หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

บทที่ 228 เขาช่างกะล่อนจริงๆ



บทที่ 228 เขาช่างกะล่อนจริงๆ

“ขอบคุณในความปรารถนาดีของคุณชายฉัน แต่ว่าเรื่องนี้ ฉันได้ให้คำสัญญากับครอบครัวไปแล้ว ฉันจะคิดหาวิธีเอง” หลังจากหลิ่วหรูยู่ฟังคำพูดของฉินหยุนเฟยจบ ก็เกิดความไม่ พอใจ จึงพูดตอบ

ทีแรกครอบครัวจะให้เธอแต่งงานกับฉินหยุนเฟย เธอจึง วางเดิมพันกับครอบครัว

ถ้าหากอาศัยความสามารถของตนเอง ทำให้หอการค้า ช่วยเหลือตระกูลหลิ่วของพวกเธอได้ เธอก็ไม่จำเป็นต้อง แต่งงานกับฉินหยุนเฟย

ไม่อย่างนั้น เธอได้เพียงฟังการจัดแจงของครอบครัว แต่งงานกับฉินหยุนเฟยเพื่อผลประโยชน์ของครอบครัว

“อะไรนะ? เธอจะหาวิธีเอง? อย่าพูดให้ขำเลย ประธานหอ การค้าปินเหอจะไว้หน้าเธอหรอ? หี มาขนาดนี้แล้ว อย่า พูดจาอวดเก่งหน่อยเลย คิดให้ดีว่าจะอุทิศตนให้ครอบครัว อย่าจริงจริงจังจังยังไงเถอะ” สวีฉินเหล่มองหลิ่วหรูยู่ จากนั้น ก็หันไปยิ้มแย้มให้ฉินหยุนเฟยแล้วเอ่ยถาม “หยุนเฟย เรื่องนี้ นายมีความมั่นใจไหม?”

ฉินหยุนเฟยพยักหน้า พูดขึ้น “ตระกูลฉินของผมมีความ บทที่ 228 เขาช่างกะล่อนจริงๆ

“ขอบคุณในความปรารถนาดีของคุณชายฉัน แต่ว่าเรื่องนี้ ฉันได้ให้คำสัญญากับครอบครัวไปแล้ว ฉันจะคิดหาวิธีเอง” หลังจากหลิ่วหรูยู่ฟังคำพูดของฉินหยุนเฟยจบ ก็เกิดความไม่ พอใจ จึงพูดตอบ

ทีแรกครอบครัวจะให้เธอแต่งงานกับฉินหยุนเฟย เธอจึง วางเดิมพันกับครอบครัว

ถ้าหากอาศัยความสามารถของตนเอง ทำให้หอการค้า ช่วยเหลือตระกูลหลิ่วของพวกเธอได้ เธอก็ไม่จำเป็นต้อง แต่งงานกับฉินหยุนเฟย

ไม่อย่างนั้น เธอได้เพียงฟังการจัดแจงของครอบครัว แต่งงานกับฉินหยุนเฟยเพื่อผลประโยชน์ของครอบครัว

“อะไรนะ? เธอจะหาวิธีเอง? อย่าพูดให้ขำเลย ประธานหอ การค้าปินเหอจะไว้หน้าเธอหรอ? หี มาขนาดนี้แล้ว อย่า พูดจาอวดเก่งหน่อยเลย คิดให้ดีว่าจะอุทิศตนให้ครอบครัว อย่าจริงจริงจังจังยังไงเถอะ” สวีฉินเหล่มองหลิ่วหรูยู่ จากนั้น ก็หันไปยิ้มแย้มให้ฉินหยุนเฟยแล้วเอ่ยถาม “หยุนเฟย เรื่องนี้ นายมีความมั่นใจไหม?”

ฉินหยุนเฟยพยักหน้า พูดขึ้น “ตระกูลฉินของผมมีความ ร่วมมือหลายอย่างกับหอการค้าของไห่ตง หอการค้าให้ดง กับหอการค้าปืนเหออยู่ในระบบเดียวกัน แค่เพียงผมเอ่ย ปาก หอการค้าของปืนเหอไม่มีทางปฏิเสธได้”

ได้ยินคำนี้ สวีฉินก็ตื่นเต้นมาก พูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ดี ดีดี หยุนเฟยทำดีมาก ให้นายมาเป็นลูกเขยของพวกเรา ตระกูลหลิ่ว เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดจริงๆ”

ฉินหยุนเฟย ยิ้มบางๆ ในที่สุดสายตาของเขาก็ตกลงบน ตัวของลู่เสี่ยงหยาง แล้วพูดอย่างเหยียดหยาม “คุณค่าของ คนอยู่ที่การรู้ตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นด้านครอบครัว ภูมิหลัง หรือ ความสามารถของตัวบุคคล แกกับหรูยู่อยู่กันคนล่ะโลก แก อยู่กับเธอไม่ใช่ว่าถลุงเงินเธอหรอ แมงดาอย่างแกฉันเห็นมา เยอะแล้ว เบื้องหน้าดูดีมีเสน่ห์ แต่ที่จริงในกระดูกสกปรก โสมม”

ขณะที่พูด เขาก็ยกมือหยิบบัตรธนาคารออกมาจาก กระเป๋า โยนไปที่เท้าของลู่เสี้ยงหยาง แล้วพูดอย่างหยิ่ง ผยอง “ในบัตรมีเงินอยู่หนึ่งล้าน เอามันไป แล้วรีบใสหัวไป ซะ หลังจากนี้อย่าโผล่หัวมาข้างกายหรูยู่อีก”

ลู่เสี้ยงหยางไม่โกรธแต่ยิ้ม “แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร? กล้ามาทำกร่างต่อหน้าฉัน?”

ฟังคำพูดของลู่เสี้ยงหยาง รอยยิ้มบนใบหน้าของฉินหยุ นเฟยก็ค่อยๆที่อลง มองไปที่ลู่เสี้ยงหยางแล้วพูดเน้นทีละค่า ร่วมมือหลายอย่างกับหอการค้าของไห่ตง หอการค้าให้ดง กับหอการค้าปืนเหออยู่ในระบบเดียวกัน แค่เพียงผมเอ่ย ปาก หอการค้าของปืนเหอไม่มีทางปฏิเสธได้”

ได้ยินคำนี้ สวีฉินก็ตื่นเต้นมาก พูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ดี ดีดี หยุนเฟยทำดีมาก ให้นายมาเป็นลูกเขยของพวกเรา ตระกูลหลิ่ว เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดจริงๆ”

ฉินหยุนเฟย ยิ้มบางๆ ในที่สุดสายตาของเขาก็ตกลงบน ตัวของลู่เสี่ยงหยาง แล้วพูดอย่างเหยียดหยาม “คุณค่าของ คนอยู่ที่การรู้ตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นด้านครอบครัว ภูมิหลัง หรือ ความสามารถของตัวบุคคล แกกับหรูยู่อยู่กันคนล่ะโลก แก อยู่กับเธอไม่ใช่ว่าถลุงเงินเธอหรอ แมงดาอย่างแกฉันเห็นมา เยอะแล้ว เบื้องหน้าดูดีมีเสน่ห์ แต่ที่จริงในกระดูกสกปรก โสมม”

ขณะที่พูด เขาก็ยกมือหยิบบัตรธนาคารออกมาจาก กระเป๋า โยนไปที่เท้าของลู่เสี้ยงหยาง แล้วพูดอย่างหยิ่ง ผยอง “ในบัตรมีเงินอยู่หนึ่งล้าน เอามันไป แล้วรีบใสหัวไป ซะ หลังจากนี้อย่าโผล่หัวมาข้างกายหรูยู่อีก”

ลู่เสี้ยงหยางไม่โกรธแต่ยิ้ม “แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร? กล้ามาทำกร่างต่อหน้าฉัน?”

ฟังคำพูดของลู่เสี้ยงหยาง รอยยิ้มบนใบหน้าของฉินหยุ นเฟยก็ค่อยๆที่อลง มองไปที่ลู่เสี้ยงหยางแล้วพูดเน้นทีละค่า “ฉันเป็นใคร? ฉันเป็นครอบครัวที่มีชื่อเสียงในให่ตง คุณชาย ของตระกูลฉิน”

ตระกูลฉินแห่งไห่ตง ไม่กี่ปีมานี้ มีชื่อเสียงโด่งดังในให่ดง อย่างมาก เหมือนว่าพวกเขาได้กลายเป็นผู้ครอบครอง ท้องฟ้าด้วยมือเดียวแห่งไหดงที่มีตัวตน คนที่กล้าจะขัดขวาง พวกเขา น้อยนิดจนแทบไม่มี

เขาเชื่อว่า แม้แต่ไอ้กระจอกอย่างลู่เสี้ยงหยาง ก็เคยได้ยิน ชื่อเสียงของตระกูลฉิน เขาพูดคำนี้ออกไป จะต้องทำให้ลู่เสี้ ยงหยางตื่นตกใจแน่นอน

แต่ทว่า การตอบสนองต่อจากนั้นของลู่เสี้ยงหยาง เกิน ความคาดหมายของเขาโดยสิ้นเชิง

ลู่เสี้ยงหยางใบหน้าเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม ยิ้ม แล้วพูดอย่างเย้ยหยัน “ก็แค่ตระกูลฉินจากไห่ตง ถือเป็น อะไรได้? ในสายตาของฉันก็เหมือนกับเห็บหมัด เหยียบที่ เดียวก็ตาย”

เชี่ย น้ำเสียงบ้าคลั่งมาก

พูดคำนี้ออกไป ทำให้สวีฉินกับหลิ่วหรูยู่ตาค้างอ้าปาก

ทันที งงเป็นไก่ตาแตก

ผู้แข็งแกร่งที่ปกคลุมไห่ตงด้วยมือเดียว เป็นแค่เห็บหมัด ในสายตาลู่เสี้ยงหยาง? “ฉันเป็นใคร? ฉันเป็นครอบครัวที่มีชื่อเสียงในให่ตง คุณชาย ของตระกูลฉิน”

ตระกูลฉินแห่งไห่ตง ไม่กี่ปีมานี้ มีชื่อเสียงโด่งดังในให่ดง อย่างมาก เหมือนว่าพวกเขาได้กลายเป็นผู้ครอบครอง ท้องฟ้าด้วยมือเดียวแห่งไหดงที่มีตัวตน คนที่กล้าจะขัดขวาง พวกเขา น้อยนิดจนแทบไม่มี

เขาเชื่อว่า แม้แต่ไอ้กระจอกอย่างลู่เสี้ยงหยาง ก็เคยได้ยิน ชื่อเสียงของตระกูลฉิน เขาพูดคำนี้ออกไป จะต้องทำให้ลู่เสี้ ยงหยางตื่นตกใจแน่นอน

แต่ทว่า การตอบสนองต่อจากนั้นของลู่เสี้ยงหยาง เกิน ความคาดหมายของเขาโดยสิ้นเชิง

ลู่เสี้ยงหยางใบหน้าเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม ยิ้ม แล้วพูดอย่างเย้ยหยัน “ก็แค่ตระกูลฉินจากไห่ตง ถือเป็น อะไรได้? ในสายตาของฉันก็เหมือนกับเห็บหมัด เหยียบที่ เดียวก็ตาย”

เชี่ย น้ำเสียงบ้าคลั่งมาก

พูดคำนี้ออกไป ทำให้สวีฉินกับหลิ่วหรูยู่ตาค้างอ้าปาก

ทันที งงเป็นไก่ตาแตก

ผู้แข็งแกร่งที่ปกคลุมไห่ตงด้วยมือเดียว เป็นแค่เห็บหมัด ในสายตาลู่เสี้ยงหยาง? แม่ถึงสิ!

จะขี้โม้ก็ให้มันมีเค้าโครงหน่อยได้ไหม?

“ที ลู่เสี้ยงหยาง ไอ้ขยะที่ไม่ได้ความทำแต่เรื่องวุ่นวาย อย่างแก เอาความกล้ามาจากไหน พูดจาอวดเก่ง” สวีฉิน หัวเราะเย็นชาเป็นคนแรก

หลิวหรูยู่ถอนหายใจในใจ ลู่เสี้ยงหยางไม่ว่าอยู่ใน สถานการณ์แบบไหน ก็ยังคงกล้าพูดจาใหญ่โต

แต่เธอชอบ

“น่าสนใจ ไอ้เด็กไม่รู้ประสาที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ซัก วันหนึ่ง แกจะได้รู้ราคาของความหยิ่งผยอง” รอยยิ้มบน ใบหน้าของฉินหยุนเฟยเยือกเย็นโดยสมบูรณ์ แววตาเผย เจตนาฆ่า

คนที่กล้าดูหมิ่นตระกูลฉินของเขา มีเพียงจุดจบเดียว ตาย!

ลู่เสี้ยงหยางยิ้มน้อยๆ มองไปที่ฉินหยุนเฟยแล้วพูด “ฉัน คือคนที่แก รวมถึงตระกูลฉินที่อยู่เบื้องหลังแก เอื้อมไม่ถึง กลับไปบอกคนในตระกูลฉินของแก ไม่อยากหายสาบสูญไป จากไห่ตง ก็อย่าระรานคนอื่นมากเกินไป ทะนุถนอมชีวิตใน ปัจจุบันไว้ให้ดี”

ฉินหยุนเฟยสายหัว ถือเอาคำพูดของลู่เสี้ยงหยางเป็นการ แม่ถึงสิ!

จะขี้โม้ก็ให้มันมีเค้าโครงหน่อยได้ไหม?

“ที ลู่เสี้ยงหยาง ไอ้ขยะที่ไม่ได้ความทำแต่เรื่องวุ่นวาย อย่างแก เอาความกล้ามาจากไหน พูดจาอวดเก่ง” สวีฉิน หัวเราะเย็นชาเป็นคนแรก

หลิวหรูยู่ถอนหายใจในใจ ลู่เสี้ยงหยางไม่ว่าอยู่ใน สถานการณ์แบบไหน ก็ยังคงกล้าพูดจาใหญ่โต

แต่เธอชอบ

“น่าสนใจ ไอ้เด็กไม่รู้ประสาที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ซัก วันหนึ่ง แกจะได้รู้ราคาของความหยิ่งผยอง” รอยยิ้มบน ใบหน้าของฉินหยุนเฟยเยือกเย็นโดยสมบูรณ์ แววตาเผย เจตนาฆ่า

คนที่กล้าดูหมิ่นตระกูลฉินของเขา มีเพียงจุดจบเดียว ตาย!

ลู่เสี้ยงหยางยิ้มน้อยๆ มองไปที่ฉินหยุนเฟยแล้วพูด “ฉัน คือคนที่แก รวมถึงตระกูลฉินที่อยู่เบื้องหลังแก เอื้อมไม่ถึง กลับไปบอกคนในตระกูลฉินของแก ไม่อยากหายสาบสูญไป จากไห่ตง ก็อย่าระรานคนอื่นมากเกินไป ทะนุถนอมชีวิตใน ปัจจุบันไว้ให้ดี”

ฉินหยุนเฟยสายหัว ถือเอาคำพูดของลู่เสี้ยงหยางเป็นการ พูดจาเย่อหยิ่งโดยสมบูรณ์ ไม่ได้พูดอะไรต่อ ในใจมี แผนการนับไม่ถ้วน จะทำให้สู่เสี้ยงหยางตาย

แม่ง ไอ้เด็กนี้มาสวมเขาให้ตนเองก่อน จากนั้นก็พูดจา หยิ่งผยองแบบนี้ ไม่เคารพพวกเขาตระกูลฉิน นี่มันรนหาที่ ตายชัดๆ

นาทีต่อมา ฉินหยุนเฟยก็มองไปที่หลิ่วหรูยู่ ใบหน้ากลับ มามีความอ่อนโยนอีกครั้ง “หรูยู่ เรื่องของครอบครัวเธอเธอ ไม่ต้องคิดมาก ฉันจะช่วยเธอจัดการเอง ในช่วงนี้ เธอต้องทำ เพียงแค่เรื่องเดียว คือแต่งงานกับฉันอย่างสบายใจก็พอ”

พูดจบ เขาก็หันตัวออกจากร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่ง

ไป

สวีฉินโกรธมาก ทั้งหมดเป็นเพราะลู่เสี้ยงหยางทำให้ฉิน หยุนเฟยอารมณ์เสียจากไป ถ้าฉินหยุนเฟยถือสาเรื่องนี้ งั้น ความร่วมมือของตระกูลหลิ่วกับตระกูลฉินหลังจากนี้ เกรงว่า จะไม่ราบรื่น หลังจากพูดเตือนลู่เสี้ยงหยาง ให้เขาออกไป จากหลิ่วหรูยู่โดยเร็วแล้ว จึงรีบไล่ตามออกไป

หลิ่วหรูยู่วันนี้เรียกลู่เสี้ยงหยางมา เพียงแค่อยากจะ ขอบคุณเขา กลับคิดไม่ถึงว่าจะมาเจอแม่ตัวเอง ทำให้เขา โดนแม่ตัวเองโจมตี ดังนั้นจึงรู้สึกเสียใจมาก พูดขอโทษลู่เสี้ ยงหยาง “ที่แม่ฉันพูดไปเมื่อกี้ นายอย่าเอามาใส่ใจ เธอไม่ ได้รังเกียจ เพียงแต่อารมณ์ไม่ค่อยดี” พูดจาเย่อหยิ่งโดยสมบูรณ์ ไม่ได้พูดอะไรต่อ ในใจมี แผนการนับไม่ถ้วน จะทำให้สู่เสี้ยงหยางตาย

แม่ง ไอ้เด็กนี้มาสวมเขาให้ตนเองก่อน จากนั้นก็พูดจา หยิ่งผยองแบบนี้ ไม่เคารพพวกเขาตระกูลฉิน นี่มันรนหาที่ ตายชัดๆ

นาทีต่อมา ฉินหยุนเฟยก็มองไปที่หลิ่วหรูยู่ ใบหน้ากลับ มามีความอ่อนโยนอีกครั้ง “หรูยู่ เรื่องของครอบครัวเธอเธอ ไม่ต้องคิดมาก ฉันจะช่วยเธอจัดการเอง ในช่วงนี้ เธอต้องทำ เพียงแค่เรื่องเดียว คือแต่งงานกับฉันอย่างสบายใจก็พอ”

พูดจบ เขาก็หันตัวออกจากร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่ง

ไป

สวีฉินโกรธมาก ทั้งหมดเป็นเพราะลู่เสี้ยงหยางทำให้ฉิน หยุนเฟยอารมณ์เสียจากไป ถ้าฉินหยุนเฟยถือสาเรื่องนี้ งั้น ความร่วมมือของตระกูลหลิ่วกับตระกูลฉินหลังจากนี้ เกรงว่า จะไม่ราบรื่น หลังจากพูดเตือนลู่เสี้ยงหยาง ให้เขาออกไป จากหลิ่วหรูยู่โดยเร็วแล้ว จึงรีบไล่ตามออกไป

หลิ่วหรูยู่วันนี้เรียกลู่เสี้ยงหยางมา เพียงแค่อยากจะ ขอบคุณเขา กลับคิดไม่ถึงว่าจะมาเจอแม่ตัวเอง ทำให้เขา โดนแม่ตัวเองโจมตี ดังนั้นจึงรู้สึกเสียใจมาก พูดขอโทษลู่เสี้ ยงหยาง “ที่แม่ฉันพูดไปเมื่อกี้ นายอย่าเอามาใส่ใจ เธอไม่ ได้รังเกียจ เพียงแต่อารมณ์ไม่ค่อยดี” สู่เสี้ยงหยางยิ้ม พูดตอบ “ฉันเข้าใจความรู้สึกของแม่เธอ วางใจเถอะ ฉันไม่เก็บมาใส่ใจหรอก”

“อึมอึม” หลิ่วหรูยู่พยักหน้าไม่หยุด

ลู่เสี้ยงหยางเอ่ยถาม “เรื่องนี้เธอคิดจะทำยังไง?”

หลิ่วหรูยูสีหน้านิ่งเงียบเล็กน้อย พูดตอบ “ยังจะทำอะไรได้ ฉันได้แต่จิกทิ้งหนังหัวไปเยี่ยมเยียน ประธานหอการค้าของ พวกเราปินเหอ ดูว่าเรื่องนี้พอจะเป็นไปได้ไหม ไม่อย่างนั้น ฉันต้องแต่งงานกับฉินหยุนเฟย ฉันไม่มีวันทำได้”

ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกแปลกใจ เอ่ยถาม “เธอดูเหมือนจะ เกลียดฉินหยุนเฟยมาก พูดตามเหตุผล ต่อให้เธอไม่ชอบเขา ก็ไม่ควรเกลียดเขานะ ถึงยังไงพวกเธอทั้งคู่ก็เป็นกิ่งทองใบ หยก”

กล่าวถึงเรื่องนี้ หลิ่วหรูยู่ก็รังเกียจ พูดด้วยใบหน้าบูดบึ้ง “รายละเอียดของฉินหยุนเฟย ฉันเข้าใจดี เขาอาศัยภูมิหลัง ของตระกูลฉิน ทำร้ายผู้หญิงข้างนอกไปไม่รู้กี่คนแล้ว ฉันรู้ผู้ หญิงห้าคนเคยถูกเขาเล่น หลังจากนั้นตั้งท้อง ก็ถูกฉินหยุ นเฟยบังคับให้ทำแท้ง”

เซีย!

เป็นผู้ชายกะล่อนจริงๆ!

สู่เสี้ยงหยางในตอนนี้นับว่าเข้าใจความรู้สึกของหลิ่วหรูยู่ สู่เสี้ยงหยางยิ้ม พูดตอบ “ฉันเข้าใจความรู้สึกของแม่เธอ วางใจเถอะ ฉันไม่เก็บมาใส่ใจหรอก”

“อึมอึม” หลิ่วหรูยู่พยักหน้าไม่หยุด

ลู่เสี้ยงหยางเอ่ยถาม “เรื่องนี้เธอคิดจะทำยังไง?”

หลิ่วหรูยูสีหน้านิ่งเงียบเล็กน้อย พูดตอบ “ยังจะทำอะไรได้ ฉันได้แต่จิกทิ้งหนังหัวไปเยี่ยมเยียน ประธานหอการค้าของ พวกเราปินเหอ ดูว่าเรื่องนี้พอจะเป็นไปได้ไหม ไม่อย่างนั้น ฉันต้องแต่งงานกับฉินหยุนเฟย ฉันไม่มีวันทำได้”

ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกแปลกใจ เอ่ยถาม “เธอดูเหมือนจะ เกลียดฉินหยุนเฟยมาก พูดตามเหตุผล ต่อให้เธอไม่ชอบเขา ก็ไม่ควรเกลียดเขานะ ถึงยังไงพวกเธอทั้งคู่ก็เป็นกิ่งทองใบ หยก”

กล่าวถึงเรื่องนี้ หลิ่วหรูยู่ก็รังเกียจ พูดด้วยใบหน้าบูดบึ้ง “รายละเอียดของฉินหยุนเฟย ฉันเข้าใจดี เขาอาศัยภูมิหลัง ของตระกูลฉิน ทำร้ายผู้หญิงข้างนอกไปไม่รู้กี่คนแล้ว ฉันรู้ผู้ หญิงห้าคนเคยถูกเขาเล่น หลังจากนั้นตั้งท้อง ก็ถูกฉินหยุ นเฟยบังคับให้ทำแท้ง”

เซีย!

เป็นผู้ชายกะล่อนจริงๆ!

สู่เสี้ยงหยางในตอนนี้นับว่าเข้าใจความรู้สึกของหลิ่วหรูยู่ แล้ว

ขณะเดียวกันก็กังวลแทนหลิ่วหรูยู่ ถ้าเธอแต่งงานกับฉิน หยุนเฟย ชั่วชีวิตนี้ก็พังย่อยยับ

“จริงสิ เขาเป็นคนที่แย่มากขนาดนี้ คนในครอบครัวเธอ ไม่รู้เรื่องหรอ? ทำไมยังจะผลักเธอเข้าไปในกองไฟ?” ลู่เสี้ยง หยางแสดงความไม่เข้าใจ

หลิ่วหรูยู่เกิดความน้อยใจ หางตามีน้ำใสๆออกมา ถอน หายใจแล้วพูดตอบ “ตอนนี้พวกเราตระกูลหลิ่วเจอปัญหา อยู่ระหว่างความเป็นกับความตาย พวกเขาจะไปสนใจความ สุขส่วนตัวของฉันได้ยังไง พวกเขาหวังแค่ผลักฉันออกไป พอ ตระกูลหลิ่วกับตระกูลฉินแต่งงานกันสำเร็จ ก็สามารถพา พวกเขาผ่านพ้นวิกฤตได้”

เชี้ย นี่มันโหดร้ายเกินไปหรือเปล่า ถึงจะบอกว่าการ แต่งงานของเศรษฐีเป็นเรื่องธรรมดา ก็ไม่น่ารังเกียจเหมือน ของตระกูลหลิ่ว ทั้งๆที่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนใช้ไม่ได้ กลับจะใช้ คนในครอบครัวตัวเองเป็นเครื่องมือผลักออกไป

“วางใจเถอะ พวกเราเป็นเพื่อนกัน เรื่องนี้ฉันจะไม่มอง ข้าม” ลู่เลี้ยงหยางพูดรับปาก

หลิ่วหรูยู่ส่ายหน้า พูดขึ้น “ทำอะไรไม่ได้หรอก เรื่องนี้ไม่มี ใครช่วยฉันได้ บางทีนี่อาจเป็นชะตาของฉัน” แล้ว

ขณะเดียวกันก็กังวลแทนหลิ่วหรูยู่ ถ้าเธอแต่งงานกับฉิน หยุนเฟย ชั่วชีวิตนี้ก็พังย่อยยับ

“จริงสิ เขาเป็นคนที่แย่มากขนาดนี้ คนในครอบครัวเธอ ไม่รู้เรื่องหรอ? ทำไมยังจะผลักเธอเข้าไปในกองไฟ?” ลู่เสี้ยง หยางแสดงความไม่เข้าใจ

หลิ่วหรูยู่เกิดความน้อยใจ หางตามีน้ำใสๆออกมา ถอน หายใจแล้วพูดตอบ “ตอนนี้พวกเราตระกูลหลิ่วเจอปัญหา อยู่ระหว่างความเป็นกับความตาย พวกเขาจะไปสนใจความ สุขส่วนตัวของฉันได้ยังไง พวกเขาหวังแค่ผลักฉันออกไป พอ ตระกูลหลิ่วกับตระกูลฉินแต่งงานกันสำเร็จ ก็สามารถพา พวกเขาผ่านพ้นวิกฤตได้”

เชี้ย นี่มันโหดร้ายเกินไปหรือเปล่า ถึงจะบอกว่าการ แต่งงานของเศรษฐีเป็นเรื่องธรรมดา ก็ไม่น่ารังเกียจเหมือน ของตระกูลหลิ่ว ทั้งๆที่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนใช้ไม่ได้ กลับจะใช้ คนในครอบครัวตัวเองเป็นเครื่องมือผลักออกไป

“วางใจเถอะ พวกเราเป็นเพื่อนกัน เรื่องนี้ฉันจะไม่มอง ข้าม” ลู่เลี้ยงหยางพูดรับปาก

หลิ่วหรูยู่ส่ายหน้า พูดขึ้น “ทำอะไรไม่ได้หรอก เรื่องนี้ไม่มี ใครช่วยฉันได้ บางทีนี่อาจเป็นชะตาของฉัน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ