บทที่ 208 คำพูดที่หนักแน่น
เนื่องจากชิวรั่วหานไม่ต้องการให้ลู่เสี้ยงหยางอยู่เป็น เพื่อนต่อ ดังนั้นเขาจึงกลับไปบ้านของเย่สวน
ทันทีที่เข้าไปถึงห้องรับแขกในบ้าน เขาได้เห็นสีห น้าของเย่สวนและหลิวจิ้งไม่ค่อยดีมากนัก ดูเหมือนว่า จะเกิดเรื่องไม่สบายใจกับพวกเธอ
สู่เสี้ยงหยางขมวดคิ้วถาม “สวนเอ๋อ คุณแม่ครับ เกิดอะไรขึ้น? ทำไมพวกคุณดูไม่สบายใจ?”
เย่สวนและหลิวจิ้งต่างก็ไม่อยากเพิ่มความกังวลให้ กับลู่เสี้ยงหยาง ดังนั้นทั้งสองจึงสายหัวตอบ “เปล่า”
เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่ความจริง แต่ไหนๆ พวกเธอ ตั้งใจที่จะไม่บอกเขา ดังนั้นลู่เสี้ยงหนางจึงไม่ได้ถาม ต่อเพราะเขารู้จักสองคนนี้ดี ถ้าพวกเธอไม่ต้องการ พูด ไม่ว่าจะถามอย่างไรก็คงไม่ได้คำตอบอยู่ดี
จากนั้นโดนสวนกับหลิวจิ้งมองตากันและทำได้เพียง ถอนหายใจ
แม้ว่าครั้งนี้ชิงเหอกรุ๊ปจะถูกหยูเม่ยหยินกรุ๊ปโจมตีอย่างหนัก แต่ก่อนที่จะเกิดเรื่องนี้ซึ่งเหอกรุ๊ปก็ได้ โจมตีตระกูลเย่กรุ๊ปและจีนจิ๋วกรุ๊ปเพื่อแก้แค้นลู่เสี้ยง หยางไปแล้ว
ดังนั้นตระกูลเย่กรุ๊ปและจีนจิ๋วกรุ๊ปในวันนี้ต่างก็ ต้องสูญเสียทรัพย์สินไปไม่น้อยเหมือนกัน
ส่วนเย่สวยจะต้องเผชิญกับความกดดันของทุกคน จากตระกูลเย่ และหลิวจิ้งก็ต้องเผชิญกับแรงกดดัน จากผู้ถือหุ้นทั้งหมดของจิ๋นซิ่วกรุ๊ป
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ทั้งคู่จึงรู้สึกปวดหัวและไม่รู้จะเผชิญ หน้ากับมันอย่างไร
เวลาผ่านไปจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นของวันที่สองอย่าง รวดเร็ว
ลู่เสี้ยงหยางตื่นมาทำอาหารแต่เช้า และหลังจาก อาหารเช้าเขาก็ส่งเย่สวนไปตระกูลเย่กรุ๊ป
ระหว่างทางเย่สวนยังคงหมกมุ่นอยู่กับปัญหาเดิม สู่เสี้ยงหยางก็ได้สังเกตอย่างชัดเจนว่าสีหน้าของเย่ สวนนั้นไม่ต่างอะไรจากเมื่อคืนเลย
คู่เสี้ยงหยางเป็นห่วงเย่สวนจนอดไม่ได้ที่จะถามเธอ “สวนเอ่อ คุณมีอะไรบอกผมได้นะ บางทีผมอาจจะช่วยคุณได้”
เย่สวนมองว่าคำพูดของเขาเป็นเพียงคำปลอบโยน เท่านั้น ดังนั้นเธอจึงยิ้มตอบ “ฉันไม่เป็นไรจริงๆ อย่า คิดมากไป”
“อ้อ ครับผม” ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้า
โครม!
ทันใดนั้น เสียงดังขึ้นจากด้านหลังรถ ตามด้วยรถที่ ถูกกระแทกแล้วพุ่งไปข้างหน้า
มันคือรถที่ลู่เสี้ยงหยางขับอยู่ถูกชนจากด้านหลัง
ลู่เสี่ยงหยางเป็นคนหูตาไวจึงรีบเหยียบเบรกเพื่อไม่ ให้รถพุ่งไปชนท้ายรถคันข้างหน้า
เขาลงจากรถด้วยสีหน้าเคร่งเครียด และสวนก็ได้ ลงจากรถตามเขาไปด้วย
เมื่อกวาดสายตามองไปก็เห็นรถที่เพิ่งชนท้ายรถ ของพวกเขาคือรถซูเปอร์สปอร์ตหรูบูกัตติเวย์รอน
ในขณะนี้ประตูรถบูกัตติเวย์รอนถูกเปิดออก แล้วมี ผู้หญิงคนหนึ่งลงจากรถ
เป็นผู้หญิงสวยเซ็กซี่ในชุดกี่เพ้า เธอกำลังเดินตรงเข้ามาหาลู่เสี้ยงหยางและเย่สวน
เนื่องจากสองข้างของกระโปรงกี่เพ้าผ่าสูง ดังนั้น ทุกย่างก้าวของเธอจะสามารถมองเห็นผิวอันขาว เนียนจนถึงต้นขาของเธอ
บ้าจริง นั่นมันอีแม่มดคนนั้นไม่ใช่หรือ! “หวังเขียวหยุน นางนี่เอง” เย่สวนจำผู้หญิงคนนั้น
ได้ในพริบตา
หวังเขียวหยุนคนนี้เป็นเพื่อนร่วมชั้นของเย่สวน เธอ เคยอิจฉาริษยาเย่สวนที่เรียนเก่งกว่าเธอ แถมยังสวย กว่าเธอด้วย ดังนั้นเธอไม่ชอบเย่สวนมาโดยตลอด
ต่อมาหลังจากที่หวังเชี่ยวหยุนคนนี้ได้ข่าวว่าเย่สวน แต่งงานกับผู้ชายที่ไม่เอาไหนคนหนึ่ง เธอถึงจะรู้สึกดี ขึ้น และก่อนหน้านี้เธอก็ได้แต่งงานกับหลินเสี่ยวโป คุณชายของตระกูลหลิน เธอจึงคิดว่าชีวิตของเย่สวน นั้นเทียบกับเธอไม่ได้เลย
เช้าวันนี้หวังเขียวหยุนที่กำลังขับรถสปอร์ตออกไป เที่ยวเล่น เมื่อบังเอิญเห็นรถของเย่สวนจึงขับตามเธอ ไปเพื่อหาเรื่อง
“เย่ชวน เธอนี่เอง เหอะ เธอช่างเป็นตัวปัญหาเลยจริงๆ นะ เจอเธอที่ไรไม่เคยมีเรื่องดีๆ เอาซะเลย” ทันทีที่เดินเข้ามาถึง หวังเขียวหยุนก็พูดอย่างไม่สบ อารมณ์
เย่สวนถามกลับ “หวังเขียวหยุน เจอกันที่ไรเธอก็ พูดจาให้ร้ายคนอื่น มันหมายถึงอะไร?”
หมายถึงอะไรงั้นหรือ?
หวังเขียวหยุนพูดด้วยสีหน้าเย็นชา “เธอขับรถ ภาษาอะไร? ไม่แหกตาดูบ้างเหรอ? เธอมาชนรถฉัน เธอจะชดใช้ยังไงว่ามา?”
เย่สวนโกรธจนหัวเราะออกมา “เธอมีสามัญสำนึก ไหม? รถเธอมาชนท้ายรถฉันนะ เธอควรต้องรับผิด ชอบต่างหาก รู้ไหม?”
หวังเขียวหยุนส่ายหัวแล้วแสดงสีหน้าเยาะเย้ย “เย่ สวน เธอก็ยังใสซื่อเหมือนเดิมนะ ไม่แปลกเลยที่มี ชีวิตตกต่ำแบบนี้”
เมื่อพูดจบเธอหยุดเงียบไปสักพัก สายตากวาดมอง ไปที่คู่เสี้ยงหยาง จากนั้นหันมองไปที่รถบีเอ็ม M8 ของเย่สวนแล้วยิ้มพูดอย่างเย้ยหยัน “แต่งงานกับคน ไร้ประโยชน์ก็แย่พอแล้ว ยังต้องขับรถกระป๋องแบบนี้อีก”
ลู่เสี่ยงหยางขมวดคิ้ว บ้าเอ้ย ผู้หญิงคนนี้เป็นบ้าไป แล้ว อุตส่าห์ไม่หาเรื่องเธอแล้วยังพูดจาไม่ดีกับคนอื่น อีก ทั้งๆ ที่ไม่รู้จักเธอด้วยซ้ำ
สีหน้าเย่สวนตูแย่ลงทันที ลู่เสี้ยงหยางเป็นสามีของ เธอ ถึงเขาจะเป็นคนไร้ประโยชน์อย่างไรคนอื่นก็ไม่มี สิทธิ์มาว่าเขา แต่สำหรับเรื่องรถ แม้ว่ารถบีเอ็ม M8 ของเธอจะเป็นรถสปอร์ตระดับกลาง แต่เมื่อเทียบกับ รถสปอร์ตตัวท็อปอย่างบูกัตติเวย์รอนแล้วมันก็เทียบ กันไม่ได้อยู่ดี
รถสปอร์ตอย่างบูกัตติเวย์รอนที่หวังเขี่ยวหยุนขับ อยู่ราคาราวๆ ก็เกิน 30 ล้านอย่างแน่นอน
แต่รถบีเอ็ม M8 ของเย่สวนในช่วงที่ลู่เสี้ยงหยาง ซื้อราคาก็แค่ 2 ล้านกว่าเท่านั้น
ความแตกต่างระหว่างทั้งสองมันมากกว่า 10 เท่า
“เหอะๆ เย่สวยเอ๋ย ฉันจะคอยดูว่าวันนี้เธอจะเอา เงินที่ไหนมาชดใช้ค่าเสียหายรถคันนี้ของฉัน!” หวัง เขียวหยุนพูดจาเยาะเย้ยด้วยน้ำเสียงอันก้าวร้าว เธอ มั่นใจแล้วว่าวันนี้จะทำให้เย่สวนขายหน้าให้ถึงที่สุด
เย่สวนคิดว่าเธอไม่ได้เป็นฝ่ายผิด ดังนั้นเธอจึงไม่ ได้กลัวและพูดอย่างใจเย็นว่า “เธอต่างหากที่ต้องรับ ผิดชอบเรื่องทั้งหมด ฉันจะโทรเรียกตำรวจ ให้ตำรวจ มาจัดการเรื่องนี้เอง”
หวังเขียวหยุนปรบมือแล้วพูด “เอาสิ ตามนั้นเลย” เธอดูเหมือนไม่กลัวอะไรจริงๆ
ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกแปลกใจ หวังเขียวหยุนคนนี้ดู มั่นใจตัวเองมาก
เย่สวนไม่พูดอะไรมากกว่านี้ เธอหยิบโทรศัพท์ออก มาแล้วโทรแจ้งตำรวจทันที
หลังจากนั้นไม่นานเย่สวยก็วางสาย
หวังเขียวหยุนถอนหายใจแล้วพูดว่า “อีสารเลว ฉัน จะบอกเธอนะ เดี๋ยวตำรวจมาถึงเขาก็จะเข้าข้างฉัน อยู่ดี วันนี้เธอรุกรานฉัน เหอะ เดี๋ยวฉันจะสั่งสอนเธอ เอง ฉันจะทำให้เธอรู้ว่าวันหลังควรใช้ทัศนคติแบบ ไหนเมื่อเจอหน้าฉัน”
ทันทีที่พูดจบ มือของหวังเขียวหยุนก็ยกขึ้นและ เตรียมเหวี่ยงไปที่ใบหน้าของเย่สวนแล้ว
“เธอช่างกล้า!” ทันใดนั้นเสียงอันเยือกเย็นเข้าปก
คลุมหวังเขียวหยุน
ในเวลาเดียวกันก็มีกลิ่นอายแห่งความเลือดเย็นอยู่
รอบๆ ตัวเธอ
ลู่เสี้ยงหยางก้าวไปข้างหน้าแล้วเอาตัวบังเย่สวนไว้ ทันใดนั้นเย่สวนก็รู้สึกซาบซึ้งใจขึ้นมา เธอรู้สึก
อบอุ่นมากเมื่อมองลู่เสี้ยงหยางจากด้านหลังแบบนี้
เมื่อไหร่ที่เธอต้องการความช่วยเหลือ ลู่เสี้ยงหยาง
ก็จะปรากฏตัวเสมอ
เมื่อก่อนเป็นเช่นไร วันนี้ก็เป็นเช่นนั้น
แต่หวังเขียวหยุนกลับรู้สึกตกใจเมื่อเห็นลู่เสี้ยง หยางยืนต่อหน้าเธอ มันเป็นตัวไร้ประโยชน์ของเย่ สวนไม่ใช่หรือ? ทำไมคนไร้ประโยชน์คนนี้ถึงได้กล้า หาญแล้วยืนหยัดท้าทายเธอแบบนี้
“เหอะ” มือของเธอเหวี่ยงไปที่ลู่เสี้ยงหยางอย่างไม่
รอช้า
เธอต้องการสั่งสอนลู่เสี้ยงหยางก่อนแล้วค่อยไปสั่ง สอนไอ้สารเลวเย่สวน
สู่เสี่ยงหยางเป็นสามีของเธอ ถ้าให้บทเรียนกับมัน เย่สวนก็ต้องรู้สึกเจ็บใจอยู่ดี
แต่สู่เสี้ยงหยางไม่ได้ขยับไปไหน เขาได้แต่มองมือ ของหวังเขี่ยวหยุนที่เหวี่ยงออกมาอย่างเงียบๆ ด้วย แววตาอันน่าเกรงขาม
แมร่งเอ้ย ไอ้คนไร้สามัญสำนึก ต้องสั่งสอนสัก หน่อยแล้ว
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ