บทที่ 139 ถังหลงพิการ
ในส่วนลึกของภูเขาซิงหลงซาน ช่างกวนหวั่นหวั่น กำลังรอ คนอยู่ในเต้นท์ที่ถูกกางขึ้น
แค่พริบตาเดียวก็เป็นเวลาเที่ยงแล้ว เธอมองของที่ลู่เสี้ยง หยางให้มาก่อนหน้านี้ อีกไม่นานก็ใกล้จะครบห้าชั่วโมง
หลังจากที่ลู่เสี้ยงหยางช่วยช่างกวนหวั่นหวั่นที่ถูกงูพิษฉก แล้ว ลู่เสี้ยงหยางก็ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าภายในห้า ชั่วโมงนี้เธอจะไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอน
ช่างกวนหวั่นหวั่นรู้สึกจิตใจหนักอึ้งมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ละ นาทีที่ผ่านไปก็เหมือนโอกาสที่ช่วยเธอจะน้อยลงไปอีกหนึ่ง ส่วน
หลินยงรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก เขาภาวนาให้ลู่เสี้ยง หยางรีบกลับมาช่วยคุณหนูของเขาให้เร็วกว่านี้อีกนิด
เจียงตงเกอเชื่อมั่นในการตัดสินของตัวเองว่า การเสื่อม ถอยของการแพทย์แผนจีนนั้นไม่สามารถที่จะรักษาโรคร้าย แรงได้ สู่เสี้ยงหยางก็แค่ไม่อยากเสียหน้าที่ก่อนหน้านี้ตัวเอง คุยโม้เอาไว้เยอะก็เท่านั้นเอง ตอนนั้นเขาจึงหาข้ออ้างปลีก ตัวออกไป
“เห้อ คุณช่างกวน ถึงแม้คุณลู่คนนี้จะมีพละกำลังที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แต่ทักษะทางการแพทย์กลับไม่เอา ไหน พวกเราไม่ควรที่จะเชื่อเขา ถ้าพวกเรารีบใช้โอกาสนี้หา ทางออกไปก่อน ไม่แน่ว่าตอนนี้พวกเราอาจจะออกไปจาก ภูเขาลูกนี้และได้รับความช่วยเหลือไปแล้วก็ได้” เจี่ยงตงเก๋อ
ไปฉีพยักหน้าแล้วกล่าวอย่างเห็นด้วยว่า “ทักษะการต่อสู้ ของคุณลู่ยอดเยี่ยมมากจริง ๆ เขาต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทั้งหมดไปกับการศึกษาเรื่องพวกนี้อย่างแน่นอน จะเอาเวลา ที่ไหนไปฝึกปรือทักษะทางการแพทย์ คงจะมีความรู้แค่ง ๆ ปลา ๆ เท่านั้น ”
“มันก็ใช่” หลินยงพยักหน้ารู้สึกว่าคำพูดพวกนี้มีเหตุผล เขาเองก็เป็นนักสู้คนหนึ่ง หมกมุ่นอยู่กับการเรียนรู้เรื่องการ ต่อสู้มาตลอดทั้งชีวิต จะมีใจไปเรียนอย่างอื่นได้ที่ไหนอีก
ความรู้สึกโชคดีที่อยู่ในกันบึ้งหัวใจของช่างกวนหวั่นหวั่น แหลกสลายไม่มีชิ้นดี ยากที่เธอจะสามารถลืมเลือนคนอย่าง สู่เสี้ยงหยางไปได้ ชายที่เป็นดั่งวีรบุรุษคนนี้ ท้ายที่สุดก็ยังไม่ สามารถช่วยเธอได้อย่างนั้นเหรอ
“เห้อ ล้วนเป็นฉันที่เป็นคนลากพวกคุณมาลำบาก ขอโทษ ด้วยนะ” ช่างกวนหวั่นหวั่นพูดออกมาอย่างอ่อนแรง สีหน้า เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
จากนั้นก็พูดกับหลินยงว่า “หัวหน้าหลิน คุณเองก็พยายามทำหน้าที่นี่อย่างดีที่สุดแล้ว ตอนที่กลับไปถึงบ้านคุณก็ อธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้พอของฉันฟังให้ชัดเจน เขา สามารถแยกแยะถูกผิดได้ ไม่มีทางที่จะทำให้คุณลำบาก อย่างแน่นอน”
สีหน้าของหลินยงซับซ้อน เขาไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
เจียงตงเกอไม่อยากรออยู่ในเขาลึกป่าใหญ่นี่อีกแม้แต่ วินาทีเดียว แทบจะหนีออกไปจากที่นี่เสียเตี๋ยวนี้ ในใจคิดอยู่ ว่าควรจะล่วงหน้าไปก่อนหรือไม่
สวบ สวบ สวบ!
ในตอนนั้นเองก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากข้างนอกของเต็นท์ และหลังจากนั้นไม่นานลู่เสี้ยงหยางก็เดินเข้ามา
เห็นเพียงว่าในมือของเขาถือวัตถุดิบยาอยู่หลายชนิด อีก ทั้งกลิ่นยายังเข้มข้นมาก
ทันใดนั้นเองดวงตาของช่างกวนหวั่นหวั่นก็เป็นประกาย
ขึ้นมาทันที ในเมื่อสู่เสี้ยงหยางกลับมาแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็คงยังมีหวัง
สู่เลี้ยงหยางเดินเข้าไปใกล้กองไฟอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ ต้มยาลงไปในหม้อต้มขนาดเล็ก
หลินองเริ่มรู้สึกไม่ค่อยแน่ใจ เขาจึงถามลู่เสี้ยงหยางว่า “คุณ สู่ พิษที่คุณหนูของพวกเราได้รับไปนี้สามารถถอนได้จริงใช่ไหม”
คู่เสี้ยงหยางพยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า “วางใจเถอะ ให้ เป็นหน้าที่ผมเอง”
การหายใจของช่างกวนหวั่นหวั่นต่อย ๆ กระชั้นขึ้น ไม่มี ใครสามารถเข้าใจอารมณ์ในตอนนี้ของเยอได้ เติมทีทำได้ เพียงแค่รอความตาย แต่ตอนนี้ลู่เลี้ยงหยางได้มอบความ หวังในการมีชีวิตอยู่ให้กับเธอ
เจี่ยงดงเก่อขมวดคิ้ว เขายังคงไม่เชื่อลู่เสี้ยงหยางเท่าไหร่ นัก ถึงอย่างไรลู่เสี่ยงหยางก็เรียนแพทย์แผนจีนมา จะไป ถอนพิษของงูชิงฮัวได้ยังไง
หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมงวัตถุดิบยาที่เสี้ยงหยาง ต้มเอาไว้ที่เสร็จสิ้น
เขาหยิบถ้วยกระดาษออกมาแล้วส่งไปให้ช่างกวนหวั่น หวั่นใช้ดื่ม
จากนั้นก็หยิบวัตถุดิบยาอันอื่น ๆ ออกมาปั้นเป็นก้อน เดียวกัน แล้วนำลงไปวางบนตำแหน่งที่ถูกกัดตรงขาของช่าง กวนหวั่นหวั่น
หลังจากที่การช่วยชีวิตเสร็จสิ้น สู่เสี้ยงหยางก็พูดขึ้นมาว่า “บำรุงทั้งภายในและภายนอกต่อเนื่องกันเป็นเวลาหนึ่ง สัปดาห์ พิษที่อยู่ในตัวคุณก็จะหายไปทั้งหมดแล้ว”
“ค่ะ ๆ “ช่างกวนหวันหวั่นพยักหน้ารัว ดวงตาของเธอเต็ม ไปด้วยความขอบคุณ และในขณะเดียวกันก็แฝงไปด้วย ความอ่อนโยน
หลินยงคุกเข่าลงไปบนพื้น แล้วพูดกับลู่เสี้ยงหยางอย่าง ซาบซึ้งในบุญคุณว่า “คุณลู่ คุณช่วยชีวิตคุณหนูของผมก็ ถือว่าเป็นการช่วยชีวิตผมเช่นกัน ถ้าหลังจากนี้คุณมีเรื่อง อะไรบอกมาแค่คำเดียวผมจะต้องพยายามทำให้ดีที่สุด ไม่ สนใจแม้แต่ความเป็นตายอย่างแน่นอน”
“เกรงใจเกินไปแล้ว มันไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงอะไร” ลู่เสี่ ยงหยางโบกมือ
เจียงตงเก๋อรู้สึกอับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ต้อง โทษที่ก่อนหน้านี้เขาพูดจาใหญ่โตอย่างไม่สนใจหน้าตา ว่าการแพทย์แผนจีนนั้นเสื่อมถอยไปแล้ว สามารถรักษาได้ เพียงอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น ถ้าอยากจะถอนพิษของ ช่างกวนหวั่นหวั่น จะต้องอาศัยการแพทย์แผนตะวันตก
แต่ตอนนี้ดูเหมือนเรื่องจะไม่เป็นดังที่เขาได้คาดเตาเอาไว้ อย่างสิ้นเชิง
แม่งเอ๊ย นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว เจี่ยงดงเก๋อ รู้สึก หวาดหวั่นพรั่นพรึงในใจ
ถ้าเรื่องที่คู่เลี้ยงหยางใช้การแพทย์แผนจีนถอนพิษของงู ชิงฮัวถูกกระจายออกไปแล้วก็ จะต้องโค่นล้มการศึกษาทางการแพทย์ของโลกอย่างแน่นอน
“ฉันรู้สึกว่าสภาพร่างกายดีขึ้นมากแล้ว ถ้าอย่างนั้นพวก เราเดินทางต่อกันเถอะค่ะ” แต่ตอนนี้เองช่างกวนหวั่นหวั่นก็ พูดออกมา
สู่เสี้ยงหยางส่ายหน้า “ตอนนี้คุณยังมีพิษงูหลงเหลืออยู่ใน ร่างกาย อย่าขยับตัวจะดีที่สุด ไม่อย่างนั้นจะทำให้คิดแพร่ กระจายในเลือดเร็วขึ้น ความจริงแล้วยาที่คุณดื่มเข้าไปไม่ สามารถควบคุมอะไรได้ ผมคิดว่าพวกเราค่อยเดินทางกันต่อ ตอนพรุ่งนี้เข้า”
“ค่ะ” ช่างกวนหวั่นหวั่นตอบ
ด้วยเหตุนี้พวกลู่เสี้ยงหยางจึงสงบลงได้ และเตรียมตัวที่
จะเดินทางต่อในวันพรุ่งนี้
ในขณะเดียวกัน
ณ โรงพยาบาลหยินหมินปินเหอ
ถังปิงหยู่ ถังกั่วเหลียง และหวังตานหลิน กำลังเดินวนไป วนมาอยู่ตรงทางเดินหน้าห้องฉุกเฉินด้วยสีหน้าร้อนใจเป็น อย่างมาก
ก่อนหน้านี้ตอนที่ถังหลงและถังปิงหยู่ปะทะกับพวกหาน เช่าชวน ถังหลงได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนถังปิงหยู่ก็ถูกคนของหานเช่าชวนจับตัวไป ในตอนนั้นเองโชคดีที่การ สนับสนุนของตระกูลถังมาทันเวลา พวกหานเช่าชวนจึงตกใจ จนกระโดดหนีออกไปทางประตูหลัง
คนของตระกูลถังรีบพาถังหลงมาส่งที่โรงพยาบาลอย่าง รวดเร็ว ตอนนี้ถังหลงอยู่ในห้องฉุกเฉิน โดยไม่มีการ เคลื่อนไหวใด ๆ มาเกือบจะหนึ่งชั่วโมงแล้ว
หวังตานหลินเป็นแม่ของถังหลงและถังปิงหยู่ เธอรู้สึก กังวลใจเป็นอย่างมาก ทั้งยังมีน้ำตาไหลออกมาจากหางตา ถังปิงหยู่รีบเอ่ยปลอบ “แม่คะ วางใจเถอะค่ะ อาหลงจะ
ต้องไม่เป็นอะไรแน่นอนค่ะ”
ถังกั่วเหลียงที่เป็นพ่อของถังปิงหยู่อารมณ์ไม่ใคร่จะดีนัก เขามองหวังตานหลินแล้วพูดว่า “พวกผู้หญิงอย่างคุณหยุด ร้องไห้เป็นเผาเต่าเสียทีเถอะ อาหลงยังไม่ตายเสียหน่อย
หวังตานหลินพูดออกมาด้วยเสียงสะอื้นว่า “ตั้งแต่เล็กจน โต ฮาหลงเคยบาดเจ็บหนักขนาดนี้เสียที่ไหน เขาถูกคนฟัน จนน่าเวทนาขนาดนี้ ตระกูลถังของพวกเราจะต้องตอบแทน ความแค้นในครั้งนี้ให้สาสม
ถังกั่วเหลียงแค่นเสียงในจมูกแล้วพูดว่า “ผมให้คนไป สืบหาดูแล้ว ถ้าได้เรื่องอะไรจะต้องรีบรายงานกลับมาทันที คุณวางใจเถอะ ต่อให้คนที่ทำร้ายอาหลงจะหนีไปจนสุดขอบ โลก ผมก็จะจับเขากลับมาสับเป็นหมื่น ๆ ขึ้น”
หวังตานหลินพยักหน้า บนใบหน้าปรากฏความไม่พอใจ “เรื่องทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะสู่เสี้ยงหยางทั้งนั้น ตอนนี้อาหลง ของพวกเราบาดเจ็บหนักขนาดนี้แล้ว เขาก็ยังไม่แม้แต่จะมา ดูใจที่โรงพยาบาล จิตใจเหี้ยมโหดเสียจริง”
“ที่ ไอ้เจ้าสู่เสี่ยงหยางนั่น แม้แต่ผู้หญิงของตัวเองยัง จัดการไม่ได้ บุญคุณความแค้นระหว่างตระกูลถังของพวก เรากับเขาจะต้องสิ้นสุดในไม่ช้าก็เร็ว” ถังกั๋่วเหลียงค่อย ๆ กำหมัดแน่นแล้วพูดออกมาทีละคำ
ครั้งนี้เพราะถังหลงพบว่าเย่สวนอยู่กับผู้ชายคนอื่น จึงออก หน้าแทนลู่เสี้ยงหยาง ท้ายที่สุดเลยต้องมารับเคราะห์อย่างนี้
ตอนที่กำลังเดินทางอยู่ ถังปิงหยู่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ถังกั๋วเหลี ยงกับหวังตานหลินฟังอย่างละเอียดแล้ว
ผ่าง!
ในตอนนั้นเองประตูห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลก็ถูกเปิด ออก คุณหมอคนหนึ่งเดินออกมาจากข้างใน
“อาจารย์จาง สถานการณ์ลูกชายฉันเป็นยังไงบ้างคะ หวังตานหลินรีบเข้าไปถามอย่างเป็นกังวลในทันที
นี่.
อาจารย์จางไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เขาเพียงมองถังกั่วเหลี ยงด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังตึกตักในหัวใจของทุกคน ดูเหมือน ว่าสถานการณ์ของถังหลงจะไม่สู้ดีนัก
“อาจารย์จางพูดมาเถอะ ตระกูลถังของพวกเราเตรียมใจ เอาไว้แล้ว” ถังกั๋วเหลียงถอนหายใจ
“โอเคครับ” อาจารย์จางพยักหน้า จากนั้นก็พูดออกมาว่า “คุณชายถังพันขีดอันตรายแล้ว แต่เพราะว่าเอ็นร้อยหวาย ของเขาถูกฉีกขาด เกรงว่าในอนาคตเขาอาจจะต้องนั่งรถ เข็น ”
เปรี้ยง!
ทันทีที่ประโยคนี้ถูกพูดออกมาถังปิงหยู่ ถังกั๋วเหลียง และ หวังตานหลิน ก็เหมือนได้ยินเสียงฟ้าผ่าดังขึ้นในหัว ร่างกาย แข็งค้างไปชั่วขณะ ไม่ต่างอะไรกับรูปสลักหิน
นี่หมายความว่าถังหลงจะกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ไป แล้วอย่างนั้นเหรอ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ