หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

บทที่ 96 คนขี้ขลาดถึงคุกเข่าลง



บทที่ 96 คนขี้ขลาดถึงคุกเข่าลง

ผ่านไปสักครู่หนึ่ง ภายในห้องประชุมถึงจะค่อยๆมีคนที่มี วิญญาณกลับมาอีกครั้ง

คำพูดที่ลู่เลี้ยงหยางเพิ่งจะพูดเมื่อสักคู่นี้ได้ฉายอยู่ในใจ พวกเขาอยู่ตลอด “ใครบอกว่าผมเป็นนักแสดงประกอบ ผมเป็นนักแสดงนำ

ชายของละครเรื่องนี้”

ในขณะที่ทุกคนกวาดสายตามองขึ้นและลงบนตัวของลู่เสี้ ยงหยางอยากจะเห็นว่าเขาเหมือนนักแสดงนำตรงจุดไหน

บนหน้าผากของซูเยียนรันก็เป็นเส้นสีดำและเอ๋ยกับลู่เสี้ยง หยางว่า : “คุณต้องการฟื้นความภาคภูมิใจในตนเองกลับ มา และได้รับความเคารพจากผู้คนก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาวิธี การพูดโกหกแบบนี้เลยนะ”

เธอสรุปว่าลู่เสี้ยงหยางต้องการที่จะรักษาหน้าของตนเอง ดังนั้นจึงคุยโวโอ้อวดโกหกคำโต

คู่เสี้ยงหยางไม่สนใจเธอ เธอเป็นตัวเอกหรือไม่ ยังไงก็

ต้องรอจนผู้กำกับมาแล้วค่อยตัดสินใจ

“ช่าฮ่าฮ่า ฉันว่าเจ้าเด็กคนนี้ไม่เพียงแต่โง่เง่าเท่านั้น แต่ ยังเพี้ยนด้วย” สวีข่ายหรันหัวเราะดังลั่นแล้วเอ่ยขึ้น เขาเป็นนักแสดงนำชายลำดับสองของละครเรื่องนี้ ถ้าคนอย่างสู่เสี้ ยงหยางเป็นนักแสดงนำได้ล่ะก็ มันจะไม่เป็นการกดหัวเขาเห รอ

“เหอะเหอะ ฉันเห็นใบหน้าที่มั่นใจของเขาแล้ว ดูเหมือน ว่าจะเป็นนักแสดงนำเรื่องนี้จริงๆนะ พวกเราทุกคนอยากจะ ประจบเอาใจเขาไหม” สวี่ชิง กล่าว เธอเป็นนักแสดงนำหญิง ลำดับสองของละครเรื่องนี้ การพูดแบบนี้คือการประชด ประชัน เพื่อโจมตีและดูถูกลู่เสี้ยงหยาง

สวีข่ายหรันคำรามในจมูก : “ทุกคนอย่าทำเป็นตลกไป ขยะแบบนี้ สามารถกลายเป็นนักแสดงเอ๊กซ์ตร้าได้ก็ต้องใช้ โชคช่วยแล้ว ถ้าหากเขาเป็นนักแสดงนำชายของละครเรื่อง นี้ล่ะก็ ฉันจะรีบคุกเข่าลงบนพื้นและให้ทุกคนสอนวิธีเท่า” มี เสียงหัวเราะครื้นเครงดังขึ้นอีกครั้ง

ลู่เสี้ยงหยางมีใบหน้าสงบนิ่ง ไม่สนใจคนเหล่านี้

เวลานี้เองประตูห้องประชุมได้เปิดออก ผู้กำกับเดินเข้ามา อย่างรวดเร็ว

ผู้กำกับมีชื่อว่าจินอานฉวน มีชื่อเล่นว่าไอ้อ้วนจิน เป็นผู้ กำกับใหญ่ที่มีชื่อเสียงในประเทศ ไม่รู้ว่ามีตาราจำนวนเท่า ไหร่ที่เขาปั้นจนดัง

ทันทีที่เขาเข้ามาในห้องประชุม พอ จินอานฉวนมองเห็นลู่ เลี้ยงหยางแล้วตัวก็สั่นทันทีทันใด รีบวิ่งเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว

และในเวลาเดียวกัน พวกสวีข่ายหรันเหล่านี้ก็ยังคงพูดจา เยาะเย้ยลู่เสี้ยงหยางไม่หยุด

“ผู้กำกับ คุณรีบมาดูเร็ว มีขยะหนีออกมาจากโรงพยาบาล บ้ามาหาพวกเราที่นี่ อยากจะมาสมัครเป็นนักแสดงพิเศษ คุณว่าเรื่องนี้มันตลกหรือเปล่า?” สวีข่ายหรัน พูดจากลับ ตาลปัตร

ในวงการบันเทิงเขามีชื่อเสียงไม่น้อย รับบทนำในละคร ทีวีมาหลายเรื่อง เดิมที่ครั้งนี้เขาและจินอานฉวนได้ร่วมงาน กันโดยพุ่งไปที่นักแสดงนำชายหมายเลขหนึ่ง แต่ว่าคิดไม่ถึง เลยว่านักแสดงหมายเลขหนึ่งจะว่างมาโดยตลอด และนั่น เขาคว้ามาได้แค่นักแสดงหมายเลขสอง

ในเรื่องนี้เขามีอคติกับจินอานฉวน มาโดยตลอด

จินอานฉวน ไม่มองเขาตรงๆเลยสักนิด หลังจากที่เดินไป อยู่ข้างๆลู่เสี้ยงหยางแล้ว ก็ยื่นมือออกมาอย่างกระตือรือร้น แล้วจับมือกับลู่เสี้ยงหยาง : ” ลู่ประธานลู่ คุณมาแล้ว คุณ เต็มใจที่จะให้หน้าของคุณมาเป็นนักแสดงนำชายในละคร ของเรา เป็นเกียรติต่อละครของพวกเราทั้งหมดอย่างยิ่งเลย ครับ”

อะไรนะ?
นักแสดงนำขาย?

ในเวลานี้ทุกคนต่างตกตะลึง

ให้ตายเถอะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ลู่เสี้ยงหยางเป็นแค่คนกระจอกคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ? จะ กลายเป็นนักแสดงนำชายได้ยังไง? และยิ่งไปกว่านั้นดู เหมือนว่าเมื่อกี้นี้ผู้กำกับจิน จะเรียกเขาว่าประธานลู่

ห้ะ!

ทุกคนสูดหายใจลมเย็นเยียบ รู้สึกว่าสมองจะใช้การไม่ได้ อย่างรุนแรงไปแล้ว

ดวงตาที่สวยงามของซูเยียนรันจ้องมองขึ้นลงไปบนตัว ของลู่เสี้ยงหยางหลายครั้ง สายตานั้นว่างเปล่าเพราะ ต้องการที่จะมองลู่เสี้ยงหยางให้ทะลุปรุโปร่ง

เขามีความสามารถขนาดไหนกัน? ถึงถูกเรียกว่าประธาน

แล้วยังมีความสามารถอีก? จนกลายมาเป็นนักแสดงนำ ชายของละครเรื่องนี้!

สวีข่ายหรันตบต้นขาแล้วกระโดดลุกขึ้นพลางพูดว่า : “ผู้ กำกับครับ คุณเข้าใจผิดแล้วล่ะ ถ้าขยะเช่นนี้สามารถรับ บทนำชายได้ ถ้าอย่างนั้นแล้วพวกเราทุกคนที่นี่ก็สามารถ เป็นนักแสดงฝ่ายขายและฝ่ายหญิงดีเด่นแล้วล่ะครับ”
เหงื่อเย็นเยียบไหลออกมาบนหน้าผากของจีนอานฉวน เจ้าเด็กโง่คนนี้นี่ไม่มีความสามารถทางสายตาเลยสักนิด ดีร้ายยังเขาก็เป็นผู้กำกับใหญ่ที่มีชื่อเสียงในประเทศ ตนเองยังต้องคอยประจบประแจงลู่เสี้ยงหยางเลย หรือว่า เขามองไม่เห็นร่องรอยอะไรเลยหรือใช่ไหม?

“แม่งเอ๊ย ไม่มีสมองเลย ไม่ต้องพูดถึงการแสดงห่วยๆเลย แถมยังชอบก้าวร้าว” อารมณ์ร้ายของจินอานฉวน เป็นที่รู้กัน ในวงการบันเทิง ในขณะที่ชี้ไปที่จมูกของสวีข่ายหรัน ก็มี ความโกรธ

สวีข่ายหรัน ตะลึงไปชั่วขณะ เพราะเจ้าโง่นี่ผู้กำกับถึงกับ ด่าตนเอง

“แม่จึง ฉันก็ไม่ได้อยากจะเป็นนักแสดงหมายเลขสองของ ละครเรื่องนี้หรอกนะ” สวีข่ายหรัน คิดในใจและอยากจะเดิน ออกไปด้วยความโกรธ

“เช็ดแม่ง ไอ้อ้วนจิน คิดว่าเป็นใครกัน? ก็แค่ผู้กำกับตัว เหม็น มีคุณสมบัติอะไรจะมาด่าฉัน? พูดตรงๆเลยนะ ตอนนี้ ชื่อเสียงของฉันมีเรื่องไหนบ้างที่ไม่ใช่นักแสดงนำ แต่แกนะ ให้ฉันเป็นนักแสดงนำอันดับสอง นี่มันทำให้ทักษะการแสดง ของฉันต้องอับอาย นักแสดงบทพระรองนะไม่ขาดแคลน หรอกนะแกจะไปหาใครมาเล่นก็ตามใจเลย” สวีข่ายหรัน ด่าทอด้วยความหงุดหงิดจบแล้ว ก็หมุนตัวเดินไปทางประตู ห้องประชุม
นักแสดงคนอื่นต่างพากันตกใจกลัว น่ากลัวว่าจะมีเพียง ดาราชื่อดังอย่างสวีข่ายหรันสินะถึงจะกล้าต่อต้านจินอานฉ วน

“ผู้กำกับปล่อยเขาไปไม่ได้นะ เขาเพิ่งจะพูดว่าถ้าหาก ประธานลู่เป็นนักแสดงน่าชายในละครของพวกเรา เขาจะ คุกเข่าลงและเรียนวิธีเท่า” ในตอนนี้ไม่รู้ว่าเสียงใครพูดขึ้น มาท่ามกลางฝูงชน

พูดตามตรง ตามปกติสวีข่ายหรันจะวางท่าใหญ่โต ทำให้คนมากมายไม่พอใจอยู่ในใจ เพราะฉะนั้นในตอนนี้ ย่อมอยากจะเห็นเขาต้องอับอาย

“แม่งเอ๊ย ใครมันรนหาที่ตาย?คิดจะหักหน้าฉันเหรอ”

สวีข่ายหรันโกรธมากหาใดเปรียบ แล้วเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น และต้องการที่จะออกจากห้องประชุมโดยเร็วที่สุด เพื่อหลบ เลี่ยงที่จะได้ทำตามที่ตนเองพูดไป

“รปภ. หยุดเขาอาไว้อย่าให้เขาออกไปจากที่นี่”

แต่ว่าเขายังเดินไปไม่ถึงปากประตู จินอานฉวนก็ตะโกน ออกมาเสียงดังลั่น

ทันทีที่เสียงสิ้นสุดลง รปภ.สองนายได้ปรากฏตัวที่ปาก ประตูและขวางทางสวีซ่ายหรันเอาไว้

“แม่งเอ๊ย ไอ้อ้วนจินแกจะทำอะไร?” สวีข่ายหรันหันกลับมาและจ้องไปที่จินอานฉวน

จินอานฉวน ยิ้มและพูดว่า : “ชายชาตรีอาจหาญทะยาน

ฟ้า พูดคำไหนคำนั้น นายเพิ่งพูดว่าจะคุกเข่าลงบนพื้นและ เรียนรู้วิธีการเห่า ถ้าอย่างนั้นนายก็ต้องรักษาสัญญา”

“แก..ไอ้อ้วนจินแกอย่าได้รังแกคนอื่นเกินไปนักนะ” สวี ข่ายหรัน โกรธจนยับยั้งอารมณ์ไว้ไม่ได้

“ผมทำอย่างนี้เพราะหวังดีต่อคุณ ถ้าวันนี้คุณไม่ได้เรียนรู้ วิธีที่จะเห่า ถ้ายังดื้อด้านที่จะไปจากที่นี่คุณจะต้องเสียใจ” จิ

นอานฉวน พูดด้วยรอยยิ้มลึกล้ำ “แม่ง แกพูดบ้าอะไรกัน? หลานชายแกสิถึงจะต้องเสียใจ” สวีข่ายหรันพูดย้ำทีละคำ

“โอเคงั้นนายก็ทำตามสบายเลย” จินอานฉวน โบกมือ ให้เจ้าหน้าที่ฯสองนายถอยออกไป

สวีข่ายหรัน เตรียมจะหันกลับออกไปอีกครั้ง

เมื่อรอจนเขาจะก้าวขาออกไปจากห้องประชุม

จินอานฉวน ถึงได้พูดช้าๆว่า ประธานสู่เป็นประธานของ เฟยหยางกรุ๊ป ทรัพยากรเกินครึ่งของวงการบันเทิงอยู่ในมือ ของเขา ถ้าหากวันนี้นายทำให้เขาไม่พอใจแล้วล่ะก็ นายรู้

หรือเปล่าว่าผลที่ตามมาคืออะไร?

ประธานกลุ่มเฟยหยางกรุ๊ป
บ้าชิบ จะเป็นไปได้ยังไง?

ขาทั้งสองข้างของสวีข่ายหรันสั่นสะท้าน แทบจะนั่งลงบน พื้น เหงื่อเย็นไหลออกมาบนหน้าผากถี่ยิบ

ในขณะเดียวกัน ไม่ใช่แต่สวีข่ายหรันที่ตกใจเท่านั้น สีหน้าของนักแสดงทุกคนในห้องประชุมต่างมีสีหน้า

ประหลาดใจ

สู่เสี้ยงหยางเป็นนักแสดงนำชายก็ทำให้พวกเขาช็อคมาก พอแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าเขายังเป็นประธานของกลุ่มเฟย หยางกรุ๊ป

เปรี้ยง!

ในสมองของซูเยียนรันมีเสียงฟ้าผ่าดังขึ้น นิ่งงันไปทั้งทั้ง ตัวแล้วจ้องมองไปที่สู่เสี้ยงหยาง

ตอนนี้ในที่สุดเธอก็รู้แล้วว่าความมั่นใจของลู่เสี้ยงหยาง มาจากที่ไหน

ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะเหยียดหยามขนาดนั้นกับการที่ เธอต้องการให้ลู่เสี้ยงหยางมาเป็นบอดี้การ์ดให้ตนเอง ทั้งหมดนี้มันเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลแล้ว ลู่เสี้ยงหยางมี เหตุผลที่ควรทำเช่นนี้

“ประ.ประธาน” หลังจากที่ซูเยียนรันตกใจสุดขีด ขาทั้ง สองข้างของเธอก็อ่อนแรงลง และตกลงไปในอ้อมแขนของลู่เสี้ยงหยางโดยตรง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ