บทที่ 266 จิ๋วโยวอมตะ
หลังจากที่อยู่บนเครื่องบินกว่าสองชั่วโมง ในที่สุดลู่เสี้ยง หยางก็เดินทางมาถึงเมืองหลวงจนได้ เขาตัดสินใจไปเยี่ยม อาจารย์ของเราเป็นอันดับแรก จึงไม่ได้ต่อสายหาที่บ้าน เพื่อ
ให้คนรถมารับตน
คู่เสี้ยงหยางเรียกแท็กซี่คันหนึ่ง เพื่อมุ่งไปยังที่อยู่อาศัย ของอาจารย์
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ลู่เสี้ยงหยางมาถึงคฤหาสน์หลังหนึ่งที่ อยู่ชานเมือง
ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของอาจารย์ของเขาเทพเทียนหัว เขาถูกส่งมาเรียนวิชาที่นี่ตั้งแต่ยังเล็ก ตอนนั้น ที่นี่เปรียบ
เสมือนฝันร้ายของเขา
เทพเทียนหัวเคร่งครัดต่อเขาตั้งแต่เขาจำความได้ ทุกครั้ง ที่เขาทำผิดกฎ เขาจะถูกทำโทษอย่างหนักเสมอ
นึกย้อนกลับไป เป็นเรื่องที่น่าสนใจเสียจริง หากไม่ใช่ ความเคร่งครัดของอาจารย์ จะมีเขาในทุกวันนี้ได้อย่างไร?
หลังใส่รหัสลับที่หน้าประตู ลู่เลี้ยงหยางผลักประตู คฤหาสน์เข้าไปด้านใน ภายในห้องโถง เทพเทียนหัวที่กำลังชงน้ำชาอยู่ เมื่อ ได้ยินเสียงฝีเท้า เขากล่าวโดยไม่แหงนหน้าขึ้นมอง “มาแล้ว เหรอ เร็วกว่าที่คิดเอาไว้”
สู่เสี้ยงหยางอยู่กับเขามาหลายปี ทั้งคู่สนิทสนมกันราวกับ พ่อลูก เพราะงั้นเขาไม่ต้องแหงนหน้าขึ้น ก็รู้ว่าผู้ที่มาใหม่คือ คู่เสี้ยงหยาง
“ศิษย์คำนับอาจารย์” ลู่เสี้ยงหยางโค้งคำนับแสดงความ เคารพอย่างนอบน้อม เทพเทียนหัวแหงนหน้าขึ้นมองลู่เสี้ยง หยาง พร้อมเอ่ยอย่างไม่พอใจ “เหตุใดช่วงนี้แกถึงได้ตุ้งติ้ง นัก แกรู้ไหม ฉันไม่ชอบพิธีรีตองมากที่สุด วันหลังสิ่งเหล่านี้ ไม่ต้องมีอีก”
ลู่เลี้ยงหยางพยักหน้ารับ ก่อนที่จะเดินเข้าไป นั่งลงตรง ข้ามกับเทพเทียนหัว
เทพเทียนหัวยื่นน้ำชาที่เพิ่งชงเสร็จเรียบร้อยไปตรงหน้า เขา พร้อมเอ่ย “ลองดื่มชานี่หน่อยเป็นไง?”
คู่เสี้ยงหยางยกขึ้นดื่ม “อาจารย์ ซานี่ไม่เลวเลย เพียงแต่ พิษของชาแรงเกินไป ท่านต้องการที่จะทำลายศิษย์รักของ ตนเองอย่างนั้นหรือ?”
เทพเทียนหัวพยักหน้า พร้อมกับหัวเราะออกมา “ศิษย์รัก ดูท่าหลายปีมานี้ วิชาแพทย์ของแกไม่ได้สูญเปล่า ไม่ทำให้ ฉันผิดหวัง” ในอดีต เทพเทียนหัวสอนวิชาต่อสู้ให้กับเขา และสืบทอด วิชาการใช้ยาพิษให้กับเขา ลู่เสิ้งหยางโตมากับการถูกยา พิษ และเพราะเขาเชี่ยวชาญในด้านยาพิษ เมื่อเขาไปร่ำเรียน วิชาแพทย์กับอาจารย์อื่น จึงได้ประสบความสำเร็จมาก
คู่เสี้ยงหยางหัวเราะออกมา ก่อนที่จะหยิบยาเม็ดหนึ่งออก มาโยนเข้าปาก
หลังน้ำชาลงกระเพาะ เทพเทียนหัวไออย่างรุนแรง กะทันหันอย่างไม่มีปีมีขลุ่ย ก่อนที่จะกระอักเลือดสีแดงสด ออกมา
“อาจารย์ ท่าน…ท่านเป็นอะไรไป?” ลู่เสี้ยงหยางเสีย อาการ เขาเพ่งพินิจเทพเทียนหัว ด้วยความเจ็บปวด
ตอนที่เขาไปจากเมืองหลวง เขาได้มาล้ำลากับเทพเทียน หัว ในตอนนั้น เทพเทียนหัวยังเป็นหัวดำ หลังตรง ร่างกาย แข็งแรง แต่บัดนี้กลับเต็มไปด้วยผมหงอก ลำตัวเองก็โค้งงอ เล็กน้อย แถมยังมีเส้นริ้วขึ้นบนใบหน้า โรครุมเร้า ไร้ความ กระจ่างใสเหมือนในอดีต
เมื่อลองคำนวณดูแล้ว ปีนี้เทพเทียนหัวปาเข้าไปเจ็ดสิบ เสียได้ ตามหลักแล้ว ความสามารถในระดับเขา ต้องไม่ดูแก่ ขนาดนี้ถึงจะถูก
คิ้วถูกขมวดกันเป็นปม สู่เสี้ยงหยางสัมผัสชีพจรของเทพ เทียนหัวอย่างตั้งใจ ชีพจรของเทพเทียนหัว ยังคงมีพลังอำนาจ เหมือนกับ แม่น้ำที่ไหลเวียน แต่ในพลังอำนาจ กลับมีพินาศหลบซ่อน อยู่ ชีพจรแห่งมรณะ
“อาจารย์เคยได้รับบาดเจ็บมาก่อน?” ลู่เสี้ยงหยางวินิจฉัย อย่างแม่นยำ
“อาจารย์ ใครทำให้ท่านบาดเจ็บถึงเพียงนี้?” ลู่เสี้ยง หยางเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ในใจเขา เทพเทียนหัวไม่ต่าง อะไรจากบิดาของเขา
เทพเทียนหัวสายหน้าปฏิเสธ “ทำไมแกถึงได้ขี้สงสัยถึง เพียงนี้? หากฉันบอกแกตอนนี้ ว่าใครเป็นคนทำฉัน แล้วแก จะแก้แค้นให้ฉันได้หรือ?”
ลู่เสี้ยงหยางไร้คำพูด ได้แต่ส่ายหน้า
เขารับรู้ได้ว่าอาจารย์ของเขานั้น เหนือกว่ายายแก่ที่จับ ตัวจ้างหรูเย็นไป ความสามารถที่น่ากลัวเช่นนี้ยังสามารถถูก โค่นล้มจนได้รับบาดเจ็บ แค่คิดก็รู้แล้ว ว่าความสามารถ ระดับนั้นน่าเกรงขามมากแค่ไหน
เทพเทียนหัวตบบ่าลู่เสี้ยงหยาง พร้อมเอ่ยอย่างตั้งใจ “โลกนี้กว้างกว่าที่แกคิดเอาไว้ บัดนี้ในสายตาผู้ที่เก่งกล้า จริงๆ แกเป็นการมีอยู่ที่เล็กนิดเดียว หากต้องการไปถึงจุดที่ สูงที่สุด ระยะทางของแกยังอีกยาวไกล” ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้ารับ ประโยคนี้ทำให้เลือดในกาย ของเขาสูบฉีด เขาไม่ยอมเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งมา โดยตลอด สิ่งที่เขาต้องการคือยืนอยู่บนจุดที่สูงที่สุด มีเพียง แค่ไปให้ถึงจุดนั้นเท่านั้น เขาถึงจะทำในสิ่งที่ตัวเขาอยาก ทำได้ ถึงจะสามารถปกป้องคนที่เขาต้องการปกป้องได้จริงๆ
การที่จ้าวหรูเย็นถูกลักพาตัวต่อหน้าต่อตาเขา สร้าง บาดแผลในใจเขาอย่างมาก
“สถานการณ์ร่างกายของอาจารย์ในตอนนี้ ฉันไม่รู้ว่าฉัน จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกนานสักแค่ไหน ตอนนี้ฉันจะส่งมอบ วิชาที่สูงที่สุดของสำนักจิ๋วโยวของเรา วิชาจิ๋วโยวอมตะ ต่อ ให้อีกหน่อยอาจารย์เป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ ก็ไม่มีอะไรที่ต้อง เสียใจอีกแล้ว” เทพเทียนหัวกล่าวขึ้นอย่างหนักแน่น
ได้ยินประโยค ลู่เสี้ยงหยางดวงตาแสบร้อน เขากลั้นไม่อยู่ น้ำตาแทบร่วงหล่น ทำไมถึงได้รู้สึกว่าอาจารย์จองเขากำลัง สั่งเสียยังไงอย่างงั้น
“อาจารย์ ร่างกายของท่านไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม?” ลู่เสี้ ยงหยางเอ่ยถาม อย่างเป็นกังวล
เทพเทียนหัวสายหน้า “ไม่เป็นไร ไม่ตายง่ายๆ หลอก” สู่เลี้ยงหยางตกอยู่ในความเงียบ ในใจอัตอันไปด้วย ความเจ็บปวดที่ยากจะอธิบาย เทพเทียนหัวถอนหายใจออกมาเชือกใหญ่ “คนที่ฝึกวิชา ต่อสู้ ควรเข้าใจในความเป็นความตาย การจากลาเป็นเรื่อง ข้าเร็วเท่านั้น ดูสภาพแกในตอนนี้สิ ท่าให้ฉันผิดหวังมาก จริงๆ”
เขาเอ่ยพลางหยิบหนังสือโบราณเล่มหนึ่งออกมาจากอก ยื่นให้กับลู่เสี้ยงหยาง
“รับเอาไว้ นี่เป็นวิชาที่สูงที่สุดของสำนักจิ๋วโยว วิชานรก อมตะ เอาไปศึกษาเองแล้วกัน” เทพเทียนหัวเอ่ยพลางยัด เคล็ดวิชาลงในมือของลู่เสี้ยงหยาง
ลูาเสี้ยงหยางก้มหน้าลงดูหนังสือในมือ เขารู้สึกได้เพียง ถึงความหนักอึ้งกะทันหัน
เทพเทียนหัวยกชาขึ้นจิบ ก่อนมองออกไปยังนอกหน้าต่าง เข้าสู่ห้วงแห่งความทรงจำ ก่อนเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “สำนักจิ๋วโยว ของเรามีกฎว่า ศิษย์ในสำนัก หากฝึกวิชานรกอมตะ ต้อง พึ่งพาตนเอง ห้ามขอคำแนะนำจากอาจารย์โดยเด็ดขาด เพราะงั้น หากแกต้องการฝึกวิชาที่สูงที่สักของสำนักจิ๋วโยว แกต้องพึ่งตัวแกเองแล้วล่ะ”
คู่เลี้ยงหยางพยักหน้ารับ ด้วยที่ท่าโหยหา
แต่ก่อน เทพเทียนสอนวิชาให้กับเขา เป็นเพียงวิชา ป้องกันตัวนอกสำนักทั่วๆ ไปเท่านั้น วิชาที่เขาจะฝึกในตอนนี้ ถึงจะนับได้ว่าฝึกวิชาในสำนักจริงๆ เสียที ได้ฝึกศิลปะการ ต่อสู้อย่างแท้จริง
สักพัก เทพเทียนหัวละสายตาจากนอกหน้าต่าง พลันหัน ไปทางสู่เสี้ยงหยาง “แต่ ก่อนที่จะฝึกวิชานรกอมตะ แกต้อง ทำเรื่องหนึ่งก่อน คือการเปิดตานเถียน”
“เพียงแค่เปิดดานเถียน แกถึงจะใช้ลมปราณได้ หรือที่คน ทั่วไปเรียกว่ากำลังภายใน การฝึกวิชานรกอมตะ ต้องพึ่งพา ลมปราณ”
ให้ตาย ลมปราณ? อย่างกับละครจอมยุทธในหนัง โทรทัศน์
ดูท่าละครที่เกี่ยวกับวรยุทธที่ตนเคยดู ไม่ได้มีเพียงใน อากาศเสียแล้ว หากแต่มีอยู่จริงๆ
ลู่เสี้ยงหยาดสูดหายใจเข้า เหมือนกับได้เปิดโลก ในเวลา เดียวกันเลือดในกายพลุ่งพล่าน จอมยุทธฝีมือดีในละคร ที่ บินข้ามกำแพง มีวิชาตัวเบาที่สามารถเกาะได้ไกลแสน แค่ คิดก็ตื่นเต้นแล้ว
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ