หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

บทที่ 292 มาไม่ถูกเวลา



บทที่ 292 มาไม่ถูกเวลา

68 ล้านไม่ใช่จำนวนเล็กน้อยเลย ดังนั้นหลายคนจึง ไม่เต็มใจที่จะออกหน้าจ่ายเงินในตอนนี้

ถ้าจ่ายเงินไปแล้ว คนที่จะได้หน้าก็คือฉินหยุนเฟย ส่วนตัวเองก็จะกลายเป็นแพะรับบาปไป

จูหยู่เงินครูประจำชั้นรู้สึกลำบากใจ ในบัตรของเธอ ก็ไม่มีเงินมากพอเธอจึงแนะนำว่า “ฉันแนะนำให้ทุกคน ช่วยกันจ่ายเงินในคืนนี้ก็แล้วกัน”

แม้ว่าจะไม่ค่อยพอใจ แต่ครูพูดออกมาแล้ว ทุกคนก็ ต้องยอมรับ

หากนำจํานวน 68 ล้านออกมาเฉลี่ย แต่ละคนจะต้อง จ่ายถึงหนึ่งล้านกว่า

เมื่อเห็นใบหน้านิ่วคิ้วขมวดของทุกคนลู่เสี้ยงหยางก็ ยืนขึ้นพลางกล่าวว่า “เอาล่ะ อาหารมื้อนี้ให้ผมเลี้ยงแล้ว กัน”

ในฐานะมาดามใหญ่แห่งตระกูลเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง ของเมืองหลวง 68 ล้านเป็นแค่เศษเงินเท่านั้น

เมื่อได้ยินแบบนี้หลายคนก็แอบยินดีอยู่ในใจ ฮ่าๆ พระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยแล้ว

ฉินหยุนเฟยที่แกล้งทำเป็นเมาก็ตื่นเต้นจนแทบจะ กระโดด เจ้าหวังเจี้ยนนี่ฉลาดจริงๆ เรื่องราวต่างๆ เป็นไป ตามแผนการของเขา คืนนี้ลู่เลี้ยงหยางได้จ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้เธอ ค่อยจ่ายเงินคืนให้ลู่เสี้ยงหยางและถือโอกาสแอด WeChat ของเธอ ฮ่าๆ บางทีเขาอาจจะได้หอบสาวสวย คนนี้กลับบ้านด้วย

ในเวลานี้ลู่เสี้ยงหยางได้เดินมาถึงเคาน์เตอร์พลาง หยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจากกระเป๋า แต่ทันใดนั้นเขาก็ พบว่ากระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือได้หายไปแล้ว

ทันใดนั้นลู่เสี้ยงหยางก็พูดด้วยสีหน้าที่เย็นชา “กระเป๋าสตางค์และของผมถูกขโมยไป

อะไรนะ?

ให้ตายเถอะ! กระเป๋าสตางค์และมือถือถูกขโมยไป

ฉินหยุนเฟยแทบจะกระอักเลือดออกมา พูดแบบนี้ แสดงว่าเขาต้องหาทางจ่ายค่าอาหารในคืนนี้ด้วยตัวเอง

ในอีกด้านหนึ่งลู่เสี้ยงหยางแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่ เมื่อครู่เขาเพิ่งให้พนักงานบริการเอากระเป๋าสตางค์และ มือถือของกงหมู่หนิงออกไปไม่ให้เธอจ่ายเงินเพื่อให้ฉัน หยุนเฟยขายหน้า

ใครบางคนในกลุ่มถอนหายใจแล้วพูดขึ้นว่า “ดูท่า คงจะต้องใช้วิธีที่ครูบอก พวกเรามาช่วยกันจ่ายเถอะ”

ลู่เสี้ยงหยางยิ้มเยาะ “น่าขันจริงๆ ก่อนมาที่นี่ฉินหยุ นเฟยคุยโม้ว่าจะเลี้ยงข้าวพวกเรา แต่สุดท้ายก็ต้องให้ พวกเราออกเงิน เขาไม่มีความจริงใจเลยแม้แต่นิดเดียว”

ถ้าเป็นเมื่อก่อนการที่ลู่เสี้ยงหยางกล้าพูดแบบนี้เขา จะต้องตกเป็นเป้าให้คนทั่วไปโจมตีอย่างแน่นอน แต่ตอน นี้ไม่มีใครพูดอะไรเลย แสดงว่าพวกเขายอมรับในคำพูด ของลู่เสี้ยงหยางแล้ว

ก็ใช่น่ะสิ เจ้าโง่ฉินหยุนเฟยนั้นไม่มีความน่าเชื่อถือ เลย รับปากดิบดีว่าจะเลี้ยงข้าวทุกคน แต่ตอนนี้ดันมาเมา ได้เสียนี่ ไม่รู้ว่าเมาจริงหรือเสแสร้ง

หวังเจี้ยนต้องการเหน็บแนมลู่เสี้ยงหยาง แต่เมื่อเห็น ทุกคนไม่พูดอะไรเขาก็ไม่กล้าเอ่ยปาก

เย็ดแม่ง

เมื่อฉินหยุนเฟยได้ยินคำพูดของลู่เสี้ยงหยางก็รู้สึก อยากตายขึ้นมา ดูเหมือนว่าเขาจะเสแสร้งต่อไปไม่ได้ แล้ว ไม่เช่นนั้นตนเองจะกลายเป็นศัตรูของคนทั้งชั้นเรียน

เขาสะบัดมือหวังเจี้ยนออกแล้ววิ่งไปแกล้งอาเจียนใน ถังขยะที่อยู่ด้านนอกก่อนจะเดินกลับเข้ามา

เขาแสร้งถามด้วยความแปลกใจ “เอ๊ะ? ทำไมทุกคน มาอยู่ที่นี่กันหมดล่ะ กินเสร็จแล้วเหรอ? ”

ฮ่าๆ ลู่เสี้ยงหยางแอบหัวเราะในใจ ฝีมือการแสดง

ของเจ้าหมอคนนี้ดีจริงๆ จูหยู่เจินพยักหน้าพลางกล่าวว่า “ฉินหยุนเฟย ทุกคน กินใกล้เสร็จเกือบหมดแล้ว พวกเราต้องไปแล้ว”

ฉินหยุนเฟยเกาหัวอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออกพร้อม กับพูดว่า “โอเค งั้นผมไปจ่ายเงินแล้วกัน” เขาจำใจเดินไปที่เคาน์เตอร์แล้วถามราคาทั้งๆ ที่รู้คำ ตอบอยู่แล้ว

เมื่อได้ยินว่า 68 ล้าน เขาก็แสร้งทำเป็นสงบนิ่งแล้ว พูดกับเพื่อนร่วมชั้นที่อยู่รอบๆ ว่า “บัตรของผมมีเงินไม่พอ แต่ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะให้พ่อโอนมาให้

แม้ว่าจะรู้สึกขายหน้า แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจาก ขอความช่วยเหลือจากครอบครัว

เขาโทรหาพ่อเป็นคนแรกแล้วบอกว่า “พ่อ ตอนนี้ช่วย โอนค่าขนมให้ผมสักร้อยล้านสิ เดี๋ยวผมต้องใช้

อะไรนะ? ค่าขนมหนึ่งร้อยล้าน?

หลายคนต้องตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งนี้ อะไรคือค่า

ขนมหนึ่งร้อยล้าน? สงสัยครอบครัวของฉินหยุนเฟยจะร่ำ รวยจริงๆ หลายคนมองเขาด้วยความอิจฉาจนแทบทนไม่ ได้

ไปหมิ่นหมิ่นถึงกับสาบานว่าเธอจะต้องตามจีบ ทายาทเศรษฐีอย่างฉินหยุนเฟยให้ได้

ในขณะเดียวกันฉินจงเทียนที่อยู่ปลายสายแทบจะ พ่นชาในปากออกมาเมื่อได้ยินสิ่งที่ฉินหยุนเฟยพูด

ตระกูลฉินของเขาในฐานะที่เป็นตระกูลใหญ่อันดับ ต้นๆ ในไห่ตงก็ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน แต่ฉินหยุนเฟยลูก เศรษฐีผู้เอาแต่เสวยสุขไม่ทำงานทำการคนนี้ผลาญเงิน ทองมากมายเกินไปแล้ว

เขาเพิ่งได้เงินหนึ่งร้อยล้านจากครอบครัวที่ไห่วง ก่อนจะมายังเมืองปืนเหอ เพียงไม่กี่วันเท่านั้นก็เอ่ย ปากขออีกหนึ่งร้อยล้าน

“ให้ตายเถอะ! ฉินหยุนเฟย นี่แกเบื่อโลกแล้วเหรอ? คิดว่าเงินของครอบครัวเรามีลมพัดมาให้หรือไง? อ้าปากก็ จะเอาหนึ่งร้อยล้าน ทำไมไม่ขึ้นสวรรค์ไปเลยล่ะ กลับมา บ้านพ่อจะตีแกให้ขาหักทั้งสองข้างเลย” ฉินจงเทียน ตะคอกใส่

เมื่อได้ยินเสียงดุด่าอย่างโกรธเกรี้ยว ฉินหยุนเฟย เหงื่อออกท่วมตัว แต่ก็ไม่สามารถบอกให้เพื่อนักเรียน เหล่านี้รู้ได้ว่าพ่อกำลังสั่งสอนตน ไม่งั้นคงเสียหน้าแย่ เขา จึงแสร้งทำเป็นพูดอวดเบ่ง “อะไรนะ? พ่อ พ่อจะให้ผมพัน ล้าน ช่างเถอะๆ พันล้านใช้ไม่ไหวหรอก ให้ผมร้อยล้านก็ พอแล้ว”

ฉินจงเทียนโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง พูดไปด่าไป “ฉินหยุ นเฟย นี่แกกล้ามาขอเงินถึงพันล้าน ถ้าแกมีความสามารถ ได้สักครึ่งหนึ่งของพี่ใหญ่ของแก อย่าว่าแต่พันล้านเลย หมื่นล้านฉันก็ให้แกได้ ฮี ไม่เอาไหนจริงๆ ตระกูลฉินของ เราต้องอับอายขายขี้หน้าเพราะแก

ฉินหยุนเฟยถูกด่าจนขวัญหนีดีฝ่อ แต่ก็ยังพูดด้วย รอยยิ้ม “อะไรนะ? พ่อ พ่อเป็นห่วงว่าร้อยล้านจะไม่พอใช้ ไม่ต้องเป็นห่วง พอใช้ พอใช้ครับ”

“..” ฉันจงเทียนที่อยู่ปลายสายโกรธมากจนพูดอะไร ไม่ออก เขาคิดว่าไอ้ลูกไม่เอาถ่านคนนี้ต้องไปอวดเบ่งกับ ใครต่อใครอีกแล้ว เขาแทบจะคำรามพูดว่า “วันนี้พ่อให้แกได้หนึ่งร้อย ล้าน แต่ห้ามโทรหาฉันอีกภายในหนึ่งเดือน ไม่งั้นพ่อจะไล่ แกออกจากตระกูล ปล่อยให้แกใช้ชีวิตตามยถากรรม

ปัง!

พูดจบฉินจงเทียนก็ตัดสายโทรศัพท์

ส่วนฉินหยุนเฟยที่อยู่ทางนี้ยังคงเล่นละครอยู่ “เอา ล่ะๆ คำนี้พ่อเคยบอกผมหลายหนแล้ว ผมมีปณิธาน จะไม่ กลับบ้านเพื่อรับมรดกจากตระกูลเด็ดขาด พ่อไม่ต้องเป็น ห่วง ทรัพย์สินนับแสนล้านผมใช้เวลาไม่กี่ปีก็หามาคืนพ่อ ได้

ซี้ด!

พอได้ยินแบบนี้หลายคนก็แทบจะคุกเข่าให้ฉินหยุ นเฟย นี่มันอะไรกันวะเนี่ย เขาไม่ต้องการรับมรดกทรัพย์ สมบัตินับแสนล้าน ช่างมีปณิธานอย่างแรงกล้าจริงๆ

แต่ครอบครัวของฉินหยุนเฟยจะร่ำรวยเกินไปหน่อย แล้ว

ดูท่าทางวันหลังจะต้องสานสัมพันธ์กับเขาให้ดีเพื่อ ประจบสอพลอเขา

ลู่เสี้ยงหยางที่อยู่อีกด้านหนึ่งส่ายหน้า เขาวินิจฉัยว่า ฉินหยุนเฟยถูกตำหนิในโทรศัพท์อย่างยับเยินแล้วแกล้ง ทําเป็นอวดเบ่ง

หลังจากนั้นไม่นานฉินหยุนเฟยก็วางสายและได้รับ ข้อความเงินเข้าบัญชีจำนวนหนึ่งร้อยล้าน เขาหัวเราะอย่างเบิกบานก่อนจะโบกมือเอาบัตร ธนาคารให้พนักงานเก็บเงินสาวสวย

หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็พากันเดิน ออกจากร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่งและเตรียมตัวกลับ

แต่ทันทีที่เดินออกจากประตูใหญ่ พนักงานบริการ

สาวสวยคนหนึ่งก็รีบเข้ามาถามว่า “ตอนที่กำลังทำความ สะอาดห้องวีไอพีทางเราพบกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์ มือถือวางทิ้งไว้ เป็นของท่านไหนคะ?” ลู่เสี้ยงหยางหันกลับมาก็เห็นโทรศัพท์มือถือและ

กระเป๋าสตางค์ของตัวเองจึงพูดอย่างเรียบเฉยว่า “ของ ผมเอง ขอคืนด้วยครับ”

พนักงานบริการสาวสวยรับคืนกระเป๋าสตางค์และ โทรศัพท์มือด้วยรอยยิ้ม

มุมปากของฉินหยุนเฟยกระตุก ให้ตายสิ! ทำไม กระเป๋าสตางค์กับมือถือถึงเพิ่งเอาป่านนี้ แม่ง ตอนนี้จ่าย เงินไปแล้วด้วย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ