บทที่ 76 หึง
หลังจากที่คุณหญิงท่านลงโทษเย่หยุนเทา เธอหัน ไปทางซุนเซียงเซียง “ไงหัวหน้าซุน บทลงโทษพอใจ คุณไหม?”
ซุนเซียงเซียงเหลือบไปทางลู่เสี้ยงหยาง เธอเป็น เพียงหมากตัวนึงในกำมือลู่เสี้ยงหยางเท่านั้น ขอเพียง แค่ลู่เสี้ยงหยางพึงพอใจ เธอก็พึงพอใจเช่นเดียวกัน
ลู่เสี้ยงหยางสีหน้าเรียบเฉย ไร้ปฏิกิริยาใด เมื่อเห็นดังนั้น เธอรู้ได้ทันทีลู่เสี้ยงหยางไม่คิดเอา ความอีกต่อไป
“ก็ได้ ในเมื่อคุณหญิงท่านให้เกียรติดิฉันขนาดนี้ ฉันจะไม่เอาเรื่องอีก แต่ฉันหวังว่าจะไม่มีครั้งต่อไป” ซุนเซียงเซียงตอบโต้ด้วยความเย็นชา
คุณหญิงท่านพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น พร้อม กล่าวขอบคุณซุนเซียงเซียง
ต่อจากนั้น ซุนเซียงเซียงไม่คิดอยู่ในห้องประชุม ตระกูลเย่นานไปกว่านี้ เธอเดินออกไปพร้อมเสียง รองเท้าส้นสูงดังก็กก้อง
รอยยิ้มของคนในตระกูลเย่จางหายไป พร้อม รองเท้าส้นสูง ทุกคนจับจ้องไปที่เยสวน ด้วยสายตาไม่ เป็นมิตร
วันนี้ สิ่งที่ทุกคนต้องทนรับจากซุนเซียงเซียง พวกเขาคิดบัญชีทั้งหมดกับเย่สวน
“ไอ้บ้าเอ้ย” เย่หยุนเทาตวาดด้วยความโกรธ เขา ดีดตัวลุกขึ้นจากพื้น ชี้หน้าด่ากราดเย่สวน “เย่สวน ผู้ หญิงอย่างเธอมันสมควรตาย หวังว่าวันหลังแกจะไม่มี ความลับอะไรอยู่ในกำมือฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะทำให้ แกไม่มีที่ยืนในตระกูลเย่”
เย่สวนทำตาขวางใส่เย่หยุนเทา พร้อมหัวเราะ เสียงดังลั่น “หวังว่าแกจะจำคำคุณย่าได้ ไม่อย่างนั้น วันหลังแกจะได้ถูกคุณย่าลงโทษหนักกว่าเก่า”
“นังเย่สวน นังแพศยา แกพูดบ้าอะไร?” เย่หยุน เท่านึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาโมโหจนหน้าแดงก่ำ
เย่สวนไม่สนใจเขาอีกต่อไป เธอหมุนตัวเดินออก
จากห้องประชุม
หลังครอบครัวเย่สวนเดินจากไป ทุกคนนั่งลงที่
เดิม
พี่คนโตเย่เจิงกั๋ว เอ่ยกับคุณหญิงท่านด้วยเสียง ราบเรียบ : “แม่ครับ ท่านใจร้าย ปฏิเสธหยุนเทา ขับไล่ เขาออกจากตระกูลเย่กรุ๊ปได้อย่างไร?”
“นั้นสิคุณย่า คุณลุงพูดถูก อนาคตตระกูลเยจะ ขาดหยุนเท่าไปไม่ได้” เย่ซวงเอ่ยเสริม
ในทีแรกหญิงชราไม่ปริปาก เธอยังคงนิ่งเฉย ก่อน เอ่ยขึ้น : “เหตุผลเหล่านี้ฉันจะไม่รู้ได้อย่างไร? เพียง แต่นังซุนเซียงเซียงมีหลักฐานมัดตัวแน่นหนา ตระกูลเยต้องทำอะไรสักอย่าง แน่นอน แม้ฉันจะพูดไปอย่าง นั้น แต่หยุนเทาไม่จำเป็นต้องทำตามนั้น วันหลังถูก เปลี่ยนให้ไปทำงานที่ไหน ก็ไปที่นั่น เพียงแต่วันหลัง หยุนเทาจะทำเรื่องโง่ๆแบบนี้ไม่ได้อีก แม้ตอนนี้ตระกูล เย่ยังมีหุ้น51 เปอร์เซ็นต์ไม่ได้อยู่กับตัว แต่ฉันจะหาวิธี เอาหุ้นคืนที่เหลือจากเย่สวนได้แน่ หลังจากนั้น ประธานตระกูลเย่กรุ๊ปก็ยังเป็นหยุนเทา”
ได้ยินประโยค หยุนเทาสองพ่อลูกคลายกังวล ตระกูลเย่คนอื่นเริ่มอวยพรเย่หยุนเทาด้วยความ ยินดี
ผ่านไปสักครู่ คุณหญิงท่านนึกถึงเรื่องอะไรบาง อย่าง เธอหันไปทางเย่ซวง : “ซวงเอ๋อ ตอนนี้เรื่องส่วน ตัวของเธอไปถึงไหนแล้ว? ยังได้ติดต่อกับลูกหลาน ตระกูลลู่อยู่บ้างไหม?”
ลู่ซวงนิ่งไป หลายวันมานี้เธอเข้าออกร้านอาหาร รอยเอิลเบอร์หนึ่งเป็นว่าเล่น หวังจะได้ข่าวคราวเกี่ยว กับคุณชายตระกูลลู่บ้าง แต่กลับไร้ความคืบหน้าใดๆ
แน่นอนสิ่งเหล่านี้เธอกล่าวต่อหน้าคุณหญิงท่าน ไม่ได้อยู่แล้ว เพื่อไม่ให้คุณค่าของเธอในสายตาคุณย่า ลดน้อยลง “คุณย่าสบายใจได้ มีความคืบหน้าบ้างแล้ว ฉัน
มั่นใจ คาดว่าจะได้ติดต่อกับคุณชายตระกูลลู่ในอีกไม่
กี่เดือนข้างหน้า”
เยซองโม้ใหญ่โต
“ดีดีดี ซวงเอ๋อเก่งที่สุด เธอมีความมั่นใจเช่นนี้ ถ้า อย่างนั้นค่าใช้จ่ายเธอจะเบิกจากที่บ้านไปเยอะกว่า เดิมก็ได้” คุณหญิงท่านอารมณ์ดี
“ขอบคุณค่ะคุณย่า” เย่ซวงฉีกยิ้มกว้างอย่างดีใจ
แม้เธอจะเกลียกเย่สวนมาก แต่อดยอมรับไม่ได้ คนในตระกูลเย่สามารถใช้เงินฟุ่มเฟือยได้ เพราะมีเย่ สวนที่เป็นต้นเงินต้นทองอยู่
ภายในบ้านของเย่สวน
ทันทีที่เข้าบ้าน หลิวจิ้งด่ากราดลู่เสี้ยงหยาง ลู่เสี้ยงหยางหูทวนลม นั่งเล่นโทรศัพท์เพียงลำพัง สักครู่ ข้อความหนึ่งเด้งขึ้นบนหน้าจอ เขากด เข้าไปดู
ลู่เสี้ยงหยางประหลาดใจเล็กน้อย ซูเยียนรันแห่ง เฟยหยางกรุ๊ปโด่งดังเพียงค่ำคืนด้วยเพลง “ค่ำคืนที่ เงียบเหงา” เธอเบียดเสียดขึ้นเป็นอันดับต้นๆอย่าง รวดเร็ว
“ไม่เลว ซูเยียนรันมีของจริงๆด้วย ต่อจากนี้หาก ปล่อยเพลงดังอีกสักสองสามเพลง ตำแหน่งในวงการ เพลงของเธอก็จะมั่นคง ไม่แน่อนาคตเธออาจเป็นถึง ราชินี” ลู่เสี้ยงหยางคำนึง
แต่ไม่นาน ลู่เซี่ยงหยางนึกขึ้นได้ผู้หญิงอย่างซู เยียนรัน ความเย็นชาของเธอในคืนงานเลี้ยงของเย่ สวนและผองเพื่อน เธอยโสนัก ไม่สนใจใครทั้งนั้น แม้ เขาคิดที่จะนั่งข้างเธอ เธอยังกลัวตนตกราคา
ขณะนี้เอง เย่สวนต้องการเอ่ยถามอะไรบางอย่าง กับเขา แต่โทรศัพท์กลับดังขึ้นเสียก่อน
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นดู ลูกพี่ลูกน้องเธอชิวรั่วหาน หลังจากที่เธอกลับประเทศ เธอโทรหาเธอทุกวัน
เป็นว่าเล่น
แถมแต่ละครั้งยังถือสายกว่าชั่วโมง จนเย่สวน “ว่าไง เธอเป็นอะไรอีก?” เย่สวนรับสาย พร้อมเอ่ย
หน่ายกับเธอ
ด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ “พี่ ฉันมีข่าวดี ข่าวที่ดีมาก” ปลายสายเอ่ยอย่าง
ตื่นเต้น
เยสวนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เธอไปหลงรักเจ้าชายขี่
ม้าขาวที่ไหนอีก? ดีใจขนาดนี้”
ชิวรั่วหานส่ายหน้า “หลงรักเจ้าชายขี่ม้าขาวที่ไหน กัน แต่ไหนแต่ไรฉันก็มีเจ้าชายอยู่เพียงคนเดียว พี่ยัง จำผู้ชายที่ขับบีเอ็มได้ไหม? เขาคือสเปคฉันหละ”
เอ่อ!
ได้ยินประโยค เย่สวนรู้สึกถึงความน่าสนใจ เธอเหลือบมองไปทางลู่เสี้ยงหยาง
ชายขับบีเอ็มนั่นคือลู่เสี้ยงหยางไม่ใช่หรือไง?
แต่คนที่น้องสาวตนเองชอบ กลับเป็นพี่เขยของ เธอเอง แค่คิดก็น่าขันแล้ว
“อันที่จริง ฉันว่าชายคนนั้นไม่ค่อยเหมาะสม เธอ ลองเปลี่ยนคนใหม่ดีไหม” เย่สวนเอ่ย
อะไรนะ?
ไม่เหมาะสม?
ไม่มีอยู่จริงหลอก!
ชิวรั่วหานตะโกนขึ้นอย่างไม่พอใจ : “ไม่พี่ฉันไม่ เอา หลายปีมานี้ฉันอุตส่าห์ชอบใครบางคนขึ้นมาบ้าง ฉันไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆหลอก อีกอย่างฉันรู้สึกว่า ฉันกับเขาเหมาะสมกันมาก คู่สร้างคู่สมเลยล่ะ”
เอ่อ..
เย่สวนไร้คำพูด เกรงว่าชิวรั่วหานจะถลำลึกเข้าไป ใหญ่ เธอลังเลจะบอกเธอดีหรือไม่ อันที่จริงชายที่ขับ บีเอ็มคือพี่เขยของเธอ ลู่เสี้ยงหยาง
แต่ยากเหลือเกินที่จะเอ่ยปาก
ขณะที่เย่สวนตกอยู่ในภวังค์ ชิวรั่วหานเอ่ยเสริม ต่อเนื่อง : “พี่ ข่าวดีที่ฉันจะบอก เพื่อนแฮกเกอร์ต่าง ชาติของฉันได้ข่าวคราวของชายขับบีเอ็มมาแล้ว เขา อาศัยอยู่ที่เมืองปินหอเหมือนเรา ฉันเชื่อว่าอีกไม่นานฉันจะหาเขาเจอจนได้ เพื่อสารภาพรักกับเขา”
ได้ยินประโยค เยสวนหนังตากระตุก ทำไมเธอถึง รู้สึกหึงขึ้นมานะ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ