หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

บทที่ 21 จะเสแสร้งทำไม



บทที่ 21 จะเสแสร้งทำไม

ฟังลู่เสี้ยงหยางพูด คนตระกูลเย่เลือดหยดในใจ

คนอย่างพวกเขาย่อมรู้ดี ปิ่นปักผมนั้นเป็นของตกทอด

ทางวัฒนธรรม ราคาห้าสิบกว่าล้านท่านย่าพูดว่าเป็น ของปลอม เป็นเพียงไม่ต้องการยอมรับลู่เสี้ยงหยาง และลู่เสี้ยงหยางทำลายวัตถุโบราณทางวัฒนธรรม ราคาห้าสิบกว่าล้านแล้ว

ต่อหน้าต่อตาคนพวกนี้เลย ไฟลุกไหม้ธนบัตรสีขาว กองใหญ่

เย่เจิ้งกั่ว, เย่เจิ้งซาน, เย่เจิ้งเหอนั่งบนเก้าอีื้อย่าง

ตะลึง ดูสิ้นหวัง

ให้ตายเถอะ วัตถุโบราณทางวัฒนธรรมราคาห้าสิบ กว่าล้านก็ศูนย์ไปเช่นนี้เหรอ

เย่หยุนเทาตาแดง จ้องมองลู่เสี้ยงหยางอย่างโหดร้าย เดิมที่เขามีแผนในใจ อีกไม่กี่วันก็จะไปประจบคุณย่า เพื่อหวังให้คุณย่ามอบวัตถุโบราณนี้ให้เขาไปประมูล จากนั้นใช้เงินส่วนนี้เติมเต็มการเงินของบริษัท เพื่อเป็น เหตุผลในการโกงกิน

แต่นึกไม่ถึงว่า แผนการทั้งหมดจะศูนย์เปล่า

เสียงของแตก ตกลงพื้น
ท่านย่าขาอ่อน นั่งลงบนเก้าอี้อย่างหนัก ตัวสัน ลักษณะท่าทางเหนื่อยล้า ดูเหมือนจะแก่ลงมากในพริบ ตาเดียว

แม้ว่าตระกูลเย่ครอบครัวจะใหญ่โต ธุรกิจใหญ่โต มี หลายบริษัทอยู่ภายใต้ แต่ทั้งหมดเป็นเพราะผู้รับผิด ชอบไม่เก่งในด้านธุรกิจ กำไรสุทธิปีละก็แค่ประมาณ สิบล้าน สำหรับห้าสิบล้านทั้งตระกูลเย่ก็ต้องต่อสู้กัน ประมาณห้าปีโดยไม่กินไม่ดื่มถึงจะได้มา

แต่ลู่เสี้ยงหยางใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีก็ทำลายมัน แล้ว

“โอ๊ย แม่เจ้า เป็นการทำลายสิ่งของตามอำเภอใจ จริงๆ” จางเทียนเฉิงใจเต้น รู้สึกปวดหัวขึ้นมา มือสอง ข้างปิดตาทันที ทนมองไม่ได้ วัตถุโบราณชิ้นนั้น กระจัดกระจาย

“ลู่…….คู่เสี้ยงหยาง คุณกล้ามาก” ต่อมา ท่านย่า เงยหน้าขึ้น จ้องที่ลู่เสี้ยงหยาง สีหน้าหม่นหมองมาก

ลู่เสี้ยงหยางยิ้มอย่างไม่แยแส พูดว่า “คุณย่า ฉันทำ เพื่อคุณย่านะ ฉันมอบสินค้าที่ขายตามแผงให้ เป็นความ ผิดของฉันจริงๆ ฉันต้องขออภัยกับท่านด้วย เพียงเพื่อ ป้องกันไม่ให้คนแก่กลุ้มใจเมื่อเห็นแผงขายของใน อนาคต ดังนั้นฉันจึงทำลายมันทิ้งไป

เสียงของแตก ตกลงพื้น
ลู่เสี้ยงหยางยังไม่ทันพูดจบ เสียงที่คมชัดดังก่องไป ทั่วใบหน้าของเขา ไม่รู้ว่าหลิวจิ้งมาถึงตัวเขาตั้งแต่เมื่อ ไหร่ ตบมาอย่างแรง

“คู่เสี้ยงหยาง ใครให้ความกล้ากับคุณมาบังคับคนที่นี่ คุณเป็นตัวอะไรในบ้านของพวกเรายังไม่รู้ตัวอีกเหรอ ใครให้คุณมาเบ่งอำนาจที่นี่” หลิวจิ้งน้ำเสียงเย็นชา

เหมือนมีดที่ทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจของลู่เสี้ยงหยาง

ลู่เสี้ยงหยางกำหมัดแน่น อยากจะให้บทเรียนบาง อย่างกับหลิวจิ้ง เสียดายแสงระเรื่อของดวงตาเหลือบไป เห็น เย่สวนร้องไห้เงียบๆ

ครืนๆ (เสียงฟ้าร้อง)

ร่างกายและจิตใจสั่นสะท้านอย่างหนัก เขาจึงใจอ่อน ล้มเลิกความคิดนี้

“ทำไม กำหมัดด้วย อยากต่อยฉัน เช่นนั้นคุณก็ต่อยสิ” หลิวจิ้งมองลู่เสี้ยงหยางอย่างดูถูก “คนขี้ขลาดตาขาว และไม่มีความสามารถอย่างคุณ ช่วงนี้ทำไมปีกกล้าขา แข็ง ถ้าเป็นเช่นนี้แล้วคุณจะอยู่บ้านพวกเราอีกทำไม รีบ ออกไปเร็วๆเลย ฉันจำได้เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน ในงาน เลี้ยงของท่านย่าได้กล่าวคำปฏิญาณว่า ต่อไปจะไม่ กลับมาอีก แล้วทำไมตอนนี้กลับมาเหมือนหมาเลย” หลิว จิ้งทุกคำพูดแทงใจดำ

ลู่เสี้ยงหยางหายใจเข้าลึกๆ ระงับความโกรธ พูดเบาๆ “ได้ ฉันจะไป”
มองไปที่เยสวนแล้วฝืนยิม ก้าวไปข้างหน้าและเตรียม ตัวออกไปนอกร้านอาหาร

เย่สวนอ้าปากอยากจะยับยั้งลู่เสี้ยงหยาง แต่ไม่รู้ว่าจะ พูดออกไปอย่างไร

หลิวจิ้งยังคงเต็มไปด้วยการดูถูกยิ้มแดกดัน คนขี้ ขลาดตาขาวและไม่มีความสามารถอย่างลู่เสี้ยงหยาง ออกจากบ้านของพวกเขาไป จะไปไหนได้ คิดว่าน่าจะ ขอทานข้างนอกสองสามวัน ก็คงกลับมาอย่างหมด สภาพ ถึงเวลานั้นคอยดูว่าเธอจะเยาะเย้ยคนเสียข้าวสุก นี้อย่างไร

“ฮาฮาฮา” เสียงหัวเราะดังก้อง ทุกๆคนมองไปที่ลู่เสี้ยง หยาง เหมือนกำลังมองดูตัวตลก

“หยุดนะ” ต่อมาลู่เสี้ยงหยางกำลังจะเดินออกจาก ประตูร้านอาหาร ก็ถูกท่านย่าเรียกให้หยุด

“ทำไม ยังมีธุระอะไรอีก” ลู่เสี้ยงหยางหันกลับมาอย่าง เย็นชา มองท่านย่าแล้วถาม

ท่านย่ายิ้มอย่างเย็นชา “ในเมื่อคุณตัดสินใจจะออกไป จากตระกูลเย่ของพวกเรา เช่นนั้นตั้งแต่นี้เป็นต้นไป คุณ ก็ไม่ใช่สมาชิกตระกูลเย่ของพวกเราแล้ว อาหารมื้อนี้จะ ทานฟรีไม่ได้ แต่ท่านย่าฉันจะไม่ทำให้เธอต้องลำบาก ใจ อาหารมื้อนี้ของคุณจะต้องแบ่งจ่ายเท่ากัน”

ทันทีที่กล่าวประโยคนี้ ทุกคนตระกูลเย่ต่างขบคิด ค่าใช้จ่ายของร้านอาหารรอยเอ็ลเบอร์หนึ่ง พวกเขาได้ยิน มาว่าวันนี้ วันนี้มีทั้งหมดสิบห้าโต๊ะถ้าไม่เงินเป็นหลักล้าน ก็คงจะไม่ไหว แม้ทุกคนจะแบ่งจ่ายกับลู่เสี้ยงหยางเท่าๆ กัน ลู่เสี้ยงหยางก็ต้องจ่ายหลายหมื่นเช่นกัน

ไอ้ผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกิน จะเอาเงินหลายหมื่นนี้มา จากไหน

เย่สวนกัดริมฝีปาก เธอรู้ว่าลู่เสี้ยงหยางไม่มีเงิน ดังนั้น อยากจะจ่ายแทนลู่เสี้ยงหยาง

เธอยังไม่ทันเอ่ยปาก ท่านย่ามีคำสั่งว่า “วันนี้ห้ามใคร ช่วยเขาเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นก็จะถือว่ายักท่ากับฉันท่าน ย่า”

เย่สวนหน้าซีด ร่างเล็กๆสั่นเสียใจมาก

หลิวจิ้งยิ้มอย่างเย็นชาอย่างต่อเนื่อง “ลู่เสี้ยงหยาง ไอ้ คนเสียข้าวสุก เมื่อครู่มั่นใจมากไม่ใช่เหรอ คุณคิดว่าตัว เองเก่งมากใช่ไหม ไม่มีตระกูลเย่ของพวกเรา คุณอยู่ ข้างนอกก็เป็นแค่หมาตัวหนึ่ง”

“จริงเหรอ” ลู่เสี้ยงหยางหัวเราะเยาะตัวเอง “ได้ ฉันก็ ไม่อยากติดหนี้บุญคุณตระกูลเย่พอดี อาหารมื้อนี้ ฉัน ควรจ่ายเท่าไหร่ จะไม่ให้ขาดแม้แต่สตางค์เดียว”

“ดี ขอให้คุณเก่งแบบนี้ตลอดไป” ท่านย่าเรียก พนักงานสาวสวยคนหนึ่งมาคิดค่าใช้จ่ายของพวกเขา

ทั้งหมด
ครู่ต่อมา พนักงานสาวสวยคนนี้ก็คิดค่าใช้จ่ายทั้งหมด ออกมาแล้ว

“คุณย่าท่านนี้ ค่าใช้จ่ายของพวกท่านทั้งหมดในวันนี้ คือห้าสิบเอ็ดล้านหนึ่งแสนเก้าหมื่น ร้านอาหารของเรา ให้ส่วนลดแก่พวกคุณ ตัดเลขด้านหลังออก ทั้งหมดห้า สิบล้าน”

อะไรนะ

ทันทีที่กล่าวประโยคนี้ออกมา ทุกคนต่างตะลึง

ตามที่พวกเขาคำนวณ สองล้านก็ถือว่าสุดๆแล้ว แต่นึก ไม่ถึงว่าจะทานไป ห้าสิบล้าน

เอาเงินทุนหมุนเวียนทั้งหมดของตระกูลเย่กรุ๊ปออกมา

ก็น่าจะมีแค่ห้าสิบล้าน

“แม่เจ้า ร้านอาหารของพวกคุณเป็นร้านอาหารที่ หลอกปล้นทรัพย์เหรอ อาหารแค่สิบห้าโต๊ะตั้งห้าสิบล้าน คิดว่าอาหารของพวกคุณแปลกประหลาดมากเหรอ” เย่ หยุนเทาโกรธก่อน คำรามใส่พนักงานสาวสวย

“ใช่ ใช่ แม้ร้านอาหารของพวกคุณคิดที่จะหลอกปล้น ทรัพย์ของพวกเรา ก็คงจะไม่เกินไปขนาดนี้มั่ง พวกเรา จะแจ้งความ” เย่ซวงสองมือเท้าเอว พูดด้วยความโกรธ

“ใช่ใช่ใช่ พวกเราไม่สามารถถูกแบล็กเมล์เหมือนคน โง่ รออะไรอีก รีบแจ้งความสิ” เย่เจิ้งกั๋วหยิบโทรศัพท์ ออกมา เตรียมจะแจ้งความ
พนักงานสาวสวยยิ้มเยาะ “ครอบครัวที่ยากจนขน่าดนี้ ไม่มีเงินยังจะมาในสถานที่แห่งนี้ เมื่อครู่พวกคุณไม่ใช่ ยังแสร้งเป็นคนรวยเหรอ ยังจะสั่งอาหารที่พิเศษของที่นี่ และเหล้าก็จะเอาอย่างที่แพงที่สุด ฮี อาหารพิเศษของที่ นี่ทุกอย่าง อย่างละหนึ่งแสน โดยเฉลี่ย ทุกโต๊ะอาหาร สิบอย่างก็เท่ากับหนึ่งล้าน บวกกับเหล้าที่แพงที่สุดใน ร้านอาหารก็คือไวน์แดงลาโซลปี95 ขวดละสองล้านสี่ แสน ราคาเหล่านี้เปิดเผยและโปร่งใส สามารถตรวจ สอบได้ หากคุณมีข้อสงสัยสามารถตรวจสอบได้”

“แต่ฉันขอเตือนทุกท่านด้วยความหวังดี ถ้าพวกท่าน แจ้งความ ตำรวจมาตรวจสอบแล้ว ทุกอย่างเป็นจริงดั่งที่ ฉันกล่าวไปแล้วนั้น จะถือว่าพวกท่านส่งผมกระทบต่อ ชื่อเสียงของร้านอาหารพวกเรา ทำให้พวกเราเสียหาย จะต้องชดใช้เป็นสิบเท่า ฉันคำนวณคร่าวๆแล้วก็เป็น จำนวนเงินไม่มากเลย ก็แค่หลักพันล้าน”

ครืนๆ(เสียงฟ้าร้อง)

คำพูดเพิ่งพูดออกมา ในหัวของทุกคนเหมือนมีเสียง ฟ้าร้อง

ตอนนี้พวกเขาดึงสติกลับมาได้ คิดดูแล้ว ร้านอาหาร หรูระดับร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่ง เป็นไปไม่ได้ที่จะ แบล็กเมล์พวกเขา จะต้องคิดตามค่าใช้จ่ายจริงแน่นอน

ทางครอบครัวลูกสะใภ้ทั้งสามของท่านย่าเริ่มไม่พอใจ แล้ว ถ้าตระกูลเย่ไม่ยอมจ่ายเงินก้อนนี้ ห้าสิบล้านนี้ต้องมาแบ่งจ่ายทุกคน ก็ต้องจ่ายคนละสามแสนกว่า มอน พวกเขาถือว่ากินจนเข้าเนื้อจริงๆ

“เฮ้ยท่านย่าทำไมต้องสั่งอาหารแพงขนาดนั้นด้วย หยุ นเทาก็เช่นกัน ทำไมไม่ตรวจสอบราคาก่อนที่จะสั่ง อาหารพิเศษและเหล้าที่แพงที่สุดมา” คนบ้านลูกสะใภ้ คนหนึ่งพูดขึ้น

“ใช่ๆ ไม่ประเมินตัวเองก่อน พวกเราไม่มีเงินก็สั่งอะไร ระดับล่างๆก็ได้” คนบ้านลูกสะใภ้อีกคนหนึ่งพูดขึ้น

“เฮ้ย ทุกคนอย่าเถียงกันเลย ท่านย่าเชิญพวกเราสาม ตระกูลมาทานข้าว แล้วจะให้พวกเราสามตระกูลมารับ ผิดชอบเหรอ ถ้าพูดออกไป มันจะไม่เป็นเรื่องตลกของ เมืองปินเหอเหรอ” คนบ้านลูกสะใภ้อีกคนใช้วิธีการยั่วยุ

ในหวาเซี่ย ให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมบนโต๊ะอาหาร หากเชิญคนอื่นมาทานข้าวแล้วให้คนอื่นจ่าย ถ้าพูดออก ไปคงจะเป็นเรื่องตลกมาก

ฟังคำพูดนี้แล้ว ท่านย่าอยากให้ทุกคนแบ่งจ่าย ก็คงจะ พูดไม่ออก

หลายคนในตระกูลเย่มองไปที่เย่หยุนเทา จะเสแสร้ง ทำอะไร คราวนี้แสร้งทำไปสิ

ท่านย่าเปลือกตากระตุก และไม่ค่อยพอใจกับการกระ ทำของเย่หยุนเทาสักเท่าไหร่

เย่หยุนเท่าสังเกตไปมา เขาจะมาแบกภาระนี้ไม่ได้ รีบพูดไปว่า “คุณย่า ก็แค่ห้าสิบล้าน ตระกูลเย่ของพวกเรา ธุรกิจใหญ่โตขนาดนี้ จะจ่ายไม่ไหวได้อย่างไร อีกอย่าง การทานแบบห้าสิบล้านนี้ ถ้าพูดออกไปในเมืองปินเหอก็ ถือว่าเป็นหน้าเป็นตาของพวกเราเช่นกันนะ คุณย่า แม้ ตระกูลเย่ของพวกเราในตอนนี้ยังไม่ใช่ตระกูลที่อยู่แนว หน้า แต่การใช้จ่ายไม่ได้น้อยหน้าพวกตระกูลแนวหน้า แล้ว ฉันเชื่อว่า ตระกูลแนวหน้าพวกนั้นต่อไปก็คงจะไม่ กล้าดูถูกพวกเราแล้ว”

“ก็ใช่” ท่านย่าฟังแล้วรู้สึกว่าคำพูดนี้มีเหตุผล กล่าว อย่างไม่แยแส “ห้าสิบล้านในวันนี้ ฉันท่านย่าจะเป็นผู้รับ ผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว”

ห้าสิบล้านนี้เป็นเงินบำนาญที่เธอเก็บออมมากว่าสิบ กว่าปี

ทุกคนโล่งใจ ทุกคนต่างเยินยอท่านย่า

“แม่ สมควรแล้วที่เป็นหัวหน้าครอบครัว อาจหาญมาก”

“คุณย่า ท่านเป็นวีรสตรีจริงๆ”

“ฮาๆท่านย่าเรารู้ว่าคุณเป็นมิตรและมีอัธยาศัยดี เป็น ไปไม่ได้ที่จะปฏิบัติต่อญาติและเพื่อนไม่ดี” ท่านย่าได้รับการยกย่อง แต่ไม่นานก็เห็นลู่เสี้ยงหยาง

อดไม่ได้ที่จะพูดอย่างเย็นชา “ส่วนของคุณ คุณจ่าย

เอง”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ