสรุปว่าตระกูลหลินของ เขาได้ร่วมมือกับตระกูลหานอย่างเป็นทางการแล้ว

หานปิงหานคงคิดไว้แล้วว่าหลินเซี่ยวเทียนไม่มีทาง ปฏิเสธเธอย่างแน่นอน จากนั้นเธอหัวเราะแล้วพูดว่า “ถ้างั้น เราไปกันเถอะไปหาหัวหน้าสวีกัน”

เวลาผ่านไปถึงเที่ยงวันอย่างรวดเร็ว

ณ ร้านอาหารจายซิง

นี่เป็นร้านอาหารที่หรูที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองปินเหอ เหมือน กับร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่งของบ้านลู่เสี้ยงหยางที่ได้รับ ขนานนามว่าเป็นร้านอาหารที่โด่งดังและยอดนิยมที่สุดใน เมือง

ในห้องอาหารมี หานปิ้งหาน จางเทา หลินเซี่ยวเทียน เหอ เทียนหลิน ทุกคนนั่งอยู่เงียบๆ และกำลังรอหัวหน้าสวี

ทันใดนั้นเหอเทียนหลินก็ถอนหายใจพูดขึ้นมา “ไอ้ลู่เสี้ยง หยางคนนี้มันโชคดีจริงๆ เลยนะ ไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นถึง คุณชายตระกูลลู่ที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหลวง แต่เสียใจที่ มังกรก็ไม่อาจสยบคนพาลได้ ผมว่าที่ควรเสียใจไปกว่านั้นก็ คือมันดันมาหาเรื่องคนอย่างคุณหนูหานน่ะสิ ผมเชื่อว่าอีกไม่ นานเกินรอหยูเม่ยหยินกรุ๊ปของมันต้องกลายเป็นอดีตอย่างแน่นอน”

จางเทามองไปที่หานปิงหานด้วยความชื่นชมแล้วยิ้มพูด อย่างเคียดแค้น “ถึงแม้ผลิตภัณฑ์ใหม่ของหยูเม่ยหยินกรุ๊ป จะมีประสิทธิภาพมาก แต่ถ้าเราตัดไฟแต่ต้นลมพวกมันก็รอ เจ้งได้เลย โรงงานผลิตของหยูเม่ยหยินกรุ๊ปตั้งอยู่แถวซิงสุย ซึ่งแถวนั้นกำลังจะมีคำสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเพื่อ ปรับปรุงใหม่ ที่เรานัดหัวหน้าสวีจากสำนักผังเมืองมาในวัน นี้ก็เพราะจะรบกวนแกช่วยจัดให้หยูเม่ยหยินกรุ๊ปอยู่ในลิส รายชื่อที่ต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างด้วย ฮ่า ๆ ๆ ถึงเวลานั้น แล้วหยูเม่ยหยินกรุ๊ปไม่มีแม้แต่โรงงานผลิต จะคอยดูว่าพวก มันจะเอาอะไรมาแข่งกับชิงเหอกรุ๊ปอีก”

หานปิงหานยิ้มอย่างเบิกบานเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ เพราะทั้งหมดนี้เป็นผลงานชิ้นเองของเธอ

เธอเงียบไปสักพักแล้วพูดต่อ “ไม่เพียงแค่นี้ หลังจากที่เรา ซื้อโรงงานของหยูเม่ยหยินกรุ๊ปจนสำเร็จ ไม่เพียงแต่เป็นจุด จบของหยูเม่ยหยินกรุ๊ปเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดจบของลู่เสี้ยง หยางด้วย เพราะถึงอย่างไรลู่เสี้ยงหยางก็คงไม่ยอมง่ายๆ ถึงเวลานั้นมันต้องมีข้อขัดแย้งกับสำนักผังเมืองอย่างแน่นอน เหอะ ต่อให้เป็นคุณชายมหาเศรษฐีก็ต้องอยู่ภายใต้ กฎหมายอยู่ดี”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ทุกคนต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย มันช่าง เป็นกลยุทธ์ยืมดาบฆ่าคนที่ดีที่สุดจริงๆ
เชื่อว่าลู่เสียงหยางต้องเข้าสู่ดินแดนแห่งมรณะแน่ แม้ว่า เขาจะมีอำนาจ ค่ำฟ้า แต่เขาก็อาจจะต้องใช้ชีวิตที่เหลือใน

คุกอย่างแน่นอน

แคร่ก แคร่ก!

ในขณะที่เสียงพูดของหานปิงหานหยุดลง ชายคนหนึ่งใน ชุดสูทและแว่นตาสีทองก็เดินเข้ามา

เขาคือสวีปิน หัวหน้าสวี

รองผู้อำนวยการสำนักผังเมือง

เมื่อเห็นสวีปินเดินเข้ามาทุกคนก็ยืนขึ้นเพื่อทักทายเขา

โดยเฉพาะหานปิงหานแสดงรอยยิ้มอย่างมีเสน่ห์บน ใบหน้า เธอรีบเดินเข้าไปหาสวีปินแล้วยื่นมืออันนุ่มนวลของ เธอออกไป “ดิฉันเคยเห็นหัวหน้าสวีนะคะ เป็นเกียรติของ พวกเราทุกคนอย่างยิ่งที่ได้พบหัวหน้าสวีอีกครั้งค่ะ”

หานปิงหานพูดด้วยน้ำเสียงอันนุ่มนวล


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ