หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

บทที่ 207 ซาตานในคราบนางฟ้า



บทที่ 207 ซาตานในคราบนางฟ้า

หลังฟ้ามืด

ณ บริเวณคฤหาสน์ตระกูลเหอไฟยังคงสว่างไสว

ผู้นำอาวุโสทั้งหมดของตระกูลเหอกลับมารวมตัว กันอีกครั้ง สีหน้าของพวกเขาต่างก็ดูแย่มาก แม้ กระทั่งหลายต่อหลายคนในขณะนี้เริ่มรู้สึกวิตกกังวล

วันนี้ตระกูลเหอตกเป็นเป้าหมายของหยูเม่ยหยิน กรุ๊ป ตลาดหุ้นถูกโจมตีและทรัพย์สมบัติเกือบ 5 พัน ล้านระเหยหายไปในกับอากาศ

ตระกูลเหอเป็นพันธมิตรกับตระกูลหาน และเวลานี้ ได้ตกเป็นเป้าหมายสำคัญที่ลู่เสี้ยงหยางจะเล่นงาน ดังนั้นหลังจากที่ผลิตภัณฑ์ของหยูเม่ยหยินกรุ๊ป ประสบความสำเร็จจึงเริ่มส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น ของเขา

เงิน 5 พันล้านเป็นทรัพย์สินเกือบหนึ่งในสามของ ตระกูลเหอ ดังนั้นถ้าทุกอย่างยังคงดิ่งลงตระกูลเหอ ต้องล้มละลายอย่างแน่นอน!
“บ้าจริง ครอบครัวตระกูลเหอของเราถูกหยูเม่ย หยินกรุ๊ปโจมตีแบบนี้ ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้กลับทำ อะไรไม่ได้เลยเหรอ?” เหอเทียนหลินหัวหน้า ครอบครัวทุบโต๊ะอย่างแรงแล้วตะโกนพูดด้วยความ โมโห

ก่อนหน้านี้เหอหุ้นเหลียงลูกชายของเขาเพิ่งถูก ทำร้ายร่างกายจนต้องเข้าโรงพยาบาล และไม่นาน หลังจากนั้นตระกูลของเขาก็ต้องประสบกับปัญหา ใหญ่นี้อีก เคราะห์ซ้ำกรรมซัดจนเขาตั้งตัวแทบไม่ทัน

จริงๆ

“พี่ใหญ่ นี่มัน….” ทุกคนในตระกูลเหอต่างก็มอง หน้ากันและพูดอะไรไม่ออก

“พวกไร้ประโยชน์ไร้ประโยชน์ทุกคน ตระกูลมีพวก คุณไว้ทำไมกัน?” เมื่อเห็นภาพนี้ เหอเทียนหลินทุบ โต๊ะแรงๆ อีกครั้งด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยวจนดูน่ากลัว มาก

“เหอะๆ เจ้าบ้านเหอ คุณเสียสติไปแล้ว เงียบแค่ 5 พันล้านจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคุณได้อย่างไร?” ทันใดนั้นก็มีเสียงหวานใสของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมา
ทุกคนหันกลับมาแล้วเห็นชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้า

มาจากประตู

ผู้ชายหน้าตาหล่อเหลารูปร่างสูงใหญ่และสวมเสื้อ โค้ทสีดำเดินเข้ามาอย่างมีสง่า

เขาคือจางเทา ทายาทผู้สืบตระกูลของตระกูลจาง

ครอบครัวตระกูลจางก็เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ ของเมืองปินเหอและเป็นพันธมิตรกับตระกูลหานด้วย

เมืองปินเหอในวันนี้เหลือเพียงตระกูลหลิ่วกับ ตระกูลหลินเท่านั้นที่ไม่ได้เป็นพันธมิตรกับตระกูลหาน

แน่นอนว่าตระกูลหลิ่วกับตระกูลหลินก็มีแพลนที่จะ ร่วมเป็นพันธมิตรเหมือนกัน แต่มีเพียงรายละเอียด บางอย่างที่ยังไม่ค่อยชัดเจนเท่านั้น

ส่วนผู้หญิงที่เดินเข้ามาเธอโฉมงามมีเสน่ห์ ผิวแดง ค่ำ ริมฝีปากที่อวบอิ่มทำให้คนมองแล้วอดไม่ได้ที่จะ เข้าไปกัด

แต่รูปร่างของเธอชวนเย้ายวนมากกว่า กี่เพ้าที่ถูก สั่งตัดออกมาแน่นกว่าปกติ เมื่อสวมใส่ในตัวเธอแล้ว แสดงให้เห็นถึงหุ่นอันงดงามอย่างเต็มที่
ไร้ที่ติ!

เพอร์เฟคที่สุด!

เธอไม่ใช่ใครคนอื่น แต่เป็นหานปิงหาน

ร่องรอยของความเร่าร้อนปรากฏขึ้นในดวงตาของ เหอเทียนหลิน นี่คือผู้หญิงที่ทำให้เขาหวั่นไหวได้ อย่างแน่นอน

และในเวลาเดียวกันหลายๆ คนในตระกูลเหอก็ จำเป็นต้องแอบกลืนน้ำลายเหมือนกัน ทุกคนต่างก็ จินตนาการถึงความสุขในยามค่ำคืนเมื่อได้ผู้หญิงคน นี้ไปครอบครอง

“คุณหนูหาน คุณชายจาง คุณสองคนเป็นแขกผู้มี เกียรติของผมนะครับ พวกคุณต้องมีธุระสำคัญใช่ไหม ครับ ถึงได้มาในเวลากลางคืนแบบนี้?” เสียงของเหอ เทียนหลินที่พยายามกลบเกลื่อนสายตาอันเร่าร้อนคู่ นั้นแล้วถามหานปิงหานกับจางเทา

หานปิงหานพูดด้วยรอยยิ้มอันมีเสน่ห์ “ไหนๆ เรา ก็ได้ร่วมมือกันแล้ว การที่ลงเรือลำเดียวกันมันก็ต้อง แบ่งปันความทุกข์สุขด้วยกัน วันนี้ตระกูลเหอของคุณ ถูกหยูเม่ยหยินกรุ๊ปกระหน่ำโจมตีอย่างหนัก ซึ่งแน่นอนว่าเราก็ต้องมาช่วยกันแบ่งปันความทุกข์กับ พวกคุณบ้างสิ”

“อ้อ แล้วคุณคิดจะแบ่งปันความทุกข์ยังไงครับ?” เหอเทียนหลินขมวดคิ้วถาม

ชิงเหอกรุ๊ปก็ตกเป็นเป้าหมายของหยูเม่ยหยินกรุ๊ป เหมือนกัน ดังนั้นเขาจึงสันนิษฐานว่าสถานการณ์ของ ชิงเหอกรุ๊ปคงไม่ต่างอะไรกับตระกูลเหอของเขาอย่าง แน่นอน

หานปิงหานยิ้มอย่างเงียบๆ สองมือขาวเรียวของ เธอกอดอกแล้วพิงอยู่ที่มุมโต๊ะอย่างสง่างาม

ท่าทางนี้ยิ่งทำให้เธอดูมีเสน่ห์มากขึ้น ความอิ่มเอิบ ของเธอทำให้มองแล้วรู้สึกกระสับกระส่ายอย่างที่สุด โดยเฉพาะกี่เพ้าที่แตกมาถึงโคนขาของเธอ มันเผย ให้เห็นถึงขาอันขาวเรียวดูนุ่มชุ่มชื้นของเธอ

กรบ!

หลายๆ คนในตระกูลเหอได้แต่กลืนน้ำลาย ถ้า ไม่ใช่เพราะกลัวตัวตนของผู้หญิงคนนี้ พวกเขาคงต้อง คิดหาวิธีที่จะพาเธอไปนอนอยู่บนเตียงให้ได้อย่าง แน่นอน
สายตาของจางเทาเหลือบมองไปที่หานปิงหาน จากนั้นค่อยๆ หันมองไปที่อื่น

หานปิงหานยิ้มพูดกับเหอเทียนหลิน “เนื่องจาก สถานการณ์ในปัจจุบันหยูเม่ยหยินกรุ๊ปเป็นอุปสรรค ต่อพวกเราเป็นอย่างมาก แต่ในตอนนี้ฉันก็มีวิธีที่จะ กำจัดต้นตอจนทำให้หยูเม่ยหยินกรุ๊ปถึงขั้นสิ้นชีพได้ แล้ว”

เมื่อได้ยินประโยคนี้เหอเทียนหลินเลิกคิ้วแล้วถาม เธอว่า “วิธีไหน?”

หานปิงหานปิดปากตัวเองแล้วหัวเราะ “ก่อนจะพูด ถึงเรื่องนี้ เรายังพบสิ่งที่น่าสนใจเรื่องหนึ่ง ฉันคิดว่า เจ้าบ้านเหอจำเป็นต้องรู้ก่อน”

“อ้อ จริงเหรอ?” เหอเทียนหลินเริ่มอยากรู้

จางเทาก้าวออกมาแล้วพูด “ตระกูลเหอน่าจะรู้ดีว่า คุณหนูหานนั้นมีความเคียดแค้นกับไอ้คนที่ชื่อลู่เสี้ยง หยางคนนั้น และลูกชายของเจ้าบ้านเหอก็ถูกเขาคน นั้นทำร้ายร่างกายเหมือนกัน จากเบาะแสที่เรามี คน ดังกล่าวนามสกุลลู่และเป็นคนตระกูลลู่ในเมืองหลวง ซึ่งเขาก็คือหางเสือที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดของหยูเม่ยหยินกรุ๊ป”

ทันทีที่ได้ยินเช่นนี้ รูม่านตาของเหอเทียนหลินหด เล็กลงแล้วกำหมัดไว้แน่นๆ

ตระกูลลู่ในเมืองหลวงเป็นตระกูลที่ร่ำรวยและสูงส่ง ที่สุด เป็นตระกูลที่อยู่ต้นๆ ในหวาเซี่ย แล้วพวกเขาจะ เอาอะไรไปสู้กับตระกูลลู่?

“ถ้าตามที่เล่ามา พวกเราคงต้องเจอกับปัญหาใหญ่ แล้วสินะ?” เหอเทียนหลินเริ่มมีเหงื่อเย็นที่หน้าผาก ของเขา

หานปิงหานยิ้มพูดเบาๆ “เจ้าบ้านเหอยิ่งแก่ยิ่งขี้ กลัวจริงๆ เลยนะคะ พลังมังกรก็ไม่อาจสยบคนพาลได้ แม้ตระกูลลู่จะยิ่งใหญ่ในเมืองหลวงก็จริง แต่อำนาจ ของเขาก็คงมาไม่ถึงเมืองปินเหอนี้ได้หรอก ต่อให้ ตระกูลลู่ต้องการเปิดศึกกับตระกูลหานของเรา แต่ถ้า อยู่ในเมืองปินเหอนี้ตระกูลหานของเราไม่เคยเกรง กลัวใครอยู่แล้ว อีกอย่างตระกูลหานของเราไม่จำเป็น ต้องเผชิญหน้าอย่างเปิดเผยกับตระกูลลู่ เพราะถึง อย่างไรแล้วฉันก็มีความมั่นใจว่าจะเล่นงานคนสกุล คนนี้ได้อย่างแน่นอน”
แม้จะเป็นคำพูดที่ฟังดูดีแต่ก็ซ่อนความโหดร้ายอยู่ ภายใน

เปลือกตาของเหอเทียนหลินถึงกับกระตุก เขารู้ว่า หานปิงหานที่อยู่ตรงหน้าคนนี้งดงามราวกับนางฟ้า แต่ภายในจิตใจของเธอชั่วร้ายยิ่งกว่าชาตาน อาจจะ เรียกเธอว่าซาตานในคราบนางฟ้าหรือมากกว่านั้น ก็ได้

ด้วยเหตุนี้เธอจึงเป็นสาววัย 30 ต้นๆ ที่ตระกูลหาน ให้ความสำคัญ และยังเป็นสาววัย 30 ที่มีวุฒิภาวะ เทียบเท่ากับเขา แม้กระทั่งสามารถเอาชนะเขาใน เรื่องบางเรื่องด้วยซ้ำ

นอกจากนี้จางเทาที่เป็นทายาทสืบสกุลของตระกูล จางในอนาคตคนนี้ยังยินยอมที่จะลดตัวลงมาติดตา มหานปิงหานด้วย

ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพียงพอที่จะบ่งบอกถึงความน่ากลัว ของหานปิงหานได้

ดังนั้นแม้ว่าเหอเทียนหลินได้ร่วมมือกับตระกูลหาน อยู่แล้ว แต่เขาก็ต้องการรักษาความสัมพันธ์นี้ไว้ให้ดี เพราะเกรงว่าสักวันหนึ่งหานปิงหานจะหันกลับมาเล่นงานตระกูลเหอของเขา

“หึๆ! มันต้องเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและสนุกมาก ฉัน ก็เชื่อว่าเจ้าบ้านเหอต้องชอบอย่างแน่นอน” หานปิง หานยังคงพูดต่อ เธอยิ้มกระซิบพูดข้างหูเหอเทียน หลินผ่านริมฝีปากสีแดงอันอวบอิ่มของเธอ

ลมหายใจอุ่นๆ กระทบกับใบหน้าของเหอเทียน หลินทำให้จักจี้หัวใจของเขา

แต่ไม่นานหลังจากนั้น เขาก็รู้สึกเย็นชาและขมขื่น ตั้งแต่หัวจรดเท้า กลยุทธ์ยืมดาบฆ่าคนของหานปิง หานนี้อาจบอกได้ว่ามันเลวทรามอย่างที่สุด

“เป็นยังไงบ้าง? เจ้าบ้านเหอ มันฟันดูน่าสนุกน่าตื่น เต้นไหมคะ?” หลังพูดถึงแผนการของเธอ หานปิงหาน ก็มองเหอเทียนหลินด้วยสายตาเปล่งประกาย

กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหอเทียนหลินบิดเบี้ยว เขาพูดต่ออย่างเคร่งขรึม “มันยากมากสำหรับผมที่ ต้องจินตนาการว่าสักวันหนึ่งคุณใช้กลยุทธ์นี้กับผม แล้วผมจะรับมันได้อย่างไร?”

หานปิงหานส่ายหัวแล้วยิ้มพูดต่อ “คุณลืมไปแล้ว หรือว่าเราอยู่ในความสัมพันธ์แบบพันธมิตรกัน เราต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันไม่ใช่เหรอ? ตระกูลหาน ของเราจะคิดสั้นแบบนั้นได้ยังไง เรื่องการสร้างศัตรู กับพันธมิตรนั้นมันอยู่ในคนละโลกกับตระกูลหานของ เราอย่างแน่นอน”

เหอเทียนหลินพยักหน้าแต่ในใจก็ยังกลัวหานปิง หานอยู่ดี

แต่นี่ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดที่เขาต้องกังวลในเวลานี้ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้ก็คือการรอคอย แผนการของหานปิงหานที่จะเอาลู่เสี้ยงยางคนนั้นให้ ถึงตาย

“เหอะ ขอเพียงลู่เสี้ยงหยางตาย บริษัทหยูเม่ยหยิน กรุ๊ปก็จบเห่อย่างแน่นอน ถึงเวลานั้นเราก็จะได้ครอบ ครองตลาดเมืองปินเหอไปด้วยกันสักที” เหอเทียน หลินคิดในใจ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ