ในห้วงแห่งรัก(NC+)

ตอนที่169 ความอับอายขายหน้า



ตอนที่169 ความอับอายขายหน้า

ขวัญชีวีพูดอย่างตะกุกตะกัก “สะ….สามร้อยห้าสิบห้า ล้าน ? แพงขนาดนี้เลย ……

ตั้งแต่วิสาข์นั้นมีเงินล้านอย่าไม่รู้ที่มา ขวัญชีวีก็คิดว่าตัว เองเป็นเศรษฐีมาตลอด แต่ในเวลานี้ เธอถึงเพิ่งรู้ตัวว่าจริงๆ แล้วตัวเองยังจนอยู่ เมื่อเทียบกับตระกูลยักษ์ใหญ่อย่างตระ กูลกันตพัฒน์แล้ว ขี้หมาหนึ่งร้อยล้านก้อนก็ไม่เท่า

พนักงานขายคนสวยเห็นดวงตาของขวัญชีวีที่หวาดกลัว เกือบจะหล่นลงไปแล้ว เลยรู้ได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่คนที่เหนือ กว่า เห็นๆว่าเป็นคนที่ไม่เคยเจอโลกภายนอก แต่อยากที่ จะเลียนแบบสังคมของคนอื่น รอยยิ้มที่กระตือรือร้นในตอน แรกหุบลงเล็กน้อยแล้วพูดว่า “คุณยังจะซื้อ ” ใจเดียว ” นี้ ไหมคะ? “

ความหมายโดยนัยคือ ไม่ซื้อก็ไม่ต้องอยู่ให้อับอายขาย หน้า แม้แต่ตอนแรกที่เรียกเธอว่า “คุณผู้หญิง” กลายเป็น “คุณ” ไปแล้ว ขวัญชีวี่รับรู้ได้ถึงการบริการ ก่อนและหลัง ของพนักงาน ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทันใดนั้น ใบหน้า ของเธอก็ร้อนเหมือนโดนแผดเผา ถึงในใจจะโกรธแค่ไหน แต่ใบหน้าและการดูถูกของพนักงานมันกระตุ้นให้เธอรู้สึก ว่ามันไร้สาระ ทำเป็นหัวสูง!”

หลังจากขวัญชีวีด่าพวกเขาเสร็จ ก็พูดกับรฐาที่อยู่ข้างๆว่า ที่รัก ฉันอยากได้แหวนอันนี้ จะต้องได้ จำเป็นต้องได้! “
ถึงแม้ว่ารฐาก็ทำงานทั่วไป แต่ตำแหน่งสูงที่บริษัทโจ วกรุ๊ปจํากัด หากธุรกิจมีความโดดเด่นก็สามารถได้ค่า คอมมิชชั่น ได้เงินเดือนประจำปีมากกว่า 1 ล้านบาท ขวัญ ชีวีเลยเชื่อว่ารฐาจะต้องซื้อแหวนเพชรนี้ได้แน่นอน

เมื่อรฐาได้ยินคำขอของขวัญชีวีมีมันมากเกินไปนั้น คิ้ว ขมวดกันแน่นในเวลานี้เขารู้สึกถึงความเอาแต่ใจและความ เห็นแก่ตัวของขวัญชีวีอย่างลึกซึ้งอีกครั้ง!นี่มันสามร้อยกว่า ล้านนะ หลายปีที่ผ่านมานี้ ที่ทำงานอย่างหนัก เพื่อที่จะมา ซื้อของพวกนี้ให้ขวัญชีวี?

ตลกแล้ว รฐาไม่ทำเรื่องบ้าๆเพราะผู้หญิงหรอก

ถ้าหากเป็นปาลี เธอจะไม่ตัดสินใจแบบนี้ พอคิดถึงนี่ รฐา ก็ปล่อยมือขวัญชีวี ไม่แม้แต่จะบอกเหตุผลกับเธอ เลยพูด ออกมาอย่างไม่ร้อนไม่หนาวว่า “เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าที่บริษัทมี เรื่องด่วน ผมขอตัวก่อน”

พูดจบ ไม่รอให้ขวัญชีวีตอบอะไร ก็หันหลังเดินออกจาก ร้านไป

ขวัญชีวีมองดูหลังที่ห่างออกไปของรฐา เธอตะลึงกับการ จากไปของเขา

เขา เขาจะไปดื้อๆแบบนี้หรอ ? ทิ้งฉันไว้ที่นี่หรอ? ถ้าไม่ ซื้อให้ก็บอกกันก็ได้ ไว้หน้าเธอหน่อยก็ได้ ในตอนนี้ เธอเก ลียดรฐาขึ้นมาทันที และรู้สึกว่ารฐานั้นแย่กว่ากิตติอีกมาก
และเมื่อมองไปที่พนักงานสาวสวย หัวเราะเยาะกันพลาง เก็บหนังสือแนะนำในมืออย่างไม่เกรงใจ และกล่าวลาขวัญ ชีวีอย่างขี้เกียจ

ในอีกด้านหนึ่ง พนักงานขายหญิงอีกหลายคนก็ตบมือ และพวกเขาก็พยายามที่จะไม่หัวเราะออกเสียง

ขวัญชีวีใจเต้นอย่างรวดเร็ว แต่เธอไม่สามารถซื้อมันได้ จริงๆ ดังนั้นทำไมเธอต้องดูถูกคนอื่น เพราะคนอื่นดูถูกเธอ?

ขืนยังอยู่ต่อไป ยิ่งทำให้อับอายขายหน้า สุดท้ายขวัญชีวี

กระทืบเท้าสองครั้ง พร้อมเดินออกไป

และรฐาที่ลาบริษัทออกมา จริงแล้วเขาไม่ได้ไปที่บริษัท แต่เขาไปที่ถนนอีนีเพื่อจะหาปาลีกับดนุพล

ในที่สุด ที่ทางเข้าร้านเครื่องประดับร้านนึง เขาได้พบกับ ปาลีและดนุพลที่กำลังกอดกันออกมาจากร้าน

รฐายิ้มให้กับปาลีและดนุพล จากนั้นก็เปิดประตูไปหาปาลี แล้วพูดว่า “ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ ให้เขาไปก่อน”

“เขา”ในที่นี้ คือหมายถึงดนุพล

ปา ใจสั่น จับมือดนุพลโดยทันที

ดนุพลเลิกคิ้วขึ้น ดวงตาที่เย็นชาจ้องไปที่รฐา ส่ายหัวและ หัวเราะ แล้วพูดว่า “รฐา หนังหน้าของแกนี่มันหนาจริงๆ ถึงตอนนี้แล้วยังจะมาพัวพัน ไม่เหนื่อยบ้างหรอ? ”

ใครจะรู้ว่ารฐาไม่ได้สนใจที่ดนุพลพูดเลย ยังยิ้มแล้วมอง ที่ปาลี เขาพูดอีกว่า “ ถ้าคุณไม่บอกให้เขาไป แน่นอนฉันจะ ไม่แนะนำให้เขาฟังสิ่งที่ฉันกำลังจะพูด”

เมื่อดนุพลเห็นว่ารฐากล้าที่จะไม่สนใจเขา เขาโกรธโดย ทันที แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร ปาลีก็รีบดึงเขาออกมาพร้อม กับพูดว่า : “ ดนุพล……..คุณไปรอฉันที่ตรงนั้นก่อนนะ แปป เดียวเดี๋ยวฉันมา”

ความหมายก็คือ ต้องการให้ดนุพลหลีกไปก่อนจริงๆ

ดนุพลเซไปในทันที ในใจก็สงสัยว่า มันมีอะไรระหว่างปา ลีกับรฐา มีอะไรที่ไม่สามารถให้ฉันฟังได้ ต้องให้เขาหลีก ไป?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ