บทที่8 ขอทานจะมาถึงบ้านเราแล้ว
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ตอนไม่รู้ตัวตนของลู่เสี้ยงหยาง เธอคงรู้สึกขยะแขยง แต่ตอนนี้ในใจของเธอรู้สึกร้อนรน อย่างอธิบายไม่ได้
ตูมตูมตูม
“เธอพูดอะไร? ฉันไม่ได้ยินเลย”
“คุณพ่อ คุณพ่อคะ….” หลี่หย่าหรูกัดริมฝีปาก
แน่น หน้าแดงไปจนถึงคอ
“อืม ยังพอมีศักยภาพอยู่นะจากนี้ก็ทำงานที่ บริษัท
ต่อไปนี้แหละจริงสิ ตำแหน่ง ฝ่ายการตลาดต้อง เหมาะกับเธอแน่” ลู่เสียงหยางพูดลอยๆ
“ค่ะค่ะค่ะ ขอบคุณค่ะพ่อ” หลี่หย่าหรูพยักหน้าไม่ หยุด นี่เป็นโอกาสเดียวที่จะรวยสายฟ้าแลบ
คุณพ่อ? ซุนเซียงเซียงที่ยืนอยู่ด้านข้างสีหน้า มืดมน ความคิดชั่วร้ายโผล่เข้ามาในหัวเธอ
“โอเค ไปทำงานเถอะ อีกเรื่องนึง เรื่องในวันนี้ ฉันหวังว่าเธอจะเหยียบไว้ให้มิด ไม่งั้นเธอน่าจะรู้ผลที่ ตามมา” ลู่เสี้ยงหยางทั้งประโยคสุดท้ายไว้ ไม่หยุดยืน ต่อ แล้วเดินเข้าบริษัทไป
ซุนเซียงเชียงยืนอยู่ที่เดิม ลังเลอยู่หลายวินาที ถึงเดินตามเข้าไป
ในห้องทำงานของท่านประธาน
ลู่เสียงหยางยืนอยู่หน้าหน้าต่างฝรั่งเศสบาน ใหญ่ ชมวิวทิวทัศน์ภายนอก
ทำเลที่ตั้งของหยูเม่ยหยินกรุ๊ปดีมาก อีกทั้งห้อง ทำงานของประธานก็อยู่ชั้นสูงสุด สามารถมองเห็นวิว งดงามของทั้งเมืองปินเหอ
ลู่เสี้ยงหยางมองไปมองมาก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะ ใจลอย ในตอนที่ถูกขับไล่ออกจากตระกูล เขาไม่กล้าคิด เลย ว่าตนเองจะได้มีวันนี้
กริง!
ใจลอยได้ไม่นาน กริ่งหน้าประตูห้องทำงานก็ดัง
ขึ้น
“เข้ามา” ลู่เสี้ยงหยางพูดเรียบๆ
ซุนเซียงเซียงหน้าแดงเปิดประตูเดินเข้ามา เมื่อกี้เธอดูถูกคน เยาะเย้ยถากถางลู่เสี้ยงหยาง เธอไม่รู้ว่าท่านประธานท่านนี้โกรธเคืองเธอหรือเปล่า
“มีธุระอะไรรึเปล่า?”
“ท่านประธานคะ เรื่องในวันนี้ เป็นความผิดของ
ฉัน ฉันมาชดใช้ความผิด….” ซุนเซียงเซียงเดินไปด้าน หน้าลู่เสี้ยงหยาง ก้มหัวกัดฟันพูดออกมา “ชดใช้ความผิด?” ล่เสี้ยงหยางสงสัยเล็กน้อย
แล้วพูดด้วยความสนอกสนใจ “เอ๋? งั้นว่ามาสิเธอจะ
ชดใช้ยังไง?”
ใบหน้าสวยงามของซุนเซียงเซียงแดงระเรื่อ เธอค่อยๆล็อคประตูห้อง รูดผ้าม่านปิดหน้าต่าง แล้วเริ่มปลด กระดุมเสื้ออย่างเขินอาย
“พอแล้วพอแล้ว เรื่องที่เธอต้อนรับฉัน ฉันไม่ได้ โกรธอะไร เธอรีบใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย” ลู่เสี้ยงหยาง คิดไม่ถึงเลย ว่าซุนเซียงเซียงจะเอาจริง
“ค่ะ” ซุนเซียงเซียงตอบรับอย่างนุ่มนวล หน้า แดงจนเลือดแทบพุ่งออกมา ไม่รู้ทำไม ในตอนที่รู้สึก โล่งใจ ดูเหมือนในใจเธอก็แอบเสียดายเล็กน้อย
หลังจากนั้นไม่นาน บรรยากาศที่มีเสน่ห์ของห้อง
ทำงานก็สงบลง กลับสู่สภาวะปกติ
ลู่เสี้ยงหยางเริ่มประเด็น พูดออกไปว่า “ตอนนี้ ฉันอยากทำความคุ้นเคยกับธุรกิจของบริษัทซักหน่อย”
“ได้ค่ะ ท่านประธาน” ซุนเซียงเซียงหยิบกอง ข้อมูลออกมาแล้วส่งให้ลู่เสี้ยงหยางดู
ซุนเซียงเซียงไม่เพียงแค่เป็นผู้อำนวยการฝ่าย บุคคล แต่ยังเป็นผู้ช่วยท่านประธาน ระหว่างขั้นตอนการ ศึกษาข้อมูลของลู่เสี้ยงหยาง เธอนั่งอยู่ตรงข้ามลู่เสี้ยง หยาง
บางตอนที่ลู่เสี้ยงหยางมีจุดที่ไม่เข้าใจ จะ สอบถามจากซุนเซียงเซียง ซุนเซียงเซียงก็จะค่อยๆ อธิบาย
ลู่เสี้ยงหยางตั้งใจฟังอย่างจริงจัง เพียงแต่ในบาง เวลา สายตาของเขาก็แอบมองไปที่ซุนเซียงเชียงอย่าง ไม่ซื่อตรง
ภายใต้ความใกล้ชิดเช่นนี้ ลู่เสี้ยงหยางถึงคันพบ ความงามของซุนเซียงเซียง ชุดสูทผู้หญิงสีดำ เสื้อเชิ้ต สีขาว เป็นสไตล์ที่ยากจะหักห้ามใจ
ลู่เสี้ยงหยางสายหัว รู้สึกเสียดายขึ้นมากะทันหัน เมื่อกี้ทำไมไม่จู่โจมซักหน่อยกันนะ
ซุนเซียงเซียงสัมผัสได้ถึงสายตาผิดแปลกของลู่ เสี้ยงหยาง ได้แต่นั่งหน้าแดง ไม่พูดจาอะไร
ในตอนนี้ ลู่เสี้ยงหยางดูเหมือนจะคิดอะไรขึ้นได้ จึงถามว่า “บริษัทในเครือหยูเม่ยหยินกรุ๊ปของเรา มีอัน นึงที่ชื่อว่าจางยิ่งเทียนใช่ไหม?”
“ใช่ค่ะ”
“ถอนเงินทุน ยกเลิกการลงทุนทั้งหมดของหยู เม่ยหยินกรุ๊ปกับบริษัทนี้ ไม่ลงทุนอีกต่อไป!” “แต่ว่าท่านประธาน….สิ่งนี้จะนำความสูญเสียมา
สู่กลุ่มเรา”
“ให้เธอถอนเงินทุนก็ถอนซะ การสูญเสียจุดนี้ไม่ เท่าไหร่ เกิดเรื่องอะไรขึ้นฉันรับมือเอง”
“ได้ค่ะ ท่านประธาน” ซุนเซียงเซียงพยักหน้า เริ่ม โทรศัพท์ออกไป
ตลอดช่วงเช้า ลู่เสี้ยงหยางใช้เวลาทั้งหมดอยู่ที่ บริษัท เมื่อเขาเหนื่อยจากการดูข้อมูล ก็จะเดินเล่นใน บริษัท ในบริษัทเต็มไปด้วยสาวสวย เป็นอาหารตาให้กับ
เขาอย่างดี
ในตอนกลางวัน ลู่เสี้ยงหยางได้รับหนึ่งข้อความ
เป็นข้อความจากเยสวน เย่สวนบอกกับเขาว่า เย็น วันนี้ บ้านของคุณลุงจะจัดงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ ให้เขา ไปซื้อเสื้อผ้าดีๆมาใส่ อย่าให้อับอายต่อหน้าคนอื่น
ลู่เสี้ยงหยางอ่านข้อความนี้จบก็เพิกเฉย ตอน นี้
เขาเป็นถึงผู้ครอบครองหยูเม่ยหยินกรุ๊ปที่มีมูลค่าใน
ตลาดกว่า5หมื่นล้าน มีแสงสว่างเป็นของตัวเอง ยัง จำเป็นต้องใช้เสื้อผ้ามาเสริมบารมีหรอ? ในตอนเย็น ใกล้จะถึงเวลาแล้ว ลู่เสี้ยงหยางพึ่ง จะออกจากบริษัท ขี่รถมอเตอร์ไซค์ของเขามุ่งหน้าไปยัง
บ้านใหม่ของลุง
ลุงคนนี้ไม่ใช่ลุงจากฝั่งของเขา แต่เป็นลงของเย่
สวน
บ้านใหม่ของคุณลุงอยู่ในระแวกวิลล่าสวนโบตั๋น ทั่วทั้งเมืองปินเหอ บริเวณวิลล่าของสวนโบตั๋นเป็นของ พวกชนชั้นสูง แน่นอนว่าที่ดียิ่งกว่าบริเวณวิลล่าของสวน โบต้น ก็คือวิลล่าในย่านชิงหลงซาน นั่นเป็นย่านวิลล่า อันดับสูงสุดในเมืองปินเหอ สูงกว่าย่านวิลล่าสวนโบตั๋น อยู่หนึ่งระดับ
เมื่อลู่เสี้ยงหยางมาถึงบ้านวิลล่าของคุณลุง บรรดาเครือญาติของตระกูลเย่ต่างมาถึงกันหมดแล้ว
รุ่นเก่าแก่ของตระกูลเย่ ตอนนี้เหลือเพียงคุณย่า ที่ยังมีชีวิตอยู่ คุณย่ามีลูกชายสี่คน
ลูกชายคนโตเย่เจิ้งกั้ว ลูกชายคนที่สองเย่เจิ้งซาน ลูกชายคนที่สามเย่เจิ้งเหอ ลูกชายคนเล็กเย่เจิ้ง
ส่ง
เย่เจิ้งสงคือพ่อของเยสวนเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ รถยนต์ไปเมื่อสามปีก่อน
ดังนั้นในตอนนี้หลิวจิ้งจึงเป็นแม่ม่ายผิวใสหน้า
สวย
ในขณะนี้ เยสวนเอาแต่ยืนรอลู่เสี้ยงหยางอยู่หน้า ทางเข้าวิลล่า
พอเห็นลู่เสี้ยงหยางไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้ามา ยัง เป็นสินค้าแผงลอยทั้งตัว ก็โมโหควันออกหู
หลิวจิ้งที่ยืนอยู่ด้านข้างพูดกระซิบ “ครอบครัวเรา ต้องเสียหน้าเพราะเขาอีกแล้ว ลูกไม่ควรเรียกเขามานี้
ให้ต้องอับอายเลย”
เยสวนกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ “มาก็มาแล้วจะไปทำ อะไรได้? แม่คะ ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว” หลิวจิ้งไม่พูดอะไรต่อ แต่ได้ตัดสินใจเรียบร้อย กลับไปค่อยชำระความกับลู่เสี้ยงหยาง
เย่หยุนเทาที่กำลังทักทายแขกอยู่ท่ามกลางผู้คน มองเห็นลู่เสี้ยงหยาง ก็เดินไปหาด้วยสีหน้าเย้ยหยัน ทันที
เย่หยุนเทาเป็นลูกชายของคุณลุง อาศัยความที่ พ่อของเขาเป็นที่ชื่นชอบของครอบครัว จึงมีความหยิ่ง ผยอง ที่เขารังเกียจที่สุดก็คือลู่เสี้ยงหยางที่แต่งเข้ามาเป็นเขย ฉะนั้นทุกครั้งที่เจอเขาจะโจมตี
“แย่แล้ว นี่ขอทานโผล่มาจากไหน ทำไมมาจนถึง บ้านของพวกเราได้” เย่หยุนเทาเดินไปถึงข้างตัวลู่เสี้ยง หยาง ยื่นมือขวางทางลู่เสี้ยงหยาง แล้วพูดอย่างมีความ หมายแฝง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ