บทที่ 85 เรียกพี่สาวคุณมา
เมื่อได้ยินคำวิงวอนของหลิวจิ้งสีหน้าของจางด้าฉีก็เริ่มดู น่าสนใจขึ้นมา เขาจึงยิ้มถามต่อ “คุณจะรับปากทุกเงื่อนไข ไข่ไหม?”
หลิวจิ้งรู้ตัวว่ากำลังจะเจอกับอะไร แต่ตอนนี้เธอได้แต่
พยักหน้าตอบ
“ได้ ตกลงตามนี้” จางต้าฉียิ้มอย่างโหดเหี้ยม จากนั้น พูดต่อ “ว่าจะเอาไอ้เบื้อกนี้ให้ตายสักหน่อย แต่ตอนนี้ผมเห็น แก่คุณ ผมแค่จะสั่งสอนให้มันพิการไปก็แล้วกัน”
หลังจากนั้นเขาก็หันกลับไปยิ้มพูดกับลู่เสี้ยงหยาง “ไอ้ หนู วันนี้ถือว่านายโชคดีนะ ถ้าไม่งั้นนายคงต้องนอนอยู่บน เตียงผู้ป่วยไปชั่วชีวิตแล้ว”
ลู่เสี้ยงหยางเงยหน้าขึ้นแล้วพูดอย่างใจเย็น “ผมจำเป็น ต้องบอกว่าคุณมันเลวได้ใจจริง ๆ”
“แมร่ง! ถึงมันซ่าจริง ๆ! จะตายแล้วยังไม่รู้ตัวอีก คอยดู กูจะเรียกคนมานั่นมึงเป็นชิ้น ๆ ” จางต้าฉีหยิบมือถือขึ้นมา เพื่อจะโทรเรียกคนมาเพิ่ม
แต่ในขณะนี้ ลู่เสี้ยงหยางไม่ปล่อย โอกาสเขาได้ใช้ โทรศัพท์ เขายกมือขึ้นแล้วตบปากจางต้าฉีอย่างไม่หยุด
จางต้าฉีถูกตบจนแทบสลบ เขารู้สึกขาอ่อนแล้วล้มลงไป นั่งอยู่บนพื้น
“ตาย ๆ หมดกัน ๆ” ให้กางตะโกนอย่างหมดหวัง หลาย ปีที่ผ่านมาจางด้าฉีกล้าปล่อยเงินกู้เถื่อนอย่างไม่เกรงกลัว ใครแบบนี้ นั่นก็หมายความว่าเขาต้องมีแบล็คที่หนาพอตัว อยู่แล้ว
วันนี้ลู่เสี้ยงหยางก็ทำเกินไป เขาต้องถูกเอาคืนอย่าง รุนแรงแน่เลย
“ฮ่า ๆ ไอ้หมอนี่ตายแน่” เถาหงเหมยกับหม่าเจินเจิน และคนอื่น ๆ ก็หัวเราะขึ้นมา
หลิวจิ้งมองไปที่ลู่เสี้ยงหยางด้วยความรู้สึกทั้งเครียดทั้ง โมโห เด็กคนนี้ชอบสร้างปัญหาเลยจริง ๆ อุตส่าห์เจรจากับ จางต้าฉีแล้ว ทำไมต้องลงไม้ลงมืออีกด้วย? ตอนนี้เขาทำให้ จางต้าฉีโกรธจนถึงขีดสุดแล้ว ทีนี้จะทำยังไงต่อล่ะ?
ลู่เสี้ยงหยางไม่สนใจความคิดของทุกคน ในขณะนี้เขา ยกขาขึ้นแล้วเตะจางด้าฉีจนล้มลงนอนไปที่พื้น
เป็นเวลาพักหนึ่งที่จางต้าฉีถูกฝ่ามือของเขากระหน่ำใส่
หน้า
หลังจากนั้นไม่นาน จางด้าฉีถูกทุบตีจนต้องร้องขอชีวิต ใบหน้าของเขาบวมช้ำไปหมด ณ ตอนนี้สถานการณ์บีบ บังคับทำให้เขาต้องยอมจำนนและจำเป็นต้องร้องขอความ เมตตาจากลู่เสี้ยงหยาง
แต่ในใจของเขายังเกลียดลู่เสี้ยงหยาง เขาสาบานกับ ตัวเองว่าสักวันเขาจะฆ่าไอ้เด็กคนนี้และจะจับภรรยาของเขา มาทรมานอย่างสะใจให้ได้
สถานการณ์ในห้องวีนั้นทำให้พนักงานด้านนอกตกใจ และรีบไปรายงานกับผู้จัดการของทางร้านให้ทราบ
เมื่อผู้จัดการรู้ข่าวก็เหงื่อแตกและรีบพาการ์ดในร้านเข้า
มาทันที
ผู้จัดการรู้จักจางต้าฉีคนนี้ดี เขาเป็นคนดังในวงการ ปล่อยกู้นี้ ซื่อเสียงของเขาโด่งดังและแบล็คหลังของเขานั้น น่ากลัวเป็นอย่างมาก อีกทั้งเขายังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับวงค์ ตระกูลถังแห่งโลกใต้ดินเป็นอย่างดี
เมื่อผู้จัดการร้านกับการ์ดทั้งหมดเข้าไปในห้องวีก็ได้ เห็นลู่เสี้ยงหยางหยุดพอดี จางต้าฉีที่ล้มลงนอนอยู่ตรงหน้า เขาแทบจะขาดสติไปนานแล้ว สภาพเขาตอนนี้ดูน่าสงสาร มาก
“ให้ตายเหอะ ไอ้เวรนี้มาจากไหน กล้ามาหาเรื่องในร้าน เราอยากตายใช่มั้ย?” ผู้จัดการมองหน้าลู่เสี้ยงหยาง
“อะไร? นายก็อยากยุ่งด้วยเหรอ?” ลู่เสี่ยงหยางเหลือบ มองผู้จัดการ
ผู้จัดการยิ้มพูดอย่างเย็นชา “ไอ้หนู นายมาทำกร่างใน ถิ่นของกูแบบนี้จะให้กูอยู่เฉยเหรอ?”
“อย่าพูดมาก ไม่พอใจเรียกคนของนายเข้ามา” ลู่เสี้ยง หยางกวักมืออย่างไม่สบอารมณ์
หลิวจิ้งตกตะลึงมากที่ได้ยินค่าพูดหยิ่งผยองของเขาเช่น นี้ นี่ยังเป็นลูกเขยที่ไร้ประโยชน์คนนั้นของเธออยู่อีกหรือ? มันเหมือนพระเอกอันธพาลชัด ๆ
“เช็ดแมร่ง! ถึงกวนตีนเองนะ เดี๋ยวกูจัดให้” ผู้จัดการ ตะโกนและให้การ์ดเข้าไปจัดการเขา
พูดตามตรง การ์ดพวกนี้ฝีมือยังไม่เท่าลูกสมุนของจาง ต้าฉีเลย ดังนั้นใช้เวลาไม่นานลู่เสี้ยงหยางก็อัดพวกเขาล้ม ลงกับพื้นทีละคน
แมร่งเอ้ย!
นี่มัน.
ทุกคนต้องถึงกับอึ้งอีกครั้ง
“ไปเรียกมาอีก ” ฮ่า ๆ ลู่เสี่ยงหยางยังไม่สะใจพอ เขา จ้องหน้าผู้จัดการร้านแล้วพูด
ผู้จัดการร้านถึงกับต้องปาดเหงื่อตัวเองแล้วรีบหยิบ โทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาเจ้าของร้าน
และในเวลาเดียวกัน จางด้าฉีที่นอนติ้นอยู่บนพื้นก็รีบ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรเรียกคนมาช่วย
เมื่อเห็นสถานการณ์แบบนี้หลิวจิ้งก็ยิ่งกังวลไปใหญ่ เธอ จึงรีบเข้ามากระซิบบอกกับลู่เสี้ยงหยาง “ลู่เสี้ยงหยาง พวก เรารีบไปจากที่นี่กันเถอะ”
ไป? ลู่เสี้ยงหยางส่ายหัวแล้วตอบ “ไม่ต้องรีบครับ ผมยัง ไม่ได้ขอความเป็นธรรมให้กับแม่เลย”
หลิวจิ้งถึงกับพูดไม่ออกไปชั่วขณะ จะร้องขอความ ยุติธรรมอีกทำไมไม่ถูกทำร้ายก็ดีแค่ไหนแล้ว
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ยี่สิบนาทีผ่านไปในพริบตา
ณ ตอนนี้ มีเสียงเท้าเดินวุ่นวายอยู่ด้านนอกห้องวี เห็น เพียงชายใส่เสื้อสูทและสวมรองเท้าหนังด้วยสีหน้าเย่อหยิ่ง เดินเข้ามาในห้องวีอย่างเร่งรีบพร้อมกับชายอีก 20 คน
ทันใดนั้น จางด้าฉีก็รู้สึกตัวและวิ่งเหยาะ ๆ เข้าไปหา ชายที่สวมชุดสูทคนนั้นแล้วตะโกนพูด “อาหลง นายมาจน ได้”
“คุณอาครับ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ชายสวมชุดสูท มีชื่อว่าถังหลง เขาขมวดคิ้วถาม
สีหน้าจางด้าฉีจองหองขึ้นมาทันที เขามองไปที่สู่เสี้ยง หยางแล้วพูด “ไอ้เด็กคนนี้นะสิ กล้ามาขัดขวางอาปล่อยเงิน กู้ไม่พอยังซ้อมอาต่อหน้าผู้คนมากมายอีกด้วย”
ว่าไงนะ?
เมื่อได้ยินเช่นนี้ อารมณ์ของถังหลงก็ลุกเป็นไฟขึ้นมา ทันที ดวงตาของเขาลุกโซนด้วยความโกรธแล้วมองไปที่ลู่เสี้ ยงหยางอย่างโหดเหี้ยม
ไอ้โง่คนนี้รนหาที่ตายใช่ไหม?
“แมร่งเอ้ย ถึงไม่อยากลืมตาดูพระอาทิตย์ของวันพรุ่งนี้ แล้วใช่มั้ย มึงรีบคุกเข่ากราบอากูเดี๋ยวนี้นะ” ถังหลงมอง หน้าลู่เสี้ยงหยางแล้วพูดชัด ๆ ทีละคำ
สีหน้าลู่เสี้ยงหยางไม่แยแส เขายักไหล่แล้วพูดอย่างไม่ เกรงกลัว “นายเป็นใคร? มีสิทธิ์มาสั่งคนอื่นคุกเข่าด้วยเห
รอ?”
ถังหลงแทบจะหัวเราะออกมา เขาพูดที่ละค่าอย่างช้า ๆ “กชื่อหลง นามสกุลถัง อย่าตกใจจนฉีราดนะ”
ถังหลงหรือ? ลู่เสี้ยงหยางขมวดคิ้ว
“โอ้ไม่นะ คุณชายตระกูลถังออกโรงเลยเหรอ ไอ้ลู่เสี้ยง หยางจบเห่แน่นอน” เถาหงเหมยและหม่าเจินเจินต่างก็ยิ้ม กริมและรู้สึกสะใจมาก
ในสังคมเมืองปืนเทอมีใครที่ไม่รู้จักตระกูลถังบ้าง
หลิวจิ้งหวาดกลัวจนสีหน้าซีดเซียว เธอรู้สึกเสียใจมากที่ ไม่ได้พาลู่เสี้ยงหยางออกไปจากที่นี่ได้ทันเวลา มันต้องจบ อย่างไม่สวยแน่
“ว่าไง? คิดออกแล้วหรือยัง? อยากตายในท่ายืนหรือท่า คุกเข่าดี?” ถังหลงจ้องลู่เสี้ยงหยางแล้วยิ้มพูดอย่าง เหี้ยมโหด
ลู่เสี้ยงหยางยิ้มอย่างเฉยเมยและทำเหมือนไม่ได้ยินคำ พูดของเขา แต่กลับถามกลับว่า “อาของคุณปล่อยเงินกู้เถื่อน แล้วยังข่มขู่ผู้หญิงด้วย เรื่องสกปรกแบบนี้ยังทำไปได้ หรือว่า คุณก็สมรู้ร่วมคิดกับเขาด้วย?”
“ฮ่า ๆ ๆ” ถังหลงหัวเราะออกมาดัง ๆ “ปากเก่งจังเลยนะ ไอ้เด็กเปรต ตอนนี้มึงยิ่งพูดมากเท่าไหร่เดี๋ยวกูจะทำให้ถึง ทรมานก่อนตายมากเท่านั้น อากูจะฆ่าจะทำร้ายใครก็ไม่ผิด จึงเข้าใจไหม?”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ลู่สี้ยงหยางแทบจะทำตัวไม่ถูก เขาเคยเห็นคนหยิ่งผยอง แต่ไม่เคยเห็นใครที่พูดจาหยิ่ง ผยองเหมือนถังหลงมาก่อน
สู่เสี้ยงหยางถอนหายใจแล้วพูดกับถังหลงต่อ “พี่สาว นายจะรู้บ้างไหมว่านายอยู่ข้างนอกทำตัวเลวทรามขนาดนี้?” ขณะที่ถังหลงเดินเข้ามาในห้องนี้ ลู่เสี้ยงหยางก็ได้สังเกต เห็นว่าใบหน้าของเขากับถังปิงหยู่คล้ายกันมาก รวมถึงเขา ทั้งสองนามสกุลเดียวกันและยังอยู่ในสังคมเดียวกันด้วย สู่ เสี้ยงหยางจึงก็คิดว่าเขาต้องเป็นน้องชายของถังปิงหยู่อย่าง แน่นอน
อีกอย่างในตอนนั้นถังปิงหยู่เคยชักปืนออกมาจ่อหัวชูจื้อ
เฉิงด้วย
“อะไร? จึงรู้จักพี่สาวกูด้วยเหรอ?” ถังหลงตกใจกลัว ทันที ชีวิตนี้คนเดียวที่เขากลัวคือพี่สาว
ลู่เสี้ยงหยางไม่ได้ตอบคำถามของเขา แต่กลับพูดต่อ ด้วยรอยยิ้ม “ถ้าพี่สาวคุณเจอหน้าผมเธอยังต้องเกรงใจผม เลย แล้วใครเอาความกล้าให้คุณมากร่างกับผมแบบนี้?”
หือ!
เมื่อได้ยินคำพูดนี้สีหน้าของถังหลงก็เริ่มไม่เป็น ธรรมชาติ แต่เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะกลัวคำขู่ของลู่เสี้ยงหยาง ง่าย ๆ แบบนี้
“แมร่ง! ไอ้กระจอกอย่างจึงเอาอะไรไปรู้จักพี่สาวกู? เดี๋ยวกูจะตัดขาถึงก่อนแล้วค่อยพามึงไปหาพี่สาวกู ดูว่าเธอ จะรู้จักมึงอย่างที่พูดไหม” ถังหลงหัวเราะดัง ๆ แล้วดีดนิ้วจากนั้นลูกสมุนของเขาก็ถือมีดแล้วพุ่งเข้าหาลู่เสียงหยาง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ