ตอน ที่ 46 ตัดสินใจวางแผน
แต่ไม่ทันมองว่า ถึงนิทัศน์จะหลับตาสนิท แต่มุมปากก็ยัง
ยกยิ้มร้ายขึ้นมา เขาเพิ่งจะพูดไป เขาจะไม่แตะต้องปาลีอีก เว้นแต่ว่าเธอ
จะยินยอม
คำพูดนี้ดูเหมือนคำสัญญา แต่จริงๆ แล้วมีความหมายแฝง อยู่อีกชั้นหนึ่ง นั่นก็คือ ถ้าปาลียินยอมเอง นั่นก็ถือว่าเป็นอีก เรื่องหนึ่ง
แน่นอนว่าสำหรับปาลีในตอนนี้ ต่อให้ตีจนตายเธอก็ไม่ ยินยอม แต่หลังจากนี้เขามีวิธีที่จะทำให้เธอยอมศิโรราบให้ เขาแต่โดยดีต่อหน้าเขา
“คอยดูเถอะ ปาลี สักวันหนึ่ง นิทัศน์คนนี้จะเอาเธอมาไว้ ในกำมือเอง!”
นิทัศน์สาบานหนักแน่นในใจ….
เพราะว่ารถแล่นไปตามทางด้วยความเร็วสูง ความเร็ว สม่ำเสมอ เพียงหนึ่งชั่วโมงก็ไปถึงเมืองข้างๆ แต่หมู่บ้านซา ลานั้นอยู่ในป่าลึกกลางหุบเขา รถยนต์วิ่งขึ้นภูเขาผ่านแอ่ง โคลน พยายามไปต่ออยู่ห้าชั่วโมงถึงจะเห็นควันลอยจาก หมู่บ้านซาลารางๆ
แต่ว่าถนนข้างในนั้นแคบเกินไป รถยนต์ไม่สามารถเข้าไป ได้ คณะเดินทางจึงทำได้เพียงลงรถแล้วเดินเอา
แล้วนิทัศน์ก็น่าจะคิดไว้อยู่แล้วว่าสุดท้ายก็ต้องเดินบน ทางเดินโคลนเล็กๆ ที่แสนขรุขระนี้ ในท้ายรถมือเกี้ยวหาบ อยู่ จากนั้นก็ให้คนสองคนยก คนหนึ่งข้างหน้าอีกคนข้าง หลัง ยกเขาขึ้นแล้วเดินต่อไป ส่วนเขาก็แค่นอนเอนลงอย่าง สบายๆ เท่านั้น
คราวนี้คนที่ลำบากก็คือปาลี
ใต้ฝ่าเท้าของเธอมีบาดแผลจะไปทนการเดินบนภูเขาได้ อย่างไร เดินไปเพียงสิบกว่านาที บาดแผลที่รักษาอย่างยาก ลำบากเมื่อคืนก็เปิดออก รองเท้าส้นเตี้ยสีขาวที่เธอสวมใส่ก็ พลันมีเลือดซึม
ปิยะที่อยู่ข้างกันเห็นแล้วก็เจ็บปวดใจ อยากจะให้ปาลี่ หลังเดินไป แต่ว่าถึงเธอจะเพิ่งนอนในรถไปหลายชั่วโมง แต่วันนี้นิทัศน์ทำกับเธอไว้หนักมาก ต่อให้พักผ่อนไปนาน แต่ขาของเธอก็ยังคงสั่นอยู่
แค่ใช้แขนประคองปาลีเธอก็รู้สึกเมื่อยแล้ว จะเอาแรง ที่ไหนให้เธอขี่หลัง คาดว่ายังไม่ทันได้ขึ้นขี่หลัง ทั้งสองคน ก็คงจะร่วงลงโคลนไปแล้ว
ปิยะทำได้แค่ไปขอความช่วยเหลือจากบอดี้การ์ดสองคน ให้พวกเขาช่วยอุ้มปาลี แต่ว่า บอดี้การ์ดสองคนนั้นกลับนิ่ง เหมือนต้นไม้ ดวงตามองไปข้างหน้า สีหน้าไร้อารมณ์ ไม่ส่ง เสียงใดๆ เหมือนกับว่ามองไม่เห็นไม่ได้ยินคนอย่างเธอเลย
ปิยะอดโมโหไม่ได้ แต่เธอรู้ว่าพวกเขาเป็นบอดี้การ์ดมืออาชีพ ยิ่งเป็นมืออาชีพยิ่งพูดน้อย นอกจากหน้าที่ปกป้อง เจ้าของเงิน คนอื่นๆ พวกเขาก็ย่อมไม่ให้ความสนใจ
สุดท้าย ปิยะก็ได้แต่ไปขอร้องนิทัศน์ เพียงแค่เขาพูดออก มา บอดี้การ์ดเหล่านี้ไม่ใช่แค่เชื่อฟังคำสั่ง แต่พอเธอเปิด ปากพูด นิทัศน์ก็ตอบกลับมาเจ็ดคำ “ให้เธอมาขอร้องฉัน เอง”
ปาลีได้ฟังที่ปิยะบอกมาแล้ว ก็แค่หัวเราะเย็นชา อดทน ความเจ็บปวดแล้วเดินต่อไปข้างหน้า
บอกให้เธอขอร้องเขา ไว้ชาติหน้าเถอะ!
ปิยะมองอยู่ข้างๆ แค่คิดว่าบรรยากาศระหว่างสองคนนี้ ค่อนข้างแปลก แต่แปลกตรงไหน เธอในตอนนี้ก็บอกไม่ได้
เธอจะไปรู้ได้อย่างไร ก็ตอนที่เธอผล็อยหลับอยู่ในรถ ปาลี
ก็เพิ่งจะกลับมาจากประตูนรกหลังถูกนิทัศน์ใช้กำลัง
ปาลีกัดฟันกรอด เดินไปข้างหน้าที่ละก้าว แววตามุ่งมั่น เย็นยะเยือกเสียจนคนกลัว
ในใจของเธอได้ตัดสินใจไว้แน่วแน่แล้ว ได้กลับไปเมื่อ ไหร่ จะลาออกทันที!
แน่นอนตอนนี้เธอยังพูดเรื่องความคิดออกมาแบบนี้ไม่ได้ เพราะว่า เธอกลัวว่านิทัศน์จะโกรธขึ้นมาแล้วทั้งเธอไว้ใน เขตกันดารในหุบลึกเขาลึกนี้ ถึงตอนนั้น เธอคงได้ร้องทั้งวันก็ไม่มีใครตอบรับเป็นแน่
ประมาณหนึ่งชั่วโมงให้หลัง คนกลุ่มนั้น ในที่สุดก็มาถึง หมู่บ้านซาลา
ดวงตามองไปข้างหน้าเห็นกระท่อมไม้ที่ใช้ไม้ไผ่ล้อม ขึ้น แล้วยังมีเครื่องใช้เก่าแก่แขวนไว้นอกบ้านไม้ รวมไป ถึงเหล่าชาวภูเขาที่สวมชุดตัวยาวเรียบง่ายแบบสมัยก่อน กำลังง่วนอยู่ในสวนของบ้านตนเอง ปาลีก็พลันมีความรู้สึก เหมือนเดินทางย้อนเวลาย้อนกลับมาถึงโลกของมนุษย์ยุค
แรก
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ