บทที่186 หานปิงหานอับอาย
คู่เสี้ยงหยางฟังคำพูดของหานปิงหาน รอยยิ้มบนใบหน้าก็ ค่อยๆหายไป แทนที่ด้วยความเยือกเย็น
ปกติแล้วเขาไม่อยากรู้จักมักจีกับพวกมดปลวก แต่ก็ไม่ได้
หมายความว่ามดปลวกจะมาด่าว่าเขาตามอำเภอใจได้ “ดีมาก เดี๋ยวแกก็จะรู้ ถึงผลของการพูดดูหมิ่นฉัน” สู่เสี้ยง หยางพูดอย่างเย็นชา
ในขณะนี้บอดี้การ์ดสิบกว่าคนนั้นเดินมาถึงข้างตัวลู่เสี้ยง หยางแล้ว ยกหมัดขึ้นเตรียมจะส่งไปทักทายลู่เสี้ยงหยาง
ฉากนี้ ทำให้เหล่าชายสูงศักดิ์พอใจมาก นี่คือพลังอำนาจ ของพวกเขา คนต่ำต้อยอย่างลู่เสี่ยงหยาง เพียงคำเดียวก็ ตัดสินให้เขาเป็นหรือตายได้
ถึงอย่างนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ คือสิ่งที่พวกเขาทั้งหมด ไม่คาดคิด
เห็นแค่บอดี้การ์ดสิบกว่าคนที่อยู่ห่างจากตัวลู่เสี้ยงหยาง หนึ่งเมตร จู่ๆมือของลู่เสี้ยงหยางก็ยื่นไม้ออกมา กวัดแกว่ง ไปรอบตัว เป็นวงกลม ตกลงบนตัวของบอดี้การ์ดพวกนี้
“อากกกก” เสียงกรีดร้องดังออกมาจากปากของบอดี้ การ์ดสิบกว่าคน ร่างกายของพวกเขาถูกตึกระเด็นออกไปราวกับลูกเบสบอล ถูกผลักออกเป็นแนวนอนกลางอากาศ หลายเมตร ก่อนจะกระแทกลงบนโต๊ะเก้าอี้
สึ่งตึงตึง!
ทันใดนั้น เก้าอี้และโต๊ะก็แตกเป็นเสี่ยงๆ บอดี้การ์ดสิบ กว่าคนกองอยู่กับพื้นเหมือนหมาที่ตายแล้ว ร่างกายขดเป็น ลูกบอล เลือดกบปาก ร้องโอดครวญไม่หยุด
เปรี้ยง!
ในตอนนี้ ในสมองของทุกคนมีเสียงฟ้าผ่าดังสนั่น ถลึงตา อ้าปากค้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยหวาดหวั่นและเหลือเชื่อ
ลู่เสี้ยงหยางลงมือครั้งเดียวก็ทำลายบอดี้การ์ดสิบกว่าคน ลงใต้
ฉากที่น่าหวาดกลัว น่าประหลาดใจเช่นนี้ พวกเขาเคยเห็น แต่ในภาพยนตร์ เมื่อไหร่กันที่จะได้สัมผัสประสบการณ์ด้วย ตัวเองแบบนี้
ความตกใจนี้ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไปพักใหญ่ จากนั้นถึง มีคนได้สติ
“นี่..ทำไมเป็นแบบนี้?” หานปิงหานสูดหายใจเข้าลึก แวว ตาเผยความหวาดกลัว
ดูท่าลู่เสี้ยงหยางวันนี้กล้ามาถึงงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ของชิงเหอกรุ๊ปของพวกเขา เพราะมีความเข้มแข็งคอยหนุนหลัง
พวกเหอจุ้นเหลียง ไป่จื่อเหา สวียั่นยั่นตาหดเล็กลงอย่าง รวดเร็ว ในใจรู้สึกผิดธรรมชาติ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาตก ตะลึง กับความสามารถที่คาดเดาไม่ได้ที่ลู่เสี้ยงหยาง แสดงออกมาเมื่อกี้
“แม่ง เป็นแบบนี้ได้ไงวะ?” รอยยิ้มบนใบหน้าของโจวอาน แข็งที่อ ในทันที กลืนน้ำลายไปหนึ่งอีก โดยไม่รู้ตัว หรือว่าลู่เสี้ ยงหยางมีความแข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ แม้แต่ตระ กูลเหอ ตระกูลหานต่างก็เอาชนะเขาไม่ได้
“เอ่อ เอ่อ นี่…นี่” จ้าวหรูเย็นตาโตอ้าปากค้าง การ แสดงออกเฉื่อยชามาก ลู่เสี้ยงหยางกลายเป็นคนสุดยอด แบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่? ในภาพจำของเธอ ลู่เสี้ยงหยางมี ทักษะทางการแพทย์ที่แข็งแกร่ง แต่ร่างกายอ่อนแอ
“ว้าว ผู้ชายป่าเถื่อน! คู่ควรที่จะเป็นพ่อตัวร้ายที่ฉันอยาก จะคุกเข่าเลีย” หลิ่วหรูยู่ตัวสั่นไม่หยุด เพราะความตื่นเต้นที่ มากเกินไป ใบหน้าที่ไร้ที่ติเต็มไปด้วยสีแดง
เพียงแค่ในเวลา0.01วินาที เธอก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังมี ความรัก ลู่เสี้ยงหยางคือผู้ชายที่เธอกำลังตามหา
สู่เลี้ยงหยางไม่เพียงแต่ยอดเยี่ยมในด้านสาขา วิทยาศาสตร์ชีวภาพเท่านั้น แต่ความแข็งแกร่งส่วนตัวยัง ทำให้สวรรค์ต้องตกใจผีสางต้องร้องไห้
ผู้ชายที่เก่งทั้งปุ่นและ ที่สำคัญยังหน้าตาหล่อเหลาแบบ นี้ นับว่าเป็นของดีจริงๆ ถ้าพลาดไปคงหาใครมาแทนไม่ได้ แล้ว
“ฮ่าฮ่า เดี๋ยวคืนนี้กลับบ้านไป ฉันจะประกาศว่าฉันสละ โสดแล้ว ให้ผู้อาวุโสที่บ้าน ไม่ต้องกังวลกับเรื่องส่วนตัวของ ฉันแล้ว” หลิ่วหรูยู่คิดในใจ แววตาเต็มไปด้วยฤดูใบไม้ผลิ
ในเวลานี้ หลังจากที่ลู่เสี้ยงหยางตีพวกบอดี้การ์ดสิบกว่า คนนั้นกระเด็นไปแล้ว ก็ปัดฝุ่นที่ไม่มีอยู่จริงบนตัวเขา มองไป ที่หานปิงหานด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ยแล้วพูดว่า “แกไม่รู้อะไร ต่อหน้าผู้ที่มีอำนาจเด็ดขาด กลอุบายทั้งหมดนั่นหักล้างได้ ด้วยหมัดเดียว ดังนั้นฉันขอแนะนำแก วิธีการเล็กๆน้อยๆ ของแกนะเก็บไปซะเถอะ”
แววดาของหานปิงหานเปลี่ยนไปชั่วครู่ แต่ก็มั่นคงได้ใน ทันที แล้วพูดยิ้มแต่ไม่ยิ้ม “ตอนนี้เป็นสังคมเศรษฐกิจ โลก ของผู้ที่ร่ำรวยมีอำนาจ แกคิดว่าแค่หมัดเดียวก็เอาชนะโลก ได้หรอ?”
ทันทีที่พูดจบ เหล่าผู้ดีมีอำนาจ ที่ตกตะลึงในความ แข็งแกร่งที่แสดงโดยลู่เสี้ยงหยางเมื่อครู่ ต่างก็พยักหน้า โดยไม่รู้ตัว ความหวาดกลัวบนใบหน้าถดถอยไป แทนที่ ด้วยความมั่นใจและการดูถูกเหยียดหยาม
หานปิงหานพูดถูกต้อง ตอนนี้เป็นโลกของผู้ดีมีอำนาจเมื่อเผชิญหน้ากับเงินและอ่านาจที่แท้จริง ต่อให้เป็นคนที่ ต่อยดีได้ก็จะกลายเป็นเพียงหมาของผู้มีอำนาจเท่านั้น
“ช่าฮ่า” เหอหุ้นเหลียงเงยหน้าขึ้นยิ้ม ชี้ไปที่ลู่เสี้ยงหยาง แล้วพูดอย่างดูถูก “ไอ้กังฟูกระจอกๆนั้นเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ ได้หรอก ต่อไปนี้ ขอแนะนำว่าแกอย่าต่อต้าน ยิ่งต่อต้านเท่า ไหร่แกก็ยิ่งตายอย่างเจ็บปวดมากเท่านั้น”
ได้ยินคำนี้ จ้าวหรูเย็นที่พึ่งวางใจได้ ก็เก็บขึ้นมาอีกครั้ง ในโลกทุกวันนี้ การใช้กำลังไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้ ดังนั้นเหล่านักรบที่เคยเชี่ยวชาญโลก จึงได้เพียงยื้อชีวิตอยู่ ใต้ดิน ไม่อาจขึ้นสู่เวทีประวัติศาสตร์ใด้ คนที่เล่นกับ สถานการณ์ใด้ คือพวกผู้ดีมีอำนาจที่สูงส่ง
นี่คือสัจธรรม
ดวงตาของหลิ่วหรูยู่ลุกโขน ในใจหัวเราะเยาะที่คนพวกนี้ ตาไม่ถึง ภายใต้ความสามารถที่แท้จริง ความแข็งแกร่งที่ แหวกน้ำพลิกทะเลได้ ผู้ดีมีอำนาจจะไปสู้อะไรได้?
ตอนนี้รอยยิ้มเต็มใบหน้า ยังอยากดูต่อว่าลู่เสี้ยงหยางจะ มีความประหลาดใจอะไรให้เธอไหม
การแสดงออกของลู่เสี้ยงหยางไม่เปลี่ยน สายหน้าแล้วพูด ว่า “หานปิงหาน วิสัยทัศน์แกมันแคบเกินไป แกมองเห็นแค่ ฟ้าของปืนเหอ ไห้ตง มองไม่เห็นฟ้าภายนอกปินเหอ ไห้ตง ด้วยกำลังของฉัน แค่มือเดียวทำลายพวกคนมีอานาจในปินเหอทั้งหมด ทำไมจะทำไม่ได้?
คำพูดนี้ส่งผ่านไปอย่างลอยๆ ง่ายราวกับดื่มน้ำ กิน
อาหาร แต่ก็มีพลังราวกับเสือ
หลายคนอยากจะหัวเราะเยาะ แต่กลับหัวเราะไม่ออก พวก
เขารู้สึกว่าบางอย่างผิดปกติ
วินาทีถัดมา ลู่เสี้ยงหยางก็ก้าวขาเดิน เข้าไปหาหานปิง
หาน
เหล่าชายผู้มีอำนาจที่อยู่รอบตัวหานปิงหาน ไม่มีซักคน
เดียวที่กล้าออกมายืนขวาง แต่หลีกทางให้ลู่เสี้ยงหยางอย่าง ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
นี่คือพลังที่ออกมาจากตัวของลู่เสี้ยงหยาง
ไม่ว่ากองทัพม้าเป็นพันเป็นหมื่น ผีสางเทวดา ตอนนี้ก็ต้อง หลบหลีก
หลังจากหายใจไม่กี่ครั้ง ลู่เสี้ยงหยางก็มาถึงข้างตัวหาน ปิงหานแล้ว
มือขวายกขึ้น สองนิ้วบีบคางของหานปิงหาน ยกหน้าที่ สวยงามไร้ที่ติ น่าพิสมัยหลงใหลของเธอขึ้นมา
ค่อยๆ โน้มตัว มองไปที่หานปิงหานอย่างไม่ลดละ
เนื่องจากระยะห่างของทั้งสองค่อนข้างใกล้ ดังนั้นในตอนนี่ใบหน้าทั้งสองจึงใกล้แค่เอื้อม ลมหายใจรดหน้ากันและกัน มองเห็นได้ชัดเจน
หานปิงหานผู้ซึ่งสงบนิ่ง ไม่เคยสนใจลู่เสี้ยงหยางมาก่อน มักจะมองลู่เสี้ยงหยางแปลกๆ จู่ๆกลับไม่นิ่งสงบ รู้สึกว่าใจ เต้นเร็ว จิตวิญญาณสั่นเล็กน้อย
ในตอนนี้ เธอเหมือนมีภาพลวงตา ราวกับว่าลู่เสี้ยงหยาง เพิกเฉยต่อทุกสิ่ง พลั้งมือฆ่าเธอไปแล้ว
“แกกลัวหรอ?” ทันใดนั้นลู่เสี้ยงหยางก็ยิ้ม ถึงแม้จะยิ้มอยู่ แต่ฟันขาวที่เขาเผยออกมานั้น กลับทำให้หานปิงหานที่มอง เต็มไปด้วยความเย็นเยือก
หานปิงหานโมโหในใจ สถานะของตนสูงส่ง ทำไมถึงกลัว ไอ้กระจอกตัวเหม็นอย่างลู่เสี้ยงหยาง
“อ่อนหัด หรือว่าแกยังกล้าที่จะลงมือกับฉัน? กลางวัน แสกๆ คิดถึงผลที่ตามมาให้ดี” หานปิงหานยิ้มเยาะ
สู่เสี้ยงหยางยิ้มเล็กน้อย มือที่บีบคางของหานปิงหานอยู่ เมื่อครู่ จู่ๆก็เปลี่ยนมุม กตลงบนหัวของหานปิงหาน หานปิง หานถูกลู่เสี้ยงหยางกดให้นอนลงบนโต๊ะโดยไม่รู้ตัว ตามมา ด้วยตัวของลู่เสี้ยงหยางกดบั้นท้ายที่สวยงามของหานปิง ทานจากด้านหลัง
ท่าทางนี้มองดูแล้วคลุมเครืออย่างยิ่ง
ราวกับว่าหานปิงหานถูกลู่เสี้ยงหยางพิชิตได้แล้ว นอน ตกใจอยู่บนโต๊ะด้วยความอัปยศอดสู
“ผู้หญิงอย่างแก อาจจะเป็นนางฟ้าที่ไม่อาจเอื้อมได้ใน สายตาคนอื่น แต่ในสายตาฉัน เป็นแค่กะหรี่ที่เล่นกับผู้ชาย ไปทั่ว ถ้าฉันฆ่าแก ใครจะกล้าออกความเห็น?” ลู่เสี้ยงหยาง พูดอย่างใจเย็น
“เขีย!”
เมื่อพูดคำนี้ออกไป ทุกคนต่างก็ตกใจสุดขีด ลูกตาแทบจะ ตกลงที่ล่ะคน ลู่เสี้ยงหยางกล้าด่าหานปิงหานว่ากะหรี่
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ