บทที่ 296 ขอความเมตตาจากคุณด้วย
บรรดาลูกน้องของสือเหล่าซานเห็นหัวหน้าของตน คุกเข่าให้กับหนุ่มน้อยก็สงสัยว่าพวกเขากำลังฝันอยู่
แม่งเอ๊ย หัวหน้าของพวกเขาเป็นคนดุร้ายในโลก ใต้ดิน แต่ทำไมจู่ๆ ถึงกลายเป็นคนขี้ขลาดขึ้นมาได้
“ให้ตายสิ! เป็นไงบ้าง?” หลินเสี่ยวเฟิงกลัวแทบแย่ ขณะนี้ในใจของเขาพี่สามเป็นเหมือนปีศาจที่คุกเข่าให้ลู่ เสียงหยาง ความกระทบกระเทือนที่มหาศาลทำให้จิตใจ ของเขาว่างเปล่าและไม่มีความสามารถในการคิดใคร่ ครวญใดๆ ทั้งสิ้น
“พระเจ้า ทำไมถึงเป็นแบบนี้?” ซิวเจียงหัวและบรรดา ผู้ถือหุ้นมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ราวกับว่าเห็นผีในตอนกลาง วันแสกๆ สีหน้าของทุกคนตกใจมาก
ในสายตาของพวกเขา หลินเสี่ยวเฟิงซึ่งเป็นคุณชาย แห่งตระกูลหลินนั้นยอดเยี่ยมมากพอแล้ว แต่เมื่อได้ยิน ชื่อและฉายา สามก็หวาดกลัวจนต้องคุกเข่าลง แต่ตอนนี้ ลู่เสี้ยงหยางนั้นทำให้พี่สามหวาดกลัวจนเป็นแบบนี้ ราวกับลูกศิษย์ที่ทำผิดได้พบกับครูประจำชั้น
“เอ๊ะ? พี่…พี่เขย…” ชิวรั่วหานยืนตัวแข็งทื่อ เสียงดัง สนั่นราวกับฟ้าร้องดังขึ้นในห้วงความคิดของเธอ
นี่คือพี่เขยของเธอ ลูกเขยที่เกาะภรรยากินจริงหรือ? ให้ตายสิ ไม่เหมือนเลย ลูกเขยแต่งเข้าบ้านอื่นคนไหนที่ทำให้หัวหน้ากลัวได้ ถึงขนาดนี้ ถ้าลุกขึ้นยืนในตอนนี้ เธอรับประกันว่าจะไม่มี เขาให้ตาย
ลู่เสี้ยงหยางสีหน้านิ่งสงบ มองลงไปที่สือเหล่าซาน แล้วพูดอย่างเย็นชา “เรื่องนี้ก็แล้วแต่คุณ”
“ครับๆๆ หัวหน้า” สือเหล่าซานลนลานพยักหน้า ร่างกายของเขาสั่นเทิ้มอย่างสุดขีด พยายามลุกขึ้นยืน อย่างช้าๆ มองไปที่ชิวเจียงหัวและคนอื่นๆ พลางกล่าวว่า “วันนี้ ผมจะคืนเงินทั้งหมดที่พวกคุณลงทุนไปก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ผมต้องขอโทษทุกท่านด้วย”
พูดจบก็โค้งคำนับให้ทุกคน
หวงจูที่และลูกน้องอยู่ข้างหลังเขาก็โค้งคำนับตาม สีหน้าดูตกใจมาก
แต่เขาก็รู้สึกสับสนในใจมาก เจ้าหนุ่มคนนี้ที่แต่งตัว ด้วยเสื้อผ้าราคาถูกศักดิ์สิทธิ์มาจากไหนที่สามารถทำให้ พี่สามหวาดกลัวขนาดนี้ได้
ชิวเจียงหัวและคนอื่นๆ ได้สติกลับมาหลังจากตกใจ สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วมองไปที่ลู่เสี้ยงหานด้วยสีหน้า หวาดกลัว
ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งได้กล่าวประจบประแจง เลี้ยงหยาง ด้วยใบหน้าที่เบิกบาน บุรุษท่านนี้ คือคนจริงผู้ไม่เปิด เผยโฉมหน้า เป็นเจ้าพ่อตัวจริง หากรั่วหานได้แต่งหน้ากับ คุณในอนาคต ชีวิตจะไม่มีวันขาดทุนเลย”
“ใช่แล้ว ประธานชิว ขอแสดงความยินดีด้วยทำกำลัง จะได้ลูกเขยที่ถูกใจ”
“ฮ่าๆ ประธานชิว พวกเราขอแสดงความยินดีล่วงหน้า กับคุณด้วย ถ้ารั่วหานแต่งงานเมื่อไรต้องบอกพวกเรานะ พวกเราจะร่วมกันออกเงินซื้อของขวัญเป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ
เพียงครู่เดียวผู้ถือหุ้นทั้งหมดก็เข้ามาประจบสอพลอ ลู่เสี้ยงหยาง
ชิวเจียงหัวดูท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อครู่ตน ไม่ได้นึกถึงลู่เสี้ยงหยางเลย ลูกเขยที่ดีในสายตาของเธอ มีเพียงหลินเสี่ยวเฟิงเท่านั้น
ในตอนแรกสีหน้าของชิวรั่วหานนั้นมีความยินดี แต่ ต่อมาก็จางลง ลู่เสี้ยงหยางเป็นพี่เขยของเธอ ไม่ว่าเธอจะ ชอบเขามากแค่ไหนก็ทำได้เพียงแค่เก็บซ่อนความรู้สึก เอาไว้
และในตอนนี้
ภายใต้การลงมือจัดการเองของสื่อเหล่าซาน หวงจูก็ พร้อมที่จะเริ่มคืนเงินให้กับบรรดาผู้ถือหุ้นเหล่านี้
ลู่เสี้ยงหยางส่ายหน้าพลันกล่าวว่า “สือเหล่าซาน ผม หวังว่าคุณจะจัดการเรื่องนี้ให้ชัดเจน ในบรรดาคนพวกนี้ ผมรู้จักแค่สองคน และมีเพียงสองคนนี้เท่านั้นที่มีความ เกี่ยวข้องกับผม” เขาพูดพลางชำเลืองมองชีวเจียงหัวและชิวรั่วหาน
เอ๊ะ?
สือเหล่าซานสับสนและไม่เข้าใจว่าลู่เสี้ยงหยาง หมายถึงอะไรกันแน่?
ลู่เสี้ยงหยางพูดอย่างเรียบเฉย “ผมไม่ใช่คนชอบยุ่ง เรื่องคนอื่น คุณเข้าใจที่ความหมายของผมไหม?”
สือเหล่าซานเข้าใจในทันที เขาพยักหน้าพลางพูดว่า “ครับ หัวหน้า เงินนั้น…ผมจะคืนให้ประธานชิวคนเดียว เท่านั้น”
ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้า สือเหล่าซานคนนี้ยังนับว่า ฉลาดพอ ไม่โง่จนกู่ไม่กลับ
อา!
อะไรนะ?
ไม่คืนเงินให้พวกเราแล้วเหรอ?!
บรรดาผู้ถือหุ้นที่อยู่รอบๆ ต่างมึนงง ตอนแรกพวก เขาคิดว่าที่ประจบสอพลอลู่เสี้ยงหยางไปเมื่อครู่นั้นเขาจะ ไม่ติดใจเอาความนําเหน็บแนมถากถางของพวกเขาก่อน หน้านี้และช่วยผลักดันให้คืนเงินให้พวกเขา แต่ไม่คาดคิด ว่าตอนนี้ลู่เสี้ยงหยางจะเล่นสกปรก
พวกเขาถูกโกงไปอย่างน้อยๆ ก็หลายล้านจนถึง หลายสิบล้าน จะปล่อยไปเปล่าๆ แบบนี้ไม่ได้
ดังนั้นบรรดาผู้ถือหุ้นจึงมองไปที่ชิวเจียงหัวแล้วพูด อย่างน่าสงสารว่า “ประธานชิว เรื่องนี้คุณต้องพูดแทน พวกเรา พวกเราจะสูญเสียเงินก้อนนี้ไม่ได้”
ชิวเจียงหัวรู้ตัวเองดี รู้ว่าการที่ลู่เสี้ยงหยางช่วยเธอ นั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว
เธอส่ายหัวแล้วพูดเบาๆ “พวกคุณก็เห็นแล้ว เมื่อกี้ฉัน ก็ชักสีหน้าใส่เขา แล้วจะมีหน้าไปเอ่ยปากเรื่องนี้ได้ยังไง”
ตุ้บๆๆ!
ทันทีที่พูดประโยคนี้ออกมา บรรดาผู้ถือหุ้นก็ทรุดลง สีหน้าดูไม่ได้ราวกับกินขี้หมาเข้าไป
พลางจ้องมองไปที่หลิวเสี่ยวเฟิงอย่างเกรี้ยวกราด โดยไม่รู้ตัว เป็นเพราะไอ้เศษสวะคนนี้คนเดียว ทำอะไรไม่ ได้สักอย่าง ทำให้พวกเขาฝากความหวังไว้กับเขาอย่าง สูญเปล่า สุดท้ายเขาก็ทำอะไรไม่ได้แถมยังสูญเสีย โอกาสที่ดีที่สุดในการได้เงินคืนอีกด้วย
ในเวลาเดียวกัน หลินเสี่ยวเฟิงที่อยู่ข้างๆ ก็ถูกตบ ปากไปแล้วหลายสิบครั้ง แก้มของเขาบวมฉั่งราวกับ หัวหมู มีเลือดไหลออกมาจากมุมปาก
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว สิ่งที่น่ากลัวคือชาย ฉกรรจ์ข้างๆ ยังคงตบปากเขาและดึงหูของเขาต่อไป
หลินเสี่ยวเฟิงแทบอยากตาย ตนเองเป็นคุณชาย ใหญ่ของตระกูลหลิน เป็นทายาทในอนาคต ไม่เคยได้รับ ความไม่เป็นธรรมเช่นนี้มาก่อน
แต่มันไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องพวกนี้ในตอนนี้ สิ่งที่ สำคัญที่สุดคือต้องหยุดคนคนนี้ให้ได้ ไม่เช่นนั้นใบหน้า ของตนจะต้องพังพินาศแน่
เมื่อคิดถึงตรงนี้หลินเสี่ยวเฟิงก็มองไปที่สือเหล่าซาน แล้วพูดอย่างอ่อนแรง “พี่สาม ผมสำนึกผิดจริงๆ แล้ว วัน หลังจะไม่กล้าอีกแล้ว ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย คิดเสีย ว่าผมมีตาแต่หามีแววไม่
สือเหล่าซานชำเลืองมองไปที่ลู่เสี้ยงหยางโดย สัญชาตญาณ ตอนแรกเขาคิดจะบอกให้ลูกน้องหยุดขอ ให้คนของเขาหยุดลงมือ แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่ลู่เสี้ยงหยาง พูดว่ารู้จักแค่ชิวเจียงหัวและชิวรั่วหานเท่านั้นก็ล้มเลิก ความคิดนั้นทันที
ลู่เสี้ยงหยางมองไปที่สือเหล่าซานแล้วด้วยรอยยิ้ม จางๆ “เรื่องนี้แล้วแต่คุณ คุณรู้ว่าต้องทำยังไง”
สือเหล่าซานเข้าใจในทันที ดูเหมือนว่าเจ้าโง่หลิน เสี่ยวเฟิงจะไม่ถูกกับหัวหน้าของพวกเขา
เพื่อเป็นการแสดงออกต่อหน้าลู่เสี้ยงหยางให้ได้รับ ความพึงพอใจจากเขา สือเหล่าซานโบกมือพลางพูดว่า พอเห็นเจ้าโง่นี่ผมก็โมโห ให้ผมอัดมันจนกว่าผมจะมี ความสุขค่อยหยุด
พระเจ้า?!
หลินเสี่ยวเฟิงตกใจจนแทบกระอักเลือด ใครจะไปรู้ ว่าเมื่อไรสือเหล่าซานจะมีความสุข
พูดอีกอย่างก็คือตนเองจะถูกตีไปอีกนานแค่ไหนก็ยัง ไม่รู้
ตุ้บ! ตุ้ม!
พ่ายแพ้อย่างหมดรูป เขาคุกเข่าลงก้มหัวให้ลู่เสี้ยง หยาง “คุณลู่ครับ เมื่อครู่ผมอวดเก่ง กล้าล่วงเกินคุณ ผม ต้องขอโทษคุณตรงนี้ คุณเป็นคนใจกว้าง ได้โปรดอย่า ลดตัวเองมาเกลือกกลั้วกับนักเลงหัวไม้อย่างผมเลย ขอ ความเมตตาจากคุณด้วย
ซี้ด!
เปลือกตาของหลายคนกระตุกอย่างแรง คุณชาย ใหญ่ของตระกูลหลินไม่มีความหยิ่งในศักดิ์ศรีเอาเสียเลย แค่เริ่มต้นก็คุกเข่าร้องขอความเมตตาเสียแล้ว
แต่มันก็น่าให้อภัย ช่วยไม่ได้เขาโชคร้ายที่ทำให้เจ้า พ่ออย่างลู่เสี้ยงหยางขุ่นเคือง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ