บทที่ 180 ข่าวอาการบาดเจ็บหนัก
ทั้งสองคนกอดกันตัวกลม และอันหลิงหยุนสัมผัสได้ว่า คืน นี้กงชิงวี่มีอารมณ์ที่ไม่ดีนัก จึงทราบว่านั่นมันไม่เหมือนเขา เลย
พอตื่นเข้ามาอารมณ์ของกงชิงดีขึ้นมาแล้วบ้าง แต่ก็ยังดูมี อาการซึม ๆ อยู่บ้าง
“เดี๋ยวข้าจะไปดูตูฟางจุ้นหน่อย กลับมาแล้วจะไปเข้าเฝ้า ฝ่าบาท” เมื่อพูดเสร็จกงชิงวี่ก็ได้ออกเดินทาง และอันหลิงหยุ นก็ได้วิเคราะห์หาพิษของฮ่องเต้ชิงหยู่ที่ได้รับต่อ
พอถึงช่วงเที่ยงอันหลิงหยุนก็ออกจากห้องทดลอง เพื่อมา เสวยข้าว และทันใดอยู่ก็ลุกลี้ลุกลนวิ่งเข้ามายังประตู แล้ว พูดขึ้นว่า “พระชายา เกิดเรื่องแล้ว”
“อันใด เมื่อวานเจ้าไปไหนมา แล้วเจ้ายังมีหน้ามาบอกข้าว่า เกิดเรื่องอีกหรือ ข้าว่านะ เจ้านั่นแหละควรจะมีเรื่อง ลนลาน อันใดมา” อันหลิงหยนทราบ ก็รู้สึกหงุดหงิต
อาหยู่ดูมีท่าที่ผิดหวัง พระชายานับวันยิ่งร้ายนะ
“พูดมา เรื่องอันใด” อันหลิงหยุนทนไม่ได้เลยถาม
ข้าล่ะรู้สึกเสียใจจริง ๆ ที่ให้ถางเหอไปทำความสะอาดร้าน ค้า ที่จริงน่าจะให้อาหยู่ไป
“เกิดเรื่องกับอ่องตวน” อาหยู่มีสีหน้าที่ร้อนรแ อันหลังหมุ นทำเป็นเหมือนไม่ได้ยินที่นางพูด จะเรื่องอันใดได้ คงไม่ตาย หรือก
“ไม่ใช่เรื่องของอ๋องเสียนสักหน่อย เขาเกิดเรื่องก็เรื่องของ เขา ไม่เห็นจะเกี่ยวข้องอันใดกับพวกเรา ข้ายังมีธุระที่ต้องทำ อีกอย่ามารบกวน” อันหลิงหยุนเตรียมที่จะวิเคราะห์พิษของ ฮ่องเต้ชิงหยู่ต่อ
“พระชายาเจ้าคะ อ๋องตวนโดนมีตจำนวนมากแทงทั่วทั้งตัว ชีวิตอยู่ในขั้นวิกฤ ตอนนี้จวนอ่องตวนวุ่นวายกันยกใหญ่ ซึ่งนี่ ก็เป็นคำสั่งจากอ่องเสียนให้ข้ารีบกลับมาบอกข่าวแก่ท่าน เขาบอกว่าอ่องตวนจะมาที่จวนเรา”
อันหลิงหยุนจึงรีบหันกลับไปมองอาหยู่อย่างรวดเร็ว “มีด จำนวนมากหรือ
“พระชายา รีบหน่อยเถอะค่ะ หากช้าไปเกรงว่าจะไม่รอด เอาได้” อาหยูกลับหลังได้จึงรีบวิ่งไป อันหลังหยุนก็ตกใจไม่ แพ้กัน จึงได้บอกให้คนเตรียมของให้โดยด่วน
ผ่านไปสักพัก ก็มีคนแบกอ่องตานผ่านเข้ามาในประตู และ จำนวนของคนที่เข้ามานั้นก็เยอะ
ทำเอาอันหลิงหยุนเองก็ตกใจ ส่วนกงชิงวิที่ตามมานั้นทั่วทั้ง ตัวอาบด้วยเลือด เมื่ออันหลิงทยุนเห็นดังนั้น จึงรีบวิ่งเข้าไปดู “ท่านบาดเจ็บหรือ ตรงไหน”
อันหลิงหยุนดึงตัวของกงชิงวิ่งมาดูใกล้ ๆ สีหน้านั้นชัดเผือด
“ข้าเองไม่เป็นไรหรอก ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นเลือดของพี่ สอง เข้ารีบไปดูเร็ว พี่สองเป็นกระไรบ้าง” กงชิงวรีบลากตัว ของอันหลิงหยุนไปดูคนคนนั้นที่โตนแบกเข้ามาให้จวน พออันหลังหยุนได้ยินว่ากงชิงนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บ ทันใดก็ รู้สึกสบายใจขึ้นมา
จากที่อันหลิงหยุนนั้นมองยังอ่องตวน แทบจะดูไม่ออกวา เป็นใคร เพราะทั่วทั้งตัวนั้นเต็มไปด้วยเลือด
อันหลิงหยุนทันใดก็เดินไปยังข้างหน้าของอ่องตวน เพื่อ ทำการตรวจดูอาการของเขา มือหนึ่งข้างจับที่ข้อมือของเขา สัมผัสได้ถึงชีพจรที่ยังเต้นอยู่
ชีพจรที่ดูอ่อนนั้น อันหลิงหยุนทันใดจึงรีบสำรวจ
และผลของการสำรวจนั้น ไม่เพียงแต่จะได้รับบาดหนัก
จากนั้นอันหลิงหยุนก็ดูที่ดวงตาของอ่องตวน รอบ ๆ ตวงตา นั้นมีเลือดออกมานิดหน่อย และริมฝีปากก็มีสีดำ
จากนั้นอันหลิงหยุนก็ได้อ้าปากของอ่องตวนดู พบว่า ภายในปากมีเส้นเลือดสีดำขึ้นเต็ม หากเป็นแบบนี้แสดงว่าฟิษ นั้นได้เข้าไปสู่หัวใจแล้ว
อันหลิงหยุนมองที่อาหยู่ แล้วพูดขึ้นว่า “รีบนำเขาไปยังห้อง ของฉันส่วน”
อาหยูจึงรีบนำคนยกตัวอ่องตวนเข้าไปยังห้องของอันหลิง หยน และในขณะเดินไปนั้น กงชิงวีคว้ามือของอันหลิงหยุน เอาไว้เพื่อให้นางนั้นเดินข้าลงหน่อย
อันหลิงหยุนดูท่าที่เร่งรีบจริง ๆ แทบที่จะถลกชายกระโปรง แล้ววิ่งไป
กงชิงวีจึงได้อธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นให้กับอัน หลังหยุนฟัง เพื่อไม่อยากให้นางนั้นวิ่ง เพราะว่าจะทำให้มี ผลกระทบต่อแม่และเด็ก
“ที่แรกข้าว่าจะเข้าวัง แต่มีคนมาบอกกับข้าว่า อ๋องต วนแสวยเรื่องแล้ว จากนั้นข้าก็รีบวิ่งตามไปดูยังในตรอกเล็ก ๆ ครั้งจวนอ่องตวน และก็พบว่าอ่องตวนนั้น ถูกคนร้ายลอบ ทำร้าย
และอีกอย่างพวกนั้นก็ไม่ใช่คนธรรมดา หากถ้าข้าไปไม่ทัน เวลา อ่องตวนคงจะต้องตายไปแล้ว”
เมื่ออันหลังหยุนพอได้สติแล้วนั้น “อยู่ดี ๆ อ่องตวนจะไป หลังจวนทำไม”
“ข้าเองก็ไม่แน่ใจ คงต้องรอให้เขาฟื้นขึ้นมาก่อนแล้วแหละ” ถึงชิงวีก็รู้สึกสงสัยว่าใครเป็นคนลงมือ
อันหลิงหยุนเองก็รู้สึกว่ามันแปลก ๆ “ท่านอ่อง หรือว่าจะมี ใครทำเพื่อใส่ร้ายให้กับพวกเรา”
กงชิงวีสายหน้า “ข้าก็ไม่ทราบ”
คงชิง สิหน้าดูสงสัย อันหลังหยุนเองก็ไม่อยากจะพูดอันใด ต่อ นางเลยจึงรีบไปดูอาการของอ่องดวน จากนั้นก็ถลกชาย กระโปรงแล้วก็รับไป กงชิง ทีที่อยู่ข้างหลังห้ามไม่ทัน จึงได้ คว้าแขนนางไว้ แล้วอุ้มนางไปส่งยังลานโอวหลาน
พอถึงลานโอวหลานแล้วอันหลิงหยุแก้รับเข้าไปดูอ่องตาน แล้วสั่งให้คนออกไปจากห้อง ให้อยู่ได้แค่กงซิงวี่ อาหยู่ หง เถา ลุ่ยหลิ่วเท่านั้น
อาหยู่มองไปยังด้านนอก เห็นหงเถา ลุ่ยหลิ่ว กำลังเตรียม น้ำร้อนเพื่อจะล้างทำความสะอาด ส่วนเหล่าบรรดาหมอต่าง ๆ ก็รออยู่ด้านนอก
อันหลิงหยุนปิดประตูลง แล้วหยิบมีดออกมา ไปที่ข้อ
มือ ดูท่าทางคล่องแคล่วมาก
กงชิงวีเองก็รู้สึกเจ็บแทน แต่ก็ไม่ได้ห้ามปรามแต่อย่างใด
อันหยุนบีบที่ปากของอ่องตวนเบา ๆ เพื่อให้หยดเลือด หยดเข้าปากได้ ทันใด อ๋องตวนจากริมฝีปากที่มีสีดำนั้น ก็ เปลี่ยนเป็นสีธรรมดาขึ้นมา
อันหลิงหยุนรอจนกระทั่งสีหน้าของอ๋องตวนนั้นปกติ และสี ปากนั้นเป็นสีแดง แล้วค่อยพันแผลที่ข้อมือของตัวเอง
“หงเถา ลุ่ยหลิ่ว อีกสักพักก็มาแล้ว” อันหลิงหยุนเอสมีดวาง ไว้ด้านข้าง จากนั้นก็ไปทำความสะอาดให้แก่อ่องตวน พอเปิด เสื้อออกมา ก็พบว่าทั่วร่างนั้นมีแต่รอยบาดแผลจากปัด แต่ละ แผลลึกถึงกระดูกและสามารถเอาชีวิตได้
อันหลิงหยุนสูตลมหายใจเข้า จากนั้นก็ค่อย ๆ สำรวจตั้งแต่ หัวจรดเท้า และก็พบว่ามีรอยบาดแผลที่ขาอยู่สองสามรอย อันหลิงหยุนแล้ว “พวกนั้นคงจะให้อ่องตวนคุกเข่าให้แน่ ๆ แต่อ่องตวนคงไม่ ยอม จากนั้น พวกนั้นเลยใช้มีดบังคับเขา” อันหลิงหยุนคาด เตาเอา ซึ่งวรยุทธของอ่องตวนนั้นไม่ดีเลย และอีกอย่างพวก นั้นต่างก็มีฝีมือกันทั้งนั้น พวกนั้นให้อ่องตวนคุกเข่า อ่องตวน เลยไม่ยอม พากนั้นเลยพาอ่องตวนไปยังที่ที่ไม่มีคน แล้วใช้ มีดปาดที่ขาทั้งสองข้างของเขา เนื่องจากอ่องตวนคงไม่ยอม ที่จะคุกเข่าให้ และก็พวกนั้นปาดไปที่ข้อพับขาของอ่องตวน ด้วย
อันหลิงหยุนฉีกผ้าบริเวณหัวเข่าของอ่องตวนออก และที่หัว เข่านั้นก็มีอาการบวมแดงอยู่แล้ว
อันหลิงหยุนก็คงทราบแหละว่าอ่องตวนไม่คุกเข่าให้ พวก เขาเลยใช้วิธีการที่โหด ๆ
บริเวณข้อพับของขาหากโดนปาดไปสักครั้ง เส้นเอ็นคงจะ
ขาดได้เรื่องเจ็บนั้นมันเจ็บอยู่แล้ว แต่หนักกว่านั้นคือ เป์
อันหลังหยุนจึงรีบทำความสะอาดแผลทั่วทั้งร่างให้แก่อ่องต วน ก็คือต้องล้างแผลก่อนจากนั้นค่อยห้ามเลือด
“ให้หมอเข้ามาสองคน อันหลิงหยุนสั่งการออกไป หมอที่ เฝ้าอยู่ข้างนอกทันใดก็รีบเข้ามา เพราะว่าเตรียมตัวไว้อยู่แล้ว ซึ่งก็ได้พ้นแขนขึ้นแล้วก็รีบดำเนินการ
ในเวลานั้น จนฉันเองก็ได้มายังที่นี่พอดี พอเข้าประตูไปก็ รีบหาอ้องตวน “ท่านอ่อง ท่านอ่องล่ะ
จุนฉูฉหายดีแล้ว เป็นเพราะว่ายาของอันหลิงหยุนนั้นด็จริง ๆ พอหลังจากที่นางใช้ยาไม่นานก็ดีขึ้น ถึงแม้นว่าจะมีรอย แผลเป็น แต่ก็ไม่ปรากฏว่ามีรอยแผลเป็นเหลือให้เห็น
แต่จุนซูฉุกลับไม่รู้สึกขอบคุณอันหลิงหยุน แต่กลับกัน จุน จูฉกลับยิ่งเกลียดอันหลิงหยุนมากขึ้นด้วยซ้ำ
นางเลยไม่ยอมที่จะมาขอบคุฯที่จวน ไม่ว่าอ้องตานจะพูด กระไรก็ไม่ยอมมา
จนฉฉโวกเวกโวยวายอยู่ในนั้น จนทำให้อันหลิงหยุนเอง รู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก “ปิดปากนางเสียจากนั้นก็ไล่นางออก ไป
อันหลิงหยุนเองจิตใจก็ดูสับสน วุ่นวายอยู่แล้ว ยิ่งมีคนมาร บกวนอีก
คงชิงที่เลยออกคำสั่ง ให้อาหยู่ไล่จุนฉูฉออกไปในทันที ประตูของลานโวนหลานถูกปิดลง และอาหยู่เป็นคนเฝ้าดู
เหตุการณ์ด้านนอก
อันหลิงหยุนหยิบเข็มที่มีหัวขนาดเล็กมา จากนั้นก็ฉีดให้กับ อ้องตวน
เอาเข็มนี้ไป จากนั้นอันหลิงหยุนก็เดินไปอีกทาง แล้วหยิบ ท่อเงินลักษณะอ่อน ๆ ออกมาหนึ่งแท่ง ท่อนั้นมีความใหญ่ เท่ากับตะเกียบ อีกด้านเป็นหัวของเข็ม เพราะว่าสั่งทำเป็น พิเศษ ท่อเงินชนิดนี้บิตโค้งงอได้ตามใจ ความยืดหยุ่นเหมือน กับเชือกทั่วไป ถึงแม้นจะแบนไปหน่อยก็เถอะ แต่ก็สามารถ มองออกว่ามีรูอยู่ข้างใน ที่แรกอันหลิงหยุนเองก็ไม่อยากจะเอาออกมาใช้หรือก แต่ ตอนนี้ไม่ได้มีเวลาให้ต้องได้คิดเยอะขนาดนั้น
จากนั้นก็เอาขวดใสออกมาด้วย แล้วอันหลิงหยุนเลยนำยา แก้อักเสบที่ผสมไว้ เทลงขวดใสแล้วห้อยไว้ด้านบน จากนั้น แทงท่อเงินเข้าไปในขวด อันหลิงหยุนนำเชือกผ้ามาหนึ่งเส้น เพื่อที่จะทำการฉีดยาเพื่อฆ่าเชื้อ
เปิดฝาตรงกลางออกแล้วปล่อยให้มันไหลไปเอง มีอของอัน หลังหยุนจับชีพจรที่แขนของอ่องตวน ท่อชนิดนี้ไม่สามารถ มองเห็นว่าน้ำมันหยตกระไร นางจึงทำได้แค่ตรวจจับชิพจร ไปเรื่อย ๆ
นางมองขวดที่แขวนอยู่ข้างบนที่กำลังมีฟองเกิดขึ้น หลังจากนั้นไม่กี่นาทีอันหลิงหยุนก็เริ่มที่จะหายใจคล่องขึ้น หน่อย
นางเองก็ไม่ได้ทดสอบว่ามีอาการแพ้ยาหรือไม่ แต่ว่า ทั้งหมดนี้ต่างก็เป็นวัสดุจากธรรมดา น้อยนักที่จะแพ้
จากนั้นอันหลังหยุนก็เริ่มทำความสะอาดแผล และห้าม เลือด หลังจากนั้นก็เอาผงยาโรยลงไปบนแผล บางที่ที่ต้อง เป็บก็รีบตำเนินการเย็บเสีย
กงชิงวี่ยืนอยู่ข้าง ๆ ดูมีสิหน้าไม่สู้ดีนัก
อันหลิงหยุนเองก็รู้สึกไม่ดี จึงพูดขึ้นว่า “ท่านอ่อง เข้ามาสิ หม่อมฉันจะพยายามทำให้ดีที่สุด แต่ว่าอาการหนักอยู่นะ
กงชิงหันหน้าหนี สีหน้าซีดเผือดจนนาตกใจ จากนั้นก็เดิน ออกไปข้างนอก
ไม่ทันไรอันหลิงหยุนเลยต้องรีบช่วยเหลืออ่องตวนอย่างเร่ง ด่วน เพราะว่าตอนนี้อาการแย่ลงมาก อันหลิงหยุ่นเองก็ไม่ แน่โจว่าจะมีโอกาสรอดหรือไม่
นางทำได้แค่เพียงให้กงชิงวีนั้นออกไปก่อน
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ฮ่องเต้ชิงหยู่ก็ได้เสด็จมา
ในตอนที่ฮ่องเต้ชิงหยู่มานั้น พอดีกับที่จุนฉูฉูกำลังเอะอะ โวยวายอยู่ด้านนอก ฮ่องเต้ชิงหยู่มีสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจเป็น อย่างมาก “จับนางไปขังไว้ก่อน”
“ฝ่าบาท.
จนฉูฉุตกใจแทบต้องคุกเข่าลง แล้วจากนั้นก็มีคนลาก ตัวนางออกไป
เมื่อจุนฉฉเห็นฮ่องเต้ชิงหยู่เข้าก็หยุดโวยวาย หน้าของนาง ตกใจจน ชิด เกิดเรื่องขึ้นกับอ๋องตวนจริง ๆ หรือ
ฮ่องเต้ชิงหยู่พอผ่านเข้ามาในประตูแล้วก็มองไปยังข้างใน
ของห้อง คนทั้งในลานต่างก็คุกเข่าลง
อันหลิงหยุนพูดขึ้น “เชิญฝ่าบาทเข้ามาด้านในเพคะ”
ฮ่องเต้ชิงหยู่เดินมาเข้าแล้วรีบผลักประตูให้เปิดออก เห็น คนที่กำลังนอนผ่าตัตอยู่บนเตียง ทั้งตัวก็เริ่มสั่น และแทบจะ ล้มลง
สวีกงกงจึงรีบเข้าไปประคองไว้ แล้วพูดขึ้นว่า “ฝ่าบาท ท่าน อย่าทำให้ข้าน้อยตกใจสิเพคะ”
ฮ่องเต้ชิงหยู่ข่มใจเอาไว้ จากนั้นก็มองยังอ่องตวนที่นอนอยู่ พร้อมกับโบกมือไปมาแล้วพูดขึ้นมา “ข้าไม่เป็นไรหรือก”
สวีกงกงกับประคองฮ่องเต้ซึ่งหยู่เอาไว้ เมื่อยืนได้ที่แล้ว ฮ่องเต้ชิงหยู่เลยถามขึ้นว่า “อาการของอ๋องตวนเป็นกระไร บ้าง”
“หม่อมฉันจะช่วยอย่างเต็มความสามารถเพคะ ฝ่าบาทเองก็ ควรทำใจไว้ด้วยนะเพคะ”
อันหลิงหยุนไม่ทราบจะพูดอันใด ถึงแม้ว่ากงชิงหยินจะยัง
หายใจอยู่ แต่เขาในตอนนี้แทบจะไม่รู้สึกตัวเลย
ฮ่องเต้ชิงหยู่ดูร้อนรน นั่ง ๆ ลุก ๆ สลับกันไปมา ไม่นานข้าง นอกก็มีคนมา
ชั่วไทเฟยเดินเข้าลานโอวหลานด้วยความร้อนใจ “หยินเอ๋อ
หยินเอ๋อ…” “อย่าทำเสียงดังเจ้าคะ เชิญไทเฟยรอสักครู่ เดี๋ยวจะทำ
แผลเสร็จแล้วเจ้าค่ะ”
“ขวางไทเฟยเอาไว้”ฮ่องเต้ชังหยู่รีบสั่งการขึ้น ด้วยอำนาจ ของราชาที่เขามีอย่างน่าเกรงขาม
สวีกงกงจึงรับขวางช้ำแฟนไว้ข้างแอก ชั่วไทเฟยเองนั้น ร้องไห้จนเป็นลม
องซิงเองก็ได้ตามมากับหวางฮองไทเฮา ชั่วไทเฟยไม่ยอม กระไรก็จะเจอกับกงซิงหยินให้ได้ หวาง วงไทเฮาเลยตะคอกใส่นางว่า “รีบหุบปากของเจ้าเสีย หาก เกิดอันใดขึ้นกับอ๋องตวนล่ะก็ ข้าเองจะให้เจ้านั่นแหละตามไป ด้วย”
หวางฮวงไทเฮาใช้เสียงตะคอกขึ้น ฮั่วไทเฟยเองก็พูดพล่าม โดยทันที
ชั่วไทเฟยที่ยืนอยู่นั้นก็รู้สึกเป็นห่วง และก็ได้แค่ใช้มือบิดที่ ชายเสื้อตัวเอง ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็ได้คุกเข่านั่งลง หวางชวงไทเฮาถามเข้าไปยังคนที่อยู่ในห้องขึ้นว่า “ยังต้อง
ใช้เวลาอีกนานหรือไม่”
“ฝ่าบาทอยู่ด้านใน คงต้องใช้เวลาสักพักเพคะ” ไทเฮา กรุณารอก่อนเพคะ เดี๋ยวข้าน้อยจะยกที่ประทับมาให้ก่อน
สวีกงกงรับยกที่นั่งมา หลังจากที่หวางฮวงไทเฮานั่งลง ก็ มองไปยังชั่วไทเฟย “นี่มันเวลาไหนแล้วยังจะโวยวายอยู่อีก นั่งลง
สวิกงกงก็ได้นำเก้าอี้มาให้อีกตัว แล้วประคองฮั่วไทเฟยไป นั่ง
ชั่วไทเฟยร้องไห้ไม่หยุด
อันหลิงหยุนทำการพันแผลให้กับอ้องตวนเสร็จเรียบร้อย และเกือบจะเป็นลมล้ม แต่โดนฮ่องเต้ชิงหยู่ประคองพอดี พอจะกลับอันหลิงหยุนก็ก้มหัวให้ แล้วกัถอบออกไป “เอาอ่องตวนนอน ระวังด้วยนะ”
และหมออีกสองสามคนก็ได้เข้ามา ยกอ๋องตวนไปนอนบน เตียงอีกฝั่ง
ในขณะที่อันหลิงหยุนกำลังพักอยู่นั้น เหล่าบรรดาหมอก็ได้ จัดเก็บอุปกรณ์ หวางฮวงไทเฮาและไทเฟยก็ได้พากันเดิน เข้ามา
เมื่อเห็นสภาพของอ่องตวน ชั่วไทเฟยแทบจะเป็นลมล้มไป พอดีที่หวางฮวงไทเฮายื่นมือไปประคองไว้ ฮัวไทเฟยเลยยืน ได้หน่อย ชั่วไทเฟยเมื่อเห็นสภาพของลูกชายอย่างนั้นแล้ว น้ำตาก็ไหลออกมาเป็นสาย ตกใจจนปากต้องอ้าค้างไว้จะพูด อันใดก็พูดไม่ออก
อันหลิงหยุนพูดขึ้นว่า “เขาต้องการพักผ่อนเพคะ ตอนนี้ หม่อมฉันได้ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ได้แล้ว แต่เพราะว่าร่างกาย ของเขานั้นได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส และอีกอย่างก็เสียเลือด ไปมาก ที่เขายังไม่ฟื้นขึ้นมานั้นก็เพราะมีอีกสาเหตุ
การจะอยู่หรือจะไปของคนนั้นมันขึ้นอยู่กับแรงปรารถนา หากเขาอยากจะมีชีวิตอยู่ ต่อให้เขาจะบาดเจ็บหนักแค่ไหน หากเขาอดทนได้ เขาก็รอด
แต่หากว่าเขาไม่อยากที่จะอยู่แล้ว ใครก็ช่วยไม่ได้ หม่อม ฉันรักษาเขา ก็ต้องการความร่วมมือของจากแรงปรารถนา ของเขาเหมือนกัน
สองชั่วโมงมานี้ เขาเองไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เลย นี่จึงทำให้ หม่อมฉันรู้สึกกังวล”
อันหลิงหยุนเองก็รู้สึกเหนื่อยมากเหมือนกัน ขนาดแรงจะ พูดก็ยังไม่มี
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ