หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

บทที่ 227 แกไม่คู่ควรกับลูกสาวฉัน un



บทที่ 227 แกไม่คู่ควรกับลูกสาวฉัน un

เชี่ย นี่หมายความว่าไง?

ตอนนี้หลิ่วหรูยู่นั่งอยู่บนตักของลู่เสี้ยงหยาง แม้ว่าจะมี กางเกงกั้น แต่ก็ยังรู้สึกได้ ถึงอุณหภูมิและความมีน้ำมีนวลที่ ส่งมาจากขาสวยของหลิ่วหรูยู่

อีกอย่างในคอก็รู้สึกได้ถึง อุณหภูมิจากแขนของหลิ่วหรูยู่ ที่ส่งมา ในจมูกยิ่งสัมผัสได้ถึงกลิ่นน้ำหอมบนตัวของหลิ่วหรู ยู่ มันทำให้เขาหายใจเร็วขึ้นเล็กน้อย เปลวไฟแทบจะลุกโชน อยู่ใต้ท้องน้อย

แม่ง! เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ไม่งั้นจะเกิดเรื่อง ลู่เสี้ยงหยางรีบขยับต้นขาออก จับให้หลิ่วหรูยู่ลุกขึ้นยืน หลิวหรูยูมองไปที่ลู่เสี้ยงหยาง เผยรอยยิ้มอ่อนหวาน “เป็นอะไร? ไม่กล้าแล้วหรอ? นายนี่เล่นไม่ได้เลยนะ” สู่เสี้ยงหยางยิ้มอย่างขมขื่น “เธอก็อย่ามาล้อเล่นกับฉันสิ”

รอยยิ้มบนใบหน้าของหลิ่วหรูยู่หายไปช้าๆ สุดท้ายก็ถอน หายใจออกมา กลับไปนั่งลงตรงที่นั่งเดิมเมื่อกี้ ใบหน้า หม่นหมอง

แต่คิดถึงพวกคนแก่ใน ครอบครัว ที่หาการแต่งงานมาให้ บทที่ 27 แกไม่คู่ควรกับลูกสาวฉัน un

เชี่ย นี่หมายความว่าไง?

ตอนนี้หลิ่วหรูยู่นั่งอยู่บนตักของลู่เสี้ยงหยาง แม้ว่าจะมี กางเกงกั้น แต่ก็ยังรู้สึกได้ ถึงอุณหภูมิและความมีน้ำมีนวลที่ ส่งมาจากขาสวยของหลิ่วหรูยู่

อีกอย่างในคอก็รู้สึกได้ถึง อุณหภูมิจากแขนของหลิ่วหรูยู่ ที่ส่งมา ในจมูกยิ่งสัมผัสได้ถึงกลิ่นน้ำหอมบนตัวของหลิ่วหรู ยู่ มันทำให้เขาหายใจเร็วขึ้นเล็กน้อย เปลวไฟแทบจะลุกโชน อยู่ใต้ท้องน้อย

แม่ง! เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ไม่งั้นจะเกิดเรื่อง ลู่เสี้ยงหยางรีบขยับต้นขาออก จับให้หลิ่วหรูยู่ลุกขึ้นยืน หลิวหรูยูมองไปที่ลู่เสี้ยงหยาง เผยรอยยิ้มอ่อนหวาน “เป็นอะไร? ไม่กล้าแล้วหรอ? นายนี่เล่นไม่ได้เลยนะ” สู่เสี้ยงหยางยิ้มอย่างขมขื่น “เธอก็อย่ามาล้อเล่นกับฉันสิ”

รอยยิ้มบนใบหน้าของหลิ่วหรูยู่หายไปช้าๆ สุดท้ายก็ถอน หายใจออกมา กลับไปนั่งลงตรงที่นั่งเดิมเมื่อกี้ ใบหน้า หม่นหมอง

แต่คิดถึงพวกคนแก่ใน ครอบครัว ที่หาการแต่งงานมาให้ เธอ เธอก็โกรธจนทำอะไรไม่ถูก

พูดตามจริง หลายปีมานี้ ในบรรดาผู้ชายที่เธอพบเจอมา ก็มีความรู้สึกนิดหน่อยกับลู่เสี่ยงหยาง สำหรับคนอื่น แค่เป็น ผู้ชาย เธอต่างก็รังเกียจเป็นที่สุด

“ทำไมไม่พูดอะไรแล้วล่ะ?” สู่เสี้ยงหยางเห็นหลิ่วหรูยู่มี เรื่องในใจ จึงยิ้มถาม

ในใจพอจะเดาได้บ้าง ว่าหลิ่วหรูยู่จะต้องกังวลเรื่องการ แต่งงานแน่

“สั่งอาหารเถอะ” หลิ่วหรูยู่โบกมือ อารมณ์ยิ่งดูตกลงอีก แล้วในตอนนี้เอง หลิ่วหรูยู่กับลู่เสี้ยงหยางต่างก็ไม่ได้ สังเกต ว่าที่ชั้นสอง ว่ามีผู้หญิงชั้นสูงคนหนึ่งกับผู้ชายคนหนึ่ง นั่งอยู่

ผู้หญิงชั้นสูงหน้าตาสวยงาม มัดผมขึ้น กระโปรงยาว สีน้ำเงินทำให้เห็นหุ่นได้ชัดเจน ตั้งแต่หัวจรดเท้าล้วนเป็นแบ รนด์เนม ดูประดับไปด้วยเพชรพลอย

ผู้ชายสวมสูทรองเท้าหนัง ใบหน้าหล่อเหลา หวีผมเสยไป ข้างหลัง ข้อมือใส่นาฬิกาโรเล็กซ์สีทองรุ่นลิมิเต็ด แค่เห็นก็รู้ ว่าเป็นคุณชายที่ไม่ขาดแคลนเงิน

สวีฉิน

ฉินหยุนเฟย เธอ เธอก็โกรธจนทำอะไรไม่ถูก

พูดตามจริง หลายปีมานี้ ในบรรดาผู้ชายที่เธอพบเจอมา ก็มีความรู้สึกนิดหน่อยกับลู่เสี่ยงหยาง สำหรับคนอื่น แค่เป็น ผู้ชาย เธอต่างก็รังเกียจเป็นที่สุด

“ทำไมไม่พูดอะไรแล้วล่ะ?” สู่เสี้ยงหยางเห็นหลิ่วหรูยู่มี เรื่องในใจ จึงยิ้มถาม

ในใจพอจะเดาได้บ้าง ว่าหลิ่วหรูยู่จะต้องกังวลเรื่องการ แต่งงานแน่

“สั่งอาหารเถอะ” หลิ่วหรูยู่โบกมือ อารมณ์ยิ่งดูตกลงอีก แล้วในตอนนี้เอง หลิ่วหรูยู่กับลู่เสี้ยงหยางต่างก็ไม่ได้ สังเกต ว่าที่ชั้นสอง ว่ามีผู้หญิงชั้นสูงคนหนึ่งกับผู้ชายคนหนึ่ง นั่งอยู่

ผู้หญิงชั้นสูงหน้าตาสวยงาม มัดผมขึ้น กระโปรงยาว สีน้ำเงินทำให้เห็นหุ่นได้ชัดเจน ตั้งแต่หัวจรดเท้าล้วนเป็นแบ รนด์เนม ดูประดับไปด้วยเพชรพลอย

ผู้ชายสวมสูทรองเท้าหนัง ใบหน้าหล่อเหลา หวีผมเสยไป ข้างหลัง ข้อมือใส่นาฬิกาโรเล็กซ์สีทองรุ่นลิมิเต็ด แค่เห็นก็รู้ ว่าเป็นคุณชายที่ไม่ขาดแคลนเงิน

สวีฉิน

ฉินหยุนเฟย คือแม่ของหลิ่วหรูยู่กับสามีที่เธอจะแต่งงานด้วยใน อนาคต

เมื่อกี้ฉากที่หลิ่วหรูยูนั่งลงบนตักของลู่เสี้ยงหยาง ยั่วยวน คู่เลี้ยงหยาง ถูกสวีจีนกับฉินหยุนเฟยเห็นเข้าพอดี

ใบหน้าของสวีฉินจู่ๆก็เหมือนถูกดึงลงมา เกลียดจนแทบ จะกลืนกินลู่เสี้ยงหยางเข้าไป

เมื่อคืนวานนี้ ลู่เสี้ยงหยางมาส่งหลิ่วหรูยู่ที่บ้าน ถูกคนรับ ใช้เห็นเข้า คนรับใช้ก็ไปรายงานเรื่องนี้กับเธอในทันที

คนรับใช้บอกกับเธอ ว่าไอ้กระจอกแต่งตัวธรรมดาคน หนึ่งมาส่งคุณหนูใหญ่ที่บ้าน ตอนนั้นเธอไม่ได้สนใจ

คิดไม่ถึงว่า วันนี้ลูกสาวจะนัดเจอกับไอ้ยาจกกระจอกนี่

หลิ่วหรูยู่กับฉินหยุนเฟยตกลงแต่งงานกันมาตั้งนานแล้ว ตอนนี้หลิ่วหรูยู่กลับมานัดเจอกับผู้ชายคนอื่น นี่มันเป็นการ ทำลายข้อตกลงแต่งงานของครอบครัว งั้นแบบนี้จะไปดีได้ ยังไง?

แม่ง ยัยกะหรี่หลิ่วหรูยู่ กล้าสวมเขาให้กหรอ เธอไม่อยาก มีชีวิตอยู่แล้ว

แล้วฉินหยุนเฟยก็รู้สึกได้ว่า มีทุ่งหญ้างอกขึ้นเหนือหัวเขา อย่างบ้าคลั่ง ดังนั้นความโกรธจึงยากที่จะควบคุม แต่เพื่อรูป ลักษณ์สุภาพบุรุษของเขา เขาได้แต่อดทน คือแม่ของหลิ่วหรูยู่กับสามีที่เธอจะแต่งงานด้วยใน อนาคต

เมื่อกี้ฉากที่หลิ่วหรูยูนั่งลงบนตักของลู่เสี้ยงหยาง ยั่วยวน คู่เลี้ยงหยาง ถูกสวีจีนกับฉินหยุนเฟยเห็นเข้าพอดี

ใบหน้าของสวีฉินจู่ๆก็เหมือนถูกดึงลงมา เกลียดจนแทบ จะกลืนกินลู่เสี้ยงหยางเข้าไป

เมื่อคืนวานนี้ ลู่เสี้ยงหยางมาส่งหลิ่วหรูยู่ที่บ้าน ถูกคนรับ ใช้เห็นเข้า คนรับใช้ก็ไปรายงานเรื่องนี้กับเธอในทันที

คนรับใช้บอกกับเธอ ว่าไอ้กระจอกแต่งตัวธรรมดาคน หนึ่งมาส่งคุณหนูใหญ่ที่บ้าน ตอนนั้นเธอไม่ได้สนใจ

คิดไม่ถึงว่า วันนี้ลูกสาวจะนัดเจอกับไอ้ยาจกกระจอกนี่

หลิ่วหรูยู่กับฉินหยุนเฟยตกลงแต่งงานกันมาตั้งนานแล้ว ตอนนี้หลิ่วหรูยู่กลับมานัดเจอกับผู้ชายคนอื่น นี่มันเป็นการ ทำลายข้อตกลงแต่งงานของครอบครัว งั้นแบบนี้จะไปดีได้ ยังไง?

แม่ง ยัยกะหรี่หลิ่วหรูยู่ กล้าสวมเขาให้กหรอ เธอไม่อยาก มีชีวิตอยู่แล้ว

แล้วฉินหยุนเฟยก็รู้สึกได้ว่า มีทุ่งหญ้างอกขึ้นเหนือหัวเขา อย่างบ้าคลั่ง ดังนั้นความโกรธจึงยากที่จะควบคุม แต่เพื่อรูป ลักษณ์สุภาพบุรุษของเขา เขาได้แต่อดทน “คุณป้าครับ คนนั้นคงจะเป็นเพื่อนของหรูยู่ ยังไงเรียก พวกเขาทั้งสองขึ้นมาทานข้าวด้วยกันไหมครับ?” ฉินหยุ นเฟยยิ้มพูด

เขากับสวีฉินกินข้าวที่นี่ มาเจอกับหลิ่วหรูยู่เป็นเรื่อง บังเอิญโดยแท้

สวีฉินส่งเสียงหี่จากจมูก แล้วพูดขึ้น “ไอ้ยาจกกระจอกคน หนึ่ง มีคุณสมบัติอะไรมานั่งกินข้าวกับพวกเรา ไปเถอะ เรา ลงไปดูกันว่ามันเรื่องอะไร”

“โอเคครับ คุณป้า ตามที่คุณป้าว่าเลยครับ” ฉินหยุนเฟย หัวเราะอย่างไร้เสียง สายตามีความเยือกเย็นแวบผ่าน ตระกูลฉินของเขาเป็นตระกูลใหญ่ที่มีชื่อเสียงในไห่ตง

ครั้งนี้ การแต่งงานของเขากับหลิ่วหรูยู่ เป็นตระกูลหลิ่วที่เร่ง รีบจัดเตรียม คิดไม่ถึงว่าภายใต้สถานการณ์แบบนี้ หลิ่วหรูยู่ ยังกล้าสับราง สวมเขาให้เขาแบบนี้

เพียงไม่นาน สวีฉินกับฉินหยุนเฟยก็ลงมาถึงชั้นล่าง ข้าง ตัวของหลิ่วหรูยู่กับลู่เสี้ยงหยาง

“ลูกสาว ทำไมลูกก็อยู่ที่นี่?” สีหน้าของสวีฉินมีความดูไม่

ได้

หลิ่วหรูยู่พยักหน้า ใบหน้ามีความตื่นตกใจแวบผ่าน แต่ก็ สงบลงได้อย่างรวดเร็ว มองไปที่สวีฉินแล้วพูดว่า “แม่ อยู่ที่นี่ “คุณป้าครับ คนนั้นคงจะเป็นเพื่อนของหรูยู่ ยังไงเรียก พวกเขาทั้งสองขึ้นมาทานข้าวด้วยกันไหมครับ?” ฉินหยุ นเฟยยิ้มพูด

เขากับสวีฉินกินข้าวที่นี่ มาเจอกับหลิ่วหรูยู่เป็นเรื่อง บังเอิญโดยแท้

สวีฉินส่งเสียงหี่จากจมูก แล้วพูดขึ้น “ไอ้ยาจกกระจอกคน หนึ่ง มีคุณสมบัติอะไรมานั่งกินข้าวกับพวกเรา ไปเถอะ เรา ลงไปดูกันว่ามันเรื่องอะไร”

“โอเคครับ คุณป้า ตามที่คุณป้าว่าเลยครับ” ฉินหยุนเฟย หัวเราะอย่างไร้เสียง สายตามีความเยือกเย็นแวบผ่าน ตระกูลฉินของเขาเป็นตระกูลใหญ่ที่มีชื่อเสียงในไห่ตง

ครั้งนี้ การแต่งงานของเขากับหลิ่วหรูยู่ เป็นตระกูลหลิ่วที่เร่ง รีบจัดเตรียม คิดไม่ถึงว่าภายใต้สถานการณ์แบบนี้ หลิ่วหรูยู่ ยังกล้าสับราง สวมเขาให้เขาแบบนี้

เพียงไม่นาน สวีฉินกับฉินหยุนเฟยก็ลงมาถึงชั้นล่าง ข้าง ตัวของหลิ่วหรูยู่กับลู่เสี้ยงหยาง

“ลูกสาว ทำไมลูกก็อยู่ที่นี่?” สีหน้าของสวีฉินมีความดูไม่

ได้

หลิ่วหรูยู่พยักหน้า ใบหน้ามีความตื่นตกใจแวบผ่าน แต่ก็ สงบลงได้อย่างรวดเร็ว มองไปที่สวีฉินแล้วพูดว่า “แม่ อยู่ที่นี่ ด้วยหรอ?”

สวีจินไม่ได้ตอบสนองต่อคำพูดของหลิ่วหรูยู่ จ้องเขมิงไป ที่สู่เสี้ยงหยางแล้วพูด “คุณค่าของคนอยู่ที่ความรู้ด้วเอง แก เข้าใกล้ลูกสาวฉัน อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่ามีเป้าหมายอะไร ก่อน ที่ฉันจะพูดอะไรไม่น่าฟัง แกไปจากลูกสาวฉันซะ หลังจากนี้ อย่ามาเรียกร้องความสนใจจากเธออีก”

“แม่ พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?” หลิ่วหรูยู่ขมวดคิ้ว พูดถาม

ลู่เสี้ยงหยางกับตนเองเป็นเพื่อนกันธรรมดา การควบคุม ของแม่เธอกว้างเกินไปหรือเปล่า

สวีฉินส่งเสียงหีจากจมูก พูดขึ้น “ทุกคนล้วนเป็นคนฉลาด ฉันไม่อยากพูดอะไรที่ไม่น่าฟัง หลิ่วหรูยู่ ตอนนี้ครอบครัว ของเรามีสถานการณ์ยังไง อย่าบอกแม่นะ ว่าลูกไม่รู้?”

หลิ่วหรูยูไม่พูดจา แต่คิ้วโค้งงอจนกลายเป็นเส้นตรงแล้ว แต่ก่อน สี่ตระกูลใหญ่แห่งปินเหอควบคุมโลกธุรกิจของ ปินเหอ แม้จะพูดไม่ได้ว่าครอบครองท้องฟ้าด้วยมือเดียว แต่ ก็มีอิทธิพลอย่างมาก

แต่ไม่นานมานี้ เพื่อมาตรฐานการจัดการ ปินเหอได้จัดตั้ง หอการค้าขึ้น ทำให้อำนาจของสี่ตระกูลใหญ่อ่อนแอลงอย่าง มาก ด้วยหรอ?”

สวีจินไม่ได้ตอบสนองต่อคำพูดของหลิ่วหรูยู่ จ้องเขมิงไป ที่สู่เสี้ยงหยางแล้วพูด “คุณค่าของคนอยู่ที่ความรู้ด้วเอง แก เข้าใกล้ลูกสาวฉัน อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่ามีเป้าหมายอะไร ก่อน ที่ฉันจะพูดอะไรไม่น่าฟัง แกไปจากลูกสาวฉันซะ หลังจากนี้ อย่ามาเรียกร้องความสนใจจากเธออีก”

“แม่ พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?” หลิ่วหรูยู่ขมวดคิ้ว พูดถาม

ลู่เสี้ยงหยางกับตนเองเป็นเพื่อนกันธรรมดา การควบคุม ของแม่เธอกว้างเกินไปหรือเปล่า

สวีฉินส่งเสียงหีจากจมูก พูดขึ้น “ทุกคนล้วนเป็นคนฉลาด ฉันไม่อยากพูดอะไรที่ไม่น่าฟัง หลิ่วหรูยู่ ตอนนี้ครอบครัว ของเรามีสถานการณ์ยังไง อย่าบอกแม่นะ ว่าลูกไม่รู้?”

หลิ่วหรูยูไม่พูดจา แต่คิ้วโค้งงอจนกลายเป็นเส้นตรงแล้ว แต่ก่อน สี่ตระกูลใหญ่แห่งปินเหอควบคุมโลกธุรกิจของ ปินเหอ แม้จะพูดไม่ได้ว่าครอบครองท้องฟ้าด้วยมือเดียว แต่ ก็มีอิทธิพลอย่างมาก

แต่ไม่นานมานี้ เพื่อมาตรฐานการจัดการ ปินเหอได้จัดตั้ง หอการค้าขึ้น ทำให้อำนาจของสี่ตระกูลใหญ่อ่อนแอลงอย่าง มาก หลังจากนั้น เพื่อตอบสนองผลประโยชน์และการพัฒนา ของตัวเอง สามตระกูลใหญ่อื่นๆ ตระกูลเหอ ตระกูลจางและ ตระกูลหลินต่างก็เลือกที่จะเป็นพันธมิตรกับตระกูลหานจาก ให้

ในตอนนี้ เหลือเพียงตระกูลหลิ่วที่ต่อสู้ตัวคนเดียว มอง ด้วยตาก็เห็นว่าพวกเขาตระกูลหลิ่วจะถูกอีกสามตระกูลใหญ่ กดดัน ให้ออกจากหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ ดังนั้นตระกูลหลิ่วจึง ตื่นตระหนก เริ่มมองหาคนที่จะมาเป็นพันธมิตร

ตระกูลฉินเป็นตระกูลใหญ่ของไห่ตง ความแข็งแกร่งเทียบ เท่ากับตระกูลหาน กลายเป็นตัวเลือกของพวกเขา

โชคดีที่ฉินหยุนเฟยคุณชายของตระกูลฉินสนใจหลิ่วหรูยู่ จึงตกลงเป็นพันธมิตร

ดังนั้น ตอนนี้สำหรับทั้งครอบครัวในตระกูลหลิ่วแล้ว ที่ สำคัญที่สุดคือ รักษาความสัมพันธ์ของตระกูลหลิ่วกับตระกูล ฉิน ไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดใดๆ

ฉินหยุนเฟยสายตาตกไปที่ร่างของหลิ่วหรูยู่ ใบหน้าเต็ม ไปด้วยความอ่อนโยน สำหรับลู่เสี้ยงหยาง มองยังมองไม่ เห็น ราวกับว่าในสายตาเขา ลู่เสี้ยงหยางเป็นแค่อากาศ ฝุ่น

ละออง

ต่ำต้อยไร้ค่า ไม่ควรค่าแก่การเอ่ยถึงเลยซักนิด หลังจากนั้น เพื่อตอบสนองผลประโยชน์และการพัฒนา ของตัวเอง สามตระกูลใหญ่อื่นๆ ตระกูลเหอ ตระกูลจางและ ตระกูลหลินต่างก็เลือกที่จะเป็นพันธมิตรกับตระกูลหานจาก ให้

ในตอนนี้ เหลือเพียงตระกูลหลิ่วที่ต่อสู้ตัวคนเดียว มอง ด้วยตาก็เห็นว่าพวกเขาตระกูลหลิ่วจะถูกอีกสามตระกูลใหญ่ กดดัน ให้ออกจากหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ ดังนั้นตระกูลหลิ่วจึง ตื่นตระหนก เริ่มมองหาคนที่จะมาเป็นพันธมิตร

ตระกูลฉินเป็นตระกูลใหญ่ของไห่ตง ความแข็งแกร่งเทียบ เท่ากับตระกูลหาน กลายเป็นตัวเลือกของพวกเขา

โชคดีที่ฉินหยุนเฟยคุณชายของตระกูลฉินสนใจหลิ่วหรูยู่ จึงตกลงเป็นพันธมิตร

ดังนั้น ตอนนี้สำหรับทั้งครอบครัวในตระกูลหลิ่วแล้ว ที่ สำคัญที่สุดคือ รักษาความสัมพันธ์ของตระกูลหลิ่วกับตระกูล ฉิน ไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดใดๆ

ฉินหยุนเฟยสายตาตกไปที่ร่างของหลิ่วหรูยู่ ใบหน้าเต็ม ไปด้วยความอ่อนโยน สำหรับลู่เสี้ยงหยาง มองยังมองไม่ เห็น ราวกับว่าในสายตาเขา ลู่เสี้ยงหยางเป็นแค่อากาศ ฝุ่น

ละออง

ต่ำต้อยไร้ค่า ไม่ควรค่าแก่การเอ่ยถึงเลยซักนิด “หรูยู่ เติมที่ฉันไม่มีสิทธิ์ยุ่งกับการคบหาเพื่อนของเธอ แต่ เธอคบเพื่อนก็ต้องรู้จักเลือก คนบางคนก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะ ได้เป็นเพื่อนเธอ” ฉินหยุนเฟยพูดพลางยิ้มให้ คำพูดการกระ ทำสงบนิ่งมีเหตุมีผล แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมของลูกชาย ตระกูลใหญ่

ลู่เสี้ยงหยางขมวดคิ้วเล็กน้อย ไอ้ผู้ชายคนนี้กำลังพูดถึง ตนเองหรอ?

แม่ง นี่มันเป็นการดูถูกกันไม่ใช่หรอ?

กูเป็นถึงประธานของหอการค้าปินเหอ ยิ่งไปกว่านั้นเป็น คุณชายตระกูลลู่ด้วยโอเคไหม?

สวีฉินพยักหน้า พูดเสริม “ใช่แล้ว หยุนเฟยพูดถูกต้อง หลิ่วหรูยู ลูกควรจะรู้สถานะและตัวตนของตนเองให้ชัดเจน พวกเพื่อนกะโหลกกะลาหลังจากนี้ไม่ต้องไปคบแล้ว”

ไม่รอให้หลิ่วหรูยู่พูด ฉินหยุนเฟยก็พูดต่อ “หรูยู่ ฉันรู้ว่า เธอกดดันมาก แต่เธอพูดกับฉันได้ เรื่องที่ครอบครัวของเธอ พูดกับฉันไว้ก่อนหน้านี้ ฉันจะลงแรงอย่างเต็มที่ที่สุด ด้วย เครือข่ายของฉัน สามารถหาประธานหอการค้าปืนเหอได้ พูดคุยกับเขา ขอแค่ได้รับการสนับสนุนจากหอการค้าปินเหอ อีกสามตระกูลใหญ่ก็ไม่สามารถคุกคามตระกูลหลิ่วของเธอ ได้”

สาเหตุที่ตระกูลหลิ่วต้องการที่จะเป็นพันธมิตรกับตระกูล “หรูยู่ เติมที่ฉันไม่มีสิทธิ์ยุ่งกับการคบหาเพื่อนของเธอ แต่ เธอคบเพื่อนก็ต้องรู้จักเลือก คนบางคนก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะ ได้เป็นเพื่อนเธอ” ฉินหยุนเฟยพูดพลางยิ้มให้ คำพูดการกระ ทำสงบนิ่งมีเหตุมีผล แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมของลูกชาย ตระกูลใหญ่

ลู่เสี้ยงหยางขมวดคิ้วเล็กน้อย ไอ้ผู้ชายคนนี้กำลังพูดถึง ตนเองหรอ?

แม่ง นี่มันเป็นการดูถูกกันไม่ใช่หรอ?

กูเป็นถึงประธานของหอการค้าปินเหอ ยิ่งไปกว่านั้นเป็น คุณชายตระกูลลู่ด้วยโอเคไหม?

สวีฉินพยักหน้า พูดเสริม “ใช่แล้ว หยุนเฟยพูดถูกต้อง หลิ่วหรูยู ลูกควรจะรู้สถานะและตัวตนของตนเองให้ชัดเจน พวกเพื่อนกะโหลกกะลาหลังจากนี้ไม่ต้องไปคบแล้ว”

ไม่รอให้หลิ่วหรูยู่พูด ฉินหยุนเฟยก็พูดต่อ “หรูยู่ ฉันรู้ว่า เธอกดดันมาก แต่เธอพูดกับฉันได้ เรื่องที่ครอบครัวของเธอ พูดกับฉันไว้ก่อนหน้านี้ ฉันจะลงแรงอย่างเต็มที่ที่สุด ด้วย เครือข่ายของฉัน สามารถหาประธานหอการค้าปืนเหอได้ พูดคุยกับเขา ขอแค่ได้รับการสนับสนุนจากหอการค้าปินเหอ อีกสามตระกูลใหญ่ก็ไม่สามารถคุกคามตระกูลหลิ่วของเธอ ได้”

สาเหตุที่ตระกูลหลิ่วต้องการที่จะเป็นพันธมิตรกับตระกูล ฉิน ด้านหนึ่งเป็นเพราะความแข็งแกร่งของตระกูลฉิน อีก ด้านคือหวังว่าตระกูลฉินจะสามารถออกหน้าเจรจาต่อรอง กับหอการค้าปิ่นเหอ ให้หอการค้าปืนเหอสนับสนุนตระกูล หลิ่วของพวกเขา

ฟังคำพูดของฉินหยุนเฟย สวีฉินก็ยิ่งแสดงความพึงพอใจ เหลือบมองไปที่ลู่เสี้ยงหยางอีกครั้ง รู้สึกแค่ว่าผู้ชายคนนี้ไร้ ประโยชน์ ถูกออร่าของฉินหยุนเฟยบดบัง ฉิน ด้านหนึ่งเป็นเพราะความแข็งแกร่งของตระกูลฉิน อีก ด้านคือหวังว่าตระกูลฉินจะสามารถออกหน้าเจรจาต่อรอง กับหอการค้าปิ่นเหอ ให้หอการค้าปืนเหอสนับสนุนตระกูล หลิ่วของพวกเขา

ฟังคำพูดของฉินหยุนเฟย สวีฉินก็ยิ่งแสดงความพึงพอใจ เหลือบมองไปที่ลู่เสี้ยงหยางอีกครั้ง รู้สึกแค่ว่าผู้ชายคนนี้ไร้ ประโยชน์ ถูกออร่าของฉินหยุนเฟยบดบัง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ