บทที่ 293 ความเดือนร้อนของซิวรั่วหาน
หลังจากลู่เสี้ยงหยางและคนอื่นๆ ออกจากร้าน อาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่ง บางคนก็กลับโรงเรียน บางคนก็ ทํากิจกรรมอิสระ
วิชาภาคค่ำของสถาบันหลงเงินไม่ใช่วิชาบังคับ แต่ เป็นการทบทวนบทเรียนด้วยตนเอง
ถ้าคิดว่าไม่ต่างจากการเรียนด้วยตัวเองก็ไม่จำเป็น ต้องเข้าเรียน แต่ถ้าคิดว่ายังต้องค้นหาและอุดช่องโหว่ก็ สามารถไปที่ห้องเรียนเพื่อศึกษาด้วยตัวเองได้
ลู่เสี้ยงหยางว่างไม่มีอะไรทำ ดังนั้นจึงเตรียมตัวไป โรงเรียนเพื่อศึกษาค้นคว้าบทเรียนทั้งหมดในวันนี้
แต่ทว่าพอเดินมาได้ถึงครึ่งทางเขาก็ได้รับโทรศัพท์
จากชิวรั่วหาน เสียงของชิวรั่วหานมีความร้อนใจ “พี่เขย รีบมาเร็ว แม่ของฉันกำลังเดือดร้อน”
“มีอะไรเหรอ? ” ลู่เสี้ยงหยางถาม
“พูดทางโทรศัพท์ลำบาก พี่รีบมาเถอะ เดี๋ยวฉันจะส่ง ที่อยู่ให้พี่เดี๋ยวนี้” ชิวรั่วหานกล่าว
พูดจบชิวรั่วหานก็วางสาย จากนั้นไม่นานลู่เสี้ยง หยางก็ได้รับที่อยู่ทางโทรศัพท์มือถือ ซินหยวนกรุ๊ป ลู่เสี้ยงหยางขมวดคิ้ว เมื่อได้ยินน้ำเสียงของชีวรั่ว หานเมื่อครู่ น่าจะไม่ใช่การล้อเล่น ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้น กับชิวเจียง วอย่างแน่นอน
เขาพูดกับจูหยู่เงินโดยไม่ลังเลใดๆ ในตอนนี้ “ครู ครับ ผมมีธุระต้องรีบกลับก่อน ชั้นเรียนศึกษาค้นคว้าคืนนี้ ผมไม่เข้าแล้วนะครับ
สีหน้าของจูหยู่เจินเปลี่ยนเป็นไม่พอใจทันที เธอมอง ลู่เสี้ยงหยางพลางกล่าวว่า “คนเรียนดีไม่จำเป็นต้องเข้า ชั้นเรียนศึกษาค้นคว้า แต่คุณเรียนแย่ขนาดนี้ แต่ทำไมยัง ไม่รู้จักขยันให้มากกว่าคนอื่น คุณเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้าน คนอื่น ได้รับการดูถูกจากทุกคน คุณควรพยายามเรียนให้ หนักขึ้น ใช้ความรู้เปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเอง”
เมื่อได้ยินคำสั่งสอนของจูหยู่เจิน ลู่เสี้ยงหยางก็พูด ไม่ออกไปชั่วขณะ ผลการเรียนเขาก็ไม่ได้แย่ ทำไมครูถึง คิดว่าเขาเป็นคนโง่
เขาไม่มีอารมณ์ที่จะโต้เถียงกับครู ลู่เสี้ยงหยางพยัก หน้าแล้วพูดว่า “ก็ได้ ก็ได้ ครูครับ พรุ่งนี้ผมจะกลับมา ตั้งใจเรียนให้มาก
พูดจบล่เลี้ยงหยาง วิ่งนําหน้าไปก่อนที่จูหยูเงินจะ ตอบตกลง
“เฮ้อ” จูหยู่เฉินถอนหายใจพลางส่ายหน้า ผิดหวังใน ตัวลู่เสี้ยงหยางอย่างสิ้นเชิง สงสัยการเป็นลูกเขยแต่งเข้า บ้านคนอื่นจะไม่มีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ใดๆ ภายใน จิตใจเลย เคยชินกับการเกาะผู้หญิงกินแล้ว คนแบบนี้มี คนดูถูกก็เพราะเป็นเวรกรรมที่ก่อขึ้นเอง ไม่น่าเห็นใจ
ฉินหยุนเฟยกำลังไม่สบอารมณ์อยู่พอดี ในเวลานี้เขา หัวเราะพลางกล่าวว่า “ครูครับ ลู่เสี้ยงหยางคงไม่ได้รับ โทรศัพท์จากภรรยาเรียกให้เขากลับไปซักผ้าทำกับข้าว หรอกนะ”
“ฮ่าๆๆ…” สิ้นสุดประโยคนี้ก็ตามมาด้วยเสียงหัวเราะ รอบๆ อย่างครื้นเครง ลูกเขยอย่างเลี้ยงหยางช่างไม่เอา ไหน แค่โทรศัพท์จากภรรยาก็หวาดกลัวขนาดนี้
หลังจากที่ลู่เสี้ยงหยางแยกกับจูหยู่เจินและคนอื่นๆ แล้วก็รีบตรงไปที่ซินหยวนกรุ๊ปเป็นอันดับแรก
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ลู่เสี้ยงหยางก็มาถึงลานกว้างใต้ อาคารของบริษัทซินหยวนกรุ๊ป เมื่อมองจากระยะไกลก็ เห็นผู้คนยืนอยู่บนลานกว้างสิบกว่าคน
พวกเขาทั้งหมดต้องการเข้าประตูของบริษัทซิน หยวนกรุ๊ป แต่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยปิดกั้น ประตูใหญ่ไว้ และยังมีหลายคนเกิดการโต้เถียงกับเจ้า หน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านี้
ลู่เสี้ยงหยางมองจากระยะไกลก็เห็นแล้วว่าชิวเจียง หัวและชิวรั่วหานอยู่ท่ามกลางผู้คนเหล่านั้น เขารีบเดิน เข้าไปหาในทันที
พอเดินเข้าไปถึงตัวคนเหล่านี้ ชิวรั่วหานก็เห็นลู่เสี้ยง หยางเดินเข้ามา เธอแทรกตัวออกจากฝูงชนทันทีก่อนจะ ตะโกนว่า “พี่เขยมาแล้ว
“เกิดอะไรขึ้น?” ลู่เสี้ยงหยางขมวดคิ้วถาม
ชิวรั่วหานนวดขมับพลางกล่าวว่า “พี่เขย คนพวกนี้ เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทแม่ของฉัน ประธานซินหยวนกรุ๊ป เคยเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทแม่ของฉัน เมื่อไม่นานมานี้เขา เกลี้ยกล่อมแม่ของฉันและผู้ถือหุ้นเหล่านี้ให้ร่วมลงทุนใน กลุ่มอุตสาหกรรมต่างประเทศ คิดไม่ถึงว่ากลุ่ม อุตสาหกรรมต่างประเทศกลุ่มนี้จะเป็นบริษัทที่ไม่มีตัวตน ทั้งหมด เงินของพวกเขาถูกหลอกเอาไป ตอนนี้พวกเขา มาที่ซินหยวนกรุ๊ปและกำลังจะเรียกร้องความเป็นธรรม จากประธานซินหยวนกรุ๊ป แต่ไม่คาดคิดว่าเขาจะหายตัว ไปและเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมากั้นแม่ของ ฉันและคนอื่นๆ ให้อยู่ข้างนอก
ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้าเบาๆ เข้าใจที่มาที่ไปของ เหตุการณ์คร่าวๆ แล้ว แต่จากการคาดคะเนของเขา ประธานซินหยวนกรุ๊ปต้องจงใจหลอกลวงชิวเจียงหัวและ บรรดาผู้ถือหุ้นของบริษัทเหล่านี้ การฉ้อโกงทาง เศรษฐกิจเช่นนี้มักพบเห็นได้ในบริษัททั่วไป หากไม่ทัน ระมัดระวังก็จะตกอยู่ในอันตราย
เมื่อเห็นลู่เสี้ยงหยางไม่พูดอะไร ชิวรั่วหานจึงถาม ด้วยความร้อนใจ “พี่เขย พี่คิดว่าพวกเราควรทำยังไงดี ช่วยคิดหาทางออกเร็วเข้า”
ก่อนที่ลู่เสี้ยงหยางจะพูดอะไร บรรดาผู้ถือหุ้นของ บริษัทเหล่านั้นสังเกตเห็นลู่เสี้ยงหยางจึงเข้ามารายล้อม และถามว่า “ประธานชิว นี่คงไม่ใช่คู่รักของลูกสาวของ คุณใช่ไหม น่าขายหน้าจริง เขามาที่นี่สามารถช่วยเรา แก้ไขปัญหาได้ไหม?”
ชิวเจียงหัวดูท่าทางลำบากใจเล็กน้อย ไม่คิดว่า ลูกสาวของตนจะเรียกลู่เสี้ยงหยางมาที่นี่ ยุ่งยากโดยใช้ เหตุจริงๆ ลู่เสี้ยงหยางมาที่นี่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย มีแต่จะกลายเป็นเรื่องตลกของคนอื่นเท่านั้น
เมื่อคิดได้เช่นนี้เธอก็ถลึงตาใส่ชิวรั่วหาน
ชิวรั่วหานรู้สึกตัวทันที เธอหงุดหงิดใจ ไม่เข้าใจตัว เองว่าทำไมถึงเรียกลู่เสี้ยงหยางมาที่นี่
เธอไม่มีทางเลือกอื่นในตอนนี้ คนแรกที่เธอนึกถึงคือ ลู่เสี้ยงหยาง เธอจึงโทรหาเขาด้วยเหตุผลที่ อธิบายไม่ได้ ตอนนี้มาคิดๆ ดูตนเองนั้นหุนหันพลันแล่นเกินไป พี่เขย ของเธอคนนี้เป็นเพียงลูกเขยที่แต่งเข้ามา จะกินจะนอนก็ ต้องอาศัยญาติผู้พี่ของเธอ มาที่นี่ก็ไม่สามารถช่วยอะไร ได้จริงๆ
ผู้ถือหุ้นอีกคนหนึ่งกวาดสายตามองพิจารณาลู่เสี้ยง หยางจากหัวจรดเท้าแล้วพูดด้วยความเย้ยหยัน “รั่วหาน ผู้ชายคนนี้ไม่คู่ควรกับคุณเลย ทำไมคุณถึงมาเอาเจ้า หนุ่มยาจกคนนี้ ดูเขาแต่งเนื้อแต่งตัวสิ ทั้งตัวรวมกันเพิ่ง จะได้เพียงเศษเสี้ยวของนาฬิกาที่ผมใส
คําพูด หยิ่งยโสเหมือนไม่เห็นล่เลี้ยงหยางอยู่ใน
สายตา ขณะนั้นเองก็ผู้ถือหุ้นอีกคนขมวดคิ้วพร้อมกับพูดว่า ประธานชิว มันเป็นความผิดของคุณเอง เมื่อก่อนคุณยัง เคยคุยโม้กับพวกเราว่าลูกเขยในอนาคตของคุณเก่งกาจ แค่ไหน เป็นคุณชายของตระกูลใหญ่ แต่ตอนนี้ดูเหมือน ว่าจะพื้นๆ ทั่วไป สู้ลูกเขยยาจกที่มีรายได้นับล้านต่อปี ของผมยังไม่ได้เลย”
“ใช่แล้วๆ เจ้าหมอนี่ดูท่าทางไร้ประโยชน์ ผมคิดว่า เพื่อความสุขของรั่วหาน ควรหย่ากับเขาโดยเร็วที่สุด” ทันใดนั้นเสียงเหน็บแนมถากถางทั้งหลายก็พุ่งเข้ามา
หาลู่เสี่ยงหยาง
ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกเจ็บปวด แม่งเอ๊ย! พวกโง่ทั้งหลาย โจมตีตนอย่างไร้เหตุผล แม้ว่าตนจะไม่ได้ไปหาเรื่องพวก เขาก็ตาม
เมื่อสังเกตเห็นความไม่พอใจบนใบหน้าของลู่เสี้ยง หยาง ชิวรั่วหานก็ปลอบใจเขา “พี่เขย อย่าเอาตัวเองไป เกลือกกลั้วกับพวกเขาเลย อย่าเก็บคำพูดของพวกเขามา ใส่ใจ… ”
แต่ก่อนจะพูดจบก็ถูกซิวเจียงหัวขัดจังหวะ “รั่วหาน เรื่องนี้เอาไว้ค่อยคุยกันทีหลัง ภาระอันเร่งด่วนคือโทรหา คุณชายตระกูลหลินแล้วเรียกหลินเสี่ยวเฟิงมา ให้เขาคิด หาวิธีแก้ปัญหาในเรื่องนี้”
หลินเสี่ยวเฟิงเป็นทายาทผู้สืบทอดตระกูลหลิน ใน สายตาของซิวเจียงหัวเขามีความน่าเชื่อถือมากกว่าลู่เสี้ ยงหยางมาก อย่างไรเสียแล้วตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสี่ตระกูล ใหญ่ของเมืองปืนเหอซึ่งมีความแข็งแกร่งมาก
แต่ทว่าสิ่งที่ชิวเจียงหัวไม่รู้ก็คือตอนนี้ในบรรดาส ตระกูลใหญ่ นอกจากตระกูลหลิ่วแล้ว พวกเขาล้วนอยู่ใน สถานการณ์ที่ยากลำบาก
เนื่องจากโรงงานผลิตของหยูเม่ยหยินกรุ๊ปไม่ได้ถูก รื้อถอน หยูเม่ยหยินกรุ๊ปจึงได้ทำลายชิงเหอกรุ๊ปลงอย่าง สิ้นเชิงและเข้าควบคุมตลาดเสริมความงามของเมืองปืน เหออีกครั้งหนึ่ง
หลังจากนั้นก็เริ่มปราบปรามศัตรูในอดีตอย่างไม่ ปรานี รวมถึงตระกูลหลิน ตระกูลจาง ตระกูลเหอ ซึ่งเป็น เป้าหมายหลักในการโจมตีของหยูเม่ยหยินกรุ๊ป
สำหรับหานปิงหานนั้น เธอได้กลับไปที่ตระกูลหานใน ไห่ตงด้วยความหดหู่ใจก่อนหน้านี้แล้ว
“อ้อ” เมื่อได้ยินคำพูดของมารดา แม้ว่าในใจชิวรั่ว หานจะไม่มีความสุข แต่ก็ไม่กล้าที่จะขัดคำสั่งของมารดา เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรออกไปยังหมายเลขของ หลินเสี่ยวเฟิง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ