หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

บทที่ 166 บัตรเชิญหอการค้า



บทที่ 166 บัตรเชิญหอการค้า

บ้านของหลัวเจินเจิน

เวลานี้ถังปีงหยู่เองได้เดินทางมาถึงบ้านของหลัวเจินเจิน เป็นที่เรียบร้อย เมื่อเธอเห็นใบหน้าเพื่อนสาวที่กลับมาเป็น ตั้งเดิม เธอไม่แปลกใจเลยแม้แต่น้อย

ยังไงซะเรื่องมหัศจรรย์พรรณนี้ได้เกิดขึ้นกับถังหลงมา ก่อนหน้านี้แล้ว หลังจากที่ถังหลงใช้ยาที่ลู่เสี้ยงหยางให้ไว้ วันที่สองรอยแผลเป็นของชายหนุ่มหายเป็นปลิดทิ้ง

แม้เธอไม่ประหลาดใจ แต่ก็สร้างความตระหนกให้กับเธอ อยู่ไม่น้อย ตระหนกในฝีมือของลู่เสี้ยงหยาง ไม่รู้ว่าลู่เสี้ยง หยางเก่งกาจมาจากไหน ถึงได้มียาที่น่าที่งเช่นนี้ติดตัว

เสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามา หลิ่วหรูยู่สะพายกระเป๋า มุ่งเข้า มายังหญิงสาว

ดวงตากลมโตของหลิ่วหรูยู่จับจ้องใบหน้าของหลัวเจิน เงินนิ่ง หลังจากที่เธอผลักประตูเข้ามา

ทันใดนั้น ร่างของหญิงสาวต้องแข็งที่อ พร้อมความ ตระหนกที่ฉาบบนใบหน้า

เธอประจักษ์แก่สายตาตนเอง ใบหน้าของหลัวเจินเจินที่ กลับมาสวยดั่งเดิม เป็นด้านซ้ายจริงๆ ส่วนด้านขวายังคงฟกช้ำอยู่

ใบหน้าด้านซ้ายของหลัวเจินเจิน เป็นยาของถังปิงหยู่ที่ให้ ไว้กับเธอเมื่อวัน

เช่นนั้นแล้ว ยาของถังปิงหยู่ที่ให้ไว้ มีความมหัศจรรย์จริง

ด้วย

“พระเจ้า เรื่องจริงหรือนี่ เป็นไปได้ยังไง?” ในหัวของหลิ่ว หรูยู่กึกก้องไปด้วยคำถามดังกล่าว

เธอเรียนด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพ

เธอรู้ดีว่าการซ่อมแซมของเซลล์ที่สึกหรอนั้นมีขีดจำกัด เช่นเดียวกัน ต่อให้เป็นยาที่ก้าวหน้าที่สุด ก็ไม่สามารถทำให้ ใบหน้าของหลัวเจินเจินหายเป็นปลิดทิ้งได้ในคืนเดียว

หากพูดแบบไม่เกินจริง นี่มันเกินกว่าขอบเขตของวิทยา ศาสตร์

“หรูยู่เธอมาแล้วเหรอ ฉันบอกกับเธอทางโทรศัพท์แล้ว แต่เธอไม่เชื่อ เธอเห็นกับตาแล้วใช่ไหม” หลัวเจินเจินเอ่ย ด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย เสียแรงที่หลิ่วหรูยู่เป็นเพื่อนที่ เธอสนิทที่สุด ถึงกับสงสัยในไอคิวตนเองที่แยกไม่ออก ระหว่างซ้ายกับขวา

เปรี้ยง!

ร่างของหลิ่วหรูยู่สั่นเทา เธอหลุดออกจากภวังค์ ปรี่เข้าไปประชิดตัวแล้วเจินเจินด้วยความเร็วสูง พร้อมเอื้อมมืออัน เรียวยาวขาวนวล บีบนวดที่แก้มข้างซ้ายของหลัวเจินเจินไม่ หยุด

ในระยะประชิด ใบหน้าด้านซ้ายของหลัวเจินเจินกลับมา เป็นดั่งเดิมโดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ แถมผิวพรรณยังดีกว่าแต่ ก่อนหลายเท่าเสียด้วย

สีหน้าที่อึ้งทึ่งของหลิ่วหรูยู่เมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นความ ตระหนก เสมือนถูกผีหลอกในกลางวันแสกๆ

เมื่อเห็นทีท่าราววิญญาณหลุดออกจากร่างของหลิ่วหรูยู่ ถังปิงหยู่จึงเอ่ยอย่างได้ใจ “เมื่อวันใครบางคนยังพูดอยู่เลย ว่ายาของฉันมันขยะ แต่เพราะขยะที่ฉันให้ ถึงได้ทำให้เจิน เงินหายดี”

เมื่อได้ยินประโยค ใบหน้าของหลิ่วหรูอยู่ร้อนผ่าว เธอ อับอายจนแทบอยากมุดดินหนี

ยาที่เธอพัฒนาขึ้นมาใหม่ที่เธอคิดว่าเป็นความภาคภูมิใจ กลับพ่ายให้กับยาที่เธอคิดว่าเป็นเพียงขยะ

ดวงตาของหลัวเจินเจินเป็นประกายราวกับอัญมณี เธอสั่น ระริกไปทั่วร่าง ด้วยความตื่นเต้น พร้อมกุมมือทั้งสองข้าง ของถังปิงหยู่เอาไว้ “ปิงหยู่ ขอฉันอีกสักขวดได้ไหม ยาของ เธอเมื่อวันนี้ มันเลิศกว่าเครื่องประทินผิวใดๆในโลก”
ยาของถังปิงหยู่ รักษาได้ไม่ว่าจะเป็นแผลสาหัสเพียงใด อย่าว่าแต่ตีนกาเพียงไม่กี่เส้นเลย

เธอเห็นภาพที่ตนกลับมาเป็นสาวสวยสะพรั่งอีกครั้ง

ถังปิงหยู่ทำตาขวาง “เธอคิดอะไรอยู่? ฉันมีแค่ขวดเดียว เท่านั้น ฉันใช้ไปบ้างแล้วก่อนหน้านี้ ที่เหลือเธอใช้ไปหมด แล้วเมื่อวันนี้ไง”

หลัวเจินเจินสีหน้าหม่นหมองลงทันที หากแต่กลับมาเป็น ปกติอย่างรวดเร็ว ก่อนเอ่ยอย่างตื่นเต้นอีกครั้ง “ฉันจำได้ เมื่อวันเธอบอกว่า ยานี้ได้มาจากเพื่อน เธอไปขอเพื่อนเธอ อีกสักขวดจะได้ไหม?”

ถังปิงหยู่อึดอัดใจ ยานี้มีสรรพคุณราวยาวิเศษ เป็นยาที่ ล้ำค่า เธอจะกล้าเอ่ยปากของ่ายๆได้อย่างไร ลู่เสี้ยงหยางให้ เธอมาขวดนึง ก็ถือเป็นบุญคุณอย่างมหรรณแล้ว

หลิ่วหรูยู่ที่อยู่อีกด้านหลุดออกจากภวังค์ เธอเพ่งไปทาง ถังปิงหยู่ “เพื่อนเธอคนนั้นเหมือนเทวดาเลย แม้แต่ของที่ เหนือธรรมชาติพรรณ์นี้ยังมีในครอบครอง เธอเอาเบอร์ ติดต่อของเขาให้ฉันที ฉันมีอะไรจะถามเขา ขอเพียงแค่เขา คลายข้อสงสัยของฉันได้ ฉันก็จะได้รางวัลโนเบลสาขา ชีววิทยาอย่างแน่นอน”

หลิ่วหรูยู่ตื่นเต้นดีใจตัวสั่นจนแทบยืนไม่อยู่
สู่เสี่ยงหยางและเย่สวน หลิวจิ้งกำลังรับประทานอาหาร

เข้า

หลิวจิ้งนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงหันไปเอ่ยกับเยสวน “ได้ข่าวว่าปินเหอจะมีประธานหอการค้า แกได้ข่าวบ้าง

ใหม?

เย่สวนพยักหน้า “พอรู้มาบ้าง”

ได้ยินดังนั้น เธอถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย

พูดถึงเรื่องนี้ ทำให้เธอนึกถึงเฉินเหอขึ้นมา เฉินเหอมี หน้าที่ตำแหน่งในหอการค้า เขาต้องหาเรื่องเธอแน่ ถึงตอน นั้น เธอยังจะสามารถควบคุมตระกูลเคยได้อยู่อีกหรือไม่

หลิวจิ้งเอ่ยอย่างไร้หนทาง “หากหอการค้าก่อตั้งขึ้น บริษัททั้งหมดในเมืองปืนเหอ ต้องถูกจำกัดควบคุมด้วยกฎ ระเบียบ นั่นไม่ส่งผลดีเลย แต่หากเข้าร่วมหอการค้า เป็น หนึ่งในสมาชิกด้วย หอการค้าก็จะพาเราเจริญเติบโต นี่เป็น ผลดี”

เอ่ยถึงตรงนี้ เธอมีใบหน้าโหยหา เธอก็หวังว่าบริษัทของ เธอจะได้เข้าร่วมด้วย เสียดายที่บริษัทเธอไม่แข็งแกร่งมาก พอ คงไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมด้วย

ได้ยินประโยคของคนทั้งสอง ลู่เสี้ยงหยางนึกขัน ตัวเขา เองนั่นแหละที่เป็นประธานหอการค้า เขาต้องช่วยเหลือเย่สวนและหลิวจิ้งอยู่แล้ว

ผ่านไปไม่นาน หลิวจิ้งนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้อีกครั้ง “วันมะรืนหอการค้ามีการจัดงานพิธีเปิด ประธาน และรอง ประธานจะไปด้วย บริษัทเล็กๆของฉันไม่มีบัตรเชิญแน่นอน ตอนนี้แกควบคุมดูแลตระกูลเย่กรุ๊ป แกมีวิธีเอาบัตรเชิญมา ได้ไหม เราไปปรากฏตัวในงานสักหน่อย ไม่แน่อาจเพิ่มคอน เนคชั่นให้เราได้”

เย่สวนไม่สบอารมณ์ เล่าเรื่องราวที่ท่านย่าให้โควต้ากับ คนพวกนั้นกับหลิวจิ้งได้รับรู้ หลิวจิ้งโมโหหนัก หลังได้ยิน เรื่องราว “ยังไงซะตอนนี้แกก็เป็นใหญ่ที่สุดในตระกูล การก ระทำของท่าย่ามันเกินไปแล้ว เธอไม่ไว้หน้าแกเลยสักนิด”

เย่สวนเอ่ยอย่างไร้หนทาง “จะทำยังไงได้ล่ะ โควต้าเป็น ของเฉินเหอ หนูไม่หน้าด้านถึงขนาดเข้าไปแย่งชิงหลอกนะ”

หลิวจิ้งไม่ตอบโต้อะไรอีก นึกถึงใบหน้าที่น่ารังเกียจ หลี่ก้วนจง ประธานแห่งติ่งเย่กรุ๊ป

ของ

ได้ข่าวว่าเขาบ้ากาม คิดไม่ซื่อต่อเธอ แต่เขาว่ากันว่าเขามี ผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง หากเขายอมช่วยเหลือตน คงเอา บัตรเชิญมาได้แน่

หลังรับประทานอาหารเช้าเสร็จ หลิวจิ้งและเย่สวนลุกออก จากที่ เตรียมตัวไปทำงาน
ในเวลานี้เอง โทรศัพท์ของลู่เสี้ยงหยางดังขึ้น เมื่อหยิบขึ้น

มาดู กลับเป็นสายปริศนา

สู่เลี้ยงหยางลังเลอยู่สักพัก ก่อนที่จะกดรับสาย น้ำเสียง อันตื่นตูมของหญิงสาวแล่นผ่านมายังสาย

“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าใช่คุณลู่ไหม? ฉันคือหลิ่วหรูยู่ ถัง ปิงหยู่เป็นเพื่อนของฉัน คุณคงรู้จักเธอ?”

ถังปิงหยู่?

“ถือว่ารู้จักมั้ง ว่ามาเลย คุณมีธุระอะไรกับผม?” ลู่เสี้ยง

หยางเอ่ยถามเสียงเรียบ

หลิ่วหรูยู่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนเอ่ยเสียงแผ่ว “คืองี้ค่ะคุณลู่ ฉันอยากคุยกับคุณ ฉันมีเรื่องจะขอคำแนะนำจากคุณ วันนี้ ฉันขอเลี้ยงข้าวคุณ คุณพอจะมีเวลาว่างให้ฉันไหม?”

“โทษที ผมไม่มีเวลาว่าง” ลู่เสี้ยงหยางเอ่ยตอบโดยไม่ ลังเล ก่อนตัดสายทิ้งไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ