ยอดหมอยาของอ๋องเสียน

บทที่ 166 เหลวไหลเป็นจริงเป็นจัง



บทที่ 166 เหลวไหลเป็นจริงเป็นจัง

หยุนโล่ชวนมองดูข้างนอก ลากโซ่กลับไปที่ด้าน ข้างอันหลิงหยุน นั่งลงและเริ่มร้องไห้ เพราะเสียใจกับ การตายของตงเอ๋อ หยุนโล่ชวนร้องไห้อยู่พักใหญ่

อันหลิงหยุนอยู่เคียงข้างจนกระทั่งหยุนโล่ชวน หยุดร้องไห้ จึงฟังหยุนโล่ชวนพูด: “ข้าฝันว่าอ๋องตวน ปรากฏที่ห้องของข้า จากนั้นเขามาหาข้า ตรัสว่าชอบ ข้า

ปกติข้าไม่ชอบให้เขาเข้าใกล้ แต่ไม่รู้เพราะอันใด ในฟันเขาปฏิบัติต่อข้าไม่เหมือนปกติ มีความรู้สึกชอบ เล็กน้อย

เขากับข้าเริ่มมีความรักใคร่ ข้ารู้สึกสติหลุด ลอย..

ใบหน้าหยุนโล่ชวนแดงระเรื่อ เป็นเพราะอับอาย อันหลิงหยุนฟังออกถึงความหมายที่แฝงอยู่ จึงเข้าใจ

“เจ้าหมายความว่า วันนั้นเจ้านอนอยู่ จากนั้นมีคน เข้าไปที่ห้องเจ้า ทำเรื่องนั้นกับเจ้า เจ้าคิดว่าผู้นั้นคือ อ๋องตวน ไม่ได้ปฏิเสธด้วยกำลังทั้งหมด? พอเจ้าตื่นมา เจ้าก็พบเรื่องของฉายฝู เจ้าจึงคิดว่า เจ้าทำเรื่องที่ผิด ต่อศีลธรรมของสตรี?”

อันหลิงหยุนแยกแยะเบาะแส หยุนโล่ชวนผงก

ศีรษะ
อันหลิงหยุนโมโหจนหัวเราะออกมา: “สิ่งที่เจ้าทำ ในความฝัน ไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานได้ จุดนี้เจ้า น่าจะรู้”

“แต่ข้าฝันถึงมันอย่างชัดเจน และมันเป็นเรื่องจริง มากในตอนนั้น ถ้าข้าหลับไปแล้วจริงๆ อ๋องตวนที่ข้า ฝันถึงไม่ใช่อ่องตวน นั่นก็หมายความว่าเป็นฉายฝู ไม่ใช่หรือ ข้าแค่เข้าใจผิดคน แต่ข้าก็ทำเรื่องเช่นนั้น จริงๆ”

หยุนโล่ชวนยิ่งพูดก็ยิ่งเสียใจ ในที่สุดเธอก็ร้องไห้ ออกมาอย่างอดไม่ได้

“เขียนสิ่งที่เจ้าพูด เรื่องอื่นข้าจัดการเอง” อันหลิง หยุนนำกระดาษและพู่กันให้หยุนโล่ชวน หยุนโล่ชวน ร้องไห้พร้อมกับเขียนคำสารภาพจนจบ

อันหลิงหยุนชำเลืองมอง ตัวหนังสือแต่ละคำพูด เขียนขึ้นอย่างตั้งใจ ไม่มีเรื่องเท็จในนั้นเลย

แม้แต่เรื่องในความฝันยังพูดถึงอีกครั้ง

จะเห็นได้ว่าเด็กผู้หญิงนี่โง่จนน่าสงสารจริงๆ ถ้ารู้ ว่าเมื่อคำสารภาพนี้ถูกนำออกไป อย่าตรัสว่าเกิดอันใด ขึ้น คำพูดของคนน่ากลัว อนาคตของเด็กผู้หญิงคนนี้ จะพังพินาศ

แม้ว่ากฎหมายทั้งหมดในที่นี้ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ผู้ หญิง แต่ถ้าพูดอย่างตรงไปตรงมาผู้หญิงก็ไม่ได้สูงส่ง ไปกว่าสัตว์เดียรัจฉานมากนัก
เมื่อกระทำผิด ก็จะมีคนเกลียดนับพัน

ไม่พบจุดจบที่ดี

หยุนโล่ชวนมีความฝันเรื่องพิศวาสความเป็นจริง แล้วไม่ได้มีอันใดเลย แต่ถ้าพูดออกมาก็จะกลายเป็น เรื่องร้ายแรง

อันหลิงหยุนหยิบสารภาพแล้วลุกขึ้นและจากไป หยุนโล่ชวนนั่งดูอันหลิงหยุนอยู่ข้างใน พูดพร้อม กับร้องไห้: “ตงเอ่อทำกระไรดี?”

“วางใจเถอะ ตงเอ๋อไม่เป็นไร ข้าให้อาหยู่ดูอยู่ เจ้า วางใจได้แล้ว” อันหลิงหยุนบรรลุวัตถุประสงค์ ปัดป้อง มือเตรียมจากไป

“อันใดรี?”

หยุนโล่ชวนใบหน้ามึนงง ยังไม่ตอบสนองกลับมา ไม่เข้าใจว่าอันหลิงหยุนพูดอันใด ในหัวเต็มไปด้วยคำ ว่าตงเอ๋อไม่เป็นไร

อันหลิงหยุนหยุดอยู่ข้างนอกครู่หนึ่ง กล่าว: “ตงเอ๋

อสบายดี เจ้าสบายใจได้ ข้าแค่ต้องการให้เจ้าให้ความ

ร่วมมือ พูดความจริงออกมา จึงโกหกเจ้า แต่ก็เพื่อตงเอ๋ อด้วยเช่นกัน เจ้าทนทุกข์ทรมานอยู่ที่นี่ชั่วขณะไปก่อน เจ้าต้อง

ได้ออกไปข้าจะตรวจสอบ เพียงแค่ปัญหาของเรื่อง

เวลา”
อันหลิงหยุนจากไป ที่หน้าประตูเห็นเว่ยหลิงชวน โกรธเคือง เว่ยหลิงชวนชี้นิ้วด่าอันหลิงหยุน: “แม่ทัพ อันรับใช้ประเทศด้วยความภักดี สาบานว่าจะจงรัก ภักดีต่อประเทศต้าเหลียง เป็นชายชาตรีที่แข็งแกร่ง ให้กำเนิดคนอย่างเจ้าได้กระไร?”

“พ่อข้าให้กำเนิดข้า ก็ต้องเป็นความโชคดีของข้า เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องรบกวนให้เจ้ามาพูด โจ่จงเจิ้นรีบ ไปดูองค์หญิงใหญ่ก่อนเถิด”

“หี เมื่อองค์หญิงใหญ่ไม่เป็นอันใด ข้าจะดูเจ้ารับ ผิดชอบถึงผลที่ตามมา” เว่ยหลิงชวนชี้นิ้วด่าอันหลิง หยุนอย่างโกรธเคือง อันหลิงหยุนหันหลังแล้วจากไป กล่าว: “อาหยู่ อยู่

ที่นี่คอยดูพระชายารองหยุน ที่นี่สภาพแวดล้อมย่ำแย่ โจ๋จงเจิ้นผู้นี้ใช้อำนาจมาแก้แค้นเรื่องส่วนตัว หากเขา ทำอันใดบางอย่างในขณะที่ผู้อื่นไม่ได้เตรียมตัว ข้าจะ ไม่สามารถอธิบายให้ไทเฮาฟังได้”

“พ่ะย่ะค่ะ” อาหยู่ตอบกลับและมองไปที่อันหลิง หยุนเดินกร่างออกจากต้าจงเจิ้งย่วนอย่าเป็นกังวล

ออกจากประตูอันหลิงหยุนขึ้นรถม้า คนขับรถม้า พาอันหลิงหยุนส่งไปที่จวนอ่องตวน

ลงจากรถอันหลิงหยุนไปหาอ่องตัวนทันที

ขณะนี้อ่องตวนยืนดูดอกไม้อยู่หน้าห้องโถง อัน หลิงหยุนเข้ามาและเห็นอ่องตวนจึงเยาะเย้ย: “ดูไม่ออกเลย อ๋องตวนจะอารมณ์ดีมากเพียงนี้ ณ ขณะนี้ ไฟหลังวังจะลุกหรือไม้สูงถึงบนฟ้าอยู่แล้ว ยังสามารถ ชมดอกไม้ได้อย่างสบายใจ นับถือจริงๆ

กลับกันถ้าเป็นอ๋องเสียน ข้าคิดว่า เวลานี้เขากังวล ไม่ใช่น้อยราวกับมดที่อยู่บนกระทะร้อน”

“ปากพระชายาเสียนช่างร้ายจริงๆ ด่าคนก็ไม่มีคำ หยาบซะด้วย” อ๋องตวนหันมองอันหลิงหยุน หันเดินไป อีกฝั่ง ที่นั่นมีเก้าอี้ ถือโอกาสนั่งลง

แม้ว่าเขาจะไม่ประทับใจอันหลิงหยุน แต่เขาก็ไม่ เบื่อเช่นกัน

ยังกระไรตอนนี้จวนอ๋องตวนแม้แต่แมลงวันก็ไม่ เต็มใจที่จะบินเข้ามา ก็มีเพียงนางคนเดียวที่สามารถ มาได้อย่างไม่สนใจ

อันหลิงหยุนถอนสายบัว: “อ๋องตวน”

กงชิงหยินตลก: “เจ้ามาไม้นี้ ข้าดูเจ้าทำความ เคารพ ยังคิดอยู่ จะคิดบัญชีกับข้าอีกแล้วใช่หรือไม่”

“อ่องตวน คำพูดนี้ข้าไม่ชอบฟังแล้ว ข้าเคยคิด บัญชีกับท่านเมื่อใดกัน?”

กงชิงหยินครุ่นคิด ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดจริงๆ อันหลิงหยุนเห็นเขาเงียบ จึงนั่งลงด้วยตัวเอง

หยิบคำสารภาพของหยุนโล่ชวนออกจากแขนเสื้อ และส่งมอบให้กงชิงหยิน: “นี่คือคำสารภาพจากพระชายารองหยุน ท่านอ๋องลองดูเถิด”

กงชิงหยินหยิบคำสารภาพไปและเปิดดู ตกตะลึง ครู่หนึ่ง

หันหน้ามองอันหลิงหยุน: “หมายความว่า วันนั้น ฉายฝูแตะต้องพระชายารองหยุนแล้ว?”

อันหลิงหยุนอึดอัดใจ สมองนี้ช่างเป็นที่น่ากังวล

จริงๆ

อันหลิงหยุนหยิบพู่กัน หมึกและกระดาษออกมา เพื่อความสะดวกต่อการเก็บคำสารภาพ พกติดตัวอยู่

เสมอ

อันหลิงหยุนคิด แม้ว่านางจะเป็นหมอ แต่ก็ สามารถเปิดร้านขายของชำได้ ขายของเล็กๆ น้อยๆ พู่กันหมึกกระดาษหินหมึก กระเป๋าเป้ก็ยังได้

คนสมัยก่อนจะใช้มือถือกระดาษปากกาและพู่กัน หมึกเสมอเมื่อออกไปข้างนอก หากทำกระเป๋าเป้ สะพายหลัง เชื่อว่าจะเป็นที่นิยมมาก

หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมา อันหลิงหยุนเขียน ไปพร้อมกับพูด: “ข้าพูดแค่รอบเดียว อ๋องตวนหากท่าน ไม่สามารถจำให้ดี นั่นมันเป็นเรื่องของท่านอ่อง”

กงชิงหยินเงียบไม่พูด

อันหลิงหยุนกล่าวต่อ: “สมมุติ ชุนหงวางยาพิษที่ บ่อน้ำ ตงเอ๋อตักน้ำกลับไปให้พระชายารองหยุนดื่ม พิษในน้ำนี้ไม่ใช่ยาพิษฆ่าคน เป็นเพียงแค่ทำให้เกิดภาพหลอน เพิ่มเข้าไปในปลุกอารมณ์ทางเพศ จากนั้น หลังจากดื่มยานี้จะมีจินตนาการเกี่ยวกับผู้ชายที่ชอบ”

คราวนี้ พระชายารองหยุนก็ฝันว่ากำลังอยู่กับอ๋อง

ตวน ข้างนอกตะโกนดังให้จับข่มขืน ฉายฝูถูกคนจัด

เตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วให้วิ่งเข้ามา ปลดกางเกงออก

จากนั้นหันหลังวิ่งออกไป

ตามประสิทธิภาพของยาแล้ว พระชายารองหยุน ถูกปลุกให้ตื่นพอดี

เพราะเสียงตะโกนข้างนอกน่ากลัว แถมตงเอ๋อถูก จับเป็นตัวประกัน พระชายารองหยุนนอนเวียนหัวจึงวิ่ง ออกมาทันที

ถูกคนพบเห็นสภาพเช่นนี้ ทุกอย่างลงตัวพอดี”

“แต่คำสารภาพของฉายผู้ไม่ได้พูดเช่นนี้ เขาบอก ว่าเขาเข้าไปตอนมืดค่ำ พักค้างคืนที่ห้องของพระชายา รองหยุน แม้ว่าจะไม่ได้บอกความจริง ว่าอยู่ในห้องพระ ชายารองหยุนทั้งคืน เขาก็ต้องอยู่ ฉะนั้นข้า….”

กงชิงหยินโกรธโดยไม่มีเหตุผล โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งเมื่อมองไปที่คำสารภาพของหยุนโล่ชวน

อันหลิงหยุนถาม: “อ่องตวน ท่านคิดว่าฉายฝูจะ กล้าเข้าไปในห้องของพระชายาลองหยุนทั้งคืนหรือ?”

“เขากล้า?” กงชิงหยินกัดฟันและกำหมัดแน่น: “ข้า ไม่ปล่อยเขาไว้แน่”

“อ๋องตวน” นี่ไม่จำเป็นต้องอารมณ์เสียมากขนาดนั้น ที่จริงท่านน่าจะรู้ทุกอย่างเป็นเพียงการหลอกลวง เท่านั้น ไม่เป็นความจริง คำสารภาพของฉายผู้สามารถ โค่นล้มได้อย่างง่ายดาย สำหรับวิธีการพิสูจน์ความ บริสุทธิ์ของพระชายารองหยุนกระไรนั้นไม่ได้อยู่ที่ตัว หนังสือ

แต่พระชายารองหยุนพูดแล้ว นางไม่มีหน้าอยู่ที่ จวนอ๋องตวนอีกต่อไป นางหวังว่าอ๋องตวนจะส่ง จดหมายหย่าร้างให้นางได้ ให้นางจากไป นางอยาก ออกบวช”

“อันใดนะ?”

อันหลิงหยุนกระซิบ พลางมองไปที่ใบหน้าของกง ชิงหยินที่กำลังจะแตกร้าว สาแก่ใจยิ่งนัก

“เป็นไปไม่ได้ ข้าจะหย่ากับนางได้กระไรในเวลา นิ้ว อนาคตจะพบผู้คนได้กระไร? ในเมื่อทุกอย่างเป็น เพียงข้อหาที่ไม่มีอยู่จริง ข้าไม่สน”

กงชิงหยินนึกถึงใบหน้าที่อ่อนโยนของหยุนโล่ ชวน ทนไม่ไหวในทันที

“ในเมื่อไม่ยอมหย่า ก็แล้วไป พระชายารองก็ไม่ ต้องออกมาแล้ว” อันหลิงหยุนลุกขึ้นกำลังจะจากไป กงชิงหยินลุกขึ้นตาม

“เจ้าตรัสว่าอันใดนะ?” กงชิงหยินยากที่จะเชื่อ

อันหลิงหยุนกล่าว: “พระชายารองหยุนไม่อยาก ออกมา นางรู้สึกผิดต่ออ่องตวน ไม่มีหน้ามาพบอ่องตวน นางบอกนอกเสียจากได้หนังสือหย่าร้าง ไม่เช่นนั้น จะไม่ยอมออกมา” “แล้วนางไม่สนตำหนักกั๋วกงแล้วหรือ?” ไฟในตัว

กงชิงหยินลุกโชนโดยไม่มีเหตุผล เด็กผู้หญิงคนนั้น

ช่างมีความกล้า

“ข้าถามแล้ว นางบอกว่าไม่สนแล้ว”

” สีหน้ากงชิงหยินนิ่ง: “ข้าไม่มี”

“อย่างนั้นก็ช่างเถิด”

อันหลิงหยุนทำท่าทำทางจะจากไป ถูกกงชิงหยิน เรียกเอาไว้ : “เจ้าคือชะตากรรมของราชวงศ์ เจ้าจะทำ เช่นนี้ไม่ได้”

อันหลิงหลิงหยุนหัน: “พระชายารองหยุนไม่อยาก ออกมา ข้าก็ทำอันใดไม่ได้!”

กงชิงหยินหมดคำพูด อันหลิงหยุนหันหลังแล้วเดิน

ไปข้างนอกจวนอ๋องตวน

ขึ้นรถม้าแล้วกลับไป

พักผ่อนแล้วอันหลิงหยุนตื่นขึ้นมาเสวยอาหารมื้อ ค่ำ เห็นข้างนอกมีรถม้าจอดอยู่คันหนึ่ง ดูเหมือนคนมี ฐานะมีตำแหน่ง

นึกอย่างถี่ถ้วน อันหลิงหยุนนึกไม่ออก เรียกพ่อ บ้าน พ่อบ้านดุอย่างละเอียดแล้วตกใจ
“เป็นรถม้าขององค์หญิงใหญ่พ่ะย่ะค่ะ” พ่อบ้าน มั่นใจมาก

อันหลิงหยุนคิดอยู่ครู่หนึ่ง: “แจ้งในครัว ต้องเตรี ยมผักดองไว้ ถ้าให้ดีเอาที่เสวยไม่ลง เตรียมรำพระ กระยาหารอีกหน่อยก็ได้ อีกประเดี่ยวจะเสวยพระ

กระยาหาร”

“พระชายา นี่ท่าน?”

“ไม่ต้องถาม ทำตามที่ข้าบอกก็พอ” อันหลิงหยุน โบกมือไล่พ่อบ้าน

พ่อบ้านไปจัดการอันหลิงหยุนเดินไปดูคนข้าง

นอก

ออกไปข้างนอกเดินไปที่ใต้รถม้า อันหลิงหยุนเดิน ไปรอบ ถาม: “ท่านป้าองค์หญิงใหญ่อยู่ข้างในใช่หรือ ไม่เพคะ?”

“ถ้าข้าไม่มา เจ้าก็ยังจะไปที่ต้าจงเจิ้งย่วนทำร้าย ข้าใช่หรือไม่”

เสียงทุ้มและทรงพลัง อันหลิงหยุนฟังเสียงก็รู้ว่า คนผู้นี้รับมือได้ยากอยู่บ้าง

“เสด็จป้าใหญ่พูดอันใดเช่นนั้นเพคะ สะใภ้อยาก ไปเยี่ยมเยือนเสด็จป้าใหญ่ตั้งนานแล้ว ท่านอ๋องตรัส ว่า เสด็จป้าใหญ่ยุ่งมาก และคนอย่างหม่อมฉันเป็นคน ที่ขึ้นแท่นไม่ได้ กลัวว่าจะทำให้เสด็จป้าใหญ่ผิดหวัง สำหรับครั้งนี้ หม่อมฉันไม่ได้มุ่งเน้นไปที่เสด็จป่าใหญ่หม่อมฉันต้องจัดการคดี คนของต้าจงเจิ้งย่วนทำให้ หม่อมฉันลำบากใจ หม่อมฉันจึงทำเช่นนั้น เดิมวันนี้ไป ต้าจงเจิ้งย่านต้องการขอโทษเสด็จป้าใหญ่ แต่ถูกโจ่ จงเจิ้นขัดขวางเอาไว้ คิดถึงความบ้าบิ่นในวันปกติ จึง ไม่กล้าปุ่มบ่าม ไม่อยากให้เสด็จป้าใหญ่ไม่เอ็นดูหม่อม ฉัน ในเมื่อมาหาหม่อมฉันแล้ว หม่อมฉันมีความสุขมาก มีบางอย่างที่หม่อมฉันต้องการให้เสด็จป้าใหญ่ช่วย เป็นพยาน คิดไม่ถึงว่าในใจเสด็จป้าใหญ่ยังนึกหม่อม ฉันอยู่นะเพคะ”

อันหลิงหยุนพูดอยู่ที่หน้าประตูทำให้ถางเหอที่เพิ่ง เดินมากลัว นี่คือองค์หญิงใหญ่ พระชายาไม่คิดจะมี ความสัมพันธ์ที่ดีแล้วหรือ

ถางเหอกลัว จึงไม่ได้เข้าใกล้

ฟังพระชายาหน้าด้านขนาดนั้น พูดคำพูดที่ไม่ตรง กับใจเหล่านั้น ถางเหอเหนื่อยแทนอันหลิงหยุน

ไม่สามารถคาดเดาพระชายาได้ นับว่าถางเหอได้ พบอีกประสบการณ์หนึ่ง

อันหลิงหยุนรออยู่ครู่หนึ่ง เสียงขององค์หญิงใหญ่ กงชิงเกาหยางดังมาจากรถม้า: “ข้าได้ยินมาเสมอ ว่า แม่ทัพอันให้กำเนิดบุตรสาวที่ทำให้คนเกลียดชัง ได้ พบในวันนี้ เป็นเช่นนั้นจริงๆ

ข้าได้เห็นแล้ว ปากดีเสียจริง

หรือว่า สิ่งที่แม่ทัพอันไม่พูด เจ้าได้พูดออกมาทั้งหมดแล้ว?”

ผ้าม่านของรถม้าเปิดออก ผู้หญิงอายุประมาณห้า สิบสวมชุดคลุมสีม่วงที่งดงามเดินออกมา เว่ยหลิงชวน ที่รออยู่นานรีบช่วยพยุง

เมื่อเห็นเว่ยหลิงชวนอันหลิงหยุนรู้สึก กระอักกระอ่วน เขาคงได้ยินสิ่งที่พูดเมื่อครู่ แต่เขา ซ่อนตัวอยู่หลังรถม้าและไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เกิด ขึ้น นางก็ไม่สังเกต มันแสวยไปแล้ว!

กงชิงเกาหยางมองไปที่อันหลิงหยุนเมื่อลงจากรถ ม้า อันหลิงหยุนก็ตกใจเช่นกัน ตามด้วยเดินไปอย่างรีบ เร่ง ถอนสายบัวต่อองค์หญิงใหญ่: “หม่อมฉันถวาย บังคมเสด็จแม่….เออ..ไม่ใช่ เสด็จป้าใหญ่เพคะ”

กงชิงเกาหยางตะลึงครู่หนึ่ง ผ่านไปนานจึงถาม ขึ้น “เหตุใดเจ้าแม้แต่ผู้ใดก็แบ่งไม่ถูก? ฟ้ามีดถึงเพียง นั้นแล้วหรือ?”

“เสด็จป้าใหญ่รู้อันใดหรือไม่เพคะ หม่อมฉันเกิด มาเคยเห็นเพียงหญิงงามสองคนที่ทำให้หม่อมฉัน หลงใหล

คนหนึ่งคือเสด็จแม่ อีกคนคือเสด็จป้าใหญ่

เมื่อครู่เสด็จป้าใหญ่ลงมา หม่อมฉันดูผิดไปเพคะ” ถางเหอยืนอยู่ไม่ไกล นี่ก็ยังสามารถพูดออกมาได้ พระชายาพูดจาเหลวไหลเป็นจริงเป็นจังจริงๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ