หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

บทที่ 87 มีเพียงลู่เสี้ยงหยางคนเดียวที่รักษาได้



บทที่ 87 มีเพียงลู่เสี้ยงหยางคนเดียวที่รักษาได้

สู่เสี้ยงหยางมองไปที่หลิงจิ้งแล้วถามว่า “แม่ครับ แม่จะ จัดการกับพวกเธอยังไง?”

หลิวจิ้งสะดุ้ง เธอเพิ่งดึงสติกลับมาได้ เธอมองไปที่ลู่เสี้ ยงหยางด้วยสายตาซับซ้อนและเหลือเชื่อมาก

การแสดงออกของลู่เสี้ยงหยางในคืนนี้มันใช่คนไร้ ประโยชน์อย่างที่ทุกคนพูดกันซะที่ไหน?

“ช่างมันเถอะ แค่นี้ก็พอแล้ว แม่จะทำเหมือนไม่เคยรู้จัก คนพวกนี้ก็แล้วกัน” หลิวจิ้งพูดอย่างเศร้าใจ เธอเคยคิดว่า ตัวเองกับพวกของเถาหงเหมยนั้นเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่ไม่ คาดคิดเลยว่าทุกอย่างนั้นเธอคิดไปเอง

“ได้ครับ” ลูเสี้ยงหยางพยักหน้าแล้วพูดกับเถาหงเหมยอ ย่างเหลือทน “ไปให้พ้น”

เถาหงเหมยและคนอื่น ๆ ต่างก็รอคำนี้มานานแล้ว ดัง นั้นพวกเธอจึงรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งออกจากห้องนั้นเร็วยิ่งกว่า กระต่ายเสียอีก

ส่วนผู้จัดการร้านยังคงยืนอยู่ที่เดิม เขาไม่กล้าขยับไป ไหนถ้าไม่ได้รับคำสั่งจากลู่เสี้ยงหยาง
สู่เสี้ยงหยางเหลือบมองเขาอย่างเย็นชา เขาก็แค่ พนักงานคนหนึ่งจึงไม่อยากทำร้ายเขาและได้ไล่เขาออกไป ทันที

และแล้วในห้องก็เหลือเพียงลู่เสี้ยงหยาง หลิวจิ้งและโห้

กางสามคนนี้

หลังจากที่หลิวจิ๋วแสดงความขอบคุณกับโห้กางเสร็จเธอ ก็กลับบ้านพร้อมกับลู่เสี้ยงหยาง

ในระหว่างทางกลับหลิวจิ้งได้แต่จ้องหน้าลู่เสี้ยงหยาง และใจสั่นอย่างควบคุมไม่ได้

หลายปีที่ผ่านมาชีวิตเธอมีแต่ลูกสาวคนเดียว ไม่เคยมี ผู้ชายคนไหนสามารถยืนหยัดและแก้ไขปัญหาให้เธอได้ ซึ่งลู่ เสี้ยงหยางคือคนแรก

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หลิวจิ้งก็รู้สึกได้ถึงกระแสน้ำอุ่น ๆ ที่ใไหล เวียนอยู่ในหัวใจของเธอ เธอจึงขอบคุณลู่เสี้ยงหยางอย่าง ไม่รู้ตัว

ลู่เสี้ยงหยางส่ายหัวตอบ “คุณเป็นแม่ยายของผมนะ การที่ต้องปกป้องคุณคือหน้าที่ของผมอยู่แล้ว”

“อิ้ม” หลิวจิ้งพยักหน้าแล้วหน้าแดงเล็กน้อย เธอรู้สึกว่า มีอะไรบางอย่างอยู่ในใจของเธอ
ณ โรงพยาบาลที่ดีที่สุดในเมืองปินเหอ

ห้องศัลยกรรมกระดูก

หลังจากถังหลงออกจากร้านคาราโอเกะ เขาก็พากลุ่ม ลูกน้องตรงเข้าไปที่โรงพยาบาลทันที

ในขณะนี้ถังหลงรู้สึกหดหูใจมาก ปกติเขาชอบต่อสู้และ เคยไหล่หลุดมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้มันเจ็บกว่า ปกติหลายเท่า เขายังสงสัยว่าข้อต่อของเขาต้องถูกลู่เสี้ยง หยางบิดจนหักแน่เลย

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกที่รับผิดชอบรักษาถังหลง นั้นมีชื่อว่าจางซิ่งเฟิง เขาประหลาดใจมากที่เห็นสีหน้าแทบ เป็นแทบตายของถังหลง เขาก็แค่ไหล่หลุดเท่านั้นเองไม่ใช่ หรือ ทำไมต้องทำหน้าเหมือนผู้หญิงที่กำลังคลอดลูกด้วย

“โอ๊ย ไม่ไหวแล้ว ปวดมากเลยครับหมอ ช่วยดูให้หน่อย ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับแขนของผม?” ถังหลงพูดอย่างอ่อนแรง

ลูกสมุนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขายิ่งสับสนเข้าไปใหญ่ คืนนี้ ลูกพี่เป็นอะไรไป? ทำไมถึงอ่อนแอกว่าปกติอย่างนี้?

จางซึ่งเฟิงยังไม่ได้ตอบกลับถังหลง เขายื่นมือไปสัมผัส กับแขนของถังหลงก่อน แต่เขายิ่งจับสีหน้าของถังหลงก็ยิ่ง เจ็บปวด

อาการบาดเจ็บของถังหลงไม่เหมือนไหล่หลุด แต่ก็ไม่ต่างอะไรกับไหล่หลุด ตอนนี้เขาไม่รู้จะอธิบายอย่างไรจริง ๆ

จางซิ่งเฟิงเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านศัลยกรรมกระดูก เขา ทำงานในสายงานนี้มานานกว่าหลายสิบปีและยังมี ประสบการณ์อันล้นเหลืออีกด้วย ตามประสบการณ์แล้ว อาการไหล่หลุดเขาแค่สัมผัสก็จับจุดได้แล้ว แต่ตอนนี้เขา กลับหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการนี้ไม่ได้

“อาการของคุณไม่เหมือนใครเลย ผมคิดว่าต้องถ่าย เอ็กซเรย์ก่อนถึงจะเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น” จางซึ่งเฟิงพูด “ได้ครับหมอ หมอให้ไวเลยนะ” ถังหลงพยักหน้า

จางซึ่งเฟิงก็เริ่มปฏิบัติทันที

ยี่สิบนาทีต่อมาผลของเอ็กซเรย์ก็ออกมาและถูกส่งไปยัง

ออฟฟิศของจางซิ่งเฟิง

ถังหลงยังคงคร่ำครวญอยู่ในปากของเขาอย่างเจ็บปวด บริเวณข้อไหล่ของเขาบวมขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้บวมจนเหมือน หมูตอนไปแล้ว

“คุณหมอ รีบดูให้หน่อยว่าแขนผมเป็นอะไร?” ถังหลง

เริ่มใจร้อน

จางซึ่งเฟิงส่องผลเอ็กซเรย์กับแสงไฟ เพียงแค่มองไป เท่านั้น เขาถึงกับต้องเหงื่อตก
ตั้งแต่ทำงานเกี่ยวกับศัลยกรรมกระดูกมาหลายสิบปี เขาไม่เคยพบกับอาการบาดเจ็บร้ายแรงเช่นนี้มาก่อนเลย

ถ้าอ้างอิงจากภาพถ่ายเอ็กซเรย์นี้ ตอนนี้ข้อต่อใหล่ของ ถังหลงนั้นใช้การต่อไม่ได้อีกแล้ว กล้ามเนื้อ เส้นเอ็นและ เนื้อเยื่อกระดูกอ่อนทั้งหมดพันกันหมด

“เฮ้ย! เป็นแบบนี้ได้ไง?” จางซิ่งเฟิงตบต้นขาของเขา แล้วพูดกับถังหลง “ตอนนี้อาการบาดเจ็บของนายร้ายแรง มาก จำเป็นต้องรับการผ่าตัดครั้งใหญ่และต้องใช้เงิน 5 แสน นายรีบไปเตรียมตัวก่อนเลย เดี๋ยวอาจะติดต่อทีมผู้ เชี่ยวชาญมาดำเนินการให้ตอนนี้เลย”

ไงนะ?

ต้องการผ่าตัดครั้งใหญ่?

ค่ารักษา 5 แสน?

ถังหลงตกตะลึงและมีเสียงดังก้องอยู่ในหัวของเขาอย่าง

ไม่หยุด

“แมร่งเอ้ย เขาดูผิดรึเปล่า?” กลุ่มลูกสมุนของถังหลง ต่างก็มองหน้าซึ่งกันและกัน มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ? ลูกพี่ของพวกเขาแค่ไหล่หลุดเท่านั้นนะ
“ยังนิ่งเฉยอยู่ทำไม ไม่ได้ยินที่ผมพูดเหรอ? ตอนนี้ อาการคุณร้ายแรงมาก จำเป็นต้องรับการผ่าตัดทันที มิ ฉะนั้นแขนทั้งแขนของคุณจะด้วนเลยนะ” เมื่อเห็นถังหลงยัง นึ่งเฉยอยู่ จางซึ่งเพิ่งก็พูดอย่างไม่เกรงใจ

ถังหลงสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขาเพิ่งดึงสติกลับมา จากนั้น ก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วหวดชี้ไปที่กลางจมูกของจางซิ่งเฟิงและ ตุว่าเขา “แมร่ง มึงคิดจะต้มตุ๋นใช่ไหม กูแค่ไหล่หลุดนะ ทำไมต้องให้กไปผ่าตัดด้วย แถมไม่พอจะเอาค่ารักษา 5 แสนอีก ถึงคิดจะแดกเงินกูเหรอ? ไอ้แก่ มึงมันเห็นแก่เงินเลย จริง ๆ”

หือ..

จางซึ่งเพิ่งถูกด่าจนทำตัวไม่ถูก เขาไม่เคยพบผู้ป่วยที่ แปลกประหลาดแบบนี้มาก่อนเลยจริง ๆ แต่เขาเองก็เป็นคน ใจร้อนเหมือนกัน ถึงอย่างไรแล้วเขาก็เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน ศัลยกรรมกระดูกที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองปินเหอนี้อยู่แล้ว จะให้เขายอมทนกับการใส่ร้ายของเด็กกระจอกคนนี้ได้ อย่างไร

“เหอะ! แล้วแต่ไม่อยากรักษาก็ออกไปให้พ้น อย่ามา

ก่อกวนที่นี่” จางซิ่งเฟิงกัดฟันพูดแล้วโบกมือไล่เขา “แมร่งเอ้ย” ถังหลง โกรธจนควันออกหู ไอ้แก่คนนี้กล้าพูดจากับเขาแบบนี้ได้อย่างไร

“แมร่งเอ้ย! ไอ้แก่คนนี้ดิ้นหาที่ตายเหรอ? กล้าคุยกับ คุณชายแบบนี้ได้ไง?” กลุ่มลูกสมุนของถังหลงตะโกนด่าขึ้น หากไม่ใช่เพราะอยู่ในสถานที่สาธารณะพวกเขาคงเด็ดหัวไอ้ แก่คนนี้ไปนานแล้ว

“เฮ่อ จริง ๆ เลยไอ่พวกคนไร้การศึกษาพวกนี้” จางซึ่ง เพิ่งแอบนินทาในใจ เขาได้แต่ส่ายหัวอย่างเงียบ ๆ ถึง อย่างไรแล้วเขาก็คือผู้เชี่ยวชาญและมีการศึกษาคนหนึ่ง จะ ให้เขามีเรื่องกับพวกอันธพาลพวกนี้ได้อย่างไร ดังนั้นเขาจึง หลับตาลงแล้วเอนกายอยู่บนเก้าอี้อย่างเงียบ ๆ

“ไอ้แก่ ถึง..เมื่อเห็นท่าทางของจางซิ่งเฟิง ถังหลง อยากลุกขึ้นอัดเขาให้เละไปข้าง แต่ด้วยข้อต่อที่ไหล่ยังคง เจ็บหนักอยู่ เขาจึงไม่อยากประวิงเวลาอยู่ที่นี่อีกต่อไป

“ไป เราไปโรงพยาบาลอื่นกัน แมร่งเอ้ย รอแขนกหายดี ก่อนค่อยกลับมาจัดการมันทีหลัง” ถังหลงโบกมือเรียกลูก สมุนแล้วออกไปทันที

ไม่นานหลังจากนั้น ถังหลงและพวกก็ได้ไปถึงแผนก ศัลยกรรมกระดูกของโรงพยาบาลแห่งที่สองในเมืองปินเหอ

และผลลัพธ์ก็ทำให้ถังหลงต้องผิดหวังอีกครั้ง

ศัลยแพทย์กระดูกที่นี่ก็ให้คำวินิจฉัยเหมือนกับโรงพยาบาล
“ถังหลงเหรอ ผมได้ตรวจดูผลเอ็กซเรย์ของคุณแล้วครับ อาการของคุณสาหัสมาก คุณจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดและ จะรอช้าอีกไม่ได้ เพราะเนื่องจากอาการบาดเจ็บของข้อต่อ ส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของโลหิตในแขน มันจะลาม ไปถึงกล้ามเนื้อทั้งแขนและคุณอาจจะเสี่ยงถึงขั้นใช้งานแขน ของคุณไม่ได้อีกเลย”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ถังหลงโกรธจนแทบกระโดดขึ้นมา เขาชี้หน้าหมอแล้วต่าอย่างรุนแรง “แมร่งเอ้ย ไอ้พวกต้มตุ้น มาอีกคนแล้ว สรุปพวกมึงรักษาเป็นไหม? กูก็แค่ไหล่หลุด เข้าใจมั้ย?”

เมื่อหมอได้ยินคำพูดนี้ก็ไม่พอใจขึ้นมาทันที เขาจึงลุก ขึ้นทุบโต๊ะแล้วตอบกลับ “ในเมื่อแค่ไหล่หลุดแล้วคุณจะมา หาหมอทำไม? ไปให้พ้นเลยนะไปรักษาเองเลย”

ถังหลงโกรธจนพูดอะไรไม่ออก ความเจ็บปวดนั้น เกือบทำให้เขาต้องร้องไห้ออกมา

“เยดแมร่ง! เป็นบ้าอะไรกันวะ!” กลุ่มลูกสมุนของถังหลง สับสนกันไปหมด หมอสมัยนี้ตกอับกันขนาดนั้นเลยหรือ? ก็ แค่ไหล่หลุดถึงขั้นต้องผ่าตัดเลย

จากนั้นในท่ามกลางเสียงบ่นวุ่นวาย ถังหลงก็ได้พาลูกน้องออกจากโรงพยาบาลที่สองเพื่อไปโรงพยาบาลอื่น ๆ

จากนั้นถังหลงก็ได้ไปตรวจทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ทุกแห่งในเมืองปินเหอ สุดท้ายทุกโรงพยาบาลก็ให้คำตอบ เดียวกัน นั่นก็คืออาการบาดเจ็บของเขาสาหัสมาก ต้องรับ การผ่าตัดอย่างเดียว ไม่งั้นจะใช้งานแขนไม่ได้อีก

ถังหลงร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา เขานึกถึงคำพูดของลู่เสี้ยง หยางทันที นอกจากพี่ไม่มีใครรักษาแขนของน้องได้หรอก ถ้าอยากหายจริง ๆ น้องต้องจ่ายพี่มาอีก 10 ล้าน พี่อาจจะ ช่วยรักษาให้หายได้!”

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ถังหลงก็ยิ่งโกรธมากขึ้น แต่เขาทำได้ เพียงพาลูกสมุนกลับไปหาลู่เสี้ยงหยางอีกครั้ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ