บทที่ 279 ชนคนแล้ว
เมื่อได้ฟังคำพูดของจางกุ้ยจู่ ลู่เสี้ยงหยางก็ไม่ได้แยแส เพราะคนแบบจางกุ้ยจู่ เป็นแค่ฝุ่นในสายตาเขา ที่ไม่จำเป็น ต้องใส่ใจ แน่นอนคำพูดของเธอไม่สามารถส่งผลต่ออารมณ์ ของเขาได้
แต่หากมันส่งผลต่ออารมณ์ของเขาล่ะก็ อย่างมากก็แค่ ตบเขาให้ตายไปเสีย
เย่สวนรู้สึกไม่พอใจในทันที เพราะว่าลู่เลี้ยงหยางเป็น สามีของเธอ ไม่ใช่คนไร้ค่า คนอื่นไม่มีสิทธิ์ที่จะมาพูดเช่นนี้ ว่า ไปแล้ว ครอบครัวของลุงใหญ่มาบ้านนี้ ก็มาอยู่ฟรีกินฟรี มี สิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้?
เปสวน ฮีม เสียงผ่านลำคอ แล้วพูดกับจางกุ้ยจู่ว่า “ป้า สะใภ้ คุณพูดจามากเกินไปแล้วนะคะ ขอโทษลู่เสี้ยงหยาง เดี๋ยวนี้”
“อะไรน่ะ? ให้ฉันขอโทษเขาเหรอ” จางกุ้ยจู่เบิกตากว้าง
หลิวต้าจู้พูดต่อ “เย่สวน เธอทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ไปได้ มันแค่คนไร้ค่า ว่ามันไปไม่กี่คำจะเป็นไรไป
หลิวห้าวหัวเราะเยาะ มองเย่สวน แล้วพูดว่า “เย่สวน ใน ฐานะพี่ชายไม่ใช่ฉันว่าเธอน่ะ เธอเป็นคนที่มีคุณสมบัติดี ตาม หลักแล้ว สามารถแต่งงานกับคนหนุ่มที่มีฐานะได้ แต่สุดท้าย ทําไมถึงเลือกคนที่ไร้ค่าคนนี้ ฉันมีเพื่อนที่เป็นลูกคนรวยอยู่ไม่ น้อย ฉันแนะนำให้เธอใหม่ดีไหม?”
เย่สวนโกรธจนจมูกเบี้ยว ครอบครัวนี้ช่างพิลึกเสียจริง กำลังจะพูดตอกกลับ แต่ลู่เสี้ยงหยางดึงมือเธอไว้สักก่อน มองเธอพร้อมกับส่ายหัวแล้วพูดว่า “ช่างมันเถอะ”
ลู่เลี้ยงหยางรู้ดีว่า ครอบครัวหลิวต้าหู้เป็นประเภทหน้า ด้านไร้ยางอาย หากเปสวนเถียงกับพวกเขา จะยังไงก็ต้องแพ้ พวกเขาอยู่ดี หากเป็นเช่นนั้นมันก็จะทำให้เปสวนอารมณ์เสีย เปล่าๆ
จากที่ลู่เสี้ยงหยางแสดงออก ทำให้ครอบครัวของหลิวต้า จู้ คิดว่าลู่เสี้ยงหยางกลัวพวกเขา เลยไม่กล้าหือสักคำ
ในใจของเย่สวนรู้สึกอบอุ่นมาก เพราะเธอรู้ดีว่าลู่เลี้ยง หยางนั้นทําเพื่อเธอ
เวลานั้น เสียงฝีเท้าดังมาจากนอกประตู หลิวจิ้งก็กลับมา
แล้ว
ตั้งแต่หลิวจิ้งเปิดบริษัท และเมื่อบริษัทเจ๊งต้องปิดกิจการ ลง ส่งผลกระทบต่อจิตใจของเธอเป็นอย่างมาก ตอนนี้ เธอไร่ กำลังที่จะต่อสู้ วันๆ เอาแต่นัดเพื่อนออกไปเล่นไพ่นกกระจอก
หลายวันที่ลู่เสี้ยงหยางไม่อยู่ เธอเสียพนันไปแล้วร่วมสิบ ล้าน
แน่นอน เงินจำนวนนี้เย่สวนได้มาจากตระกูลเย่กรุ๊ป โดย ใช้หุ้น51 เปอร์เซ็นต์แลกมา
หลิวจิ้งกลับมาถึงบ้าน ทักทายครอบครัวของหลิวต้าหู้ ตามมารยาทเพียงไม่กี่คำ ก็เดินไปที่ห้องนอน
เย่สวนรู้สึกขยะแขยงหน้าครอบครัวของหลิวต้าหู้เต็มทน ดึงตัวลู่เสี้ยงหยางแล้วเดินไปที่ห้องนอนของตนเอง
บรรยากาศเงียบสงบทั้งคืน
เช้าตรู่ของวันที่สอง ลู่เสี้ยงหยางก็ยังเหมือนปกติ หลัง จากตื่นนอนแล้ว ก็จะทำอาหารเช้าให้เปสวนกับหลิวจิ้งรับ
ประทาน
ตอนที่รับประทานอาหารเช้า หลิวต้าหู้พูดอย่างหน้าด้าน ว่า “น้องสาว แต่ละปีมันก็ไม่ง่ายเลยที่พวกเราจะมาเยี่ยมน้อง วันนี้ครอบครัวเราอยากออกไปขับรถเล่น รถยนต์ของเธอให้ พวกเรายืมใช้ได้หรือไม่?”
หลังจากที่หลิวจิ้งเปิดบริษัท ก็ได้ซื้อรถยนต์หนึ่งคัน ยี่ห้อ ลิงคอล์น(ยี่ห้อรถLincoln/ลิงคอล์น)
ตอนที่ครอบครัวหลิวต้าจี้มาถึงตระกูลเป ได้รู้ว่าบ้านเธอ มีรถยนต์3คัน มีรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม8 สองคัน และ รถยนต์ลิงคอล์นอีกคัน ทำให้พวกเขาอิจฉาริษยาเป็นอย่าง มาก
และเมื่อได้ยินว่าลู่เสี้ยงหยางก็ขับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม8 ทําให้ครอบครัวพวกเขารู้สึกไม่สบอารมณ์ แม่ง เป็นแค่ คนไร้ค่า มีสิทธิ์อะไรขับรถหรูเช่นนี้?
จางกุ้ยมีแผนชั่วในใจ โดยจะพูดปั่นหัวหลิวจิ้ง ให้ยก รถยนต์ของลู่เสี้ยงหยางมาให้ลูกชายของเขาหลิวห้าว หลิวจิ้งขมวดคิ้ว รถยนต์นี่ใช่ว่าจะให้ใครยืมกันง่ายๆ
เย่สวนก็พูดต่อว่า “ลุงใหญ่ ถ้าอยากออกไปขับรถเล่น ฉันจะเช่ารถให้ลุงหนึ่งคัน ส่วนรถของแม่ แม่ก็ต้องใช้รถ เหมือนกัน”
พูดจบ หลิวต้าหู้ก็ตบโต๊ะและพูดขึ้นว่า “เย่สวน เธอทํา เกินไปแล้วน่ะ พวกเราผู้ใหญ่คุยกัน เธอเป็นเด็กไม่มีสิทธิ์พูด แทรก?”
จากนั้น ก็หันมาพูดกับหลิวจิ้งว่า “น้องสาว ในฐานะพี่ชาย ไม่ใช่ฉันว่าเธอน่ะ ตอนเด็กที่บ้านเรายากจน ฉันในฐานะพี่ชาย ได้ทำงานหาเงิน ส่งเธอเรียนหนังสือจนจบ
เป็นคำพูดที่ไม่มีมูลความจริงเลย ถึงครอบครัวของหลิว จึงยากจนก็จริง แต่ตอนที่หลิวจิ้งเรียนหนังสืออยู่ เธอได้ ทำงานนอกเวลาเรียน และได้ส่งเงินบางส่วนกลับไปให้ ครอบครัวด้วย
เงินที่เธอส่งกลับไปนั้นเข้ากระเป๋าของหลิวต้าหู้ทั้งหมด
เลย
เปสวนโกรธมาก อยากจะตอบโต้หลิวต้า แต่หลิวจิ้งก็ พูดรับปากไปว่า “ตกลง พี่อยากใช้รถก็เอาไปขับเถอะ”
เพราะอย่างไรก็ตามหลิวต้าหู้เป็นพี่ชายแท้ๆของตนเอง หลิวจิ้งจึงไม่อยากปฏิเสธอย่างแล้งน้ำใจ
อีกอย่าง ก่อนที่พ่อแม่จะเสียชีวิต เขาได้รับปากพ่อแม่ว่า ต่อไปจะช่วยครอบครัวของหลิวต้าหู้ตามกำลัง
จางกุ้ย พูดอย่างไร้ยางอายว่า “หลิวจิ้ง ลูกชายของฉัน หลิวห้าวมีความเชี่ยวชาญเรื่องรถ วันนี้ตอนที่ไปขับรถเล่นจะ ให้เขาช่วยเช็ดดูว่า รถยนต์ของเธอมีสมรรถนะดีเพียงใด
แม่ง
ลู่เสี้ยงหยางเกือบมึนไปเลย
มียางอายสักหน่อยไหม คนอย่างหลิวห้าวนั้นเหรอ จะมี ความรู้เรื่องรถยนต์ได้อย่างไรกัน
หลิวจึงไม่ค่อยวางใจครอบครัวของหลิวต้าจู๋ ก็เลยหันไป มองที่ลู่เสี้ยงหยาง แล้วพูดว่า “พี่ชายฉันไม่ชำนาญเส้นทาง สักครู่คุณก็ไปด้วยกันน่ะ” เปสวนพูดแทรกขึ้นมาว่า “รถของแม่ฉัน คุณรับผิดชอบ
ขับเองน่ะ”
ลู่เลี้ยงหยางพยักหน้ารับคำ
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ ครอบครัวของหลิว
ต้าหู้อดใจรอแทบไม่ไหว อยากออกไปขับรถเล่นเต็มแก่ จึงได้ เร่งล่เลี้ยงหยางให้ออกไปเร็วๆ เมื่อขึ้นไปนั่งอยู่บนรถแล้ว ลู่เสี้ยงหยางสตาร์ทรถแล้วขับ
ออกไป
เพิ่งขับพ้นจากบริเวณบ้านของเยส่วน จางกุ้ยจู่ก็พูดกับลู่ เสียงหยางว่า “จอดรถ”
ลู่เสี้ยงหยางจอดรถไว้ข้างทาง หันหน้ามาถามว่า “มีอะไร จางกุ้ยจู่ยิ้มเยือกเย็นแล้วพูดว่า “นายลงจากรถเลย ให้
เหรอ?”
ลูกชายฉันเป็นคนขับ เฮ้อ..เป็นแค่คนไร้ค่า ขับรถหรูเช่นนี้
ทำให้เสียของเปล่าๆ
ไม่รอคําตอบของลูเลี้ยงหยาง หลิวต้าหู้ขมวดคิ้วและพูด ว่า “ แบบนี้ไม่ดีมั้ง ลูกชายของเรายังไม่มีใบขับขี่ ถ้าเขาขับ รถโดยไม่มีใบขับขี่ ถ้าถูกจับต้องติดคุกเลยน่ะ”
จางกุ้ยจู่โบกมือและพูดขึ้นว่า “คุณจะกลัวไปทำไม มันไม่ บังเอิญขนาดนั้นหรอก”
หลิวห้าวแสร้งทำ แล้วพูดว่า “พ่อ วางใจได้ ผมไม่ใช่ไม่ เคยขับรถ รถที่หรูกว่านี้ผมยังเคยขับมาแล้ว”
หลังจากฟังคำพูดนี้ หลิวต้าหู้ก็ไม่ได้ห้ามปรามอีกต่อไป ลู่เสี้ยงหยางยักไหล่แล้วลงจากรถ ยกฝั่งที่นั่งคนขับให้ หลิวห้าว อยากดูเจ้าตัวตลกนี่ วันนี้มันจะมีลูกเล่นอะไร
จากนั้น เปลี่ยนให้หลิวห้าวเป็นคนขับรถแทน
หลิวห้าวขับรถฝ่าฝืนกฎจราจรตลอดเส้นทาง ไม่เปิด สัญญาณไฟขณะเปลี่ยนเส้นทาง เส้นทึบยังเปลี่ยนเลน แซง รถในเสนห้ามแซง และยังไปขับรถในเลนห้ามขับ
นางโง่จางกุ้ยจู๋ก็ตบมือแล้วพูดว่า “ว้าว ลูกขับรถได้ดีมาก ขับดีกว่าไอ้คนไร่ค่าลู่เสี้ยงหยางสักอีก”
หลิวห้าวได้รับคําเยินยอ ก็พูดว่า “แม่ ดูสิว่าลูกชายของ แม่เป็นใคร ขับรถมันเป็นแค่เรื่องขี้ปะติ๋ว”
จางกุ้ยจู่หัวเราะจนหุบปากไม่ลง หยิบมือถือออกมาเริ่ม
ถ่ายรูป เตรียมไว้โพสต์อวดในกลุ่มเพื่อนๆ
แชะ!
ในเวลานั้นเอง หลิวห้าวก็ได้เหยียบเบรกจนสุดอย่าง กะทันหัน จนรถลิงคอล์นมีรอยเบรกลากยาวสองเส้น รถจึงจะ
หยุดลง
ตูม!
ตามด้วยเสียงของหนักตกลงมาที่พื้น
“ไอ้หยา แย่แล้ว ในคนแล้ว” มีตาแก่คนหนึ่งใช้มือชี้ไปที่ รถลิงคอล์น แล้วตะโกนขึ้นมา
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ