หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

บทที่ 70 สารภาพความจริง



บทที่ 70 สารภาพความจริง

เมื่อเห็นจางเจิ้นเจียงคุกเข้าให้ลู่เสี้ยงหยาง ซูจื้อ เฉิงก็รู้สึกเสียหน้า มันควรเป็นเกียรติยศของเขานะ ทำไมถูกลู่เสี้ยงหยางแย่งไปแล้วล่ะ?

เขารู้สึกไม่พอใจ ดังนั้นจึงพูดออกมาหน้าด้านๆว่า “ก็แค่ห้ามเลือด เก่งตรงไหน เรื่องเล็กๆแค่นี้ ผมไม่ ลงมือรักษาเองให้เสียแรงหรอก เพราะงั้นผมถึงได้ มอบโอกาสให้เขาได้ช่วยเหลือคนไง”

เมื่อได้ยินที่เขาพูด ถังปิงหยู่ก็นึกขึ้นได้ว่ามัน เหมือนกับที่เธอคิดไว้จริงๆด้วย ที่แท้การห้ามเลือดมัน ง่ายเกินไป หมอเทวดาอย่างเขาเลยไม่ลงมือรักษาให้ เสียเวลา

เลือดออกเยอะขนาดนี้คือเรื่องเล็กๆเหรอ?

จ้าวต้าไห่กับจ้าวหรูเย็นมองหน้ากัน ต่างฝ่ายต่าง ก็เห็นแววตาช็อกๆของกันและกัน

พวกเขารู้เรื่องการแพทย์ และรู้ด้วยว่าเลือดออก ขนาดนี้มันอันตรายแค่ไหน แต่ในสายตาของซูจื้อเฉิ งกลับเป็นแค่เรื่องเล็กๆ แค่นี้ก็อธิบายได้แล้วว่าความ สามารถของซูจื้อเฉิงคงสูงกว่าที่พวกเขาจินตนาการ เอาไว้

จ้าวต้าไห่ยิ่งรู้สึกเสียดาย เขานี่มันมีตาหามีแววไม่

เมื่อก่อนไม่เคยรับรู้ถึงความสามารถของซูจื้อเฉิงเลยพอมาตอนนี้ เขาแสดงความสามารถออกมา ก็เป็น ตอนที่ลาออกไปซะแล้ว

เมื่อได้ยินที่ซูจื้อเฉิงโม้ ลู่เสี้ยงหยางก็หัวเราะนิ่งๆ “เลือดออกเยอะขนาดนี้ยังเป็นแค่เรื่องเล็กๆสำหรับ นาย เก่งจริงๆเลยนะ ตอนนี้คนไข้ยังตกอยู่ในสภาวะ หมดสติที่รุนแรง ต่อจากนี้คงต้องรบกวนนายช่วยแล้ว

ล่ะ” ใบหน้าของซูจื้อเฉิงฉายแววลนลาน แต่ก็ยังพูด ออกไปอย่างมั่นใจว่า “ฉันแนะนำว่านายควรนวดกดจุด ให้เธอ เธอจะได้หายใจได้อย่างสม่ำเสมอ เป็นการ

ประคองชีวิตให้รอดได้” ตอนนั้นเขาเห็นลู่เสี้ยงหยางทำให้ถังปิงหยู่ทฟื้นขึ้น มามีสติ ด้วยการนวดกดจุดให้เธอ

ลู่เสี้ยงหยางส่ายหน้า แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “ขอโทษด้วย ฉันนวดกดจุดไม่เป็น งั้นถ้าต้องนวดกด จุดจริงๆ นายมาทำเองสิ”

พูดจบเขาก็ไปยืนอยู่ด้านข้าง ด้วยท่าทางไม่ทุกข์ ไม่ร้อน

“ลู่เสี้ยงหยางนาย…” ชูจื้อเฉิงโกรธจนหน้าดำ หน้าแดง ไอ้บ้านี่คิดจะสกัดกันใช่ไหม?

ลู่เสี้ยงหยางหัวเราะฮ่าๆ “ดูจากท่าทางเป็นกังวล ของนายแล้ว คงทำไม่เป็นละสิท่า? ฉันชักจะทนไม่ ไหวแล้วนะ ทำไมหน้านายหนาขนาดนี้? ไม่มีความสามารถแท้ๆ แต่กลับชอบโม้ไปเรื่อย”

เมื่อได้ยินแบบนี้ สายตาของทุกคนก็มองมาที่ซูจื้อ เฉิง หรือว่าจะเป็นอย่างที่ลู่เสี้ยงหยางพูด ซูจื้อเฉิงไม่ ได้เก่งอะไรเลย แค่พูดอวดเก่งไปอย่างนั้น

“แม่ง ลู่เสี้ยงหยาง นายมีสิทธิ์อะไรมาสงสัยใน ความสามารถของฉัน งั้นได้ ฉันจะทำให้นายเห็น ว่า หมอจริงๆเขาเป็นกันยังไง ส่วนหมอเก๊อย่างนายก็หลีก ไป” ซูจื้อเฉิงส่งเสียงขึ้นจมูก ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้ว เขาคงต้องลองพยายามทำดูแล้วล่ะ

เขาเดินมาข้างเตียง พยายามนึกว่าวันนั้นลู่เสี้ยง บ หยางกดลงตรงไหน จากนั้นก็เริ่มทำการนวดกดจุดบน ตัวของคนไข้

วินาทีนี้ ทุกคนต่างก็พากันหยุดนิ่ง เพื่อที่จะรอดู ฝีมือในการรักษาของซูจื้อเฉิงกับตา

ทว่า สิ่งที่ทำให้ซูจื้อเฉิงเกือบน้ำตาแตกก็คือ เขา กดลงบนร่างกายคนไข้ได้ไม่ทันไร เลือดที่เพิ่งหยุด ไหลไปก็ไหลออกมาอีกครั้ง

อีกอย่างหน้าของคนไข้ก็ซีดจนแทบจะเปลี่ยนเป็น เขียวคล้ำแล้ว มันคือความรู้ทั่วไปของคนเป็นหมอ อาการแบบนี้

ของคนไข้อันตรายมาก สามารถเสียชีวิตได้ทุกเมื่อ

“เชี่ย ไม่ได้ ยังไม่ได้อีกเหรอ ทำไมไม่ได้วะ?” ซูจื้อ เฉิงตกใจ มือไม้พลันกันไปหมด ขณะเดียวกันนั้นบริเวณหน้าผากก็มีเหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นมา

จางเจิ้นเจียงร้อนใจเป็นอย่างมาก ลุกพรวดขึ้นมา จากพื้น แล้วเดินเข้าไปในคลินิก จากนั้นก็ยื่นมือออก ไปกระชากคอเสื้อของซูจื้อเฉิง ดวงตาทั้งสองข้างแดง ฉาน ตหวาดเสียงดังออกมาว่า “ไอ้เชี่ย ถ้าเมียฉันเป็น อะไรไป วันนี้ฉันจะกระทืบแกให้ตาย”

“อีก…เอ่อ…” จ้าวต้าไห่ จ้าวหรูเย็น และถังปิงห ยู่มองหน้ากันไปมา ก่อนหน้านี้ซูจื้อเฉิงยังมั่นอกมั่นใจ ว่าจะสามารถทำให้คนไข้มีสติขึ้นมาไม่ใช่เหรอ? ทำไม ตอนนี้อาการของคนไข้ถึงได้สาหัสยิ่งกว่าเดิมละ

เห็นได้ชัดว่าสู้จื้อเฉิงกำลังทำตัวไม่ถูก!

นาทีนี้ ทั้งสามคนมองไปที่ลู่เสี้ยงหยางอย่าง อัตโนมัติ ตอนนี้ ในบรรดาคนที่อยู่ในเหตุการณ์ มีแค่ เขาคนเดียวที่ยังมีท่าทีสบายๆ

ทันใดนั้นทั้งสามคนก็คิดอะไรพิลึกขึ้นมา หรือว่า ฝีมือของลู่เสี้ยงหยางจะเก่งกว่าซูจื้อเฉิงจริงๆ?

แต่จะเป็นไปได้ยังไง ลู่เสี้ยงหยางความรู้แค่หมอ แมะ จะไปมีความสามารถรักษาคนไข้ได้ยังไง

รักษาได้แค่อาการพื้นๆเท่านั้นแหละ

“เฮ้อลู่เสี้ยงหยางถอนหายใจออกมา “ทำไม่ได้ ก็ อย่าฝืน โกหกทั้งตัวเองและคนอื่นสนุกมากเลยเหรอ?”

พูดมาถึงตรงนี้ เขาก็เหลือบมองจางเจิ้นเจียงแล้ว

พูดว่า “ตอนนี้คุณช่วยโยนไอ้นี่ออกไปให้ผมหน่อยได้ไหม ที่เขาทำไปเมื่อสักครู่ยิ่งทำให้อาการของภรรยา คุณแย่ลง ตอนนี้มีแค่ผมเท่านั้นถึงจะช่วยภรรยาคุณ ได้”

“ครับๆ คุณหมอเทวดา” จางเจิ้นเจียงพยักหน้า รัวๆ เขาเชื่อลู่เสี้ยงหยางโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ถึงยังไง เมื่อกี้เขาก็เห็นกับตาว่าลู่เสี้ยงหยางห้ามเลือดให้เมีย เขาได้ แต่หมอเทวดาที่ใครๆหลายคนพูดถึงกลับทำ แค่ยืนมองอยู่ข้างๆ เหมือนตัวประกอบ

ตุบ!

วินาทีต่อมา เสียงหนักๆก็ดังสะท้อนขึ้นมา เป็น เสียงที่จางเจิ้นเจียงโยนซูจื้อเฉิงออกไปข้างนอก

โอ้ย!

ซูจื้อเฉิงร้องออกมาอย่างสงสาร เขาลุกขึ้นจาก พื้นเตรียมจะหนีไป แต่กลับถูกจางเจิ้นเจียงกดเอาไว้ กับพื้นแน่น

ลู่เสี้ยงหยางมีสีหน้านิ่งสงบ จากนั้นก็เดินกลับไป ที่เตียงอีกครั้ง แล้วยื่นมือออกไปนวดกดจุดบน ร่างกายของหญิงสาว

ไม่ทันไร เลือดที่ไหลออกมาจากปากแผลของ หญิงสาวก็หยุดไหล

ต่อมา เขาก็กดนวดต่อ จนใบหน้าเขียวคล้ำของ หญิงสาวค่อยๆดีขึ้น และเริ่มมีเลือดฝาดขึ้นมาบ้างแล้ว หรือแม้แต่ลมหายใจก็กลับมาสม่ำเสมอ
สู่เสี้ยงหยางนวดกดจุดติดต่อกันอยู่หลายนาที ถึง

ได้หยุดมือลง

“เอาล่ะ ตอนนี้คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้ว รีบพา เธอไปรักษาที่โรงพยาบาลเถอะ” ลู่เสี้ยงหยางบอกจาง เจิ้นเจียง

“ครับ ขอบคุณคุณหมอเทวดา ขอบคุณจริงๆ บุญคุณของคุณ จางเจิ้นเจียงคนนี้จะจดจำไว้ตลอด ชีวิต” จางเจิ้นเจียงโขกหัวขอบคุณลู่เสี้ยงหยางอยู่สอง สามครั้ง จากนั้นถึงได้วิ่งมาที่เตียง แล้วอุ้มภรรยาขึ้น มา จากนั้นก็รีบร้อนเดินจากไป

ด้านจ้าวต้าไห่ จ้าวหรูเย็น และถังปิงหยู่ต่างก็ สมองขาวโพลน ยืนนิ่งอยู่กับที่

เอาไปเอามา หมอเทวดาที่แท้จริงก็คือหมอแมะ กระจอกๆอย่างลู่เสี้ยงหยางที่ถูกใครหลายคนปรามาส เอาไว้ ส่วนซูจื้อเฉิงไม่เก่งอะไรเลยสักอย่าง

ทุกคนยังคงช็อกอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานาน จน สุดท้ายก็ได้สติกลับมา

บนหน้าของถังปิงหยู่ปกคลุมไปด้วยความเย็นชา เพราะรู้ตัวแล้วว่าตัวเองถูกหลอก คิดไม่ถึงเลยว่าหมอ เทวดาที่เธอเชื่อใจจะเป็นแค่คนขี้ขลาดคนหนึ่ง

ยังดีที่เธอยังไม่ทันได้พาคนพรรค์นี้ไปที่โรง พยาบาลของตระกูลเธอ ไม่อย่างนั้นคงได้ฉิบหายกัน หมดแน่
ยิ่งคิดถังปิงหยู่ก็ยิ่งโกรธ จึงหยิบปืนสีดำขลับที่ เหน็บอยู่ข้างเอวออกมา แล้วเล็งไปที่หน้าผากของซู จื้อเฉิง จากนั้นก็พูดเสียงเย็นว่า “ถ้าแกไม่พูดความจริง ออกมา ฉันก็จะยิงทะลุกะโหลกแก”

เงียบกริบ!

ทุกอย่างต่างเงียบกริบ!

ใครจะไปคิดว่าผู้หญิงสวยๆอย่างถังปิงหยู่ เอะอะ

ก็ขู่ยิง

“ไม่ๆๆๆ อย่า” ซูมจื้อเฉิงรีบส่ายหน้าด้วยใบหน้าตื่น กลัว ถึงขนาดที่ว่าหว่างขาเต็มไปด้วยของเหลวสี เหลืองเหนอะหนะ คงกลัวจนฉี่แตก

…” ลู่เสี้ยงหยางพูดไม่ออก นี่มันหมายความว่า ยังไง กลัวจนฉีแตกเนี่ยนะ ยังเป็นลูกผู้ชายอยู่ไหม?

อีก!

จ้าวหรูเย็นและจ้าวต้าไห่รับประทานจุด ซูจื้อเฉิง ไม่แมนเอาซะเลย

ตุบ!

ต่อมา สองขาของซูจื้อเฉิงอ่อนยวบ นั่งคุกเข่าอยู่ กับพื้น พูดกับถังปิงหยู่อย่างน้ำมูกน้ำตาไหล “คุณถัง อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะครับ จริงๆแล้ว จริงๆแล้วผมห้าม เลือดไม่เป็น วันนั้นคนที่ช่วยคุณคือลู่เสี้ยงหยาง แต่ผม ก็หน้าด้านขโมยความดีความชอบมาจากเขา จนคนที่ คลินิกมองผมเป็นหมอเทวดา…”
ห้ะ?

ว่าไงนะ?

ทุกคนต่างพากันอึ้งตาแตก!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ