หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

บทที่ 174 คุกเข่าค่านับอาจารย์



บทที่ 174 คุกเข่าค่านับอาจารย์

คู่เสี้ยงหยางมองขวดยาที่อาจารย์เมิ่งถืออยู่ในมือแล้วพูด เบา ๆ ว่า “นี่ก็คือผลงานของพวกคุณใช่ไหม?”

อาจารย์เมิ่งจับขวดยาไว้แน่น ๆ เพราะกลัวลู่เสี้ยงหยางจะ คิดไม่ดีกับเขา จากนั้นรีบพูดต่อ “นายคิดจะทำอะไร?”

สู่เสี้ยงหยางไม่ได้ตอบคำถามเขา เพียงแต่มีอขวาของเขา พุ่งออกไปราวกับสายฟ้าแล้วคว้าขวดยาจากมือของอาจารย์ เมิ่งมา

ภาพนี้มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับเป็นความเร็วแสง ดัง นั้นอาจารย์เมิ่งยังไม่ทันได้ระวังตัว

จากนั้นเมื่ออาจารย์เมิ่งและผู้เชี่ยวชาญอีกสามคนรู้ตัวอีก ที่ลู่เสี้ยงหยางก็ได้เปิดขวดยาในมือของเขาออกแล้ว

“บังอาจ!”

“ไอ้หนู นายกล้าเหรอ?”

“หยุดเดี่ยวนี้นะไอ้หนู”

เสียงของอาจารย์เมิ่งและคนอื่น ๆ ตะโกนดังขึ้น

แต่สู่เสี้ยงหยางแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินแล้วตมขวดยาที่เขา

เปิดออก
“เงิน 0.05% กล้วยไม้สีม่วง 0.03% ใบหมากสง 0.09% แบล็คเบอร์รี่ 0.035% โซเดียมฟินิลโบรไมด์ 0.078%.

ทันใดนั้น สู่เสี้ยงหยางก็บอกส่วนผสมในขวดยานั้นออก มาอย่างละเอียด

“โอ้พระเจ้า นี่..นี่มันอะไรกัน?” หลิ่วหรูยู่และซิลี่ต่างก็ ตกใจจนอุทานออกมา

การกระทำของลู่เสี้ยงหยางในตอนนี้มันเหนือความคาด หมายของพวกเธอไปแล้ว มันมากกว่าคำว่าขอบเขตของ วิทยาศาสตร์ด้วยซ้ำ ลู่เสี้ยงหยางแค่ใช้จมูกตมก็รู้ส่วนผสม ทั้งหมดของสูตรยานั้น

มันน่ากลัวจริง ๆ นอกจากจมูกของเขาแล้วยังมีอะไรซ่อน อยู่อีกไหม?

“แมร่งเอ้ย! เป็นไปได้ไง?”

เหอะ!

อาจารย์เมิ่งและผู้เชี่ยวชาญคนอื่น ๆ ก็เริ่มพูดจาหยาบ คายและแสดงสีหน้าตกใจ

ยาใหม่ตัวนี้เป็นงานวิจัยของนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญทั้งสี่ที่ร่วม มือกันอย่างยากลำบาก ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ส่วนผสมในนี้ปันอ ย่างดี แต่สิ่งที่สู่เสี้ยงหยางพูดเกี่ยวกับส่วมผสมในยาเมื่อครู่ นี้มันกลับถูกต้องตามความเป็นจริงทุกประการ ซึ่งมันเป็นไปได้ยากมากที่เขาจะทายถูก

แม้แต่เครื่องจักรที่มีความละเอียดสูงยังต้องผ่านการ วิเคราะห์มาเป็นร้อยครั้งและยังไม่สามารถวิเคราะห์ได้ ละเอียดขนาดนี้

แต่ลู่เสี่ยงหยางคนนี้แค่ใช้จมูกดมเท่านั้น

เขาต้องเก่งแค่ไหน! เขาต้องเป็นคนน่ากลัวแค่ไหน!

จึงทำให้พวกเขาต้องยอมรับ

และมองไปที่ลู่เสี้ยงหยางเหมือนกำลังมองปีศาจอยู่

“เหอะ ๆ ผมยังคิดว่าผลงานวิจัยของพวกคุณจะดีไปถึง ไหนกัน ที่แท้มันก็แค่เศษขยะ” ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญทั้งสี่ กำลังตกใจอยู่ ลู่เสี่ยงหยางก็พูดขึ้นพร้อมกับโยนขวดยาลง

ถังขยะ

ตูม!

สู่เสี้ยงหยางในตอนนี้ก็เหมือนต้อนขนาดใหญ่ที่ทุบเข้าไป ที่หัวใจของหลิ่วหรูยู่และซิลื่อย่างจัง

คู่เลี้ยงหยางจำเป็นต้องเอาแต่ใจขนาดนี้เลยหรือ? เขา จำเป็นต้องก้าวร้าวขนาดนี้เลยหรือ? เขาถึงขั้นต้องเอาผล งานของอาจารย์เมิ่งและผู้เชี่ยวชาญอื่น ๆ ทิ้งลงถังขยะแบบนี้

นี่เท่ากับว่าเป็นการต่อต้านพวกเขาทั้งหมดเลยนะ
“แมร่งเอ้ย นี่มันกลั่นแกล้งกันชัด ๆ มันเกินไปแล้ว” สีหน้า ของอาจารย์เมิ่งและคนอื่น ๆ กลายเป็นความโกรธอย่าง รวดเร็ว พวกเขาหลายคนทำงานร่วมกัน ช่วยกันเก็บเกี่ยว ข้อมูลมากมายจนได้ผลิตภัณฑ์ใหม่หลังจากการพยายามมา หลายต่อหลายเดือน แต่สุดท้ายกลับถูกลู่เสี้ยงหยางทิ้งลงถัง ขยะแบบนี้

นี่มันเท่ากับการเอาศักดิ์ศรีของพวกเขาไปบดขยี้ให้แหลก เป็นชิ้น ๆ

“แมร่งเอ้ย! ไอ้เด็กเวร วันนี้ถ้านายอธิบายการกระทำของ นายไม่ได้ เราจะฟ้องนายในข้อหาที่นายเข้ามาขโมยความ ลับของบริษัท นายเตรียมตัวไปอยู่ในคุกตารางน้ำเน่าเหม็น ตลอดชีวิตได้เลย” อาจารย์เมิ่งกำหมัดไว้แน่น ๆ แล้วพูดด้วย ความโกรธ

“ไอ้เด็กเวร นายช่วยพูดอะไรที่ทำให้พวกเราพอใจก็แล้ว

กัน”

“ใช่ หรือว่าถ้านายคุกเข่าขอร้องพวกเราในดอนนี้ บางที พวกเราอาจจะเห็นใจนายก็ได้” ผู้เชี่ยวชาญอีกสามคนก็พูด ตามน้ำ

ลู่เสี้ยงหยางส่ายหัวแล้วพูดอย่างใจเย็นว่า “ที่ผมกล้าเอา ผลงานของพวกคุณโยนลงถังขยะนั้นเป็นเพราะผมมีเหตุผลดี พอที่จะทำ”
* หลิ่วหรูยู่และซิลี่ถึงกับอึ้ง

สู่เสี้ยงหยางร้ายกาจจริง ๆ ไม่ไว้หน้าผู้เชี่ยวชาญทั้งสี่คนนี้

เลย

“ไอ้เด็กเวร! นายมัน….” ผู้เชี่ยวชาญทั้งสี่โกรธจนลุกเป็น ไฟอีกครั้ง

โชคดีที่พวกเขาเพิ่งใต้เจอกับลู่เสี้ยงหยางในวันนี้ ถ้าหาก ได้เจอลู่เสี้ยงหยางก่อนหน้านี้เกรงว่าพวกเขาคงต้องหัวใจ วายก่อนวัยอันควรแน่

สู่เสี้ยงหยางพูดต่อโดยไม่สนใจว่าผู้เชี่ยวชาญสี่คนนี้จะหัว ร้อนแค่ไหน “ก่อนอื่น ผมอยากบอกว่าผลิตภัณฑ์ใหม่ของ พวกคุณไม่มีประสิทธิภาพเลย โดยประมาณแล้วจะเห็นผล เพียงแค่7-80% ของยาเท่านั้น พวกคุณได้ตระหนักถึงเรื่องนี้ จึงได้เพิ่มปริมาณของแบล็คเบอร์รี่ที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา เข้าไป แม้ว่าแบล็คเบอร์รี่จะสามารถกระตุ้นปฏิกิริยาได้แต่ มันจะนำมาซึ่งผลข้างเคียง และเพื่อที่จะกลบเกลื่อนผลข้าง เคียงนี้พวกคุณจึงได้เพิ่มปริมาณของใบหมากสงเข้าไป ซึ่ง ใบหมากสงนั้นเป็นพิษต่อร่างกายอยู่แล้ว แม้จะถูกลบสาร พิษด้วยวิธีต่าง ๆ แต่ถ้าใช้งานกับร่างกายในระยะยาวแล้ว มันต้องเป็นอันตรายต่อผิวหนังอย่างแน่นอน ดังนั้นผลงาน วิจัยของพวกคุณโดยภาพรวมแล้วไม่ต่างอะไรกับการฆ่าช้าง เอางาเลย นอกจากเศษขยะแล้วมันจะเป็นอะไรได้อีก?”
แรงสั่นสะเทือนของคำพูดเหล่านี้ได้สนั่นเข้าไปถึงจิตใจ! อาจารย์เมิ่งและผู้เชี่ยวชาญอีกสามคนได้แต่กัมหน้าไม่

กล้าสบตาลู่เสี่ยงหยางเลย พวกเขารู้สึกไม่สบายใจเพราะทุกคำพูดของสู่เสี้ยงหยาง นั้นเป็นความจริง ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่พวกเขาภาคภูมิใจนี้กลับ

ถูกทำลายด้วยคำพูดเพียงไม่กี่ค่าของลู่เสี้ยงหยาง

“โห ช่างเป็นฮีโร่ในดวงใจของฉันจริง ๆ” หลิ่วหรูยูได้แต่ อึ้งจนอ้าปากค้างไว้ “มหัศจรรย์ ช่างมหัศจรรย์จริง ๆ” ซิลี่ก็รู้สึกน่าทึ่งกับเขา

คนนี้

แต่ความอัปยศของผู้เชี่ยวชาญทั้งสี่ก็อยู่ใต้ไม่นาน ทันใด นั้นอาจารย์เมิ่งก็พูดกับลู่เสี้ยงหยางอีกครั้ง “สิ่งที่นายพูดก็ พอมีเหตุผลอยู่นะ แต่มันไม่ได้หมายความว่านายมีดีตรงไหน หรอก หมาเห่าใบตองแห้งใคร ๆ ก็ทำได้ ว่ามั้ย? ไอ้หนู นาย ช่วยทำอะไรที่มันเป็นรูปเป็นร่างออกมาให้ชมหน่อยเถอะ”

เขายังไม่ยอมแพ้และต้องการเอาชนะลู่เสี้ยงหยางให้ได้

คู่เสี้ยงหยางเมื่อได้ยินคำพูดของอาจารย์เมิ่งแล้วก็อต หัวเราะไม่ได้ ดูเหมือนตาแก่คนนี้ยังไม่ตายใจ สำหรับคน แบบนี้ต้องเหยียบลงพื้นให้มิดถึงจะยอมแพ้

แต่มันอาจจะผิดหลักมนุษยธรรม ลู่เสี้ยงหยางจึงเตือนอาจารย์เมิงด้วยความหวังดีอีกครั้ง “ถ้าผมเอาผลงานของผม ออกมา ผมเกรงว่าคุณจะพ่ายแพ้ไปมากกว่านี้ ตอนนี้ผม กำลังให้เกียรติคุณอยู่นะ เข้าใจไหม?”

แต่หารู้ไม่ สำหรับคำเตือนในความหวังดีของู่เสี้ยงหยาง แล้วอาจารย์เมิ่งแค่มองว่ามันคือข้ออ้างของคนขี้ขลาด เท่านั้น เพราะกลัวแพ้จึงได้หาเหตุผลมาแก้ต่าง

“เหอะ ๆ พูดจาสามหาวดีจริง ๆ นะไอ้หนู ถ้านายเอาผล งานที่น่าเหลือเชื่อของนายออกมาได้ล่ะก็ เราจะคุกเข่ากราบ บูชานายและยอมให้นายเป็นอาจารย์ของเราเลย” อาจารย์ เมิ่งกัดฟันพูด วันนี้เขาถูกไอ้เด็กเปรตคนนี้หักหน้ามาเยอะ แล้ว ถึงคราวต้องกู้ศักดิ์ศรีกลับมาบ้าง ถ้าเรื่องนี้หลุดออกไป ชื่อเสียงเรียงนามตลอดชีวิตที่เขาสร้างมาคงต้องหมดกัน

ผู้เชี่ยวชาญอีกสามคนก็พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของ อาจารย์เมิ่ง “ไอ้หนู พวกเราก็ขอพนันกับนายด้วยละกัน ถ้า นายมีผลงานที่ทำให้พวกเรารู้สึกน่าที่งได้ พวกเรายอม ตุกเข่าบูชานายในฐานะอาจารย์ แต่ถ้านายทำไม่ได้นายต้อง มากราบขอโทษพวกเรา”

คู่เสี้ยงหยางได้แต่ยิ้มอย่างเงียบ ๆ ถ้ารังแกคนแก่ที่ไม่มี ทางสู้แบบนี้มันอาจจะผิดธรรมชาติไปหน่อย

ส่วนหลิ่วหรูย่ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รู้สึกกังวลแล้วรีบเข้าไป กระซิบกับลู่เสี้ยงหยางว่า “อย่าไปรับปากพวกมันนะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ