บทที่ 61 ฉันจะฆ่าแกด้วยมือของฉันเอง
เฉินหลันคิดอย่างโง่ๆว่า ตอนนี้เธอยังสามารถ ควบคุมลู่เสี้ยงหยางอยู่ในกำมือได้ ดังนั้นจึงพูดกับเย่ สวนอย่างเกลียดชังว่า “นังผู้หญิงชั้นต่ำ อีกเดี่ยวฉัน จะให้ลูกน้องของท่านเปียวทุกคนปรนเปรอแก หวังว่า แกจะเอนจอยนะ”
พูดถึงตรงนี้ สายตาของเธอก็เบนไปทางลู่เสี้ยง หยาง จากนั้นก็กัดฟันแล้วพูดว่า “ส่วนแก ฉันจะทำให้ แกได้เห็นกับตาว่าถูกสวมเขามันเป็นยังไง หลังจากนั้น ฉันก็จะทำให้แกได้ลิ้มลองรสชาติของการถูกกระทืบ จนข้อต่อทั่วทั้งร่างกายแหลกสลาย”
เมื่อได้ยินที่เธอพูด ทุกคนในห้องก็หันมามองเย่ สวนกับลู่เสี้ยงหยาง เตรียมรับชมอะไรสนุกๆ
“แม่ง พวกโง่ คงปล่อยให้พูดต่อไปไม่ได้แล้ว” อา เปียวสะดุ้งจนเนื้อเต้นเร้าๆ
เมื่อหม่าเถิงเฟยเห็นว่าอาเปียวชักช้าไม่ยอมสั่งลูก น้องให้ลงมือสักที ก็พูดเร่งอย่างรอไม่ไหวว่า “ท่าน เปียว รออะไรอยู่? รีบลงมือสิ”
อาเปียวแสยะยิ้มเย็น “ไอ้โง่ ลงมือบ้านแม่แกสิ” จากนั้นก็ดีดนิ้ว เอ่ยสั่งลูกน้องว่า “หุบปากพวกมัน
สองตัวซะ”
เมื่อได้ยินที่อาเปียวพูดมา พวกลูกน้องก็นิ่งอึ้ง แต่เพราะเกรงกลัวอำนาจของอาเปียว จึงจำต้องทำตาม
คำสั่ง
ลูกน้องสองคนยืนขึ้น จากนั้นก็เดินสวบสาบ เข้าไปฟาดมือลงบนหน้าของหม่าเถิงเฟยกับเฉินหลัน
“ว้าย นี่ นี่มันอะไรกัน?” ซูเยียนรัน ถังหลง โจว หนิง ต่างพากันอึ้ง ลูกน้องของอาเปียวตบผิดคนหรือ เปล่า?
เย่สวนกับซุนหยันสว่เบิกตาค้าง เมื่อกี้ตอนที่อา เปียวเดินนำลูกน้องเข้ามาด้วยท่าทางน่ากลัว พวกเธอ ต่างก็หวาดกลัวเป็นอย่างมาก นึกว่าคงต้องถูกกระทำ อย่างอัปยศอดสูเป็นแน่ แต่ไม่คิดเลยว่า คนที่ถูก กระทำจะเป็นหหม่าเถิงเฟยกับเฉินหลันแทน
หลังจากที่ถูกตบ ในหัวของหม่าเถิงเฟยกับเฉิน หลันก็พลันขาวโพลน ฉากนี้ต้องไม่ใช่อย่างนี้สิ คนที่ ลูกน้องของอาเปียวต้องลงมือสั่งสอนคือลู่เสี้ยงหยาง กับเย่สวนไม่ใช่เหรอ?
“เอ่อ..ท่านเปียว ลูกน้องของคุณกินยาผิดมา หรือเปล่า พวกเขาไม่รู้เหรอว่าต้องจัดการใคร โง่ ขนาดนี้ปล่อยให้ตามมาทำงานกับคุณได้ยังไงครับ?” หม่าเถิงเฟยกุมหน้าเอาไว้ด้วยสองมือ แล้วพูดขึ้นเสียง เบา
อาเปียวยิ้มแยกเขี้ยว เอ่ยเตือนว่า “ถ้ากล้าพ่น อะไรไร้สาระออกมาอีกล่ะก็ ฉันจะฆ่าแกด้วยมือของ ฉันเอง”
พูดจบ ก็เดินไปหาลู่เสี้ยงหยางอย่างเร่งรีบ จาก
นั้นก็โค้งคำนับเก้าสิบองศา พร้อมเอ่ยพูดอย่าง
นอบน้อมว่า “ทำความเคารพพี่เลี้ยงหยาง”
เงียบกริบ!
ภายในห้องเงียบกริบ จนแทบจะได้ยินเสียงเข็ม
หล่น!
อาเปียวไม่ใช่ตัวช่วยที่หม่าเถิงเฟยเรียกมาหรอก เหรอ? ทำไมจู่ๆถึงได้ทำความเคารพลู่เสี้ยงหยางอย่าง นี้
อีกอย่างอายุของลู่เหยางก็ยังน้อยอยู่ด้วย ไม่ ได้แก่ไปกว่าอาเปียวเลย แล้วทำไมอาเปียวถึงได้เรียก เขาว่าพี่เสี้ยงหยางล่ะ?
ชั่วขณะ ในใจของเย่สวน ซูเยียนรัน และถัง หลัง ต่างก็มีเครื่องหมายคำถามลอยวนขึ้นมา
“ตาเถร นี่มันอะไรกันนี่?” ซุนหยันเสว่อุทานออก มาเสียงแหลม จากนั้นก็มองไปทางเยสวนย่างไม่ อยากจะเชื่อ เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่าผู้ชายคนนี้ เปล่าประโยชน์? แล้วทำไมคนโหดเหี้ยมอย่างอาเปียว ถึงได้ก้มหัวให้เขาเสียต่ำถึงขนาดนี้ล่ะ?
เยสวนเบิกตาอ้าปากค้าง ค้นพบแล้วว่าที่ผ่านมา เธอรู้จักลู่เสี้ยงหยางแค่เพียงด้านเดียว
ทางหม่าเถิงเฟยกับเฉินหลันก็เบิกตาโพลงจนลูก ตาแทบหลุด นี่มันตรงกันข้ามกับที่พวกเขาคาดการณ์เอาไว้อย่างลิบลับ
“อืมลู่เสี้ยงหยางทำเพียงแค่พยักหน้านิ่งๆ ให้กับ อาเปียวที่ทำความเคารพเขาอยู่
ในใจของอาเปียวสั่นรัว เมื่อรู้ว่าลู่เสี้ยงหยางยังไม่ พอใจ จึงรีบพูดทันทีว่า “พี่เลี้ยงหยาง อยากให้ผมสั่ง สองพวกโง่สองตัวนี้ยังไงบอกได้เลยนะครับ”
ลู่เสี้ยงหยางสายหน้า แล้วพูดว่า “ไม่ต้อง”
“ครับ” อาเปียวตอบรับเสียงเบา จากนั้นก็ก้มหน้า ลงต่ำ แล้วหลบไปยืนอยู่ด้านข้าง
ลู่เสี้ยงหยางมเหลือบมองหม่าเถิงเฟย แล้วพูดว่า “เหมือนนายจะยังไม่ยอมสินะ”
หม่าเถิงเฟยพูดอย่างถือดีว่า “ท่านเปียวไม่กล้าทำ อะไรแก ก็ไม่ได้แปลว่าพ่อฉันจะไม่กล้าซะหน่อย อีก
เดี๋ยวพ่อฉันก็มาแล้ว คอยดูเอาไว้เถอะแล้วแกจะ
เสียใจ”
“ได้เลย” ลู่เสี้ยงหยางหัวเราะ ในเมื่อวันนี้ไอ้โง่นี่ อยากหาเรื่องขายหน้าให้ตัวเองนัก งั้นก็คงต้องเหยียบ ศักดิ์ศรีด์ของอีกฝ่ายให้แหลกละเอียดแล้วล่ะ
ในระหว่างที่รอ เย่สวนกับซุนหยันเสว่ก็อดไม่ได้ที่ จะเป็นกังวลขึ้นมา พ่อของหม่าเถิงเฟยใหญ่ถึงขนาด ที่ได้รับฉายาว่าเป็นคนใหญ่คนโตแห่งเมืองปินเหอ เทียบกับเขาแล้ว ลู่เสี้ยงหยางมีอะไรดีไหม?
ด้านถังหลงกับโจวหนิงเริ่มกลับมามั่นใจอีกครั้ง
ไม่กี่นาทีต่อมา เสียงฝีเท้าก็ดังเข้ามาในห้อง เป็น ซุนสงกับหม่าเจียงหลิ่งที่เดินนำคนสิบกว่าคนเดินเข้า มา
หม่าเจียงหลิ่งคือพ่อของหม่าเถิงเฟย เขาสวมชุด สูทรองเท้าหนัง รูปร่างท้วมๆ ใบหน้ากลมๆดูเผินๆ เหมือนคนใจดีแต่ข้างในไม่ใช่
ด้านซุนสงสวมใส่ชุดลำลองสบายๆ ทว่าบน ใบหน้าก็ประดับไปด้วยความดุดัน ท่าทางน่าเกรงขาม บ่งบอกได้ชัดว่าต้องเป็นคนระดับสูงเท่านั้นถึงจะมีราศี แบบนี้ได้
สายตาของทุกคนจดจ้องไปที่หม่าเจียงหลิ่งกับซุน
ส่ง
ชื่อเสียงเรืองนามและอำนาจอันใหญ่โตของสอง คนนี้ พวกเขาต่างก็รู้จักเป็นอย่างดี หม่าเจียงหลิ่งเป็น บอสใหญ่แห่งวงการธุรกิจ ส่วนซุนสงเป็นเจ้าพ่อแห่ง
วงการใต้ดิน
“พ่อ มาสักทีนะ ฮ่าๆ ไม่คิดเลยว่าพี่สงจะมาด้วย” หม่าเถิงเฟยดีใจเหนือความคาดหวัง จึงส่งเสียงร้อง ออกมาอย่างลิงโลด
การที่ซุนสงมาด้วย ถือเป็นกำไรของเขาไปด้วย แต่ถ้าพูดกันตามความสำคัญ ซุนสงน่ากลัวกว่าพ่อ ของเขาตั้งหลายเท่า ถึงยังไงพ่อของเขาก็เดินทาง สายขาว มีหลายเรื่องที่ไม่สามารถทำอะไรเกิน ขอบเขตได้ แต่ซุนสงกลับต่างออกไป เพราะซุนสงคือเจ้าฟอแห่งวงการใต้ดินในเมืองปินเหอ เคยต่อสู้ และเข่นฆ่าจนมือเปื้อนเลือดมาแล้วก็หลายครั้ง ถึง ขนาดที่ว่าคนอย่างพ่อเขายังต้องไว้หน้าซุนสงเลย
คิดไม่ถึงเลยว่าคืนนี้แม้แต่ซุนสงเองก็เดือด ถ้า อย่างนั้นลู่เสี้ยงหยางได้ตายอย่างไม่ต้องสงสัยแน่
คนอื่นก็พอจะนึกภาพความรุนแรงในระดับนี้ออก จึงมองไปทางลู่เสี้ยงหยางอย่างสะใจ
เยสวนและซุนหยันเสว่รู้สึกสิ้นหวัง ไม่เหลือความ มั่นใจใดๆ ให้กับลู่เสี้ยงหยางแล้ว
ตาของซูเยียนรันเป็นประกาย พร้อมทั้งจดจ้องมา ที่ซุนสูง แม้ว่าซุนสงจะเป็นคนเทาๆ แต่เขากลับเป็น ฮีโร่ และเป็นคนที่เธอชื่นชอบอยู่ในใจ
ทันทีที่เข้ามาในห้อง หม่าเจียงหลิ่งก็เดินก้าวฉับๆ ไปหาหม่าเถิงเฟย จากนั้นก็เอ่ยถามอย่าง ประคบประหงมว่า “เถิงเฟย ไอ้ตาบอดคนไหนมันกล้า มาขัดใจแก วันนี้ฉันจะทำให้มันได้ตายทั้งเป็นเลย คอยดู”
หม่าเถิงเฟยแสยะยิ้มร้ายออกมา แล้วมองไปทาง ลู่เสี้ยงหยาง
หม่าเจียงหลิ่งมองตามสายตาไป ในตอนที่เหลือบ ไปเห็นลู่เสี้ยงหยางที่แต่งตัวเรียบๆ บนตัวไม่มีอะไร โดดเด่น เขาก็ชะงักนิ่งไปชั่วครู่ ไอ้โง่นี่น่ะเหรอกล้า มาหาเรื่องลูกชายเขา?
“ให้ตายสิ ไอ้เด็กเปรต แกกล้ามากนะ พี่สง รีบ ลงมือจัดการมันเลย” หม่าเจียงหลิ่งพูดเร่งเร้า
ซุนสงฟังเข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวา เขามาหยุดยืน อยู่ตรงหน้าของลู่เสี้ยงหยางตั้งแต่แรกแล้ว ร่างกาย ของเขาสั่นนิดหน่อย จากนั้นก็ทรุดตัวนั่งก้มหน้าลง อย่างแน่นิ่ง ราวกับเด็กประถมที่ทำผิดแล้วโดนครูจับ ได้
“นี่ อะไรกัน? เป็นแบบนี้ไปยังไง?” เมื่อหม่าเจียง หลิ่งเห็นแบบนี้ ก็หลุดตะโกนเสียงดังออกมาทันที รู้สึกแค่ว่าสมองประมวลผลไม่ทัน เสี่ยใหญ่ผู้ทรง อิทธิพลทำไมถึงกลัวกับอีแค่คนธรรมดาๆคนหนึ่งล่ะ?
“เรื่องนี้นายคิดว่าควรจัดการยังไงดี?” ลู่เสี้ยง หยางไม่ได้สนใจสีหน้าตกใจของทุกคน จากนั้นก็เอ่ย ถามซุนสั่ง
“ครับๆๆๆ พี่เลี้ยงหยาง ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมจะจัดการเรื่องนี้ให้อย่างสวยงามเลยครับ” ซุนสง พยักหน้ารัวๆ พร้อมกับรีบพูดรับประกันออกมา
“อืม” ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้า จากนั้นก็หลับตาลง ทำสมาธิ
ซุนสงหันหน้าไปหาหม่าเจียงหลิ่ง แล้วพูดเสียง ถมึงทึ่งว่า “ลูกของคุณหาเรื่องคนที่ไม่ควรมีเรื่องด้วย คุณคิดจะยืนอยู่ฝั่งไหน?”
ในหัวของหม่าเจียงหลิ่งมีเสียงดังสนั่นขึ้นมาอย่างไม่หยุดไม่หย่อน จากประสบการณ์ของเขาเขามองอ อกอยู่แล้ว ว่าที่จริงลู่เสี้ยงหยางต้องเป็นคนใหญ่คนโต แน่ๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่ทำให้เสี่ยใหญ่แห่งวงการใต้ดิน อย่างซุนสงเกรงกลัวถึงขนาดนี้หรอก
เมื่อคิดได้แบบนี้ แผ่นหลังของเขาก็เริ่มมีเหงื่อผุด
ขึ้นมา แล้วรีบพูดว่า “พี่สง เรื่องนี้ฉันจะจัดการเอง”
พูดจบก็หมุนตัว ไปฟาดมือลงบนหน้าของหม่าเถิง เฟยอย่างโกรธๆแล้วพูดว่า “แกมันดีแต่หาเรื่องใส่ตัว วันนี้แกพลาดแล้วที่ไปแตะต้องพี่เลี้ยงหยาง ต่อให้ ตายกี่ร้อยครั้งก็ไม่พอหรอกนะ”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ