บทที่ 284 สาวสวยทั้งสี่
ให้ตายสิ! เลี้ยงหยางที่ยืนอยู่หน้าห้องถึงกับทำตัวไม่ถูก ถึง แม้เขาจะแต่งเข้าบ้านผู้หญิง แต่เขาไม่ได้ไปขอใครกิน แล้ว เรื่องอะไรคนเหล่านี้ถึงมีสิทธิ์มาหัวเราะเยาะคนอื่น?
อีกอย่าง ต่อให้เขาเกาะผู้หญิงกินมันก็เป็นความสามารถ
ของเขา
จูหยเงินส่ายหัวแล้วมองไปที่เลี้ยงหยางด้วยสายตา
รังเกียจ
เธอเกลียดการโกหกมากที่สุด เกลียดคนไม่ซื่อสัตย์ เกลียดคนอ่อนแอที่ไม่ยอมดิ้นรน และทุกอย่างนี้อยู่ในตัว ของลู่เสี้ยงหยางทั้งหมด
นักศึกษาคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่ด้านล่างได้เห็นสีหน้าของครู ประจำชั้นแล้ว พวกเขาต่างก็รู้ดีว่าอนาคตของลู่เลี้ยงหยางที่ อยู่ที่นี่ไม่สดใสอย่างแน่นอน ดังนั้นทุกคนต่างก็พยายาม โจมตีเลี้ยงหยางเพื่อหวังให้ครูประจำชั้นประทับใจในตัว เขา
“แมรังเอ๊ย เป็นเรื่องน่าอายจริงๆ ที่เราต้องอยู่ห้อง เดียวกันกับผู้ชายขี้แยคนนี้”
“ให้ตายเหอะ แก่ปูนนี้แล้วยังเกาะคนอื่นกินอยู่เหรอเนี่ย?ช่างขายหน้าตระกูลตัวเองจริงๆ
“ช่าๆ กระดานโลงศพของบรรพบุรุษของมันคงปิดไม่สนิท แล้วล่ะมั้ง”
ในทันใดนั้น เสียงพูดจาเสียดสีและประชดประชันเหมือน กระแสน้ำรุนแรงที่พุ่งเข้าหาเลี้ยงหยาง
โชคดีที่ลู่เสี้ยงหยางควบคุมสติได้ดี ไม่เช่นนั้นเขาคงเป็น บ้าไปแล้ว
ดั่งที่เขาว่ากัน ถ้าหมาบ้ากัดคุณ แล้วคุณจะกัดตอบไหม?
ดังนั้นเขาจึงกลับไปนั่งลงที่นั่งของเขาอย่างใจเย็น จากนั้นก็มีนักศึกษาคนอื่นๆ ขึ้นไปแนะนำตัวต่อ
ลู่เสี้ยงหยางไม่มีเวลาฟังเรื่องไร้สาระของคนเหล่านี้ เขา หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วส่งข้อความถึงเสวนเพื่อถามเธอ ว่าเป็นอย่างไรบ้างในชั้นเรียน
เยสวนตอบกลับเขาทันที เธอบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี ชั้นเรียนของเธอมีความสามัคคีมาก และเธอก็ชอบ บรรยากาศในชั้นเรียนของเธอ
ฮ่าๆ ดีแล้วที่ชอบ ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกโล่งอก
และในขณะนี้ เขาก็ได้รับข้อความจากหวังเส
หวังเสว่บอกเขาว่าเธอได้เห็นลู่เสี่ยงหยางแล้ว เธอก็อยู่ใน ชั้นเรียนห้องถัดไปนี้เอง
ลู่เสี่ยงหยางยิ้มจางๆ และเตรียมจะพิมพ์ข้อความตอบหวัง เสว แต่ในขณะนี้ก็มีความเย็นเยือกปกคลุมรอบตัวเขา
เมื่อเงยหน้าขึ้นเขาก็เห็นจูหยู่เงินยืนอยู่ตรงหน้า
มือขาวเรียวของจูหยเงินกอดอกแล้วมองไปที่เลี้ยงหยาง
ด้วยสายตาเย็นชา
เดิมที่จูหยู่เงินก็ไม่ชอบเลี้ยงหยางอยู่แล้ว แต่เขายังกล้า เล่นโทรศัพท์ในชั้นเรียนแบบนี้ ซึ่งก็ทำให้เธอยิ่งไม่ชอบเขา เข้าไปใหญ่
ฉิบหาย! ถูกจับได้แล้ว
ลู่เสี้ยงหยางเขินจนทำตัวไม่ถูกและไม่รู้จะอธิบายยังไง
“ส่งโทรศัพท์มาให้ฉัน” มือขาวเรียวของหมู่เงินยื่นออก มาแล้วพูดกับลู่เสี้ยงหยาง
เลี้ยงหยางได้แต่เกาหัว เขาไม่กล้าขัดขืนคำสั่ง เพราะสิ่ง แรกที่นี่เป็นสถานศึกษาและเขาก็อยู่ในสถานะนักศึกษาด้วย ดังนั้นจึงต้องปฏิบัติตามกฎ ส่วนประการที่สองคือความ สามารถของเขายังไม่เพียงพอ เขารู้สึกได้ว่าหมู่เงินต้อง เหนือกว่าเขาอยู่แล้ว อย่างน้อยวิชาการต่อสู้ของเธออยู่ใน ระดับแปดแล้ว ส่วนของเขายังอยู่ที่ระดับเจ็ดเท่านั้น
อย่ามองวิชาการต่อสู้ของระดับเจ็ดกับระดับแปดแตกต่าง กันแค่ระดับเดียวเท่านั้น เพราะแค่ช่องว่างเดียว ในระดับนี้ก็ เหมือนกำแพงเมืองจีนที่โดดข้ามไม่ได้
ดังนั้นเขาจึงยื่นโทรศัพท์ไปให้เธอ โดย
นิ้ว!
ทันทีที่รับโทรศัพท์ของเขามา มือของหมู่เงินที่ยื่นออก นอกหน้าต่างแล้วทิ้งมันลงไป
ให้ตายเหอะ นี่มันวัยทองมาก่อนกำหนดหรือ! ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกตกใจ
ในขณะที่เพื่อนร่วมชั้นมองไปที่เลี้ยงหยางด้วยสีหน้าข
ฮ่าๆ ไอ้ลูกเขยกระจอกคนนี้ แต่คาบเรียนแรกก็ถูกคุณครู ทำโทษซะแล้ว ช่างไม่เอาไหนเลยจริงๆ
“ครั้งนี้แค่เดือนเท่านั้นนะ วันหลังกล้าเล่นโทรศัพท์ในคาบ เรียนอีก ฉันจะให้นายไปนอนคว่ำข้างล่างให้ทุกคนดู” จูห เงินพูดอย่างเย็นชาและจริงจัง
“ฮ่าๆ ๆ” เสียงหัวเราะในห้องดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง
ลู่เลี้ยงหยางหมดคำบรรยาย บ้าเอ๊ย! กูเป็นลูกเขยที่แต่ง เข้าบ้านผู้หญิงแล้วไง คนพวกนี้ชอบมองคนในแง่ลบจริงๆ
ไม่นานหลังจากนั้น คาบเรียนแรกก็ได้จบลง หลังจากพักสิบนาทีแล้วก็ต่อด้วยคาบเรียนที่สอง
คาบเรียนที่สองเป็นวิชาการใช้อาวุธ เนื่องจากครูสอนเป็น ชายแก่คนหนึ่ง ดังนั้นหลายคนไม่สนใจและนอนหลับไปใน ชั้นเรียน มีเพียงเสียงหยางที่นั่งฟังอย่างตั้งใจ
เขามาที่นี่เพื่อพัฒนาความรู้เกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ เขา หวังว่าสักวันเขาจะเข้าใจวิชานรกอมตะอย่างถ่องแท้
และแล้วสามคาบเรียนในช่วงบ่ายก็จบลงและถึงเวลาเลิก
เรียน
เลี้ยงหยางโทรถามเสวนว่าจะออกไปกินข้าวเย็นด้วย กันไหม แต่เสวนปฏิเสธเขาและปล่อยให้เขาไปกินคนเดียว เพราะเธอต้องไปกินข้าวกับเพื่อนร่วมชั้น
หลังจากเลี้ยงหยางวางสายลง เขาก็เตรียมตัวออกไปกิน ข้าวข้างนอก แต่ในขณะนี้ จางที่นั่งข้างเขาในชั้นเรียนได้ เรียกเขาไว้
“พี่หยาง เดี่ยวก่อนครับ”
เลี้ยงหยางหันกลับไปที่จางแล้วถามว่า “ว่าไง?”
จางสู้ยิ้มพูด “พี่ใหญ่ในหอพักบอกว่าให้เราทั้งสี่คนใน หอพักออกไปทานข้าวเย็นเพื่อสร้างความสัมพันธ์ด้วยกัน
ช่วงบ่ายวันนี้เสี่ยงหยางกลับไปที่หอพัก เขารู้ว่าพี่ใหญ่ ในหอพักเป็นลูกเศรษฐีจากไห่ง มีชื่อว่าเซียวไป เขาเป็น คนอัธยาศัยดี เพียงแต่เขามีอายุมากที่สุด ดังนั้นทุกคนจึง เรียกเขาว่าพี่ใหญ่ในหอพัก
“ดีเหมือนกัน” ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้าตอบตกลง
หลังจากนั้น เขากับจางก็ออกไปร้านอาหารนอกโรงเรียน
สิบนาทีต่อมา ทั้งสองได้มาถึงร้านอาหารอ
อาหารที่นี่ค่อนข้างแพง แค่กินทั่วไปก็มีค่าใช้จ่ายหลาย หมิ่นหยวนแล้ว
เมื่อเข้าไปในร้านอาหาร เลี้ยงหยางก็ได้เห็นเขียวไป กับฟ้านเจา
ฟ้านเจาเป็นน้องเล็กที่สุด ในหอพัก
ทันทีที่เลี้ยงหยางกับจางเข้าไปในห้องอาหาร เซียว ไปก็หัวเราะแล้วพูดว่า “รีบเข้ามานั่ง ไม่ต้องเกรงใจกันนะ เราเป็นเหมือนพี่น้องกันแล้ว คืนนี้อยากกินอะไรก็สั่งเลย มื้อ นี้ผมเลี้ยงเอง”
เลี้ยงหยางกับจางเดินเข้าไปหาที่นั่งแล้วนั่งลง
ขณะนี้เชียวไปกลอกตาแล้วพูดขึ้นอีกครั้ง “ผมเห็นว่า พวกเราทั้งสี่ต่างก็ยังโสดกันทุกคน คืนนี้ผมจึงเรียกสาวๆ จากชั้นปีที่ 1 มาสี่คน เดี๋ยวจะได้แอ้มหรือยังไงก็อยู่ที่ความสามารถของพวกเราแต่ละคนแล้วล่ะนะ”
“โห มีสาวๆ ด้วย” เมื่อได้ยินเช่นนี้ จางก็อดน้ำลายไหล ไม่ได้ เขาเป็นชายอ้วนบริสุทธิ์ที่ไม่เคยแตะต้องผู้หญิงมา ก่อนเลย ดังนั้นเขาจึงตั้งหน้าตั้งตารอพวกเธอ
ฟานเจายิ้มยางๆ และดูเหมือนว่าเขาไม่ได้สนใจสาวๆ เหล่านี้สักเท่าไหร่
ส่วนลู่เสี้ยงหยางได้แต่ขมวดคิ้วเบาๆ ในบรรดาสามพี่น้อง นี้ ฟานเขาเป็นคนเดียวที่เขามองความคิดไม่ออก
จากนั้นลู่เสี้ยงหยางก็ยิ้มพูดเบา ๆ “แต่ผมมีภรรยาแล้วนะ
ครับ”
เซียวมไปโบกมือแล้วพูดต่อ “เองก็แค่ลูกเขยแต่งเข้าบ้าน คนอื่นเขา จะนับเป็นเมียได้ยังไง? คู่ชีวิตแบบนี้ จะมีก็ได้ ไม่มี ก็ดี เราเป็นพี่น้องกันนะ เราจะสนับสนุนนายให้เจอคนที่นาย ชอบจริงๆ ”
เลี้ยงหยางได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่น
ไม่นานหลังจากนั้น ประตูห้องอาหารก็ถูกเปิดออก จากนั้น ก็มีสาวสวยสี่คนสี่สไตล์เดินเข้ามาในห้อง
เหล่าสาวสวยหาที่นั่งแล้วนั่งลง จากนั้นเซียวไปที่คุ้นเคย ก็ทักทายสาวสวยทั้งสี่คนนี้
ต่อมาตามคำขอของเซียวไป สาวสวยทั้งสี่ก็ได้แนะนำตัวเอง
สาวสวยทั้งสี่ก็มาจากชั้นปีที่หนึ่งห้องสอง
คนที่นั่งข้างๆ เขียวไปเรียกว่าจางเหมิง คนที่นั่งข้างๆ ฟ้า นเราเรียกว่าหวังชิงชิง คนที่นั่งข้างๆ จางสู้เรียกว่าหวีจัง และ คนที่นั่งข้างๆ ลู่เสี่ยงหยางเรียกว่าชิวสวย
จากนั้นทุกคนก็คุยไปด้วยและทานอาหารไปด้วย
เซียวโป๊ดูมีประสบการณ์โชกโชนมาก โดยไม่กี่อึดใจ จางเหมิงที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ถูกเขาแกล้งจนเหมือนเหยื่อติดเบ็ด ไปแล้ว
จางหน้าแดงตั้งแต่ต้นจนจบ เขาพยายามพูดคุยกับหวีจึง และหวีจึงก็ตอบกลับอย่างสุภาพทุกครั้ง
แต่ฟานเจ้านั้นนานๆ จะคุยกับหวังชิงชิง
ส่วนลู่เสี้ยงหยางกับชิวส่วยนั้นไม่พูดไม่จากันสักคำเลย เพราะตั้งแต่กู้ชิวส่วยนั่งลง เธอได้แต่ก้มหน้าก้มตาเล่น โทรศัพท์โดยไม่สนใจเขา
เห็นได้ชัดว่าคนกระจอกอย่างเลี้ยงหยางนั้นไม่ใช่ผู้ชาย ในอุดมคติที่เธอจะเลือกเป็นแฟนเลย
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ