หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

บทที่ 217 ไอ้คนกระจอกที่หวังกินข้าวฟรี



บทที่ 217 ไอ้คนกระจอกที่หวังกินข้าวฟรี

ไอ้คนกระจอกที่หวังกินข้าวฟรี

เมื่อได้ยินคำพูดของหวังเสว่ สายตาของลู่เสี้ยงหยางก็เกิด

เลศนัยขึ้นมาทันที บ้าเอ้ย นางตัวแสบคนนี้คิดจะเล่นกลกับ เรานั้นหรือ ฮ่าๆ ไม่มีทางหรอก

“ฮ่าๆ ศิษย์น้อง น้องสาวที่แสนดีของพี่ รีบบอกพี่มานะว่า ตอนนี้พี่อยู่ในระดับไหนแล้ว” ลู่เสี้ยงหยางพูดด้วยอารมณ์

ขัน

หวังเสว่ถึงกับไปต่อไม่เป็น และใบหน้าของเธอ ค่อยๆ แดงขึ้นมาอีกครั้ง

พี่น้องที่แสนดีบ้าบออะไรกัน นายนั่นแหละที่ต้องเป็นน้องที่

แสนดี

“แล้วพบกันใหม่ เปลี่ยนใจเมื่อไหร่ค่อยติดต่อมาก็แล้วกัน นะไอ้น้องชายที่แสนดี” หวังเสว่กวักมือไล่เขา

ลู่เสี้ยงหยางก็หมดธุระจึงหันเดินจากไป

เมื่อเห็นลู่เสี้ยงหยางจากไปอย่างไร้เยื่อใยเธอก็ยิ่งรู้สึก

หมั่นไส้ หลังจากลู่เสี้ยงหยางออกไป เขาก็ตรงเข้าไปที่กองถ่าย แล้วเริ่มทำการถ่ายทำต่อ

ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมาเขาได้รับได้สายจากซุนเซียงเซี

ในสายนั้น เสียงพูดของซุนเชียงเชียงฟังดูกังวลมาก

“ท่านประธานคะ ที่หยูเม่ยหยินกรุ๊ปของเราเกิดปัญหาขึ้น

อีกแล้วค่ะ”

ลู่เสี้ยงหยางขมวดคิ้วถาม “เกิดอะไรขึ้น?”

ซุนเชียงเชียงพูดต่อ “ตอนนี้ข่าวของโรงงานเราที่จะถูกสั่ง ให้รื้อถอนได้แพร่กระจายออกไปจนทำให้พันธมิตรและนัก ลงทุนที่นับไม่ถ้วนเริ่มมีปัญหา พวกเขาต่างก็จะยกเลิก สัญญากับเรา ดังนั้นจึงทำให้หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของเรา ได้รับผลกระทบไปด้วย ซึ่งตอนนี้คาดว่าบริษัทของเราเสีย หายไปนับพันล้านแล้วนะคะ”

สู่เสี้ยงหยางพูดอย่างใจเย็น “ยังไม่ต้องห่วงเรื่องหุ้น คุณ ทำการตลาดไปก่อน ต้องเอาตลาดทั้งหมดที่ซิงเหอกรุ๊ปแย่ง ไปกลับคืนมาให้ได้”

“รับทราบค่ะท่านประธาน ดิฉันเข้าใจแล้วค่ะ” ซุนเชียงเชี ยงพูดเสร็จก็วางสายทันที

สู่เสี้ยงหยางกลับไปแสดงบทบาทของเขาต่อ

ยุง จนถึงฟ้ามืด ทีมงานถ่ายทำบทของวันนี้ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ทุกคนกำลังเก็บข้าวของเพื่อเตรียมเลิกงาน แต่สู่เสี้ยงหยาง กลับได้รับสายที่ไม่คาดคิด เป็นสายเรียกเข้าจากหลิ่วหรูยู่

ในสายนั้น เสียงของหลิ่วหรูยู่ค่อนข้างเบา “คีนนี้คุณมี เวลาไหม? ฉันอยากชวนคุณไปดื่ม”

ลู่เสี้ยงหยางคิดว่าจะปฏิเสธหลิ่วหรูยู่ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะ ได้ยินเสียงร้องไห้ของเธอ ดังนั้นเขาจึงปฏิเสธไม่ลงและทำได้ เพียงพยักหน้าตอบ “คุณบอกสถานที่กับเวลามาสิ”

“บลูไอส์แลนด์ KTV คุณมาตอนนี้เลยนะ” หลิ่วหรูยู่พูดจบ

ก็วางสายลง

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ลู่เสี้ยงหยางก็ได้พบกับหลิ่วหรูยู่ที่หน้า ลานจอดรถของบลูไอส์แลนด์ KTV

หลังลงจากรถเขาก็เดินเข้าไปหาหลิ่วหรูยู่ เขาเห็นเพียง ใบหน้าที่งดงามของเธอซีดเซียวเล็กน้อย และดวงตาที่ยังคง ชุ่มชื้นไปด้วยน้ำตา

ลู่เสี้ยงหยางถามเธอด้วยความสงสัย “เกิดอะไรขึ้น? คุณ โอเคไหม?”

หลิวหรูยู่ได้แต่สายหัวตอบ “เราเข้าไปก่อนดีกว่า”

“อิ่ม” ลู่เลี้ยงหยางพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปใน ร้านKTVพร้อมกับหลิ่วหรูยู่ แต่เขาเดินได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่ง ตะโกนขึ้นว่า “ลู่เสี้ยงหยาง”

เมื่อลู่เลี้ยงหยางหันไปมองก็เห็นจ้าวหรูเย็นจับมือ โจวอาน เดินเข้ามาด้วยความหวานแหวว

ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกประหลาดใจกับภาพที่เห็นเล็กน้อย จ้าว หรูเย็นตอบตกลงกับโจวอานแล้วคบกันแล้วหรือ?

ลู่เสี้ยงหยางยังคงสับสน จ้าวหรูเย็นเกลียดโจวอานมา ตลอดเลยไม่ใช่หรือ? แล้วมันเกิดอะไรขึ้น

แต่หารู้ไม่ หนึ่งคือจ้าวหรูเย็นถูกจ้าวต้าไห่พ่อของเธอ กดดัน สองคือเธอหลงใหลในกลอุบายของโจวอาน

หลายวันก่อนหน้านี้ จ้าวหรูเย็นเดินช็อปปิ้งอยู่คนเดียวใน ช่วงกลางคืน โจวอานจ้างอันธพาลหลายคนเพื่อจัดฉาก ก่อกวนจ้าวหรูเย็น และในช่วงเวลาสำคัญโจวอานก็กระโดด ออกไปช่วยจ้าวหรูเย็นไว้

เพื่อจะให้สมจริง โจวอานจงใจปล่อยให้ตัวเองถูกพวก อันธพาลรุมทำร้ายจนเลือดท่วมตัว ในระหว่างนั้นเขาก็ พยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาชนะพวกอันธพาลแล้วไล่พวกมัน ไปได้หมด

นับจากวันนั้นเป็นต้นมา ความรู้สึกที่จ้าวหรูเย็นมีต่อโจ วอานก็เปลี่ยนไป ถึงแม้ในใจจะมีลู่เสี้ยงหยางอยู่ตลอด แต่ลู่เสี้ยงหยางมีผู้ หญิงคนอื่นแล้ว เธอบอกตัวเองอยู่เสมอว่าเธอกับลู่เสี้ยง หยางนั้นเป็นไปไม่ได้

ตามด้วยความหวานชื่นที่โจวอานมอบให้เธอ ทำให้เธอ หลงอย่างปฏิเสธไม่ได้

ด้วยเหตุนี้ ทั้งสองถึงได้สร้างความสัมพันธ์ให้เป็นคู่รัก

อย่างเป็นทางการ

แต่อย่างไรก็ตาม จ้าวหรูเย็นเป็นคนรักนวลสงวนตัว และ ไม่ว่าโจวอานจะล่อลวงยังไง เธอก็ยังรักษาบรรทัดฐานของ

ไว้

“คุณเองเหรอ หรูเย็น” ลู่เสี้ยงหยางไม่คาดคิดเหมือนกัน ว่าจะได้พบกับจ้าวหรูเย็นที่นี่

สายตาของจ้าวหรูเย็นจับจ้องไปที่หลิ่วหรูยู่ สีหน้าของเธอ

ค่อยๆ ดูแย่ลง

ก่อนหน้านี้ลู่เสี้ยงหยางเข้าร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ รุ่นสองของซิงเหอกรุ๊ป เขาได้สร้างศัตรูกับตระกูลหานและ ตระกูลเหอไปแล้ว ดังนั้นหลังเกิดเหตุเธอให้ลู่เสี้ยงหยางออก ไปจากปินเหอโดยเร็วที่สุด แต่ไม่คิดเลยว่าผู้ชายคนนี้ยังอยู่ แถมไม่พอยังคลุกคลีกับหลิ่วหรูยู่ด้วย

“เหอะ สู่เสี้ยงหยาง ดูเหมือนว่าคุณคงไม่คิดจะไปไหนแล้ว สินะ คำพูดของฉันคงเป็นได้แค่ลมปากเท่านั้น ฉันคงคิดไป เองจริงๆ” จ้าวหรูเย็นพูดด้วยสีหน้าตึงเครียดและรู้สึกเจ็บ แสบในใจ

ลู่เลี้ยงหยางคนนี้เกินไปแล้วจริงๆ เธออุตส่าห์เป็นห่วงเขา แต่เขากลับตอบสนองเธอแบบนี้ได้ยังไง?

“พวกคุณมีเรื่องเข้าใจผิดกันเหรอ?” เมื่อหลิ่วหรูยู่เห็น สีหน้าของจ้าวหรูเย็น เธอจึงถามลู่เสี้ยงหยาง

ลู่เสี้ยงหยางยิ้มพูด “มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดเล็กน้อยนะ คุณ เข้าไปก่อน สิ เดี๋ยวผมตามไป”

“อิ่ม ได้ค่ะ” หลิ่วหรูยู่พยักหน้าแล้วเข้าไปในร้านKTVก่อน

สายตาของโจวอานมองไปที่หลิ่วหรูยู่อย่างมีนัย หลิ่วหรูยู่ มีหุ่นที่เร่าร้อนเป็นพิเศษ ที่สำคัญกว่านั้นเธอมีความเย็นเยือก ในตัว เป็นความเย็นเยือกที่เข้าถึงได้ยาก แต่กลับทำให้ ผู้ชายอย่างเขารู้สึกปรารถนาที่จะพิชิตมัน

เขารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก เพราะคนกระจอกอย่างลู่เสี้ยง หยางทำไมถึงมีสิทธิ์ได้ใกล้ชิดกับผู้หญิงเพอร์เฟคแบบนี้?

“เหอะๆ หรูเย็น บางทีเราอาจจะเข้าใจผิดกันก็ได้นะ หรือ ว่าเขาอาจจะมีเรื่องลำบากใจก็เป็นไปได้” โจวอานดูเหมือน จะพูดเข้าข้างลู่เสี้ยงหยาง แต่ความจริงแล้วมันเป็นการใส่ พริกใส่เกลือซะมากกว่า แน่นอนว่าเมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าจ้าวหรูเย็นก็ยิ่ง ดึงเครียดกว่าเดิม เธอพูดต่อด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ลำบากใจ เหรอ? ใครไม่มีเรื่องลำบากใจล่ะ แต่ใช่ว่าผู้ชายทุกคนจะ เกาะผู้หญิงกินสักหน่อย”

ลู่เสี้ยงหยางเกาะผู้หญิงกินก็ว่าไปอย่าง ปัญหาคือเขาเป็น ลูกเขยตระกูลเยไปแล้ว แต่ทำไมถึงอยู่กับหลิ่วหรูยู่ได้ ช่าง เป็นผู้ชายที่กะล่อนปลิ้นปล้อนจริงๆ

เมื่อพูดจบแล้วจ้าวหรูเย็นก็รู้สึกเจ็บใจไม่น้อย เธอหวัง อยากให้ลู่เสี้ยงหยางยืนหยัดในตัวเองมากขึ้น เธอไม่อยาก ให้ความรู้สึกดีๆ ที่เธอมีต่อเขาถูกปนเปื้อนไป

แม้ว่าความจริงตรงหน้าจะชัดเจนแล้ว เธอกับลู่เสี้ยงหยาง นั้นไม่มีทางเป็นไปได้ แต่เธอก็ยังหวังดีต่อเขาอยู่เสมอ

อาจมีปาฏิหาริย์ที่ทำให้ลู่เสี้ยงหยางไม่ต้องพึ่งพาในผู้ หญิงก็ได้

แต่ทุกวันนี้ที่เขาเกาะผู้หญิงกินก็ทำให้ความหวังดีของเธอ สูญเปล่าไปมากเพียงพอแล้ว

โจวอานหัวเราะแล้วมองไปที่ลู่เสี้ยงหยางด้วยสายตายั่วยุ และพูดต่อ “เขาอาจจะลำบากยากจนมากเกินไป จึงทำอะไร ที่เหมือนคนธรรมดาไม่ได้..

จ้าวหรูเย็นขัดจังหวะก่อนที่เขาจะพูดจบ “ความยากจนกับใจเสาะมันต่างกันนะ” ในสายตาเธอ ลู่ เสี้ยงหยางก็คือคนใจเสาะ เป็นแค่คนที่ต้องคอยพึ่งพาคนอื่น

เขามีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมแท้ๆ เขาสามารถหา เลี้ยงชีพด้วยวิชานี้ก็ได้ แต่ทำไมเขาถึงขี้เกียจขนาดนี้ ไม่ แม้แต่ดิ้นรนหาโอกาสทำงานเลย

โจวอานถอนหายใจแล้วทำท่าเป็นห่วงลู่เสี้ยงหยาง “หรือ ไม่ก็ให้เขาไปทำงานที่บริษัทผมสิ ผมจะให้ค่าตอบแทนเดือน ละ 6000 หยวน เพื่อจะแก้ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายของเขาได้ เฮ่อ อันที่จริงตามความสามารถของเขาแล้วควรได้รับ 2000 หยวนต่อเดือนเท่านั้น แต่ช่วยไม่ได้เพราะเราเป็นเพื่อนกัน อีกอย่างพนักงานในบริษัทอาจจะคิดว่าผมไม่ยุติธรรมก็ได้ แต่ผมจะยอมรับมัน” เป็นคำพูดที่หน้าไหว้หลังหลอกอย่าง ที่สุด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ