หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

บทที่ 256 ผมแพ้แล้ว



บทที่ 256 ผมแพ้แล้ว

ในขณะนี้ หวังไสวได้เดินฝานหวงต้าจู้ ทั้งสองได้เดินสวน ทางกันอย่างสมบูรณ์แบบ แต่หวงต้าจู้กลับไม่มีการตอบสนอง

ใดๆ

หวังไสว่ารู้สึกผิดหวังในใจเล็กน้อย ดูเหมือนว่าหวงต้าจู้จะ รู้ทันตำรวจและไม่กล้าลงมือกับใครอีก

ครั้งนี้ดูเหมือนว่าการวิเคราะห์ของลู่เสี้ยงหยางนั้นผิด พลาดไป เขาบอกว่าหวงต้าจู้เป็นฆาตกรโรคจิตที่ไม่เหมือนคน ทั่วไป นั่นไม่ใช่ความจริงเลย ตอนนี้เขารู้ตัวว่าถูกตำรวจจับตา และไม่กล้าตุกติกอะไรเลย

“บ้าเอ๊ย! ไหนเป็นแบบนี้? หัวหน้าหวังแต่งตัวซะขนาดนี้ แล้ว ทำไมหวงต้าจู้ยังห้ามใจไว้ได้?”

สมาชิกของทีมอาชญากรรมเริ่มรู้สึกท้อแท้ ถ้าคืนนี้หวง ต้าจูยังไม่คิดจะลงมือ วันหลังคงมีโอกาสน้อยมากที่เขาจะ ลงมืออีก

ในขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าหวงต้าจู้จะไม่มีการเคลื่อน ไหวใดๆ แล้ว สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พวกเขา เห็นเพียงหวงต้าจู้หันกลับมาและมีเหล็กหมาดแหลมเลื่อนออก มาจากแขนเสื้อของเขา จากนั้นเขาเดินตามหลังหวังไสว่แล้ บ้านเหล็กหมาดขึ้นและแทงมันลงบนหลังของหวังไสว

“หวังไสว่ระวัง”

“ระวังด้วยครับหัวหน้า”

ขณะนี้ ลู่เสี้ยงหยางและสมาชิกของทีมอาชญากรรมทุก คนต่างตะโกนเพื่อเตือนหวังไสว่าให้ระวังตัว สืบ!

แม้จะเป็นค่ำคืนที่ฝนตกโปรยปราย แต่แสงของเหล็ก หมาดยังคงสะท้อนจนทำให้ทุกคนไม่สามารถลืมตามองได้

เหล็กหมาดเล่มนั้นเหมือนมีสายล่อฟ้าที่มแทงเข้าไปที่ ร่างกายของหวังเสว่

หวังเสว่ยิ้มอย่างเฉยเมย แม้ว่าก่อนหน้านี้หวงต้าจู้ไม่ได้ ลงมือ แต่เธอไม่ได้ประมาทตัวของคนร้ายเลย เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของลู่เสี้ยงหยางกับสมาชิกของทีม อาชญากรรม เธอจึงรู้ว่าหวงต้าจู้ได้เริ่มลงมือกับเธอแล้ว

หวังไสว่หันกลับมาอย่างรวดเร็ว และสิ่งที่ดีงดูดสายตา ของเธอคือเหล็กหมาดอันแหลมคมในมือของหวงต้าจู้ทิ่มแทง ลงมากลางศีรษะของเธอ

โชคดีที่หวังไสว่ถอยหลังและหลบการโจมตีของหวงต้าจู้ ได้ทัน

หวงต้าจู่ในตอนนี้เหมือนควบคุมสติไม่ได้ เขาบนพึมพำ อย่างไม่หยุด และในเวลาเดียวกันก็ใช้เหล็กหมาดในมือแทง ไปที่หวังไสว่อีกครั้ง

หวังไสวไม่ได้เผชิญหน้ากับหวงต้าจู๊ เธอหลบมาที่หลัง ของเขา จากนั้นเตะที่ข้อเท้าของหวงต้าจู้

หวงต้าจู้ถูกเตะที่ข้อเท้าจนคุกเข่าลงกับพื้น จากนั้น โดยที่ไม่รอช้า หวังไสว่าก็เตะไปที่หัวของเขาอีกครั้งจนทำให้ เขาล้มลงกับพื้น

“แมรังเอ๊ย! ไอ้นางตัวแสบ กูจะฆ่ามีงให้ตาย!” หวงต้าจู้ ตะโกนและพยายามจะลุกขึ้นสู้ แต่หวังเสว่ก็เตะไปที่ตัวของ หวงต้าจู้อีกหลายครั้ง จากนั้นเธอก็แย่งเหล็กหมาดในมือเขา มาได้

สิ้นสุดช่วงวิกฤต

สมาชิกของทีมอาชญากรรมที่ซุ่มซ่อนอยู่รอบๆ ก็รีบออก ไปกดตัวของหวงต้าจู้อยู่กับพื้น ส่วนลู่เสี้ยงหยางก็เดินออกมาจากใต้ชายคาด้วยรอยยิ้ม

หวังไสว่ากล้าหาญกว่าที่เขาคิดจริงๆ

“ยินดีด้วยนะครับ คุณเสร็จสิ้นภารกิจคดีฆาตกรรมต่อ เนื่องแล้ว คงต้องพักผ่อนสักสองสามวันแล้วล่ะ” ลู่เสี้ยงหยาง

พูด

หวังไสว่ากล่าวคำขอบคุณจากใจ “ขอบคุณนะ รอกลับ สถานีตำรวจก่อน ฉันจะยื่นเรื่องขอรางวัลตอบแทนให้กับคุณ นะ แล้วคุณอยากได้อะไรเป็นพิเศษไหม?”

ลู่เสี้ยงหยางได้แต่จ้องมองหวังเสว่อย่างเงียบๆ

ในค่ำคืนนี้ เพื่อจะเป็นเหยื่อล่อให้หวงต้าจู้ติดกับ หวังไสว่ จำเป็นต้องใส่ชุดเปิดอกและกระโปรงสั้น หลังจากที่ต่อสู้กับ คนร้ายท่ามกลางสายฝนเสร็จ เธอก็เปียกโชกไปทั้งตัว ในสถานการณ์แบบนี้ ทำให้เสื้อผ้าของเธอแนบสนิทกับ

เรือนร่าง จึงเผยให้เห็นถึงหุ่นอันเซ็กซี่ที่สุดของเธอ มันเป็นความรู้สึกของการมองดอกไม้ในสายหมอก มัน สามารถกระตุ้นความต้องการของผู้ชายได้ ดังนั้นลู่เสี้ยงหยาง จึงอึ้งกับภาพที่เห็นอย่างปฏิเสธไม่ได้

หวังเสว่ตั้งใจสังเกตแววตาของลู่เสี้ยงหยาง จากนั้นเธอ ก้มมองตัวเอง ทันใดนั้นเธอถึงรู้ว่าลู่เสี้ยงหยางกำลังคิดไม่ซื่อ กับเธออยู่ เธอจึงรีบเอามือปิดหน้าอกแล้วตะโกนด่า “ไอ้คน ลามก คุณมองอะไรอยู่ ถ้ายังกล้ามองอีกฉันจะควักลูกตาของ คุณออกมาเลยนะ!”

“อะแฮ่ม!” สู่เสี้ยงหยางแกล้งไอแห้งๆ แล้วมองไปทางอื่น

อย่างทำตัวไม่ถูก

แต่ฉากที่เขาเห็นมันเหมือนกับการแตกรากและแตกหน่อ และทำให้เขาภาพติดตา

ไม่คิดเลยว่าหวังเสว่จะชอบชุดชั้นในลูกไม้สีดำ เธอดูเหมือนจะเป็นผู้หญิงที่ชอบการท้าทายนะ

หลังจากนั้น โดยอยู่ภายใต้คำสั่งของหวังไสว่ สมาชิก ของทีมอาชญากรรมก็ใส่กุญแจมือหวงต้าจู้แล้วพาตัวเขาขึ้น รถกลับไปที่สถานีตำรวจและเริ่มการสอบปากคำทันที

เรื่องนี้ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนในสถานีถึงกับตะลึง และเฉินเหลยก็ได้เฝ้าดูการสอบปากคำนอกห้อง สอบสวนเหมือนกัน

ตั้งแต่ต้นจนจบเฉินเหลยไม่เคยสงสัยหวงต้าจู้เลย แล้ว นับประสาอะไรที่เขาต้องเชื่อว่าหวงต้าจู้เป็นฆาตกรสุดโหด

ในขณะนี้ เขามองไปที่หวังไสว่ากับลู่เสี้ยงหยางแล้วพูด อย่างเย้ยหยัน “พวกคุณทั้งสองคงไม่ได้กลัวแพ้จนต้องจับโจร กระจอกคนนี้มาเป็นฆาตกรสุดโหดหรอกนะ? ฮ่าๆ ๆ พวกคุณ จะไร้เดียงสาเกินไปแล้ว คดีแบบนี้มันต้องมีหลักฐานชัดเจน พอนะครับ ผมจะบอกอะไรกับพวกคุณหน่อยนะ เดี๋ยวภาพใน ห้องสอบสวนจะทำให้พวกคุณทั้งสองเสียหน้าอย่างแน่นอน ผมว่าเอางี้ดีกว่า พวกคุณรีบออกไปจากห้องนี้ให้เร็วที่สุด จะ ได้ไม่ต้องอับอายขายหน้าต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคน”

หวังไสว่พูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ผู้เชี่ยวชาญเฉิน กรุณา อย่างหมิ่นประมาทจรรยาบรรณในวิชาชีพของฉันนะคะ” สู่เสี้ยงหยางยิ้มอย่างเฉยเมย “จะเป็นฆาตกรตัวจริงหรือ ไม่เดี๋ยวเราก็จะได้รู้ความจริงแล้ว จริงด้วยสิ คุณผู้เชี่ยวชาญ

เฉินครับ คุณพร้อมที่จะขอโทษผมแล้วหรือยัง?”

“เหอะ พร่ำอะไรของคุณ โรคหวาดระแวงกำเริบเหรอ?” เฉินเหลยพูดอย่างไม่เกรงใจ “รอให้ผมจับฆาตกรตัวจริงได้ ก่อน แล้วคุณจะรู้ว่าสิ่งที่คุณคิดนั้นมันไม่ต่างอะไรกับเด็กสาม ขวบ”

ณ ขณะนี้

การสอบปากคำในห้องสอบสวนก็เริ่มขึ้น ที่สิงยังคงรับ ผิดชอบในการสอบปากคำหวงต้าจู้

ในคืนนี้หวงต้าจู้ถูกจับได้อย่างคาหนังคาเขาและไม่ สามารถปฏิเสธได้อีก ดังนั้นเขาจึงนั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างสงบ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ผมยอมรับว่าการฆาตกรรมก่อนหน้านี้ ทั้งหมดในเมืองไท่ผิงเป็นฝีมือของผม แต่ผมมีสิ่งหนึ่งที่อยาก ขอ ผมหวังว่าผมจะถูกศาลตัดสินประหารชีวิตโดยเร็วที่สุด ให้ ผมได้ตายอย่างสบายใจสักทีเถอะครับ”

เก่สี่สิงขมวดคิ้วถามอย่าเคร่งขรึม “ทำไมคุณถึงฆ่าพวก เธอ คุณช่วยบอกเราเกี่ยวกับแรงจูงใจในการกระทำความผิด ได้ไหม?”

รอยยิ้มบนใบหน้าของหวงต้าจู้ค่อยๆ หายไปและกลาย เป็นความโกรธแค้น “แม่ของผมทำร้ายผมมาตลอดตั้งแต่ผม ยังเป็นเด็ก เธอทำให้ผมอยู่ในเงามืดมาตลอด จนผมโตขึ้น ซึ่ง ไม่ง่ายเลยที่ผมจะหลุดพ้นไปได้ จากนั้นผมได้เจอกับผู้หญิง คนหนึ่งที่ผมรัก ผมแต่งงานกับเธอ แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ทรยศ ต่อชีวิตคู่ของผม” เมื่อพูดถึงจุดนี้ กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขาก็บิดเบี้ยวไป ทีละส่วน “ผู้หญิงมันไม่มีดีกันสักคน จิตใจของพวกมันเต็มไป ด้วยความสกปรกและน่ารังเกียจ ผมเกลียดพวกมัน ผมจะฆ่า พวกมันให้หมด”

เมื่อเขาพูดจบ บรรยากาศในห้องสอบสวนก็ตกอยู่ใน ความเงียบงัน

แม้ว่าหวงต้าจู้จะเป็นฆาตกรชั่วที่ให้อภัยไม่ได้ แต่เขาก็ เคยตกเป็นเหยื่อที่ถูกทำร้ายมาก่อน

ดังนั้นทุกคนทำได้เพียงเห็นอกเห็นใจกับอดีตที่ผ่านมา ของหวงต้าจู้ แต่สุดท้ายแล้วเขาก็หนีไม่พ้นการลงโทษของ กฎหมายอยู่ดี

ด้านนอกห้องสอบสวน

เมื่อได้ยินหวงต้าจู้สารภาพผิด ร่างกายของเฉินเหลยก็ แข็งที่อทันที ความตกตะลึง ความเหลือเชื่อและความอัปยศ อดสูของความล้มเหลวปกคลุมใบหน้าของเขาในทันที

ฆาตกรของการฆาตกรรมต่อเนื่องมันกลับกลายเป็นคน ธรรมดาอย่างหวงต้าจู้ได้อย่างไร

ที่แน่ๆ ในการสอบสวนผู้ต้องสงสัยครั้งแรก เฉินเหลยก็ ได้ตัดชื่อของหวงต้าจู้ออกไปแล้ว

ก่อนที่หวงต้าจู้จะสารภาพผิดด้วยตนเอง เขายังไม่เชื่อว่า

คนอย่างหวงต้าจู้จะเป็นฆาตกรในคดีฆาตกรรมต่อเนื่องได้

เฉินเหลยได้แต่หายใจเข้าลึกๆ และไม่กล้าสบตาลู่เสี้ยง

หยาง เขาแพ้แล้ว แพ้อย่างสิ้นเชิง

“ผม…ผมแพ้แล้ว” ใบหน้าของเฉินเหลยรู้สึกอับอาย เขาอดไม่ได้ที่จะมุดรูหนีไป จากนั้นเขาหันกลับมาโค้งคำนับ ให้กับลู่เสี้ยงหยางอย่างสุดซึ้ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ