บทที่ 162 พี่เขยยอดไปเลย
เมื่อได้ยินคำกล่าวของเย่หยุนเทา ใบหน้าเยสวนหม่นหมอง ลงอย่างเห็นได้ชัด พร้อมเอ่ยเสียงเย็น “หลายปีมานี้ ลู่เสี้ยง หยางไม่เคยผลาญเงินจากที่บ้านเลยสักบาท แต่กลับเป็น นายเองที่เอาแต่ไถเงินที่บ้าน ฉันยังไม่คิดบัญชีกับนายเลย”
หากก่อนหน้านี้เธอลั่นวาจาดังกล่าว เย่หยุนเทาก็คงใจสั่น ขวัญแขวนหวั่นวิตก ยังไงซะเย่สวนก็เป็นใหญ่ที่สุดในตระกูล แต่ตอนนี้ เขามีพี่เขยคอยสนับสนุน จึงไม่ไว้หน้าเยสวนแต่ อย่างใด
“เหอะ เย่สวน ไม่ทบทวนตัวเองซะบ้างเลย หลังจากที่แก เป็นผู้ถือหุ้นสูงสุด เข้ามาบริหารธุรกิจ ตระกูลเราได้พัฒนา บ้างไหม หากยังมีแกเป็นผู้กุมอำนาจของตระกูลต่อไป ตระ กูลเลยต้องถูกแกทำลายย่อยยับไม่เหลือชิ้นดีแน่ พี่เขยคนโต เป็นถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหอการค้า มีความจำเป็นอย่าง มากที่จะทำการเปลี่ยนแปลงอย่างยุติธรรมเสียที ฉันจะคอย ดูว่าแกจะเก่งไปได้นานแค่ไหน” เย่หยุนเทาเอ่ยอย่างได้ใจ
เย่สวนไม่ตอบโต้แต่อย่างใด หญิงสาวมีสีหน้าที่ยากจะ คาดเดา
แม้ตอนนี้เธอจะมีหุ้นอยู่ในมือ5เปอร์เซ็นต์ แต่ท่านย่าเอง ก็มีหุ้นอยู่อีกตั้ง49เปอร์เซ็นต์ หากพี่เขยอยู่ข้างท่านย่า บีบ
บังคับเธอในฐานะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหอการค้า คงยากที่ เธอจะยืนหยัดในตระกูลต่อไป
เมื่อเห็นใบหน้าที่สับสนของเย่สวน ลู่เสี้ยงหยางจึงเอ่ยขึ้น ด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม “ก็แค่เจ้าหน้าที่ตัวเล็กๆคนนึงของ หอการค้า น่ากลัวตรงไหน”
เมื่อได้ยินประโยค ทุกคนในตระกูลเพ่งสายตาไปยังลู่เสี้
ยงหยางเป็นจุดเดียว
ให้ตาย!
ช่างกล้า
ก็แค่เจ้าหน้าที่ตัวเล็กๆคนนึงงั้นเหรอ?
“ช่าฮ่า” เย่หยุนเทาหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น ก่อนพ่นค่า เสียดสีออกมา “คิดว่าตัวเองแน่มาจากไหน ก็แค่ไอ้คนไร้ ประโยชน์ที่ไม่เอาถ่าน”
เชวงเอ่ยเสริม “ฉันว่าสภาพกร่างไปทั่วอย่างเขา เหมือน เป็นประธานหอการค้าเลยนะ ฮ่าฮ่า เย่สวนนี้สายตาหลักแห ลมจริงๆ ถึงได้หาสามีที่เก่งกาจเช่นนี้มาได้ ทีหลังเราทุกคน ต้องเยินยอเขาแล้วละมั้ง”
ประโยคที่มีความหมายตรงกันข้าม ตั้งใจประชดประชัน
อย่างเห็นได้ชัด
เยสวนสีหน้าเขียวปัดอย่างไม่สบอารมณ์
สู่เสี้ยงหยางกลับไม่แยแสแต่อย่างได ชายหนุ่มตอกกลับ ด้วยรอยยิ้ม “เธอเดาถูกแล้วล่ะ ผมนี่แหละประธานของ หอการค้า ต้องการเยินยอผม ต้องเริ่มจากเลียรองเท้าหนัง ของผมให้สะอาดก่อน”
ชายหนุ่มเอ่ยพลางยกเท้าขึ้นยื่นไปทางเย่ซวง
“ฮาฮ่าฮ่า แสดงละครเก่งเป็นบ้า ตลกสิ้นดี ขำชะมัด” เย่ หยุนเทาหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง น้ำตาแทบเล็ด
“ซ่าซ่าฮ่า” ทุกคนในตระกูลเย่ต่างส่งเสียงหัวเราะออกมา ไม่ขาดสาย
เย่สวน โกรธจนเลือดขึ้นหน้า เธอถลึงตาโตใส่ลู่เสี้ยงหยาง เป็นการส่งสัญญาณให้ชายหนุ่มอยู่เฉยๆ
ลู่เสี้ยงหยางยักไหล่ ไม่ตอบโต้ใดๆอีก
หลายนาทีผ่านไป รถหรูปอร์เซคันหนึ่งจอดเทียบลงที่หน้า คฤหัสถ์ของตระกูลเย่ โดยมืออตื่นำหน้า ปิดท้ายด้วยปอร์เช่ ทิ้งท้ายด้วยออดี้หลายคัน
เมื่อเห็นภาพตรงหน้า ผู้ที่เฝ้ารออยู่ที่หน้าประตูตะโกนขึ้น เสียงดังลั่น “ท่านย่า พี่เย่เซี่ยนกับพี่เขยมาถึงแล้ว”
ได้ยินดังนั้น ท่านย่าลุกออกจากที่นั่งด้วยความตื่นเต้นดีใจ พร้อมนำพาทุกคนในตระกูลออกไปต้อนรับด้วยความปีติ
เย่หยุนเทาหันไปทางเย่สวน เอ่ยด้วยน้ำเสียงประหลาด “เมื่อสักครู่ลู่เสี้ยงหยางประกาศกร้าวไม่ใช่เหรอ ว่าเขาเป็น ประธานหอการค้า เราจะให้พี่เขยพิสูจน์ความจริงเดี๋ยวนี้”
เยสวนไม่ตอบโต้แต่อย่างใด มีเพียงความอับอายที่ แสดงออกอย่างชัดเจน เธอเข้าใจดีว่าคำพูดที่หลุดออกจากปากลู่เสี้ยงหยางเมื่อ
ครู่ เขาแค่พูดไปอย่างนั้น
การก่อตั้งหอการค้าที่ปินเหอ มีคนมากมายจับจ้อง ตำแหน่งประธาน จะเหลือมาจนถึงลู่เสี้ยงหยางได้อย่างไร
เย่สวนจ้องมองลู่เสียงหยาง พร้อมเอ่ย “คำพูดคาเดียว ของพี่เขยก็สามารถเตะนายออกจากเกมส์ได้แล้ว กลัวไหม?”
“อย่างงั้นเหรอ? ถ้างั้นผมจะคอยดูว่าเขามีความสามารถ นั้นไหม?” สู่เสี้ยงหยางเอ่ยอย่างดูแคลน
เมื่อท่านย่าพาทุกคนมาถึงหน้าคฤหัสถ์ เย่เชี่ยนและสามี ของเธอเฉินเหอกำลังเดินลงมาจากรถ
ท่านย่าฉาบไปด้วยรอยยิ้มอย่างยินดี พร้อมเอ่ยอย่างสนิท ชิดเชื้อ “เชี่ยนเอ๋อ อาเหอ มาถึงกันแล้วเหรอ เข้าไปทานอะไร สักหน่อยในบ้านก่อน ทุกคนกำลังรออยู่เลย”
ที่ท่าที่แสดงออกกับทั้งสองช่างต่างจากเยสวนและลู่เสี้ยง หยางลิบลับ
เยเชี่ยนหน้าตาสะสวย รูปร่างค่อนข้างดี มีเสน่ห์อันน่า ดึงดูดของหญิงสาว เธอเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณค่ะคุณย่า
เฉินเหอมีสง่าราศี เขาเผยรอยยิ้มอย่างไม่ถือตัว “ไม่ต้อง เกรงใจครับคุณย่า เป็นคนในครอบครัวทั้งนั้น ทานก่อนได้ เลย ไม่ต้องรอเราหลอก”
ท่านย่าเบ่งบานปานดอกไม้แรกแย้ม พร้อมที่ท่าเยินยอ แอบแฝง “พวกเธอเป็นเสาหลักของตระกูลเรา หากไม่มีคุณ เราจะกล้ายกตะเกียบได้ยังไง”
เฉินเหอพยักหน้า ด้วยความหยิ่งผยอง
ท่านย่าจูงมือเย่เชี่ยนและเฉินเหอเข้าไปในบ้านพร้อมกัน เมื่อเห็นภาพตรงหน้า คนในตระกูลเย่ต่างอิจฉาริษยาไป ตามๆกัน ช่างเป็นเกียรติเสียเหลือเกิน
เย่หยุนเทาหัวเราะอย่างได้ใจ พร้อมเอ่ยกับเย่เซี่ยน “พี่ สาว ผมจะแนะนำไอ้กระจอกคนนึงให้พี่ได้รู้จัก เป็นหนุ่มน้อย ของเย่สวน หลายปีมานี้มันกินฟรีอยู่ฟรีที่บ้านเรา จะลองให้พี่ เขยสั่งสอนมันสักหน่อยก็ได้นะ
เย่เชี่ยนเหล่ไปทางลู่เสี้ยงหยาง พร้อมหัวเราะเยาะในใจ กระทั่งตัวเย่สวนเองก็พลอยโดนดูถูกไปด้วย
ไม่ทันไรเชวงแทรกขึ้น “พี่ เมื่อกี้สู่เสี้ยงหยางมันช่างกล้า หน้าไม่อาย บอกว่าตัวเองมีตำแหน่งในหอการค้า”
เยเชี่ยนเกิดความสนใจขึ้นมา เธอเอ่ยตอบโต้เย่ชวง “พี่ เขยของเธอเองก็อยู่ในหอการค้าด้วย ช่างมีวาสนาต่อกัน เสียจริง ไม่ทราบว่าดำรงตำแหน่งอะไร?”
นี่มัน?
เยสสวนมีแต่ความอันอาย ลู่เสี้ยงหยางอยู่ในหอการค้า ที่ไหนกัน เมื่อกี้ก็แค่การคุยโม้ของลู่เสี้ยงหยางเท่านั้นเอง
“พี่ แค่ล้อเล่นเท่านั้น ลู่เสียงหยางไม่สามารถเทียบได้เลย กับพี่เขย” เย่สวนตอบโต้ด้วยประโยคคลุมเครือ เย่เชี่ยน หัวเราะออกมา “เป็นแค่คนไม่เอาไหนจริงๆด้วย”
เฉินเหอหรี่ตาลง เพ่งพินิจลู่เสี้ยงหยาง “นายนะ อยู่สังกัด
ไหน?”
หอการค้า มีอยู่ทุกที่ ในลิสรายชื่อสมาชิกของปินเหอ ไม่มี ชื่อของลู่เสี้ยงหยางอยู่เลย
แน่นอน นั่นเพราะว่าเขาไม่มีระดับมากพอ สู่เสี้ยงหยางเอ่ยตอบเสียงเรียบ “ปืนเหอ”
“ปิงเหอ?” เฉินเหอขมวดคิ้วอย่างสงสัย หากเป็นปืนเหอ ไม่มีทางที่เขาจะไม่รู้
“ช่าฮ่า พี่เขย เมื่อกี้ไอ้นี่มันช่างกล้า บอกว่าตัวเองเป็น ประธานหอการค้า เขาเสียสติไปแล้วใช่ไหม?” เย่หยุนเทา หัวเราะเยาะขึ้นมากลางคัน
อะไรนะ?
ประธานหอการค้า? !!!
ได้ยินประโยค เฉินเหอตกใจแทบล้มพับลงกับพื้น เหงื่อ ผุดไหลไปทั่วร่าง
คนในตระกูลเย่น้อยนักที่จะได้เห็นทีท่าเช่นนี้ของเฉินเหอ จึงเอ่ยถามอย่างฉงน “พี่เขย พี่เป็นอะไรไป?”
เฉินเหอไม่ตอบโต้ใดๆ เขานิ่งไปอย่างใช้ความคิด
ในตอนนี้ มีเพียงรายชื่อของเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ได้รับการ คอนเฟิร์ม ตำแหน่งประธานและรองประธานยังคงว่างเปล่า บนหน้ากระดาษ
แต่ได้ข่าวว่า รายชื่อประธานและรองประธานได้รับการ ยืนยันแน่นอนแล้ว
หรือไอ้ลู่เสี้ยงหยางนึ่จะเป็นประธานหอการค้าจริงๆ?
แต่เมื่อไตร่ตรองอีกที นี่จะเป็นไปได้อย่างไร ู่เสี้ยงหยางก็ แค่ไอ้กระจอกที่เกาะตระกูลเยไปวันๆ จะสามารถแบกรับ หน้าที่อันใหญ่หลวงนี้ได้อย่างไร?
เมื่อคิดได้ดังนั้น ความกังวลในใจมลายหายไปสิ้น เขาจับ จ้องลู่เสี้ยงหยางนิ่ง ก่อนเอ่ย “ไอ้หนู ช่างกล้าหาญ อวดอ้าง เป็นประธานหอการค้าของเรา แกคงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป แล้วสินะ”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ