หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

บทที่ 255 เริ่มลงมือก่อน



บทที่ 255 เริ่มลงมือก่อน

ในห้องสอบสวน เต่สี่สิงกำลังจะใช้วิธีอื่นเพื่อจะทำให้หวง ต้าจู้ยอมรับผิด แต่ในขณะนี้เขาได้ยินคำสั่งของู่เสี้ยงหยาง จากหูฟัง

แม้ว่าเขาจะสงสัยลู่เสี้ยงหยางทำไมต้องให้เขาพูดเรื่อง นอกประเด็นด้วย แต่เขาก็ยังคงทำตามในสิ่งที่ลู่เสี้ยงหยางพูด

และสิ่งที่ทำให้เถี่สิงประหลาดใจก็คือ หลังจากที่เขาทำ ตามคำสั่งของลู่เสี้ยงหยางแล้ว สีหน้าของหวงต้าจูที่ถูกสอบ ปากคำก็เปลี่ยนไปทันที จากนั้นเขาตอบด้วยเสียงที่สั่นเทา “พวกคุณก็จุกจิกเกินไปแล้ว”

เทรี่สิงเริ่มเห็นโอกาสและเตรียมถามคำถามต่อไป แต่ใน เวลานี้ เสียงของลู่เสี้ยงหยางในหูฟังก็ดังขึ้นอีกครั้ง “สิ้นสุด การสอบปากคำ ปล่อยเขาไปได้แล้ว”

เก่ลี่สิงไม่กล้าฝ่าฝืนคำพูดของลู่เสี้ยงหยาง ดังนั้นเขาจึง ทำได้เพียงยุติการสอบสวนและให้ผู้ช่วยปล่อยตัวหวงต้าจู้ไป

ลู่เสี้ยงหยางเฝ้าดูทุกการเคลื่อนไหวของหวงต้าจู่ เขา

เห็นหวงต้าจู้เดินออกจากห้องสอบสวนด้วยสีหน้าอันเศร้า

หมอง ดูเหมือนเขาจะเก็บกดมาก หวังไสว่าก็รู้สึกประหลาดใจและถามลู่เสี้ยงหยางว่า “จะ ปล่อยเขาไปง่ายๆ แบบนี้เลยหรือ?”

คู่เสี้ยงหยางถามเธอกลับ “แล้วคุณคิดว่าต้องทำยังไง จะ กักตัวเขาไว้ที่นี่ไปตลอดเลยเหรอ?”

หวังไสว่าส่ายหัว เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้พวกเธอไม่มี หลักฐานเพียงพอที่จะกักขังหวงต้าจู้ได้ และเมื่อถึง 24 ชั่วโมง ก็จำเป็นต้องทำการปล่อยตัวเขา

ซึ่งมันไม่เป็นประโยชน์ต่อการทำคดีของหวงต้าจู้เลย “แล้วคุณคิดว่าเราต้องทำอย่างไรต่อ?” หวังไสว่ขมวดคิ้ว

ถาม

ลู่เสี้ยงหยางมีแผนในใจอยู่แล้ว เขาจึงตอบเธอว่า “ตอนนี้ หวงต้าจู้ถูกเรากระทบความรู้สึกแล้ว ดังนั้นหลังจากนี้เขาจะ เลือกการกระทำด้วยสองวิธี”

“หนึ่งคือ เขาจะหยุดก่อคดีเพื่อทำให้เราไม่สามารถ เอาผิดเขาได้”

“สองคือ เขาจะเลือกลงมือก่อเหตุอีกครั้งในเร็วๆ นี้ เพื่อ เขาจะได้ระบายความเก็บกดในใจออกไป”

หวังไสว่ถามต่อด้วยความกังวล “ถ้าเขาเลือกวิธีแรก เลือกที่จะเงียบหายไป งั้นเราก็ทำอะไรไม่ได้แล้วสิ”

ลู่เสี้ยงหยางครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง จากนั้นค่อยตอบเธอ “แต่ ผมคิดว่าเขาจะไม่วางมือนะ ผมกล้ายืนยันเลยว่าเขาจะเลือก ก่อเหตุในเร็วๆ นี้อีกครั้งอย่างแน่นอน”

หวังไสว่รีบถามกลับ “แต่มันมีความเป็นไปได้น้อยมาก เลยนะ เพราะตอนนี้หวงต้าจู้รู้ตัวแล้วว่าเขาจะถูกทางตำรวจ จับตามอง 24 ชั่วโมง แล้วคุณคิดว่าในกรณีนี้เขายังเข้ามาติด กับเราง่ายๆ แบบนั้นเลยหรือ?”

ลู่เสี้ยงหยางตอบคำถามเธอ “คุณจะเอาเขาไปเทียบกับ คนทั่วไปไม่ได้ ความคิดของฆาตกรโรคจิตมันไม่เหมือนกับคน ปกติทั่วไปหรอก และเหตุผลที่ผมขอให้เก่ลี่สิงช่วยบอกกับ หวงต้าจู้ว่าเราจะเผยแพร่คลิปวิดีโอที่เขาเข้าไปขโมยยาใน ร้านยาก็เพื่อจะทำให้เขาสติแตกอีกครั้ง” “พูดตามตรง ที่ผ่านมาหวงต้าจู๋ใช้วิธีการฆ่าคนเพื่อ ประกาศให้โลกรู้ว่าเขานั้นเป็นคนแข็งแกร่งมากแค่ไหน ถ้าวัน นี้เราปล่อยหลักฐานการขโมยของเขาออกไป เขาต้องยอมรับ ความจริงและทนรับการถูกดูถูกเหยียดหยามไม่ได้อย่าง แน่นอน ดังนั้นสุดท้ายแล้วเขาก็จะเกิดการขัดแย้งในใจขึ้น และในที่สุดเขาจะเลือกที่จะฆ่าคนอีกครั้งเพื่อเป็นการระบาย ความเครียดในใจ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หวังไสวก็กระจ่างทันที

ดูเหมือนว่าลู่เสี้ยงหยางจะคาดเดาพฤติกรรมของหวงต้า จู้ได้อย่างแม่นยำ

“เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันจะให้ทีมอาชญากรรมคอยจับตาดู หวงต้าจู 24 ชั่วโมง เมื่อเขามีการเคลื่อนไหวเราจะทำการ จับกุมเขาทันที เพราะเกรงว่าเขาจะฆ่าใครอีก” หวังไสว่พูด อย่างเร่งรีบ จากนั้นหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วเริ่มสั่งการ

หลังจากออกคำสั่งดำเนินการเสร็จสิ้น ลู่เสี้ยงหยางมอง ไปที่หวังไสว่าแล้วพูดว่า “ไปกันเถอะ ครั้งนี้ผมขอมีส่วนร่วมใน ภารกิจนี้ของคุณด้วย เผื่อจะได้ช่วยคุณอีกแรง”

“ได้สิ” หวังไสว่พยักหน้าตอบทันที เธอรอคำนี้ของลู่เสี้ยง หยางมานานแล้ว ขอเพียงลู่เสี้ยงหยางอยู่ด้วยเธอก็จะรู้สึก

ปลอดภัย หลังจากนั้นลู่เสี้ยงหยางกับหวังไสว่าทั้งสองก็ได้เดินออก

จากสถานีตำรวจแล้วเตรียมขึ้นรถ

แต่ในเวลานี้ ทั้งสองได้พบกับเฉินเหลย ผู้เชี่ยวชาญด้าน ความมั่นคงที่ปืนเหอเชิญมา

เฉินเหลยที่ได้เห็นลู่เสี้ยงหยางก็ยิ้มพูดอย่างดูถูก “การ วิเคราะห์คดีก่อนหน้านี้ของคุณมันช่างตลกจริงๆ เลยนะครับ หัวหน้าหวังก็ต้นมาทำตามข้อมูลที่คุณให้ จับโจรลักขโมย กระจอกมาสอบปากคำถึงสถานีตำรวจ แล้วมันจำเป็นตรงไหน ครับ?”

เมื่อพูดถึงจุดนี้ เขากวาดสายตามองไปที่ลู่เสี้ยงหยาง แล้วพูดประชดประชันต่อ “คุณไม่เข้าใจเรื่องจิตวิทยาของ อาชญากรเลย แล้วยังมาแกล้งทำฟอร์มที่นี่ คุณคิดว่าด้วยวิธี ที่คุณสามารถดึงดูดความสนใจของผู้อื่นได้ แล้วมันจะเกิดผล ดีอะไรต่อส่วนรวมเหรอครับ? คุณมันช่างไร้เดียงสาจริงๆ”

หวังไสว่ารู้สึกโกรธมาก เธออยากโต้ตอบแต่ลู่เสี้ยงหยาง ได้พูดขึ้นก่อน “ผู้เชี่ยวชาญเฉินครับ ดูจากท่าทีของคุณแล้ว คุณมั่นใจว่าจะจับฆาตกรได้ใช่ไหมครับ?”

เฉินเหลยยิ้มพูดอย่างได้ใจ “แน่นอนสิครับ ไม่เกินสามวัน ผมก็จะจับกุมฆาตกรได้ ถึงเวลานั้นคุณรอดูผมจะทำอย่างไร ให้ฆาตกรสารภาพผิดนะครับ เหอะๆ ถ้าคุณกลัวแพ้คุณ คุกเข่าขอโทษผมได้นะ ผมจะคิดว่าเราไม่เคยเดิมพันกันมา ก่อน”

ลู่เสี้ยงหยางยิ้มจางๆ แล้วพูดต่อ “ได้สิครับ ผมจะรอให้ผู้ เชี่ยวชาญเฉินคุกเข่ายอมแพ้ต่อหน้าผมเองครับ”

เมื่อพูดจบเขากับหวังไสวก็ขึ้นรถจากไปทันที

ทางหวงต้าจู้

หลังจากที่เขาออกจากสถานีตำรวจก็ตรงกลับไปในเมือง ไท่ผิงแล้วขังตัวเองอยู่ในห้องไม่ออกมาอีกเลย

เวลาผ่านไปจนฟ้ามืดอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลานี้ หวงต้าจู้ ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เลย

ส่วนสู่เสี้ยงหยางกับหวังไสว่าและสมาชิกของทีม อาชญากรรมคนอื่นๆ ต่างก็ได้ตั้งวงล้อมรอบบ้านของหวงต้าจู้ เรียบร้อยแล้ว

พวกเขารอจนฟ้ามืดแต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย และในช่วงเวลานี้ ฝนฟ้าก็เทกระหน่ำลงมา

หวังไสว่ที่เห็นสถานการณ์แล้วก็ขมวดคิ้วขึ้นและถามลู่เสี้ ยงหยางอย่างไม่มั่นใจ “ดูแล้วผู้ต้องสงสัยไม่มีวี่แววที่จะ เคลื่อนไหวเลยนะคะ พวกเราคงไม่ได้พลาดโอกาสการจับกุม ที่ดีที่สุดไปใช่ไหม?”

ลู่เสี้ยงหยางไม่ได้ตอบคำถามเธอ เขายังคงอยู่อย่าง เงียบๆ ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม หรือว่าเราจะคำนวนสถานการณ์ ผิดไป หวงต้าจู้ไม่คิดจะก่ออาชญากรรมแล้วจริงๆ หรือ?

ในเวลาเดียวกัน สมาชิกหลายคนในทีมอาชญากรรมก็ เริ่มสงสัยกับภารกิจของพวกเขา ลู่เสี้ยงหยางไม่ได้คำนวณ สถานการณ์ผิดใช่ไหม?

เขาคงไม่ได้นำการดำเนินคดีไปในทางที่ผิดใช่ไหม? ถ้า อย่างนั้นพวกเราคงต้องเหนื่อยฟรีหลายวันเลยนะ

ในขณะที่ทุกคนกำลังสงสัยอยู่ ในที่สุดหวงต้าจู้ก็มีการ เคลื่อนไหว

ไฟในบ้านของหวงต้าจู้ที่เปิดสว่างอยู่ตลอด ในทันใดนั้น ก็ดับลง จากนั้นประตูบ้านถูกเปิดออก ตามด้วยหวงต้าจู้ที่เดิน ออกจากบ้านไป

หวังไสว่พูดด้วยความตื่นเต้นอีกครั้ง “เขากำลังจะลงมือ แล้วใช่ไหม?” เธอดูกระตือรือร้นมาก

ตามแผนการที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ถ้าหวงต้าจู่เลือกที่จะ ลงมือในคืนนี้ หวังไสวก็จะเป็นเหยื่อล่อให้เอง

เพื่อบังคับให้หวงต้าจู้ลงมือ หวังไสว่จะสวมบทเป็นสาว สวยเซ็กซี่โดยการแต่งตัวชุดเปิดอกกระโปรงสั้นรัดรูปที่เผย ให้เห็นถึงหุ่นอันขาวเรียวเซ็กซี่ของเธอ

หวังไสว่ที่มีหุ่นอันน่าดึงดูดอยู่แล้ว เมื่อแต่งซุดนี้เข้าไปอีก ก็ยิ่งทำให้เธอดูน่าสนใจมากขึ้น และเพื่อทำให้หวงต้าจู้จำเธอไม่ได้ เธอจึงแต่งหน้าโทน

แดงเข้ม ดังนั้นในขณะนี้ ไม่ว่าจะมองจากที่ใกล้หรือไกล หวังไสว่ ก็ดูเหมือนสาวแซ่บที่ทำงานบริการอยู่ในบาร์

ลู่เสี้ยงหยางมองหวังไสว่าที่กำลังจะเสี่ยงชีวิตแล้วพูด อย่างจริงจัง “ระวังตัวด้วยนะครับ”

“ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันเซฟตัวเองอยู่แล้ว” หลังจากพูดจบ หวังไสวสองมือแตะศีรษะแล้ววิ่งออกจากชายคาเข้าใกล้หวง ต้าจู้ท่ามกลางสายฝน

ตอนนี้บทบาทของหวังไสว่าคือสาวบาร์ที่กำลังกลับบ้าน ตอนดึกในท่ามกลางสายฝน

และในไม่ช้า หวังไสว่าก็เข้าใกล้หวงต้าจู้

ในเวลาเดียวกัน ลู่เสี้ยงหยางและสมาชิกของทีม อาชญากรรมต่างก็ตื่นเต้นจนเหงื่อตก

เพราะไม่ว่าจะยังไง หวังไสว่าก็เป็นผู้หญิงบอบบางคนหนึ่ง ไม่รู้ว่าเธอจะเอาชนะฆาตกรโหดเหี้ยมอย่างหวงต้าจู้ได้ไหม แต่ในฉากต่อไป มันกลับทำให้ลู่เสี้ยงหยางและสมาชิก ของทีมอาชญากรรมทั้งรู้สึกดีใจและผิดหวัง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ