หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

บทที่ 281 นักสู้ไร้ยางอาย



บทที่ 281 นักสู้ไร้ยางอาย

จางกุ้ยเป็นคนพาลที่ชอบรังแกคนที่อ่อนแอกว่าแต่กลัวคนที่ แข็งแรงกว่าอยู่เสมอ เมื่อไหร่ที่เจอคนอ่อนแอกว่า เธอ สามารถใส่หัวคนอื่นได้ แต่เมื่อไหร่ที่เจอคนที่แข็งแกร่งกว่า เธอก็แทบจะกราบเท้าเขาทุกครั้ง

นี่คือสาเหตุที่เธอถูกตบปากแล้วหงอยไปทันที เธอไม่กล้า ต่อล้อต่อเถียงเลยสักคำ ได้แต่ก้มหน้าก้มตาและตัวสั่นอย่าง ไม่หยุด

“แมร่งเอ๊ย! กล้าพูดมากอีกคำ กูจะเอามึงให้ตายไปเลย ลูกชายคนรองปล่อยจางกุ้ย จากนั้นยกเท้าขึ้นแล้วเตะเธอ จนล้มลงกับพื้นและถ่มน้ำลายใส่เธอหลายครั้ง

แม้คนรอบข้างจะเห็นว่าการกระทำของลูกชายคนรองนั้น เกินเหตุไปหน่อย แต่ทุกคนต่างก็รู้สึกสาแก่ใจ เพราะตั้งแต่ ต้นจนจบ จางกุ้ยเป็นคนก้าวร้าวมาตลอด ดังนั้นคนอย่าง เธอจึงเป็นที่น่ารังเกียจของทุกคน

หลิวต้าหู้ได้แต่ยืนดูภรรยาถูกทำร้ายอย่างเงียบๆ และไม่ กล้าเอ่ยปากอะไรเลย

เพราะดูจากสภาพร่างกายแล้ว เขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของ ลูกชายทั้งสามคนนี้
ขณะนี้ ลูกชายคนโตยื่นมือออกมาตบหน้าหลิวต้าและ พูดว่า “เงิน 1 ล้านที่บอกเมื่อกี้นี้ นายมีปัญหาไหม?”

หลิวต้าจู่ไม่กล้าปฏิเสธ ได้แต่พยักหน้าตอบ “ไม่มีปัญหา ครับ ไม่มีปัญหาครับ ครอบครัวผมรับผิดชอบเงิน 1 ล้านนี้ เองครับ”

จางกุ้ยได้แต่คิดในใจ บ้านเธอมีเงินถึง 1 ล้านซะที่ไหน กัน?

หลิวห้าวก็กลัวตัวเองจะถูกทำร้ายไปด้วย เขาจึงคิดอะไร บางอย่างได้ จากนั้นรีบชี้ไปที่เลี้ยงหยางแล้วพูดว่า “รถที่ เราขับมาเป็นรถของแม่ขายของเขาคนนี้ ถ้าพวกคุณจะเอา เงินก็เอากับเขาเลยครับ ครอบครัวผมไม่ใช่เจ้าของรถคันนี้

ว่าไงนะ?

ทันทีที่ได้ยินคำนี้ ทุกสายตาก็จับจ้องไปที่เสี่ยงหยาง

ลูกชายทั้งสามต่างมองหน้ากันด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ถ้าสิ่งที่ได้เทือกคนนั้นพูดเป็นความจริง รถไม่ใช่ของเขา แสดงว่าเราไม่สามารถเอาผิดครอบครัวมันได้สินะ

“พี่ชายครับ รถคันนี้เป็นรถของแม่ยายคุณจริงๆ เหรอ ครับ?” ลูกชายคนเล็กยื่นบุหรี่ให้กับลู่เลี้ยงหยางแล้วถาม อย่างสุภาพ

แม้ว่าลู่เลี้ยงหยางจะไม่สูบบุหรี่ แต่เขาก็รับบุหรี่มาเพื่อเป็นการให้เกียรติกัน

จากนั้นเขาก็พยักหน้าตอบ “ใช่ครับ รถคันนี้เป็นรถของ แม่ยายผมจริงๆ

หือ!

ทันทีที่ได้ยินคำนี้ ทุกคนต่างก็ต้องตกใจ ดูเหมือนว่า แม่ยายของเขาจะต้องรับผิดชอบต่ออุบัติเหตุครั้งนี้แล้ว

ลูกชายคนโตมองไปที่ลู่เสี้ยงหยางแล้วพูดว่า “ถ้าอย่าง นั้นรบกวนคุณช่วยโทรหาแม่ยายของคุณหน่อยนะครับ

เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ครอบครัวของจางกุ้ยต่างก็ แอบดีใจ ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้แล้ว

จางกุ้ยค่อยๆ แอบลุกขึ้นจากพื้น จากนั้นส่งสายตาให้กับ หลิวต้าเพื่อบอกเขาให้รีบออกไปจากที่นี่

หลิวต้าจู่ที่เห็นสายตาของเธอก็ค่อยๆ ถอยออกจากฝูงชน และใช้เวลาไม่นาน ครอบครัวของทั้งสามคนก็หนีออกจาก ฝูงชนอย่างไร้ร่องรอย

ในเมื่อเลี้ยงหยางออกมารับหน้าแทนแล้ว แล้วพวกเขา จะรออะไรอีก?

เลี้ยงหยางเห็นทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขา แต่เขาได้ แต่ส่ายหัวเบาๆ ถ้าไม่ใช่เพราะรถของแม่ยาย เขาคงไม่ สนใจใยดีกับครอบครัวของหลิวต้าอย่างแน่นอน
จากนั้นเลี้ยงหยางยิ้มตอบ ไม่ต้องก็ได้ครับ เรื่องนี้ผม จัดการแทนแม่ยายได้ พวกคุณลองเสนอมาก่อนก็ได้ครับว่า ต้องการให้ผมรับผิดชอบยังไง

ลูกชายคนโตพูดอย่างทำตัวไม่ถูก “เมื่อกี้ผมจะเอาเงิน 1 ล้านก็แค่ตั้งใจจะสั่งสอนไอ้ผีบ้าคนนั้นเท่านั้นครับ แต่ถ้าเป็น พี่แล้ว ผมว่าเอาดีกว่า เพราะครอบครัวผมไม่ได้เป็นคนไร้ เหตุผลอยู่แล้ว ผมขอแค่พี่ช่วยรับผิดชอบรักษาแม่ผมให้หาย อีกอย่าง พวกผมสามพี่น้องทำงานที่อื่น ไม่มีเวลาดูแลแม่ ดัง นั้นช่วงนี้จึงต้องรบกวนทางพี่ชายแล้วนะครับ

เป็นคำพูดที่ฟังสบายหูมาก เลี้ยงหยางแอบชื่นชมในใจ ว่าชายสามคนนี้มีคุณธรรมที่ดีมาก

“ได้ครับ ไม่มีปัญหา งั้นเอาตามนี้เลยนะครับ ทั้งหมดนี้ เป็นความผิดของเรา” ลู่เลี้ยงหยางยิ้มพูด “นอกจากนี้ เพื่อ เป็นค่าทำขวัญของคุณแม่ ทางผมจะชดใช้ให้ 1 ล้านหยวน นะครับ”

แปะๆ ๆ

ทันทีที่ลู่เลี้ยงหยางพูดจบ เสียงปรบมือที่แสนอบอุ่นก็ดัง ขึ้น เห็นได้ชัดว่าการกระทำของเขาทำให้ผู้คนชื่นชมมาก

พี่น้องทั้งสามพยายามปฏิเสธ

แต่ล่เลี้ยงหยางยังคงยืนยันที่จะให้เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโอนให้ชายทั้งสามคนนั้นทันที

หลังจัดการเรื่องนี้เสร็จ ลู่เลี้ยงหยางก็กลับไปที่เกิดเหตุ แล้วขับรถของหลิวจิ้งกลับบ้าน

แต่เมื่อมาถึงหน้าประตูบ้าน เขาก็ได้ยินเสียงตะโกนพูด ของจางกุ้ยที่ดังออกมาจากในบ้าน

“หลิวจิ้ง เธอคงไม่รู้ว่าไอ้เลี้ยงหยางมันแย่แค่ไหน วันนี้ มันขับรถพาพวกเราออกไปเที่ยว เธอรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น มันขับรถชนคนแก่ ดีนะที่ลูกชายฉันหลิวห้าวนั่งอยู่ข้างๆ และ ช่วยมันหักหลบพวงมาลัยได้ทัน ไม่อย่างนั้นคงเหยียบกับคน แก่คนนั้นตายไปแล้ว”

“ว่าไงนะ? เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นจริงหรือ? ต่างก็ตกใจ ” เสวนและหลิวจิ้ง

หลิวต้าจูรีบพูดแทรก “น้อง เรื่องนี้พวกเราเจอกับตัวเลย นะ มันจะไม่จริงได้ไงล่ะ? หลังเกิดเหตุไม่นาน ญาติของคู่

กรณีก็มาถึงที่เกิดเหตุทันทีเลย

“คู่กรณีไม่พอใจมาก พวกเขาจะเข้ามาเอาเรื่องเสียง หยางอย่างเดียวเลย ดีที่พวกเราห้ามไว้ทัน ดูแผลบนใบหน้า ของแม่หลิวห้าว เพราะพยายามเข้าไปห้ามจนต้องโดน ลูกหลง เรื่องทั้งหมดนี้ก็เพราะเลี้ยงหยางคนเดียวเลย

หลิวจิ้งรีบพูดทั้งๆ ที่ยังคงสงสัยอยู่ “ถ้าอย่างนั้นคงต้องขอบคุณพี่ชายพี่สาวจริงๆ เลยนะ

เย่สวนไม่เชื่อและยังคงสงสัยว่าเรื่องทั้งหมดนี้ครอบครัว ของหลิวต้าหู้เป็นคนสร้างขึ้นมาเอง

“ให้ตายเถอะ พวกคุณรู้จักอายบ้างไหม? สร้างเรื่องเก่ง จริงๆ” ลู่เสี้ยงหยางเดินเข้ามาในห้องรับแขก

จางกุ้ยและหลิวต้าต่างก็แสดงสีหน้าตื่นตระหนก ไม่คิด เลยว่าลู่เสี้ยงหยางจะกลับมาเร็วขนาดนี้

เสวนรีบลุกขึ้นมาแล้วถามเขาอย่างเป็นห่วง “ยายคนนั้น เป็นยังไงบ้าง? แล้วเรื่องจะเคลียร์ยังไง? เดี๋ยวฉันไปกับคุณ

นะ”

ลู่เสี่ยงหยางส่ายหัวตอบ “ไม่ต้องกังวลหรอก ผมจัดการ

เรียบร้อยแล้ว”

อะไรนะ?

จัดการเรียบร้อยแล้ว?

จางกุ้ยจู๋ หลิวต้าจู๋และหลิวห้าวต่างก็รู้สึกประหลาดใจกับ

เรื่องนี้

หลิวจิ้งขมวดคิ้วถาม “สรุปว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ลู่เสี้ยงหยางได้แต่ถอนหายใจแล้วเล่าความจริงทั้งหมด

ออกมา
ทันทีที่เลี้ยงหยางพูดจบ จางกุ้ยก็รีบลุกขึ้นแล้วชี้หน้าด่า ลู่เสี่ยงหยาง “ไอ้คนเหลือขอ นายพูดอะไรของนาย เรื่องนี้ไม่ เกี่ยวอะไรกับหลิวห้าวเลยนะ ทำไมนายต้องใส่ร้ายคนอื่น ด้วย?

หลิวต้าจู๋ก็รีบพูดตาม “จริงเหมือนกันนะน้อง เธออย่าไป

เชื่อมั่น หลิวห้าวยังไม่มีใบขับขี่เลย แล้วจะขับรถได้ยังไง?”

หลิวห้าวส่ายหัวแล้วพูดอย่างเย้ยหยัน “ผมยังไม่เคยแตะ รถเลย แล้วใครจะเชื่อล่ะ? ไอ้เลี้ยงหยางคงคิดว่าพวกคุณ เป็นเด็ก ใสซื่อสินะ”

จางกุ้ยจู่มือเท้าสะเอวแล้วมองไปที่เลี้ยงหยางและพูดว่า “อีกอย่าง เมื่อกี้เสี่ยงหยางบอกว่าเขาจัดการเรื่องนี้แล้ว ถ้า ไม่ใช่เรื่องของเขาจริงๆ แล้วเขาจะใจดีช่วยขนาดนี้เลยเห

รอ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ