ยอดหมอยาของอ๋องเสียน

บทที่ 70 ตกใจกลัว



บทที่ 70 ตกใจกลัว

อันหลิงหยุนพอขึ้นมาบนรถม้าก็รู้ทันทีว่าตนถูก หลอก ในรถมีคนสองคนหน้าตาดุร้าย ผู้ที่อายุมากกว่า เป็นหญิงชราผู้หนึ่ง มองดูแล้วน่าจะมีอายุประมาณหก เจ็บสิบปี แต่ดวงตาของนางกลับคมปลาบ ดูก็รู้ว่าไม่ ง่ายเลยที่จะรับมือ

นอกจากนี้ยังมีเด็กวัยสิบกว่าผู้หนึ่ง เป็นเด็กผู้ชาย ทำทางชั่วร้ายเจ้าเล่ห์ กำลังมองดูอันหลิงหยุนด้วย สายตาสกปรก

อันหลิงหยุนมองไปที่หนึ่งชราหนึ่งเยาว์ มุมปากยก ยิ้มขึ้น

ตัวอะไร ช่างน่าเกลียด

“ซีอี

หญิงชราระเบิดเสียงหัวเราะสั่นป่า จากนั้นจึงก้ม ลงและมองดูอันหลิงหยุนอย่างประเมิน “หน้าตาไม่เลว แต่จะต้องมีชีวิตอยู่ถึงจะถูกต้อง ไม่อย่างนั้นจะเอา เปรียบเจ้าเกินไป”

หญิงชราคนเด็กข้างๆ นาง เด็กหนุ่มหัวเราะขึ้นสี่สี่ “พวกเราจันนางก่อน จากนั้นให้พ่อดื่มเลือด” อันหลังหยุนตะลึงไปชั่วครู่ ดื่มเลือด?
ดื่มเลือด?

ทันใดนั้น อันหลิงหยุนก็เข้าใจทันที คนพวกนี้ ต้องการเลือกของนาง

แต่เลือดของนางเป็นที่รู้ของผู้คนตั้งแต่เมื่อใด

กงชิง?

อาหยู่?

ไม่มีทาง พวกเขาไม่ทำเช่นนี้

ใบหน้าของใครบางคนแวบขึ้นมาในความคิดของ อันหลิงหยุน มีเพียงแค่วันนั้นในจวนที่นางให้กงชิงอวี่ ดื่มเลือดแล้วถูกพ่อบ้านเห็นเข้า

อันหลิงหยุนไม่กล้าคิด พ่อบ้านและอาหยู่จะ ทำร้ายนาง

อันหลิงหยุนเตรียมเข็มเงินหลายอัน และยืนอยู่ใน รถม้ามองดูอีกฝ่าย ตัวนางมีวนยุทธ์อยู่บ้าง เพียงแต่ ร่างกายของเจ้าของเดิมไม่ดี นางยังคงต้องพักฟื้น

หญิงชราขยับเข้ามาก่อน อันหลิงหยุนยังไม่ทันรอ ให้นางลงมือ เด็กชายก็พุ่งมาหานาง อันหลิงหยุนหลบ หนีจนทำให้รถม้าแกว่งไปมาเล็กน้อย ในหญิงชราถือ บางสิ่งไว้ในมือและโยนมันออกไป อันหลิงหยุนคิดจะ หนี แต่กลับถูกเด็กชายพุ่งเข้าใส่ทำให้ล้มลงเสียก่อน

อันหลิงหยุนรังเกียจเด็กหนุ่มและถูกเขาทำให้ ตกใจหวาดกลัว เด็กหนุ่มยิ้มแสยะและพุ่งเข้าไปจูบที่ใบหน้า อันหลิงหยุนโกรธและปล่อยคางคกเย็นที่อยู่ ในตัวออกมา

คางคกเย็นมีพิษร้ายแรง ทันทีที่มันออกมามันก็ กระโดดไปทั่ว เด็กหนุ่มตกใจกลัว มันกระโดดไปบน หน้าของเด็กหนุ่มและเขารู้สึกขึ้นมาได้ถึงความเจ็บ ปวดบนใบหน้า

อันหลิงหยุนรีบถีบคนออกไป เด็กชายกรีดร้อง และตกลงจากรถม้า หญิงชราเห็นว่าหลานชายของ นางกลายเป็นแบบนี้เข้าก็รีบพุ่งเข้าไปหาเขา คางคก เย็นหลายตัวกระโดดขึ้นไปบนร่างของหญิงชราทันที หญิงชรากรีดร้องเสียงดัง อันหลิงหยุนหันหลังและรีบ วิ่งออกไป รถม้าหยุดลง และกลิ้งไปกับพื้น

อันหลิงหยุนวิ่งเข้าไปในป่าลึกใกล้ๆ จากนั้นจึง ซ่อนตัวอยู่ในนั้น

อาหยู่ที่จัดการกับคนเหล่านั้นจนล่าถอยไปก็ได้รับ บาดเจ็บเช่นกัน ตอนที่หาอันหลังหยุนเจอนางก็กำลัง รอเข้าอยู่พอดี

“พระชายา”

เมื่ออาหยู่หาอันหลิงหยุนเจอแล้ว นางจึงค่อยลุก ขึ้นและดูอาการบาดเจ็บของเขา อันหลิงหยุนห้าม เลือดให้เขาก่อนจากนั้นจึงเดินตามเขากลับไปที่รถม้า เมื่อรู้ว่าตนกำลังถูกคนจับตาอยู่นางก็ไม่กล้าชักช้าอีก ต่อไปและให้อาหยู่พาตนกลับไปทันที
พวกเขามุ่งหน้ากลับไปยังจวนอ๋องเสียนโดยไม่ กล้าหยุดลง จนกระทั่งลงจากรถม้าแล้วอันหลิงหยุนจึง ค่อยรู้สึกโล่งใจ

“อาหยู่ เจ้ากลับไปก่อน ไปพักผ่อนแล้วรายงาน เรื่องนี้ให้ท่านอ่องฟังพรุ่งนี้เช้า”

ในใจอันหลิงหยุนของอันหลิงหยุนหนักอึ้ง สองคน นั้นบอกต้องการดื่มเลือดของนาง นางได้ยินมันอย่าง ชัดเจน เป็นใครที่ปล่อยข่าวออกไปเรื่องเลือดของนาง หรือมีคนจงใจทำร้ายนาง?

หากพวกเขาล้วนมาหานางเพื่อขอดื่มเลือดเมื่อไหร่ นางก็ซวยแน่แล้ว

หลังกลับเข้ามาในห้องอันหลิงหยุนก็ขดตัวลงบน เตียงและคิดหาวิธี ก่อนหน้านี้นางไม่เคยวิตกกังวลมาก ขนาดนี้ ความลับของนางถูกคนค้นพบแล้ว ก็เท่ากับว่า นางได้กลายเป็นเป้าหมายอันมีชีวิตตัวหนึ่ง ผู้คน ทั้งหมดจะรุมเข้ามาหานาง และชะตากรรมของนาง ไม่ใช่แค่ความตาย แต่พวกเขาจะถือว่านางเป็นยาที่มี ชีวิตเพื่อยืดอายุของพวกเขา ให้นางอยู่มิอาจตาย

อันหลิงหยุนนึกไปถึงรายงานวิดีโอที่เคยเห็นก่อน หน้านี้ นั่นคือเลี้ยงหมีเอาน้ำดี

น้ำดีของหมีดำมีคุณค่าทางยา อีกทั้งมีราคาแพง มาก ผู้คนเริ่มคิดถึงวิธีที่จะนำน้ำดีออกจากหมีดำ แต่ว่า จำนวนของหมีดำนั้นมี จำกัด ถ้าหากจะต้องฆ่าหมีดำ และเอาน้ำดีของมันออกมา เช่นนี้น้ำดีก็จะน้อยลงไปเรื่องๆ มนุษย์รู้ดี การฆ่าสัตว์แบบนี้จะทำให้พวกมันสูญ พันธุ์

ดังนั้น มนุษย์จึงขังหมีค่าไว้ในกรง ฝ่าท้องของมัน และสอดท่อเพื่อดูดน้ำคืออกทุกวัน ด้วยวิธีนี้ หมีคำจะ ผลิตน้ำดีทุกวัน น้ำดีก็มากขึ้นเรื่อยๆ และยังช่วยลด ต้นทุน

ไม่ยากที่จะจินตนาการว่านางก็จะเป็นเช่นนั้นใน ไม่ช้า ถูกคนขังอยู่ในกรงเหมือนหมีดำ ต้องการเจาะ เลือดของนาง นางคือหมีดำในยุคโบราณ

เมื่อนึกถึงมัน อันหลิงหยุนก็สั่นสะท้านด้วยความ เยือกเย็น ร่างกายที่แต่เดิมสุขภาพแข็งแรงดีของนาง ตอนนี้กำลังมีเหงื่อไหลซึม การดำรงอยู่ในสถานที่แห่ง นี้ก็เหมือนกับการเดินบนแผ่นน้ำแข็งบางๆ ลองนึกภาพ ว่าทุกคนมารวมตัวกันเพื่อทำร้ายนางและล่านางด้วย ดวงตาเบิ่งกว้างเหมือนางเป็นหมีดำ ต่อให้นางอยาก ตาย นางก็ยังทำไม่ได้

มีใครบางคนหยุดอยู่นอกประตู อันหลิงยุนมองไป ที่ประตู เงาร่างขยับไปมา นางหยิบมีดขึ้นมา และกำมัน เอาไว้แน่น

เมื่อประตูถูกเปิดออก เหงื่อบนใบหน้าของนางก็ ไหลหยดลงมายังมือ ดวงตาที่ตื่นตระหนกของนาง ราวกับกำลังมองเห็นสัตว์ร้าย

แม้ว่าคนที่เข้ามาก็คือกงชิงวี่ แต่นางก็เกือบพุ่ง เข้าไปโจมตี มีดที่อยู่ในมือชี้เข้าใส่เขา
กงซิงวี่ยืนอยู่ที่ประตู ท่าทางแปลกใจ

เขามองกลับไปที่ประตูด้านหลัง จากนั้นจึงมองไป ที่อันหลิงหยุน

วันนี้แปลกประหลาดอย่างยิ่ง ทั้งตัวของอันหลิง หยุนสั้นสะท้านอยู่บ้าง ราวกับกำลังหวาดกลัวเรื่อง อะไรบางอย่าง

“เกิดอะไรขึ้น?”

กงชิงวี่เดินเข้าไปทางที่อันหลิงหยุนอยู่ อันหลิงหยุ นตะโกนใส่เขา “อย่าเข้ามาที่นี่!”

กงชิง พูดอย่างไม่อดทน “อาหยู่ได้รับบาดเจ็บ ข้า รู้เรื่องที่พวกเจ้าถูกซุ่มโจมตีแล้ว เหตุใดจึงได้ถูกทำให้ ตกใจหวาดกลัวจนเป็นเช่นนี้?”

อันหลิงหยุนกำมีดในมือแน่น นางมองไปที่กงชิงวี่ ที่กำลังเข้ามาและพุ่งไปยังเขา

ดวงตาของเข้มขึ้น กงชิงวี่หลบมีดของนางอย่าง รวดเร็ว และคว้าข้อมือของอันหลิงหยุนเอาไว้ จากนั้น จึงสะบัดมีดออกจากมือของอ

ทักษะของนาง เขารู้ดี หากไม่มีเรื่องขอขาดบาด ตาย เรื่องอื่นๆ ล้วนไม่สำคัญ มีดในมือของอันหลิงหยุนถูกถอดออกไป สีหน้า

ของนางซีดเผือด ราวกับกำลังตื่นจากฝันอันใหญ่โต

นางมองไปที่คนตรงหน้า หยาดน้ำตาไหลออกจากดวงตาของนาง นางไม่ได้เอ่ยพูด มีเพียงแค่น้ำตาที่ หลั่งรินลงมา

นางไม่อยากร้องไห้นางไม่กลัวแม้แต่ที่จะตาย ไม่มีอะไรที่จะร้องไห้

จิตสำนึแวดล้อมทางทหารของนางก็ไม่อนุญาตให้ นางร้องไห้ออกมาเช่นกัน

แต่นางก็อดไม่ได้ นางมายังสถานที่อันผุพังแห่งนี้ นางก็กลายเป็นแค่ปลาบนเขียงที่รอการถูกเชือด เท่านั้น

เป็นครั้งแรกที่กงชิงวี่ได้เห็นอันหลิงหยุนร้องไห้ เช่นนี้ ที่ผ่านมามีนางร้องไห้โวยวายหลายครั้ง แต่การ ร้องไห้แบบเด็กดื้อที่ทนไม่ไหวอีกต่อไปเช่นนี้ เขาเพิ่ง เคยเห็นเป็นครั้งแรก

มองดูนางร้องไห้ ในใจของเขาก็รู้สึกย่ำแย่

“ร้องไห้ทำไม?”

ในขณะที่พูดเขาก็ดึงแขนของอันหลิงหยุน จาก นั้นจึงมองไปที่ใบหน้าของนางอย่างเย็นชา อันหลิงหยุนไม่เงยหน้า นางเช็ดน้ำตาบนหน้าไป

มา

“ไม่มีอะไร”

“หากเจ้าไม่พูดข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าใครรังแกเข้า พูดมา เช่นนี้ข้าถึงได้ไปจัดการให้เจ้าได้” พูดจบ กงชิงวีเองก็ตะลึงไปชั่วขณะ นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการจะพูด แต่เขากลับโพล่งออกไป

พูดแล้วก็พูดไป เขาไม่ได้เสียใจอะไร

อันหลิงหยุนมองเขา ในเวลานี้นางสงบขึ้นบ้างแล้ว นางดึงมือของตนออกจากของกงชิง วี่ จากนั้นจึงเดิน ไปที่เตียงและนั่งลง และเหม่อลอยไปชั่วครู่

“มีคนต้องการเลือดของข้า” อันหลิงหยุนยังคงคิด ว่าเรื่องนี้ต้องพูดออกมา บางทีอาจมีหนทางแก้ไข

“ใคร?”

กงชิงวี่แปลกใจ แต่ต่อมาทันทีที่นึกได้สีหน้าของ เขาก็มืดครึ้มขึ้นมาทันที

“วันนี้มีคนต้องการเลือดของเข้าโดยเฉพาะ?” กง ชิงวี่โกรธจัด อีกทั้งยังมีความกังวล


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ