บทที่ 280 นางผู้นี้นิสัยหยิ่งยโสโอหัง
บนรถ เมื่อหลิวต้าจู่ได้สติ ตกใจจนหน้าซีดเผือด กลัวจนตัว
หากมีคนเสียชีวิต เรื่องนี้จะจัดการยังไงดี?
หลิวห้าวรีบหันหน้าไปมองหลิวต้า แล้วพูดว่า “พ่อ ผมชน คนแล้ว ทํายังไงดี?
จางกุ้ยจู๋พูดปลอบใจไปว่า “ลูกไม่ต้องกลัว มีพ่อกับแม่อยู่ ที่นี่ด้วย ต่อให้ฟ้าถล่มลงมา ก็จะช่วยลูกแบกไว้
เลี้ยงหยางรู้สึกขบขันในใจ ครอบครัวนี้ช่างไร้เดียงสา คิดว่าตัวเองเป็นใคร ที่กล้าพูดว่าฟ้าถล่มลงมา ก็จะแบกรับ แทนได้?
เมื่อจางกุ้ย พูดจบ ก็ยื่นมือออกไปผลักหลิวต้าแล้วพูดว่า “คุณลงไปดูสิ คนที่ถูกชนเจ็บหนักไหม
หลิวต้าจู่รีบเปิดประตูแล้วลงจากรถ แล้วเดินไปดูที่บริเวณ ด้านหน้ารถ
ดูเสร็จก็กลับเข้ามานั่งบนรถ เขาตกใจจนเหงื่อผุดขึ้นที่ หน้าผาก พูดแบบไม่มีสติว่า “จบกัน คนที่หลิวห้าวชนคือ หญิงชรา ตอนนี้เธอนอนแนบนิ่งอยู่บนพื้น ผมเดาว่าอาจจะ ตายแล้วมั้ง
อะไรน่ะ?
เมื่อได้ยินเช่นนี้หลิวห้าวตกใจจนเกือบจะฉี่ราด รีบคว้า แขนของจางกุ้ยจ๋แล้วพูดว่า “แม่ รีบคิดวิธีช่วยผมหน่อย ผม ไม่อยากติดคุก”
ร่างกายของจางกุ้ยก็รู้สึกเหมือนควบคุมร่างกายไม่ได้ รู้สึกหนาวสะท้านถึงกระดูก เขามีลูกชายคนนี้เพียงแค่คน เดียว ถ้าหากว่าลูกต้องติดคุก แล้วชีวิตหลังจากนี้ของเธอจะ พึ่งพาใคร?
จางกุ้ยเป็นคนที่ค่อนข้างหน้าด้าน แค่พริบตาเดียว เมื่อ คิดได้ก็พูดไปว่า “แกกลัวทำไม? รถคันนี้ไม่ใช่ของแกสัก หน่อย ถึงชนคนตาย แกก็ไม่ใช่คนที่ต้องชดใช้ ”
เชียะ มันก็ใช่ รถคันนี้มันเป็นของหลิวจิ้ง ถึงชนคนตาย ก็ ให้เธอเป็นแพะรับผิดชอบความผิดตามกฎหมายแทนคน อื่น)
หลิวห้าวกับหลิวต้าถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ฮาๆ เมียคนนี้ฉลาดจริง ๆ
เลี้ยงหยางหน้านิ่วคิ้วขมวด หมายถึงไม่มีวิธี จำใจ อึดอัด) เพิ่งเคยพบเห็นคนที่ไร้ยางอายที่สุดในโลกก็คราวนี้
แหละ
และในเวลานี้ คนที่อยู่รอบ ๆ ตัวรถยังอยู่ยิ่งมากขึ้น มือว่าไปต่าง ๆ นานา
“แม่งฉิบหาย ในคนแล้ว ยังไม่รีบลงมาจากรถ พาคนเจ็บ ไปส่งโรงพยาบาลอีก
“โอ้ ช่างแล้งน้ำใจสิ้นดี ซนตนแล้วยังท่าเพิกเฉย
“แม่ง คนมีเงินสมัยนี้ไม่มีคุณสมบัติผู้ดีสักนิด คิดว่าขับรถ หรูแล้วเที่ยวชนคนได้เหรอ
เมื่อดูท่าทีคนพวกนี้แล้ว ครอบครัวของหลิวต้าจู่ไม่กล้าส่ง
เสียงเลย
แต่ถึงอย่างไรก็ต้องมีคนลงไปเคลียร์เรื่องนี้ จางกุ้ยก็พูด กับลู่เสี้ยงหยางว่า “แกไอ้คนไร้ค่าจะนั่งอยู่บนรถทำไม รีบลง ไปเคลียร์เรื่องนี้ให้จบเสีย
ลู่เสี้ยงหยางพูดด้วยเสียงเยือกเย็นว่า “คนที่ขับรถชนคน ไม่ใช่ผมสักหน่อย ลูกชายของคุณเก่งไม่ใช่เหรอ? ให้เขาไป เคลียร์เรื่องนี้ด้วยตัวเองสิ
“แก” จางกุ้ยจู๋พูดได้แค่ประโยคนี้ก็โกรธจนหน้าเขียว
อิ่ม หลิวต้าพูดเสียงผ่านลำคอ “ไอ้คนไร้ค่า ถ้าแกไม่ลง จากรถ ฉันจะได้โทรหาหลิวจิ้ง ให้เขาเป็นคนมาเคลียร์เรื่องนี้ ด้วยตัวเอง”
แม่ง อย่าพูดไร้ยางอายแบบนี้ได้ไหม
ลู่เสี่ยงหยางส่ายหัวอย่างเซ็งๆ หลิวจิ้งเพิ่งเจอเรื่องทุกข์ใจ ที่บริษัทต้องปิดลง เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ไม่ให้เธอรับรู้จะดีกว่า
ผลักประตูแล้วลงไปจากรถ
รีบเดินไปที่หน้ารถ ม่านตาของเลี้ยงหยางหดลงทันที แม่ งฉิบหาย นี่มันทางม้าลาย
หลิวหาวชนคนบนทางม้าลาย จะมีเหตุผลอะไรก็ไม่ สามารถมาหักล้างได้
ในตอนนี้เขาได้แต่ภาวนาให้ยายแก่คนนี้ ไม่มีอันตรายถึง
ชีวิต
เขารีบนั่งลง ตรวจดูอาการบาดเจ็บของยายแก่
นับว่ายังโชคดีที่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต เพียงแค่ขาขวา
ถูกชนจนกระดูกหัก
ลู่เสี้ยงหยางรีบโบกรถโดยสาร ส่งยายแก่คนนี้ไปโรง
พยาบาล
เมื่อไปถึงโรงพยาบาล ยายแก่ถูกส่งตัวไปห้องฉุกเฉิน เพื่อ
ทําการรักษาต่อไป
เวลาผ่านไปไม่นาน ญาติของยายแก่ก็มาถึงโรงพยาบาล
แล้ว
มีลูกชายสามคน และลูกสะใภ้สามคน
ลูกชายทั้งสามคนมีรูปร่างที่สูงใหญ่และยา หน้าตา ดุดัน ดูแล้วเอาเรื่องไม่ใช่น้อย
ลูกสะใภ้ทั้งสามคน ทุกคนล้วนแต่งตัวค่อนข้างเปิดเผย แต่งหน้าจัด ดูแล้วเหมือนสาวนั่งดริ้งในผับ
“แม่ง ใครเป็นคนขับรถชนแม่ ให้แสดงตัวออกมา กูจะ ขามันให้หัก” ลูกชายคนโตตะโกนด่าขึ้นมา
หลิวห้าวกลัวขึ้นมาทันที รีบไปหลบอยู่ข้างหลังของ จา งกุ้ยจู่กับหลิวต้าหู้
ซึ่งแน่นอนจางกุ้ยก็กลัวด้วยเช่นกัน ก็เลยดึงตัวหลิวต้า มานั่งอยู่ตรงหน้าเธอ
เลี้ยงหยางเอามือทั้งสองข้างกอดอก ทำเหมือนไม่มีอะไร เกี่ยวข้องกับเขาเลย
รอบตัวยังมีคนตาแก่ พวกป้า พวกเขาเห็นตอนที่เกิด อุบัติเหตุ หลังจากนั้นก็ตามล่เลี้ยงหยางพายายแก่มาส่งที่ โรงพยาบาล ตอนนี้พวกเขามือมาที่หลิวห้าวแล้วพูดว่า “เมื่อกี้พวกเราเห็นเขาเป็นคนขับรถ
แม่ง
ลูกชายทั้งสามคนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เดินอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้ามาทางครอบครัวของหลิวห้าว
แม่งฉิบหาย เรื่องนี้ พวกคุณคิดว่าจะจัดการยังไงดี? จะชดใช้เป็นเงิน หรือว่าอยากจะติดคุก? ” ลูกชายคนโตจ้องตา ถลน แล้วพูดขึ้น
หลิวต้าจูตกใจจนพูดอะไรไม่ออกไปเลยทีเดียว
จางกุ้ยไม่มีความรู้สึกผิดใจ แล้วพูดอย่างหยิ่งยโสว่า “แม่ของแกอายุมากแล้ว สายตาไม่ดี เป็นคนเดินมาชนรถ ของพวกเราเอง พวกเราไม่ขอค่าซ่อมรถจากพวกแก ก็ถือว่า ปรานมากแล้วนะ”
โอ้!
เมื่อได้ยินคําพูดเช่นนี้ คนรอบข้างก็วิพากษ์วิจารณ์ ไม่เคย คิดว่า จะมีผู้หญิงที่ไร้เหตุผลเช่นนี้อยู่บนโลกใบนี้
เลี้ยงหยางสายศีรษะจางกุ้ยช่างเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องอะไร เลย แล้วก็ชอบสอดทุกเรื่อง
หลิวห้าวขับรถชนคนบนทางม้าลาย ยังไงสักก็ต้องรับผิด ชอบทั้งหมด
“แม่ง! เมื่อกี้แกพูดว่าอะไรน่ะ? ดูสิว่ากูจะจัดการกับแกยัง ใ” ลูกชายคนรองเป็นคนที่อารมณ์ค่อนข้างรุนแรง เมื่อ ได้ยินคำพูดของจางกุ้ยก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที
ลูกชายคนที่สามเป็นพวกนักเลงอันธพาล ขณะนั้นเขาได้ ดึงมืดสปริงเล่มหนึ่งออกจากเสื้อ แล้วใช้มีดปลายแหลมคม นั้นชี้ไปทางจางกุ้ย แล้วพูดว่า “แม่ง เชื่อหรือไม่ว่ากูจะแทงมึงให้ตายตอนนี้เลย”
จางกุ้ยไม่กล้าพูดอะไรต่ออีก ตกใจจนหน้าซีดเหมือน
กระดาษ
หลิวต้าพยายามควบคุมสติ แล้วพูดว่า “ขอให้ทุกคน อย่าหุนหันพลันแล่น มีอะไรก็พูดกันดี ๆ ครอบครัวเรายินดี ชดใช้เป็นเงิน
ลูกชายคนโตยิ้มเยือกเย็น เขาชนิ้วขึ้นมาหนึ่งนิ้วแล้วพูด ว่า “เมื่อตกลงกันได้ง่ายๆ กูก็เป็นคนตรง ชดใช้ให้ครอบครัว เราหนึ่งล้าน เรื่องนี้ก็ถือว่าจบกันไป
อะไร?
หนึ่งล้าน?
หลิวต้าแทบกระอักเลือด เงินเก็บทั้งชีวิตของเธอยังไม่ถึง หนึ่งล้านด้วยซ้ำ
จางกุ้ยโมโหเลือดขึ้นหน้า ตะโกนด่าว่า “ แม่ง จะปล้น กันหรือไง ขอตั้งหนึ่งล้าน แม่ของแกแก่จนใกล้จะตายแล้ว มี ค่าเท่ากับเงินขนาดเหรอ?”
แม่งฉิบหาย โง่เง่าสิ้นดี!
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ก็ทำให้ลูกชายทั้งสามคนโกรธขึ้นมา
ทันที
ลูกชายคนรองได้เดินมา เขาดึงคอปกเสื้อของจางกุ้ย แล้วฝ่ามือของเขาก็ตบไปที่ใบหน้าของเธออย่างแรง
“แม่ง ถ้าแกยังด่าแม่กอีกค่า เชื่อหรือไม่ว่าวันนี้กูจะฉีก ปากมึงให้ขาดเลย แม่ง”
“โอ้ย!” จางกุ้ยจู่โดนตบจนอุทานเสียงดัง สมองรู้สึกมึนงง และอึ้งไป เธอคิดว่าตอนที่อยู่ชนบทเวลาทะเลาะกับใคร ก็จะ ใช้ไม้นี้ โดยการดาเออะโวยวายก็จะได้ผล ไม่คิดว่า ที่นี่จะมี คนที่เหนือกว่าเธอ
“แม่ง อีดอกทอง ปากของแกช่างเหม็นเน่าเสียจริง วันนี้จะ ให้แกได้เห็นฤทธิ์กู” ลูกชายคนรองตบไปที่ปากของจางกุ้ย แต่ยังรู้สึกไม่สาแก่ใจ จึงตบไปที่ใบหน้าอีกข้างหนึ่งของจา งกุ้ยจู๋
“อีดอกทอง เมื่อกี้แกเก่งนักไม่ใช่เหรอ ไม่มีเหตุผล) แน่ใจ ทำให้ดูอีกรอบหนึ่งสิ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ